โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 170
RC:บทที่ 170 หลิน เฟิงคือผลงานที่ยอดเยี่ยม
ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น
หลังจากที่หลิน เฟิงลงมือสังหารเจ้านายของอีกาดำตัวนั้นแล้วนั้น เขาก็ขุดเอาแก่นวิญญาณของอีกาตัวนั้นออกมาต่อหน้าต่อตาผู้คนซึ่งทำเอาคนที่อยู่บริเวณนั้นถึงกับโกรธ
“บ้าเอ้ย ไอ้พลังระดับCนี่มันบ้าระห่ำมากเลยจริงๆสิน่า” คนหนึ่งกล่าวขึ้นในความมืด
ชายคนนี้มีพลังระดับBขั้นสูงสุด และพละกำลังของเขานั้นก็แข็งแกร่งมากที่สุดในกลุ่ม คนที่มีพลังระดับAนั้นมีแค่คนเดียวตรงนี้ ส่วนสี่หรือห้าคนนั้นเป็นระดับBขั้นสูงสุด
พวกเขาต่างซ่อนตัวอยู่ในความมืดเผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้น และแน่นอนว่า จะยิ่งมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันของหลิน เฟิงเกิดขึ้นซึ่งจะได้รับกล่าวขานว่าเป็นผลงานที่เยี่ยมยอดเป็นแน่
ในสภาพแวดล้อมที่อันตรายแบบนี้ เขาก็ยังดูคลั่ง ในขณะที่ฆ่าคนแล้ว ยังมีกะจิตกะใจจะไปขุดเอาแก่นวิญญาณของสัตว์วิญญาณคนอื่นอีก ฆ่าตัวหนึ่งก็เอามาตัวหนึ่ง โดยไม่สนผู้คนเลยสักนิด
ในตอนนี้พลังระดับBอีกคนหนึ่งก็ได้แต่จ้องไปที่หลิน เฟิง พร้อมที่จะเข้าไปจัดการเขา
มู่ ซินซินที่อยู่อีกด้านหนึ่งนั้นต้านทานไม่ไหวแล้ว แต่โชคดีที่มังกรแสงนั้นรีบเข้ามาเสริมทัพเสียก่อนจนสามารถหยุดยั้งเอาไว้ได้
“หลิน เฟิง เรียบร้อยแล้วยัง” มู่ ซินซินเอ่ยถาม
“จะเรียบร้อยได้ไง ยังมีแก่นวิญญาณอีกหลายอันเลยนะ ไม่ดีแน่ถ้าพลังวิญญาณพวกนี้จะสูญเสียไป” หลิน เฟิงพูดขึ้นพลางใส่แก่นวิญญาณของอีกามรณะลงในช่องว่างของแหวน
ครั้งล่าสุดนี้ หลิน เฟิงเองก็ได้แก่นวิญญาณมาจากหุบเขาราชาหมาป่า แต่เมื่อกลับมาแล้ว แก่นวิญญาณนั้นกลับไร้ซึ่งพลัง ต่อมา มังกรดำจึงได้สอนเขาถึงวิธีที่จะเก็บรักษาแก่นวิญญาณจากการสูญเสียพลังไปนั่นทำให้หลิน เฟิงตื่นเต้น
ตอนนี้ เมื่อเห็นแก่นวิญญาณเมื่อใด เขาก็จะเก็บมันไปเป็นอย่างแรก
“พลังระดับBทั้งสองคนงั้นหรือ เจอฉันนี่” หลิน เฟิงว่าขึ้นก่อนจะพุ่งตัวไปยังชายสองคนนั้น
หลิน เฟิงเหยียบบนเงา แล้วร่างของเขาก็กลายเป็นผีล่องลอยไปมา ก่อนจะหายวับไปกับเงา แล้วส่งพลังวิญญาณมาที่มือแล้วโจมตีพวกนั้นกลับไปด้วยหมัดไฟ
เมื่อชายพลังระดับBทั้งสองคนเห็นแบบนั้นจึงโจมตีหลิน เฟิงกลับไปทีละคน
“กิ้งก่าพิษเกราะเงิน ปล่อยพิษรุนแรงใส่มันซะ” ชายที่ขี่บนหลังมันตะโกนขึ้น
ทันใดนั้นเอง กิ้งก่าตัวนั้นจึงพ่นพิษออกมาเป็นสีเขียวเข้มก่อนจะยิงไปที่หลิน เฟิง
“หึ มุกพื้นๆ โล่ศิลายักษ์” ในขณะที่พิษนั้นพุ่งเข้ามา โล่หินขนาดใหญ่จึงปรากฏขึ้นตรงหน้าของหลิน เฟิง
พิษทั้งหมดจากกิ้งก่าตัวดังกล่าวนั้นพ่นไปโดนโล่หิน พลันเสียงซี่ๆก็ดังมาติดๆกัน มีรอยสึกกร่อนลงไปมากมายแต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรนัก
“ทำไมพิษของสัตว์เลี้ยงฉันถึงไม่ได้ผลล่ะ” ชายที่อยู่บนหลังกิ้งก่าตัวนั้นว่าขึ้น
นอกจากนี้ มู่ ซินซินเองก็ประหลาดใจเช่นกันที่หลิน เฟิงสามารถใช้พลังจิตได้หลายรูปแบบในเวลาเดียวกัน
ดูเหมือนสัตว์เลี้ยงของหลิน เฟิงนั้นจะมีคุณลักษณะของแสง แต่ตอนนี้หลิน เฟิงกลับใช้ความสามารถในคุณลักษณะของไฟออกมา ไหนจะความสามารถในการป้องกันตัวด้วยคุณลักษณะของดินอีก
ยิ่งไปกว่านั้น หลิน เฟิงยังดูเก่งฉกาจในการใช้พลังจิตของทั้งสามอย่างรวมกันอีกด้วยซึ่งทำเอาทุกคนต่างก็ประหลาดใจกันไปเลยทีเดียว
คนปกตินั้นจะมีพลังวิญญาณอยู่แค่อย่างเดียว เพราะเมื่อคนเราเกิดมา ก็จะมีคุณลักษณะสัมพันธ์ทางวิญญาณที่แน่นอนและก็จะแตกแขนงออกไป บางคนก็แข็งแกร่งมาก บางคนก็อ่อนแอมาก
มู่ ซินซินรู้เพียงแค่ว่าความสัมพันธ์กันของคุณลักษณะแห่งแสงของหลิน เฟิงนั้นมีถึง 100% ซึ่งนั่นก็เพราะเธอยังไม่เห็นคุณลักษณะอื่นๆของหลิน เฟิงเขาต่างหาก
ดังนั้น นี่จึงเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจเมื่อเห็นว่าหลิน เฟิงนั้นสามารถใช้คุณลักษณะได้หลากหลายในเวลาเดียวกัน
ในตอนนี้นั้น หลิน เฟิงก็ปรี่เข้าหาผู้ที่อยู่ในระดับBทั้งสองคน รายแรกคือกิ้งก่าเกราะเงินและเจ้านายของมัน
“หึ คราวนี้ล่ะจะหลบพิษของฉันไปได้ยังไง ดูนี่ หมัดเจินชาน” ชายคนนั้นปรี่เข้าไปที่กิ้งก่าตัวนั้น ก่อนจะกระโดดขึ้นเพื่อจัดการหลิน เฟิงในหมัดเดียว
หมัดนี้ช่างทรงพลังในสายตาของคนอื่น และในสายตาของหลิน เฟิงก็ด้วยเช่นกัน
“หมาป่าดำ ลูกบอลช้างมืด”
ในตอนนั้นเอง ผู้มีพลังระดับBก็เดินออกมา หมาป่าคู่ใจของเขานั้นก็อ้าปาก ก่อนจะมีลูกบอลสีดำสนิทที่ก่อตัวขึ้นในปากของมัน ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นจึงโจมตีไปที่หลิน เฟิง
“กรงเล็บมืด”
นอกจากนี้ เขาเองก็เข้าถึงตัวหลิน เฟิงอย่างรวดเร็วจากอีกด้านหนึ่ง แล้วเล็บมือของเขาทั้งสองข้างก็เปลี่ยนไปจนแหลมเท่ากับกรงเล็บของหมาป่า
“ไฟนรก หมัดไฟนรก”
ในขณะที่มองทั้งสองเข้ามาโจมตีนั้น หลิน เฟิงก็หาได้เกรงอันใดไม่ เดิมทีนั้น เขาใช้ไฟที่เกิดจากคุณลักษณะของไฟอยู่แล้ว แต่เมื่อต้องใช้ศิลปะการต่อสู้ หลิน เฟิงจึงเปลี่ยนเป็นไฟนรกทันที แล้วหมัดของเขาก็ถูกไฟนรกสีดำแผดเผาในทันที
พลังไฟของไฟนรกนั้นอยู่เหนือกว่าและมีพลังที่ไม่สิ้นสุด และจะยิ่งทรงอานุภาพมากขึ้นเมื่อใช้กับหมัดเพลิง แต่จะกินพลังวิญญาณมากขึ้น
“ตูม” หลิน เฟิงลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับสวนหมัดไปยังชายคนดังกล่าวที่ลงมาจากท้องฟ้า
“มวยเจินชานของลั่วเจินนั้นเป็นทักษะการฆ่าของเขาเลยนะ ฉันล่ะสงสัยจังว่าเขาจะทำให้หมอนั่นบาดเจ็บได้หรือเปล่า”
เงามากมายในความมืดนั้นต่างออกมาก่อนพุ่งตรงมายังที่นี่
“ฉันก็ไม่รู้ แต่ถึงจะแพ้ ก็ไม่น่าจะเจ็บอะไรมากหรอก ยิ่งไปกว่านั้น ลั่วเจินได้ไปถึงระดับBขั้นกลางแล้ว แถมยังมีพี่ชายของเขาอย่างโรบินคอยช่วยอีกด้วย” อีกคนว่าขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็นิ่งไปเพราะไม่มีแรงปะทะจากพลังวิญญาณเกิดขึ้นตามที่เขาคิด ไม่มีการโจมตีซึ่งๆหน้า เห็นแค่หลิน เฟิงที่ลุกขึ้นมาจากพื้นด้วยความเร็วอันแสนน่ากลัว
ลั่ว เจินยังไม่ได้แม้แต่จะตอบโต้ หลิน เฟิงก็ต่อยเข้าที่ท้อง ก่อนจะรีบหายไปและกระเด็นออกไป
แต่เมื่อลั่ว เจินกำลังกระเด็นไปอยู่นั้น เขาก็โดนไฟนรกนั่นแผดเผาไปทั่วร่าง ก่อนจะถูกเพลิงนั้นกลืนกิน แล้วก็เกิดเสียงร้าวขึ้นมา และเมื่อเขาตกลงมา ร่างของเขาก็ไม่เหลือแม้แต่ซาก
“ดีจัง ทรงพลังมากกว่าที่คิดอีก” หลิน เฟิงกล่าวกับตัวเอง
“ลั่ว เจิน” ในตอนนั้นเอง โรบินก็โกรธจัดจนต้องการเอาคืน ลั่วเจิน น้องชายของเขาถูกหลิน เฟิงสังหารจนไม่เหลือซาก
“กรงเล็บมืด”
ในขณะที่ร่างของหลิน เฟิงตกลงมา โรบินจึงชูฝ่ามือขึ้นมา ก่อนที่จะมีฝ่ามือโผล่มาข้างหลังเขา
ในตอนนี้เอง หลิน เฟิงก็เพิ่งจะได้ใช้ประโยชน์จากพลังของเขาได้อย่างเต็มที่ แต่นี่เขายังไม่ถึงพื้นเลย แถมยังหาจุดพลังไม่เจอด้วย เขาจึงเวิ้งว้างอยู่แบบนั้น แถมยังต้องเผชิญกับกรงเล็บของโรบินแล้วใช้พลังที่เขาเหลืออยู่ในตอนนี้ให้เต็มที่เพื่อสร้างหมัดเพลิงขึ้นมาอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ หลิน เฟิงก็ใช้หมัดเพลิงนรกไปแล้วซึ่งกินพลังวิญญาณไปพอสมควรเลยทีเดียว พอมาตอนนี้ เขาจึงคิดที่จะใช้พลังวิญญาณที่เป็นคุณลักษณะของไฟขึ้นมาอีกครั้งพลางรู้สึกว่าแทบจะถวายร่างกายนี้ทั้งร่างออกไปเลย
พลังของหมัดเพลิงนั้นได้เอาออกมาใช้ไม่ถึงครึ่งของหมัดธรรมดาด้วยซ้ำ
หมัดของหลิน เฟิงและกรงเล็บยักษ์ของโรบินพุ่งปะทะกัน ไม่น่าแปลกใจเลยว่าโรบินนั้นอยู่เหนือกว่า กระดูกมือของหลิน เฟิงนั้นถึงกับเกิดเสียงลั่น สั่นไปมาอยู่แบบนั้นและมีเสียงดังกร๊อบ แม้ว่าจะเจ็บ แต่การฉวยจังหวะนี้สู้ก็เป็นเรื่องที่ดี
แต่ที่อันตรายกว่านั้นก็คือด้านหลัง เพราะในตอนนี้ลูกบอลที่มีคุณลักษณะของความมืดนั้นเปี่ยมไปด้วยพลังในการระเบิดกำลังพุ่งไปยังหลิน เฟิงที่ไม่สามารถซ่อนตัวได้แล้ว
“ในที่สุด หมอนี่ก็กำลังจะลาโลกแล้ว แต่ถึงจะไม่ตาย ก็พิการชัวร์ๆ ลูกบอลระเบิดของหมาป่าดำน่ะไม่ใช่เล่นๆเลยล่ะ”
ในตอนนั้นเอง ในที่สุด คนพวกนั้นก็รีบเข้ามาหาหลิน เฟิงที่อยู่ไม่ไกลจากพวกตนนัก เมื่อเห็นลูกบอลเงาระเบิดนั่น ใจของหลินเฟิงก็หล่นไปที่ตาตุ่มในทันที เพราะสิ่งที่เขาคิดก็คือ ได้ถึงคราวลาโลกจริงๆแล้วแน่ๆเมื่อเจอการโจมตีแบบนี้เข้าไป
“มังกรดำ ถ้านายไม่ใช้พลังอีกล่ะก็ ฉันต้องตายจริงๆ…”