โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 157
RC:บทที่ 157 เจอกับมู่ ซินซินอีกครั้ง
“ข่าวงั้นหรือ โทรมาหาตำรวจหรืออะไร” เจ้าหน้าที่ถามขึ้น
“เอ่อ ผมอยากจะเข้าไปคุยกับหัวหน้าของพวกคุณเรื่องนี้มากกว่าน่ะครับ” หลิน เฟิงคิดถึงเรื่องนี้ก่อนจะกล่าวกับเจ้าหน้าที่ดูแล แต่ทว่าไม่ใช่แค่พวกเขาไม่เชื่อเท่านั้น แต่ยังหัวเราะใส่ราวกับเขาเป็นคนโง่อีก
“นี่ๆ เรื่องอะไรถึงบอกพวกเราไม่ได้กัน ฮึ มีใครเห็นหัวหน้าเราบ้างไหม นี่ถ้านายมีเรื่องอะไรก็พูดมาเถอะ แต่ถ้าไม่มีอะไรล่ะก็ ก็กลับไปซะ อย่ามาก่อเรื่องที่นี่”
“งั้นก็ได้ครับ ผมจะบอก พรุ่งนี้ องค์กรลับจะเข้าโจมตีสถานีตำรวจ และเพื่อให้ผู้คนปลอดภัย ผมจึงมาที่นี่เพื่อแจ้งให้ทุกคนเตรียมการไว้ล่วงหน้าครับ” หลิน เฟิงว่าขึ้น
“หา ฮ่าๆ ฮ่าๆๆๆ นี่ฉันเป็นตำรวจมาเจ็ดหรือแปดปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นใครกล้ามาโจมตีสถานีตำรวจสักคนเลย นี่นายตั้งใจจะก่อเรื่องงั้นสิ ใช่ไหม งั้นจะไปไหนก็ไปเลยไป๊” แล้วชายคนดังกล่าวจึงละจากหลิน เฟิงออกมา
“เกิดอะไรขึ้น” เจ้าหน้าที่เฝ้าประตูอีกคนถามขึ้น
“ฮ่าๆ ไม่มีอะไรหรอก หมอนี่บางทีสมองอาจจะมีปัญหา เห็นพูดว่าจะมีใครมาโจมตีสถานีตำรวจพรุ่งนี้อะไรนี่ล่ะ ขำเป็นบ้า” เจ้าหน้าที่คนนั้นอธิบายให้อีกคนฟัง
“ฮ๋าๆๆ เฮ้อ ช่วงนี้ ดูจะมีคนเยอะแยะเลยนะที่ไม่รู้จะหาอาหารกินยังไง ก็เลยมาหาเรื่องกวนประสาทที่สถานีตำรวจอยู่บ่อยๆ ช่างเหอะ” เจ้าหน้าที่คนนั้นว่าขึ้นพลางหัวเราะ
“ว่าละ รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้” หลิน เฟิงพึมพำ
“นี่ ทำไมยังไม่ไปอีก อยากไปกินหรูข้างในนี้สักวันสองวันหรือไง” เมื่อเห็นว่าหลิน เฟิงยังไม่ไปไหน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพูดขึ้น
“พี่ๆครับ ผมมีเรื่องด่วนที่ต้องแจ้งหัวหน้าของพวกพี่จริงๆนะครับ ขอให้ผมเข้าไปเถอะนะ” หลิน เฟิงขอร้องอีกครั้ง
“ออกไปซะ จะมีองค์กรลึกลับเข้าโจมตีสถานีตำรวจงั้นหรือ จะเป็นไปได้ยังไงเล่า ถ้าฉันให้นายเข้าไปล่ะก็สมองฉันคงมีปัญหาแน่ๆ” เจ้าหน้าที่ตรงนั้นยังไม่เชื่อในสิ่งที่หลิน เฟิงพูด
พวกเขาทำหน้าที่เฝ้าประตู ก็ต้องทำหน้าที่คัดกรองคนก่อนในเบื้องต้น การที่จะเอาใครเข้าไปได้ตามใจนั้นอาจทำให้พวกเขาตกงานได้
“ก็ถ้าพวกพี่สองคนไม่ให้ผมเข้าไปหรือไม่เอาเรื่องที่ผมบอกไปแจ้งล่ะก็ ผมก็คงต้องบุกเข้าไป” หลิน เฟิงพูดขึ้น ก่อนจะมุ่งหน้าเดินตรงไป
“นี่ๆ อย่าไปทางนั้นนะ กลับมา หยุด ไม่งั้นเราคงต้องจับกุมนายข้อหาทำลายทรัพย์สินราชการนะ” ตำรวจอีกนายว่าขึ้น
แต่หลิน เฟิงจะได้ยินตรงไหนกันล่ะ เขาอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้คนข้างในรู้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเขา
“ก็แหม พี่ๆไม่ให้ผมเข้าไปเองนี่ ใช่ไหม ผมก็เลยจะให้คนข้างในออกมาเจอผมเองนี่ไง” หลิน เฟิงคิดในใจ
จากนั้น หลิน เฟิงจึงทุ่มแรงทั้งหมดที่มี ขณะที่ตำรวจทั้งสองเข้ามาหยุดหลิน เฟิงในทันทีทันใดนั้นเอง แต่ทว่าร่างทั้งร่างของหลิน เฟิงนั้นก็แข็งแกร่งเหนือกว่าพวกเขาไปไกลเสียแล้ว ตำรวจธรรมดาๆสองนายจะหยุดเขาไว้ได้อย่างไร
ตำรวจทั้งสองนายคว้ามือข้างหนึ่งของหลิน เฟิงและพยายามลากเขาลงมา แต่สิ่งที่พวกเขาสัมผัสได้ก็คือ หลิน เฟิงนั้นมีพละกำลังมากเสียจนลากพวกเขาทั้งสองคนเข้าไปข้างในด้วย
“คุณพระ ชายคนนี้มันโรคจิตหรือไงกันนะ แรงยังกะช้าง” ตำรวจนายหนึ่งว่าขึ้น
“หยุดเขาไว้ เร็ว ท่านอธิบดีเองวันนี้ต้องไปเปิดงานด้วย มีเรื่องสำคัญที่ต้องเปิดประเด็นในที่ประชุมในวันนี้ พวกเราเข้าไปกวนคงไม่ได้ไม่งั้นล่ะตกงานแหงๆ” อีกคนว่าขึ้น
“พ่อหนุ่ม หยุดเดี๋ยวนี้เลย แล้วจะหาว่าเรารุนแรงไม่ได้นะเฮ้ย” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเอ่ยกับหลิน เฟิง
“พี่ๆครับ ผมจะบอกอะไรให้อย่างนะ มันไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะ แล้วนี่จะยื้อผมไปเพื่ออะไร” หลิน เฟิงกล่าวขึ้นในขณะที่ลากตำรวจทั้งสองนายมาข้างหน้า
ในตอนนั้นเอง ตำรวจจำนวนมากกว่าสองนายก็เข้ามายืนประจันหน้า
“นี่ เข้ามาช่วยกันหน่อย ชายคนนี้กำลังจะบุกรุกเข้าไปในโรงพัก” ทันทีที่เห็นนายตำรวจคนอื่นๆ ตำรวจทั้งสองนายก็ชิงพูดขึ้นอย่างโล่งใจ
“หยุดนะ”
ตำรวจอีกสองนายเมื่อได้ยินคำพูดจากนายตำรวจสองคนตรงหน้า พวกเขาก็รีบเข้าไปหยุดยั้งหลิน เฟิงไว้ แต่หลิน เฟิงกลับไม่ขยับเขยื้อนตัวเลย แถมยังเดินต่อไปได้อีก
ในตอนนั้นเอง ตำรวจหลายนายเหมือนกำลังแสดงโชว์ตลก ทั้งจับแขน ล็อคคอ โอบเอว ส่วนอีกนายก็ยืนอยู่หน้าหลิน เฟิง
หลิน เฟิงไม่แม้แต่จะสู้กลับหรือคุยโต้กลับไป เขาเดินตรงไปข้างหน้า ไม่ว่าตำรวจหน้าไหนก็หยุดเขาไว้ไม่ได้
พวกเขารู้สึกว่าหลิน เฟิงนั้นเหมือนภูเขาเคลื่อนที่ได้ แถมยังหยุดไม่อยู่อีกต่างหาก
เสียงจากตรงนี้ยิ่งดังมากขึ้นเท่าไหร่ ผู้คนก็เริ่มหันมาสนใจตรงนี้มากขึ้นเท่านั้น
“ใครมาก่อเรื่องที่สถานีตำรวจกัน ฮึ” พลันก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
เมื่อได้ยินเสียงนั้น หลิน เฟิงก็รู้สึกคุ้นเคย ก่อนจะหันไปมองอย่างรวดเร็ว เป็นผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบ ยืนตัวตรง ท่าทีขึงขัง
“ไง สาวน้อย เจอกันอีกแล้วนะ” หลิน เฟิงเงยหัวขึ้นก่อนจะโบกมือให้เธอคนนั้น
“เอ๊ะ นั่นนายเองหรือเนี่ย” ผู้หญิงคนดังกล่าวจำหลิน เฟิงขึ้นมาได้ในทันที พร้อมกับสีหน้าที่ดูหมองคล้ำลงในเวลาเดียวกัน
ผู้หญิงคนนี้คือมู่ ซินซิน ตำรวจสาวที่ได้รับการช่วยเหลือจากพวกโจรในตอนที่หลิน เฟิงไปซื้อของคราวที่แล้ว
“ทำไมนายถึงบุกเข้ามาในสถานีตำรวจแบบนี้” มู่ ซินซินถามขึ้น
“ผม เอ่อ ผมไม่ได้ใช้กำลังบุกเข้ามานะ หรือว่านี่คุณคิดว่าผมใช้กำลังบุกเข้ามากันล่ะ ฮ่าๆ” หลิน เฟิงหงายมือขึ้นก่อนจะพูด
“ผมมีบางอย่างที่สำคัญจะรายงาน” คราวนี้ท่าทีที่เขาพูดกลับดูจริงจังขึ้น
“พวกนายออกไปก่อน” หญิงสาวกล่าวขึ้นกับตำรวจทั้งสี่นาย
“ครับผม”
หลังจากที่คนพวกนั้นออกไปแล้ว หลิน เฟิงก็ขยับกล้ามเนื้อและกระดูกไปมา รู้สึกสบายขึ้น
“มากับฉันนี่”
หญิงสาวดังกล่าวไม่อยากเสียเวลาเช่นกัน เธอพาหลิน เฟิงไปยังห้องต้อนรับในสำนักงาน
หลังจากเข้าไปข้างในแล้วนั้น หลิน เฟิงก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะพบว่ามี ลมหายใจของใครบางคนอบอวลอยู่ในสถานีตำรวจ และคลื่นจากลมหายใจพวกนั้นก็ทำเอาเขาหวาดกลัว
แต่อย่างไรก็ตาม หลิน เฟิงก็รู้สึกถึงลมหายใจของมู่ ซินซินที่อยู่รอบตัวเธอ ซึ่งเข็มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าเธอคงจะฝึกปรือหนักมากในช่วงนี้
เมื่อหลิน เฟิงสัมผัสได้ถึลมหายใจของมู่ ซินซิน เธอเองก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจของหลิน เฟิงเช่นกัน และนั่นก็ทำเอาเธอตกใจขั้นสุด
“นายก้าวไปอีกขั้นแล้วงั้นหรือ เอ๊ะ แต่นายยังอยู่ระดับCขั้นสูงสุดอยู่เลยนี่นา แล้วทำไมนายถึงทำให้ตัวฉันสั่นสะท้านแบบนี้ล่ะ” มู่ ซินซินเอ่ยขึ้น
“ยังไม่ได้ก้าวไปถึงขั้นไหนทั้งนั้น แม้แต่ระดับCขั้นสูงสุดด้วยก็เถอะ แต่เธอน่ะ แกร่งขึ้นนะ” หลิน เฟิงกล่าวขึ้น
“นายเห็นเข้ามาในตัวฉันเลยงั้นหรือ” หญิงสาวรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้เธออยู่ในระดับBแล้ว น่าแปลกที่คนระดับCอย่างหลิน เฟิงสามารถมองผ่านทะลุมาในตัวเธอได้
“ไม่ใช่หรอก ก็แค่รู้สึกน่ะ” หลิน เฟิงครุ่นคิดก่อนจะตอบออกไปเป็นปกติ
“หืม โอเค แต่ก็นะ นายมันพ่อมดชัดๆ ทำไมนายถึงไม่ลองทะลุผ่านช่องทางพิเศษแล้วข้ามไปอีกขั้นดูล่ะ” มู่ ซินซินเอ่ยถาม
“ช่องทางพิเศษงั้นหรือ อะไรคือช่องทางพิเศษ” หลิน เฟิงรู้สึกงุนงง
“นี่นายไม่รู้งั้นหรือ” มู่ ซินซินแปลกใจมาก
“ก็ไม่รู้น่ะสิ” เขาตอบไป
“เอ่อ น่าแปลกแฮะ” มู่ ซินซินพึมพำ
“งั้นฉันจะบอกนายให้ มันจะมีความสามารถที่จะอยู่เหนือธรรมชาติอยู่ ถ้าเราเข้าไปลงทะเบียน เราก็จะสามารถใช้ช่องทางพิเศษเพื่อมาที่สถานีตำรวจได้” มู่ ซินซินกล่าว
“ลงทะเบียนงั้นหรือ นี่คุณต้องการลงทะเบียนให้กับผู้มีพลังงั้นหรือ” หลิน เฟิงถามขึ้นด้วยสงสัย
“ก็ใช่ไง แล้วทำไมพวกมีพลังจะลงทะเบียนไม่ได้ล่ะ นี่นายไม่รู้เรื่องนี้เลยหรือไง ฮึ” มู่ ซินซินมองหลิน เฟิงเหมือนเขาเป็นมนุษย์ยุคโบราณ
“ก็ไม่รู้นี่…”