โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 166
RC:บทที่ 166 ยัยงี่เง่า
“ตาแก่เอ้ย ฉันไม่สนหรอกนะว่าคุณกำลังปั่นหัวผมอยู่” หลิน เฟิงพูดขึ้น จากนั้นจึงเดินกลับไปที่ห้องที่มู่ ซินซินจัดไว้ให้เขา
“นี่ นายอายที่จะรับฉันเป็นอาจารย์ใช่ไหม มีคนมากมายแค่ไหนที่เขาอยากจะได้ฉันเป็นอาจารย์น่ะ แต่ฉันไม่มองพวกนั้นเลย ฉันล่ะโกรธจริงๆที่เจ้าเด็กนี่ไม่แม้แต่จะมองฉันเลย” นักบวชคิ้วขาวพึมพำกับตนเองพลางมองหลิน เฟิงที่เดินจากไป
“เจ้าเด็กนี่ ฉันล่ะไม่อยากเชื่อเลย ฉันจะต้องเอาเขามาเป็นลูกศิษย์ให้ได้ และก็มีไม่กี่คนด้วยในยุคนี้” นักบวชสูงวัยกล่าวขึ้นในวินาทีต่อมาก่อนจะหายไปจากตรงนั้น
ไม่นาน หลิน เฟิงก็เดินกลับมาที่ห้อง
ในตอนนี้ เป็นเวลามืดแล้ว และอีกไม่นานก็จะเข้าสู่เวลากลางคืน หลิน เฟิงนั่นอยู่ตรงนั้น รู้สึกเครียด วันนี้เขายังไม่ได้กินอะไรเลย หิวจะตายอยู่แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีสิ่งดีๆมากมายในแหวนมิติ เช่นไก่ฟีนิกซ์ และองุ่นของหลิน เฟิงและอีกมากมาย
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลิน เฟิงจึงรีบคว้ามันออกมาก่อนจะเริ่มกิน
“เฮ้อ นี่ถ้ามีไวน์ของเจียงเสี่ยวไป๋เหมือนครั้งก่อนล่ะก็นะ” หลิน เฟิงว่าขึ้น
นับตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่เขาดื่มไวน์ตัวนี้ก็คือนายน้อยคนเจียงให้ไวน์นั้นกับซูหว่านเอ๋อเป็นของขวัญ เขาก็เลยคิดถึงมันมาตลอดเลย ยิ่งกินกับไก่ฟินิกส์และองุ่นเป็นของหวานสักหน่อยด้วยแล้วนั้นมันสุดยอดไปเลย
แกร๊ก ต่อมา เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น
ในตอนนั้นเอง หลิน เฟิงจึงเอาขาไก่เข้าปาก ก่อนจะหันไปมองจึงเห็นว่าเป็นมู่ ซินซินนั่นเอง
ตอนนี้ เธอได้เปลี่ยนเป็นชุดตำรวจแล้ว จึงทำให้เธอดูห้าวหาญมากขึ้น เพียงแต่เธอไม่ใช่ผู้ชายแค่นั้น
เธอเข้ามาพร้อมกับอาหารสองที่ในมือ แต่เมื่อเธอเห็นว่าหลิน เฟิงกำลังกินดื่มอยู่นั้น เธอก็โวยขึ้น
“นี่ นายนี่มัน หลิน เฟิงจริงๆเลยนะ ขโมยแม้แต่อาหารกับเครื่องดื่มจากฉันไปลับหลังเนี่ย ฉันคิดว่านายยังไม่ได้กินอะไรมาเลยทั้งวัน ก็เลยทำมาให้นายน่ะ” มู่ ซินซินกล่าวขึ้น ก่อนจะโยนลงบนพื้นพลางเดินออกไปอย่างโกรธๆ
เสน่ห์ของหลิน เฟิงนั้นเป็นที่อัศจรรย์ใจ พอเวลาเด็กสาวจะโกรธก็กลับไม่มีสัญญาณใดๆเลย ปฏิกิริยาของเขานั้นไวมาก ก่อนที่ของพวกนั้นจะร่วงลงกับพื้น เขากับคว้าอาหารทั้งสองอย่างนั้นได้อย่างรวดเร็ว
“นี่ ไม่ต้องไปไหนเลย ไหนๆฉันก็ทำเธอโกรธ เดี๋ยวฉันจะกินมันทั้งหมดเอง” หลิน เฟิงรีบห้ามมู่ ซินซินอย่างรวดเร็วก่อนจะพูดขึ้น
“มาสิ มานี่ มากินด้วยกัน” หลิน เฟิงเอ่ย
แต่มู่ ซินซินกลับไม่ขยับและดูเหมือนจะยังโกรธอยู่
“มากินสิ แล้วฉันขอบอกเลยนะว่าน่องไก่อันนี้อร่อยที่สุดในอำเภอจิ้งเฟิงเลยล่ะ อยากลองหน่อยไหม” หลิน เฟิงพูดขึ้นขณะที่กินอยู่
มู่ ซินซินมองหลิน เฟิงที่กินอยู่ตรงนั้นก่อนจะกลืนน้ำลายดังเอื๊อก
“เอาล่ะ เห็นแก่น่องไก่นั่น งั้นครั้งนี้ฉันจะไม่ถือโทษนายก็แล้วกัน เอาน่องไก่มาให้ฉันซิ” มู่ ซินซินว่าขึ้น
“ฮ่าๆ ต้องอย่างนั้นสิ อ่ะนี่” จากนั้นหลิน เฟิงจึงฉีกขาไก่ให้เธอไป
“นี่ถ้ามีไวน์รสชาติดีๆด้วยล่ะก็นะ” หลิน เฟิงกล่าวขึ้นขณะที่กินน่องไก่
“ไวน์งั้นหรือ นายอยากดื่มด้วยใช่ไหม” มู่ ซินซินถามขึ้น
“แค่คิดขึ้นมาน่ะ แบบว่าถ้ามีก็ดื่ม แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร” หลิน เฟิงเองไม่ใช่คอเหล้าอยู่แล้ว แค่ได้กินไก่อร่อยๆและได้ดื่มอะไรบ้างก็ดีแล้ว
“โอเค รอฉันเดี๋ยว” มู่ ซินซินพูดขึ้น ก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว
“นี่ เธอจะไปไหนน่ะ” หลิน เฟิงถามขึ้น
“ก็จะไปเอาไวน์ให้นายนี่ไง” เธอตอบกลับมาอย่างร่าเริง
“เอ่อ จริงๆฉันก็ไม่ได้อยากดื่ม…” แต่เธอก็ไปเสียแล้ว
เป็นเวลานานพอดูที่หลิน เฟิงไม่เห็นมู่ ซินซินกลับมา เขาเองก็เริ่มห่วง
ขณะที่หลิน เฟิงกำลังจะออกไปหามู่ ซินซินนั้น จู่ๆก็มีเสียงเคลื่อนไหวขึ้นมาเล็กน้อยไม่ห่างออกไป
“เกิดอะไรขึ้น หรือว่าพวกองค์กรมืดจะเริ่มบุกแล้ว” หลิน เฟิงจึงรีบไปดู
เมื่อเขาไปถึง เขาก็ไม่เผยตัวออกไปพลางมองสถานการณ์จากที่มืด
“เกิดอะไรขึ้นๆ” จากนั้นมู่ เทียนเฉิงก็เดินออกมาก่อนจะเอ่ยถาม
“ท่านอธิบดี ผมเองก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีคนบุกเข้ามาด้วย แต่แป๊บๆก็กลับไปครับ น่าแปลกจริงๆ” สายสืบคนดังกล่าวว่าขึ้น
“มีเหตุร้ายหรือมีอะไรหายไปไหม” มู่ เทียนเฉิงเอ่ยถาม
“ไม่มีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นครับ แต่ขวดไวน์ของท่านหายไปครับ” ตำรวจที่คอยคุ้มกันว่าขึ้น
“ว่าไงนะ เครื่องดื่มของโปรดของฉันหายไปงั้นหรือ เฮ้อ ช่างเถอะ วันนี้มันเป็นสถานการณ์พิเศษ เรื่องไวน์พักไว้ก่อนชั่วคราว พวกนายทั้งหมดมีสมาธิกับการสอดส่องเถอะ” มู่ เทียนเฉิงเอ่ย
“ครับ หัวหน้า” จากนั้นทุกคนก็กระจายกำลังไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อหลิน เฟิงเห็นว่าไม่มีอะไร เขาจึงกลับไปที่ห้องตามเดิมและรอมู่ ซินซิน
แต่อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาไปถึงก็กลับเห็นมู่ ซินซินเดินมาพร้อมกับเหยือกบรรจุไวน์สองอันในแขน พร้อมกับสีหน้าที่รู้สึกผิด
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขาก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นในใจ ในตอนนี้ เขาเองก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ
มู่ ซินซินได้ขโมยเหยือกไวน์ใบโปรดของมู่ เทียนเฉิงมาให้หลิน เฟิงดื่ม แล้วทันใดนั้นเอง เขาก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้ช่างโง่เง่าเสียจริง
“เฮ้อ ทำบื้ออะไรอยู่ล่ะ หลิน เฟิง มานี่สิ ทั้งไวน์รสดีกับเนื้อชั้นยอดพร้อมแล้ว ดื่มเลย” มู่ ซินซินเอ่ย
“โอเค งั้นมาดื่มกันเถอะ”
พวกเขาทั้งคู่จึงเริ่มดื่มกิน เดิมทีนั้น มู่ ซินซินนั้นเป็นผู้หญิง แต่หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ ภาพลักษณ์ที่ว่าก็หายวับไปกับตา มือซ้ายเธอถือขาไก่ไว้ ส่วนมือขวานั้นมีปีกไก่ ส่วนในปากนั้นมีหัวไก่อยู่ หลิน เฟิงเห็นแล้วหัวเราะลั่น
เมื่อพรั่งพร้อมไปด้วยอาหารและเครื่องดื่ม พวกเขาต่างนั่งลงบนพื้น ไม่สามารถยื้อตัวเองได้ไหวอีกแล้ว
“หอมมากเลย นี่นายไปเอาไก่กับองุ่นนี้มาจากไหนกันเนี่ย อร่อยโคตรเลย น้ำหนักฉันต้องขึ้นอย่างน้อยก็ห้าจินล่ะ” มู่ ซินซินพูดขึ้น เริ่มเมาบ้างแล้ว
“คุณจะไปกลัวอะไร ยังไง คุณก็หุ่นดีอยู่แล้ว ขึ้นไม่กี่จินหรอก” หลิน เฟิงว่าล้อ
“นายน่ะมันก็แค่เด็กฝึกหัด อ๊ะ หลิน เฟิง นี่นายบอกว่าพวกองค์กรราตรีจะกลับมาโจมตีสถานีตำรวจคืนนี้ใช่ไหม” มู่ ซินซินว่าขึ้น
“ก็น่าจะเป็นแบบนั้น จากที่พวกนั้นพูด ฉันรู้มาว่าหัวหน้าของสาขาองค์กรราตรีที่คุณจับไว้ได้นั้นมีบางสิ่งที่สำคัญมากกับองค์ของพวกมัน ดังนั้น ตราบใดที่สิ่งนั้นยังคงอยู่ที่เขา คนพวกนั้นก็คงจะไม่มาไม่ได้” หลิน เฟิงว่าขึ้น
“นี่ แล้ววันหลังถ้านายสู้น่ะ อย่าห้าวเกินและอยู่ข้างหลังฉันไว้ล่ะ ฉันจะปกป้องนายเอง ฮ่าๆ” ว่าจบมู่ ซินซินก็ระเบิดหัวเราะออกมา
“เธอน่ะหรือปกป้องฉัน” หลิน เฟิงอึ้งไป มู่ ซินซินคงจะเมาแน่ๆ
“งืม ฉันรู้สึกดีมาก…ก่อนกินเสร็จคงจะหลับไปเสียก่อน
หลิน เฟิงพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ ทั้งๆที่เธอดื่มไวน์เข้าไปไม่มาก แต่กลับดูเมามายเหลือเกิน ซึ่งจริงๆแล้ว หลิน เฟิงไม่รู้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอดื่มมันต่างหาก
หลิน เฟิงกำลังจะพาเธอไปที่เตียงนอนใกล้ๆนั้นแล้วจะไปนอน อีกเพียงสองก้าวเท่านั้น แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่ามู่ ซินซินนั้นกลับยึดคอของหลิน เฟิงไว้แน่น จนเขาไม่สามารถจะเอาออกได้อยู่หลายครั้ง
เมื่อเป็นแบบนี้ หลิน เฟิงจึงนั่งอยู่ข้างๆเตียงเธอในอ้อมแขนก่อนจะปล่อยให้เธอหลับไปเลยยาวๆ
หลิน เฟิงยังคงค้างอยู่ในท่าดังกล่าวนั้นเป็นเวลาห้าหรือหกชั่วโมง จากหนึ่งทุ่มเป็นสองทุ่ม เป็นห้าทุ่มไปถึงตีสอง แขนของหลิน เฟิงชาหนึบและปวดหลัง เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมหลิน เฟิงถึงไม่เต็มใจที่จะวางเธอลงแล้วปลุกเธอขึ้นมา
จริงๆแล้ว หลิน เฟิงนั่นแหละที่ไม่รู้ มู่ ซินซินนั้นลืมตาแอบมองเขาอยู่หลายครั้ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่มุมปาก
“เงียบเกินไปแล้ว หรือองค์กรราตรีจะล้มเลิกแผนโจมตีแล้ว” หลิน เฟิงสงสัย
ในตอนนั้นเอง หลิน เฟิงจึงได้ยินเสียงหวอดังไปทั่วสถานีตำรวจ