โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 142
RC:บทที่ 142 งานดอกไม้ของหมู่บ้าน
120000 พอๆกับที่หลิน เฟิงได้ประเมินเอาไว้เลย
หลิน เฟิงประเมินว่าค่าวัสดุนั้นน่าจะอยู่ที่ประมาณ 100000 หยวน ส่วนค่าแรงก็น่าจะประมาณ 20000 หยวน
“ตู๋ กัง งั้นฉันให้นายไป 150000 หยวนเลย ขาดเหลืออะไรบอกได้ นายซ่อมบ้านให้ฉัน และถ้าต้องการอะไรอย่างอื่นอีกก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินล่ะ” หลิน เฟิงว่าขึ้น
“อืม งั้นฉันขอเก็บเงินตรงนี้ไปเลยแล้วกัน แล้วเดี๋ยวเริ่มงานพรุ่งนี้ ถ้างั้นเดี๋ยวฉันขอตัวไปหาพวกเขาก่อน” ในขณะที่เขากำลังจะออกไปนั้น
“เอ่อ โอเค ไปเถอะ เดี๋ยวๆ แล้วคุณป้าล่ะเป็นไงบ้าง เดี๋ยวฉันไปขอองุ่นที่แม่มาให้นายแล้วก็กลับเอาไปให้คุณป้าด้วยล่ะ” หลิน เฟิงว่าขึ้น
“เออ ถ้านายไม่พูดนี่ก็เกือบลืมไปเลย แม่บอกว่าหลังจากได้กินองุ่นของนายแล้ว เธอก็รู้สึกว่ากล้ามเนื้อกับกระดูกมันตึงขึ้นเยอะเลย แล้วตอนนี้ ฉันว่าฉันจะมาเอากลับไปบ้าง เกือบลืมแหนะ” ตู๋ กังเอ่ย
“โอเคเลย ไหนๆฉันก็กินมันไม่หมดอยู่แล้ว องุ่นที่มีก็ใช่ว่าจะขายได้หมดถ้านายมีเวลาก็มาเอาไปกินบ้างสิ ทุกคนที่นี่ต้อนรับนายเสมอ” หลิน เฟิงยื่นมือออกไปตบไหล่ตู๋ มันทำให้หลินเฟิงต้องตกตะลึง
“ว้าว ตู๋กัง นายดูสูงขึ้นอีกแล้วนะ เป็นไปได้ไง อายุก็ยี่สิบแล้ว ส่วนสูงปาไปร้อยเก้าสิบกว่าแล้วด้วย สูงเท่าไหร่กันแล้วเนี่ย” หลิน เฟิงถามขึ้นด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็นะ ก็ที่สูงแบบนี้ ก็เพราะฉันออกกำลังกาย นอกจากนี้ก็กิน ฉันไม่รู้เหมือนกันว่ามันโตขึ้นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
ตู๋กังลูบหัวของตนก่อนจะกล่าวด้วยท่าทีเงอะงะ
จากความสูงของตู๋ กัง หลิน เฟิงประเมินไว้แล้วว่าน่าจะสักสองเมตร ความสูงแบบนี้นั้นหาได้ยากยิ่งในทางตอนใต้ของจังหวัดG
เพราะคนที่นี่ส่วนใหญ่นั้นเป็นคนตัวเล็กแต่ก็มีความองอาจ
พูดตรงๆก็คือ ที่นี่มีเพียงคนแคระอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น คนพวกนั้นล้วนสูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร และมีอีกไม่กี่คนที่สูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร
ส่วนสูงของตู๋ กังจึงเป็นที่ประหลาดใจยิ่ง รวมถึงสภาพทางกายกาพของเขานั้นก็สมบูรณ์พร้อม และนี่ก็ไม่ใช่โรคคนยักษ์แน่นอน แม้ว่าความสูงและร่างกายของเขานั้นจะทำให้หลิน เฟิงประหลาดใจไม่หายก็ตามที
หลิน เฟิงเองก็อยากรู้ว่าตู๋ กังจะรู้สึกกลัวแค่ไหนหลังจากได้ทำพันธสัญญากับสัตว์วิญญาณแล้ว
หลังจากนั้นเพียงเล็กน้อย หลิน เฟิงจึงคว้าถุงใส่องุ่นถุงใหญ่ก่อนจะยื่นให้กับตู๋กัง โดยตอนที่หลิน เฟิงถือนั้น เขาก็รู้สึกว่ามันหนักเล็กน้อย แต่เมื่อเขายื่นมันให้กับตู๋กังนั้น เขากลับคว้าไปถือราวกับกำลังหิ้วไก่อยู่อย่างไรอย่างงั้น
เขาแบกมันไว้บนไหล่ราวกับสิ่งนั้นไม่มีน้ำหนักก่อนจะกลับไป
“พี่เฟิง เรียบร้อยครับ” จากนั้นหวัง หานก็พูดขึ้น
“เรียบร้อยดีใช่ไหม”
เมื่อหลิน เฟิงไปถึง เขาก็เห็นว่าดอกไม้สภาพแย่ที่เขาซื้อมานั้นได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง พวกมันต่างกลายเป็นดอกไม้ที่ออกดอกสวยงามไสวชูช่อ
“ดีเลย เดี๋ยวนายไปเอามาอีกสิบคันนะ สิบคันน่าจะพอ” หลิน เฟิงประเมิน
“พี่เฟิง พี่จะซื้อดอกไม้ตั้งมากมายนี้ไปเพื่ออะไรอ่ะครับ” หวัง หานไม่เข้าใจ
“ก็จะมีการประเมินชนบทกันเดือนหน้าไม่ใช่หรือ ผู้ใหญ่บ้านเขาไม่อยากทำเอง เขาก็เลยมาให้พี่ทำ เขาให้พี่เอาพวกดอกไม้ใบหญ้าพวกนี้มาทำให้หมู่บ้านดูดีขึ้น” หลิน เฟิงกล่าวอย่างไม่ใส่ใจนัก
แต่โชคยังดีที่ผู้ใหญ่บ้านเองก็ยังพอมีจิตสำนึกอยู่บ้าง เขารู้ว่าถึงหลิน เฟิงนั้นจะมีเงิน 200000 หยวนเป็นรางวัล แต่จากที่ประเมิน หลิน เฟิงอาจจะไม่เหลือถึงหมื่นด้วยซ้ำ
แต่สิ่งที่เขาไม่มีวันคิดถึงก็คือหลิน เฟิงนั้นไม่เพียงแค่แทบไม่ได้ใช้เงินมากเท่านั้น แต่ยังสร้างดอกไม้ใบหญ้าอันแสนน่าประหลาดใจพวกนี้อีกด้วยซึ่งในตอนนั้นทุกคนที่ได้เห็นต่างก็ต้องฉงน
วันนี้ หลิน เฟิงได้ไปดูที่โรงเก็บสิ่งปฏิกูล แล้วก็ได้ขวดน้ำยาเติบโตระดับต่ำมาห้าขวดและน้ำยาวิวัฒนาการสามขวด
เขาละลายน้ำยาเติบโตระดับต่ำทั้งห้าขวดนั้นลงไปในสารละลายน้ำเลี้ยงพืชซึ่งจะเอาไว้ใช้ปลูกดอกไม้ ส่วนน้ำยาวิวัฒนาการระดับต่ำอีกสามขวดนั้น เขาตั้งใจจะเอาไว้ใช้กับสัตว์วิญญาณของตู๋กังในการวิวัฒนาการ
เพียงพริบตาเดียว ก็ผ่านไปอีกสัปดาห์หนึ่ง ในเวลานี้ หมู่บ้านลั่วหยางทั้งหมู่บ้านต่างเต็มไปด้วยกลิ่นหอมกระจายไปทั่ว ซึ่งล้วนมาจากดอกไม้พวกนั้น
ด้วยเหตุนี้ ทุกๆครอบครัว ทุกท้องถนนและทุกที่ในหมู่บ้านลั่วหยางจึงปกคลุมไปด้วยหมู่มวลดอกไม้
ดอกไม้แต่ละดอกที่เหมือนเพิ่งจะเบ่งบานนั้นล้วนแต่มีน้ำค้างเกาะอยู่บนนั้น กลิ่นหอมมาจากตรงนั้นก่อนจะฟุ้งไปทั่วทั้งหมู่บ้าน
วันนี้ถือเป็นวันที่คนทั้งหมู่บ้านลั่วหยางต่างมีความสุข เพราะเมื่อออกมาก็ได้เจอดอกไม้ ราวกับว่ากำลังอยู่ในมหาสมุทรแห่งมวลบุปผา
และเจ้าของท้องทะเลแห่งดอกไม้นั้นก็คือหลิน เฟิง บางคนก็ไม่ได้รู้จักหลิน เฟิงดีนัก แต่ทว่าตอนนี้เขากลับเป็นที่รู้จักของผู้คนไปเสียแล้ว
เพราะที่ก้นกระถางทุกอันนั้นเขียนไว้ว่า : หลินเฟิงเป็นผู้ปลูก
นี่คือสิ่งที่หวัง หานขอให้ผู้คนทำเพื่อที่จะทำให้หลิน เฟิงเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งหมู่บ้านและเพื่อให้ทุกคนรู้จักชื่อของหลิน เฟิง
ในขณะเดียวกันนั้นเอง สีหน้าของหลิน เฟิงกลับมีความสับสนเล็กน้อย เพราะในวันนี้ เขาวางแผนว่าจะออกไปดูว่าหวัง หานจัดการเรื่องดอกไม้ว่าจัดการได้เหมาะสมหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ทุกๆคนกลับเข้ามาทักทายเขาอย่างอบอุ่นและดูกระตือรือร้นเสียจนหลิน เฟิงรู้สึกงงงวย
เพราะก่อนหน้านี้นั้น ผู้คนในหมู่บ้านเริ่มที่จะได้ยินว่าหลิน เฟิงนั้นเป็นคนมีอนาคตและได้ทำอะไรยอดเยี่ยม เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกันแน่
หลิน เฟิงได้ให้ถังขยะขนาดใหญ่และทำท่อน้ำทิ้งโดยไม่คิดเงินให้กับแต่ละบ้าน และพวกเขาก็เริ่มรู้เรื่องนี้ แต่ทว่ากลับมีบางคนที่เกลียดการกระทำเช่นนี้ของหลิน เฟิง
แต่ทว่าในเวลาแบบนี้ พวกเขาก็ต้องเชื่อเรื่องนี้ เพราะมีดอกไม้มากมายอยู่ตรงหน้า ปกคลุมไปทั่วหมู่บ้านทั้งภายในและภายนอก ริมถนนเองก็เต็มไปด้วยดอกไม้ที่ทั้งหอมราวกับว่าทั้งโลกนี้มีแต่ดอกไม้
ดอกไม้พวกนี้ดูภายนอกแล้วช่างสวยงาม เมื่อใดที่ผู้คนได้เห็นเพียงเล็กน้อย พวกมันก็คือดอกไม้ชั้นเยี่ยม ไม่ใช่ดอกไม้ราคาถูกๆที่เห็นกันทั่วไป
ดอกไม้เกือบทั้งหมดนี้ อย่างน้อยที่สุดเฉิงตูก็น่าจะเป็นคุณภาพแบบเดียวกันแต่ใช้เงินน้อยกว่าห้าหรือหกแสนนั้นและไม่ได้มีซื้อดอกไม้มากมายถึงขนาดนี้
อันที่จริง พวกเขานั่นแหละที่ไม่รู้ว่าดอกไม้ชั้นเยี่ยมหนึ่งหรือสองชนิดในทุกๆคันรถที่หลิน เฟิงปลูกนั้น พวกมันได้รับการดูแลจากหลิน เฟิงมาก่อนแล้ว โดยการนำกลับไปที่บ้าน
พวกเขาเองก็ไม่ได้จัดวางให้อยู่ด้วยกัน แต่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือราคาไม่ได้สูงเกินไป
จริงๆแล้ว คนที่มีความสุขที่สุดในเวลานี้เห็นทีจะไม่ใช่หลิน เฟิงหรือคนในหมู่บ้าน แต่เป็นผู้ใหญ่บ้าน
“อาฮ่า คราวนี้แหละ ฉันจะได้เลื่อนตำแหน่งแล้วก็จะรวยๆๆ ฮ่าๆ” ผู้ใหญ่บ้านเดินเข้ามาหาหลิน เฟิงก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยเสียงสั่นระรัวเพราะความตื่นเต้นจัด
หลังจากนั้นเพียงเล็กน้อย ผู้ใหญ่บ้านก็มาหาหลิน เฟิงที่บ้านพลางกล่าวขอบคุณไม่หยุด จนหูของเขานั้นอื้อไปหมด จนกระทั่งพูดเรื่องนี้จบ เขาจึงส่งผู้ใหญ่บ้านกลับ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา บ้านของครอบครัวหลิน เฟิงนั้นก็เสร็จในที่สุด มันเคยเป็นแค่บังกะโลเก่าๆ แต่ทว่าตอนนี้มันกลับได้รับการสร้างให้เป็นวิลลาเล็กๆ
นี่เป็นสิ่งที่ทำให้หลิน เฟิงชื่นชมตู๋กัง แล้วสนามรอบบ้านก็ได้รับการปรับปรุงใหม่อีกครั้งโดยเต็มไปด้วยดอกไม้โดยรอบจนเกือบจะเหมือนกับบ้านตะวันตก
พวกเราสามารถสร้างบ้านเป็นล้านด้วยเงินเป็นแสนได้ คิดว่าคงมีเพียงคนอย่างหลิน เฟิงเท่านั้น
วันนี้ หลิน เฟิงมีความสุขมากรวมถึงพ่อแม่ของเขาด้วย
เมื่อบ้านของครอบครัวหลิน เฟิงสร้างเสร็จ ทั้งหมู่บ้านและทุกครอบครัวก็ได้มาแสดงความยินดีด้วยของขวัญที่หลากหลาย พ่อแม่ของเขาถึงกับไม่ว่างเลยทีเดียว
“เห็นไหม ลูกชายของเราสัญญาไว้แล้ว คนทั้งหมู่บ้านต่างมาร่วมแสดงความยินดีกับเขาด้วย แถมตอนนี้ หัวหน้าหมู่บ้านยังจับมือเสี่ยวเฟิงและพูดด้วยท่าทีกระตือรือร้นเลย ในชีวิต พวกเราไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้มาก่อนเลย” แม่ของหลิน เฟิงเอ่ยอย่างตื่นเต้น
“ใช่แล้ว ลูกชายของเราได้กลายเป็นคนที่ใครๆก็รู้จักไปแล้ว…”