โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 574
RC:บทที่ 574 สิ่งผิดปกติ
นี่คือความสง่างามของราชินี
“ไม่ใช่ว่าข้าจะไม่ปล่อยนางไปหรือกลัวว่านางจะเติบโตขึ้น! ข้าคิดว่าเจ้าก็คงจะทราบเช่นกันว่านี่คือจุดจบของโลก โลกกำลังจะเผชิญกับหายนะครั้งสุดท้าย ข้าต้องยึดอำนาจในการควบคุมทะเลกลับมาเพื่อเผชิญกับภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึง และปกป้องทุกชีวิตในพื้นที่ทะเล!”
ราชินีมังกรกล่าวด้วยคุณธรรมอันยิ่งใหญ่
“นายท่าน นี่เป็นเหตุผลที่ดี แต่หากต้องเผชิญกับหายนะเหตุใดท่านจึงไม่ละทิ้งการควบคุมทะเลอีกครึ่งหนึ่งและคืนสิ่งนี้ให้ข้าเพื่อพานางไปต่อสู้กับหายนะที่จะมาถึงนี้เล่า?” ราชินีเงือกถาม
“หืม? ยกให้นาง? นางยินยอมไหมเล่า? เจ้าสามารถรับตำแหน่งแทนข้าได้หรือ?” ราชินีมังกรกล่าวอย่างดูหมิ่น
อย่างไรก็ตามราชินีเงือกก็ไม่ได้มีการแสดงออกใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอพูดต่อ: “แล้วผู้อาวุโสคิดว่าข้าสามารถแทนที่ท่านได้หรือไม่?”
ทันทีที่คำพูดนี้ดังออกมา ผู้ชมทั้งหมดต่างตกตะลึง
ผู้คนต่างมองไปยังคนทั้งสอง ยังไม่ต้องกล่าวว่าพวกเขาทั้งสองที่เป็นตำนานของคนรุ่นนี้ ครั้งหนึ่งต่างก็เคยได้เป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเล
ความแข็งแกร่งของทั้งสองยังไม่เป็นที่แน่ชัดต่อสาธารณชนเลย
แม้แต่ราชินีมังกรที่อยู่ฝั่งของเขาเองก็ยังคลุมเครือ
เพราะเห็นได้ชัดว่าราชินีเงือกที่ได้มาถึงระดับเดียวกันกับพวกเขา เวลานี้ก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่แล้ว
“เจ้าแข็งแกร่งมากนัก หากเจ้ายังคงปกครองอยู่ เราคงได้ต่อสู้กันจริง ๆ ซึ่งผลแพ้ชนะก็ไม่อาจรู้ได้!” ราชินีมังกรกล่าว
ทันทีที่คำพูดดังออกมา ผู้คนก็เริ่มร้องครวญคราง
ราชินีมังกรวารีเป็นสิ่งมีชีวิตแบบใดกัน? เขาคือบุตรคนที่สองของเทพเจ้ามังกร ความแข็งแกร่งและสายเลือดของเขานั้นเหนือจินตนาการของคนทั่วไป
แต่สิ่งมีชีวิตที่เย่อหยิ่งเช่นนี้กลับจดจำราชินีเงือกได้ แสดงให้เห็นว่าราชินีเงือกผู้ซึ่งอยู่ในจุดสูงสุดนั้นทรงพลังมากเพียงใด
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะบอกท่านว่ารุ่นลูกหลานของข้าก็คือความหวังของข้า ศักยภาพและอนาคตของนางนั้นสูงกว่าข้าซะอีก!” ราชินีเงือกกล่าว
คำพูดนี้ทำให้ราชินีมังกรตกตะลึงและอดไม่ได้ที่จะมองไปยังหญิงสาวบนแท่นบูชา
“จะเป็นไปได้อย่างไร?” ราชินีมังกรกล่าว
“มันเป็นไปได้ พวกเราต่างก็มาถึงระดับนี้กันแล้ว ท่านลองคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วจะเข้าใจ!” ราชินีเงือกกล่าว
ราชินีมังกรลังเลอยู่ครู่หนึ่งและมองไปยังเงือกสาวสายรุ้งที่ยอมรับสืบทอดมรดกอยู่ที่แท่นบูชา ผ่านไปครู่หนึ่งเธอจึงตกตะลึงมาก
“เจ้ากล้าทำเช่นนั้นได้อย่างไร ยอดเยี่ยม!” ราชินีมังกรตกใจและอุทาน
แต่แล้วเธอก็พูดว่า “แต่ทว่าเขาจะเติบโตไปถึงระดับนั้นก่อนที่หายนะจะมาถึงได้งั้นหรือ? นอกจากนี้ ความสามารถก็เป็นเพียงความสามารถ และศักยภาพก็เป็นเพียงศักยภาพ หากเขาเติบโตไม่ได้ก็ไร้ประโยชน์!”
“ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะเติบโตได้ถึงขนาดนั้นหรือไม่ แต่ข้ารู้เพียงว่าเขามีศักยภาพถึงขนาดนั้น! อีกอย่างมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะไปได้ถึงระดับนั้น แม้ว่าเราจะควบคุมทะเลทั้งหมดแต่ท่านแน่ใจหรือว่าจะต้านทานหายนะที่กำลังจะมาถึงนี้ได้? ท่านแน่ใจกี่%? “
“ข้าเดาว่ามันอาจจะน้อยกว่า 20% ถึงแม้ว่าจะเป็นสายเลือดของบุตรทั้งเก้าแห่งเทพเจ้ามังกรก็ตาม!” ราชินีเงือกกล่าว
ในเวลาถัดมาหลังจากที่ราชินีมังกรได้ยินคำพูดของเธอก็ก้มหน้าลงทันทีเพราะราชินีเงือกก็ไม่ได้กล่าวผิด
“แต่มันช่างเสี่ยงจริง ๆ คาดการณ์กันว่าหายนะจะมาถึงในไม่ช้า เวลาที่สั้นเช่นนี้ เขาจะไปถึงระดับนั้นได้หรือ?” ราชินีมังกรเอ่ย
“เพราะฉะนั้น นี่จึงถือเป็นการเดิมพัน ขึ้นอยู่กับว่าราชินีมังกรเต็มใจที่จะเดิมพันหรือไม่” ราชินีเงือกพูดเช่นนี้แล้วก็ไม่ได้พูดต่อ ทำเพียงแค่ส่งยิ้มไปให้ราชินีมังกร
“พี่หญิงสอง ข้าคิดว่าข้าอยากจะลองดู!” ราชามังกรแห่งกาลเวลาเผชิญหน้ากับราชินีมังกร
“เพราะอะไร?” ราชินีมังกรงงงวย
“เพราะว่า ” ราชามังกรโบกมือแล้วปราการสีเงินก็ปิดบังคนทั้งสามเอาไว้ ไม่รู้ว่าข้างในนั้นพูดอะไรกันบ้าง
เพราะอย่างนั้นผู้คนภายนอกจึงไม่ได้ยินอะไรเลย
“อะไรนะ? เป็นความจริงหรือ?” ราชินีมังกรและราชินีเงือกตกตะลึงเมื่อได้เห็นหลินเฟิงจากนั้นก็มองไปยังเสี่ยวหยางที่อยู่ไกลออกไป
สิ่งนี้ทำให้หลินเฟิงและเสี่ยวหยางทำหน้างง ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกัน
“เป็นความจริงเพราะข้าเป็นผู้พิทักษ์แห่งกาลเวลา ข้าสามารถมองเห็นชะตากรรมของคนธรรมดาและสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้! แต่เมื่อได้พบกับสองคนนี้มันกลับมืดดำไปหมด ท่านรู้ใช่หรือไม่ว่านั่นหมายถึงอะไร?” ราชามังกรแห่งกาลเวลาเอ่ยเบา ๆ ข้างพวกเขา
“ความแตกต่าง?” ทั้งสองพูดเป็นเสียงเดียวกัน
ราชามังกรแห่งกาลเวลาพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ใช่ มันคือเลขที่ต่างออกไป”
“ในสงครามโลกโบราณครั้งที่หนึ่ง ถ้ามันไม่ได้เป็นอนาคตที่แปลกประหลาด โลกก็จะหยุดเคลื่อนไหว! และคราวนี้ก็มีเจ้าสองคนนั้นอยู่ ท่านคิดดูสิว่านั่นหมายความว่าอย่างไร?” ราชามังกรแห่งกาลเวลาเอ่ยแค่นี้ ไม่ได้พูดต่อ
ในเวลานี้ราชินีมังกรเข้าใจแล้วว่าทำไมราชามังกรแห่งกาลเวลาถึงหยุดเธอเมื่อครู่ที่ผ่านมา
“ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?” ราชินีมังกรกล่าว
ราชามังกรแห่งกาลเวลาเอ่ย: “หากทั้งสามฝ่ายไม่ร่วมมือกัน ก็ปล่อยให้ผู้คนด้านล่างจัดการกันเอง ท่านอาจเห็นความแตกต่างระหว่างพวกเขาก็เป็นได้!”
“ดี!”
ทันทีที่พูดจบ ทั้งสามจึงเริ่มแยกกัน แล้วพวกเขาก็เหาะออกไปไกลในคราวเดียวกัน
ก่อนที่จะหายตัวไป ราชามังกรได้พูดว่า : “ชาวงู ชาวฉลาม ชาวมังกรทะเล จงโจมตีชาวเงือกด้วยกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาสืบทอดมรดกได้สำเร็จ!”
“ขอรับ” ทั้งสามเผ่ารับคำสั่ง แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขาก็เริ่มโจมตีชาวเงือกทันที
ผู้ที่แข็งแกร่งหลายคนถึงกับรีบพุ่งตัวไปที่แท่นบูชา
“ผู้เฒ่าราชามังกรแห่งกาลเวลาเป็นอะไรไปนะ?” เสี่ยวหยางเอ่ยแล้วรีบไปที่แท่นบูชา
ชาวเงือกทั้งหมดหยุดอยู่ที่หน้าแท่นบูชา
เมื่อมองไปยังผู้แข็งแกร่งทั้งสาม เสี่ยวหยางก็รีบพุ่งขึ้นไปยั้บยั้ง
เสี่ยวหยางมองไปที่คนเหล่านั้น แสงสีเขียวเข้มในดวงตาของเขาหายไปแล้วกลายเป็นสีเงิน
“บังคับสกัดสายเลือดที่มีอยู่!”
ประกายแสงเกิดขึ้นบนร่างของเสี่ยวหยาง พลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และเลื่อนขึ้นมาสู่ขั้นสูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม
“ออกไปทำงานให้หมด!” พอเสียงของเสี่ยวหยางจบลง แขน ปีกบนหลัง หัวงู และหางของเขาทั้งหมดก็ตกลงบนพื้น
แขนทั้งสองข้างกลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์และมนุษย์หมาป่า ปีกกลายเป็นค้างคาวดูดเลือด หัวงูกลายเป็นงูปาฉี แปดหัว และหางก็กลายมาเป็นหนูตาแดงดำ
สิ่งที่ทำให้ผู้คนตกตะลึงยิ่งขึ้นก็คือตบะของพวกเหล่านี้อยู่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์
เวลานี้ ในอากาศเหนือฝูงชน มีเสียงอุทานของคนทั้งสามที่ลอยอยู่ด้วยกันแล้วมองเห็นทุกสิ่งที่อยู่ด้านล่างดังขึ้น
“อะไรน่ะ เด็กนั่นเป็นตัวอะไร? กำเนิดมาจากสิ่งใด?” ราชินีมังกรตกตะลึง
ราชามังกรแห่งกาลเวลาได้แต่ส่ายหน้าและพูดว่า “ข้าไม่รู้ อดีตและอนาคตของเขาว่างเปล่า”
ด้วยตัวเสี่ยวหยางและสิ่งที่เขาปลดปล่อยออกมา ความกดดันในสนามรบจึงลดลงเป็นอย่างมาก
แต่ถึงอย่างนั้น ความแข็งแกร่งของแต่ละตัวก็ไม่อาจเทียบได้กับตระกูลทั้งสาม
ในเวลานี้ เสี่ยวหยางกำลังต่อสู้กับราชามังกรทะเล, ราชาเงือกต่อสู้กับราชาฉลาม และราชินีเงือก(เมียราชาเงือก)ต่อสู้กับราชางู
สนามรบอยู่ในความโกลาหลชั่วขณะ และทั้งสามคนก็มองดูอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ
“แล้วเด็กมนุษย์มีความสามารถเช่นไร?” ราชินีมังกรถาม
ราชามังกรแห่งกาลเวลามองไปยังสถานที่รับสืบทอดมรดกและกล่าวว่า “การสืบทอดกำลังจะสิ้นสุดลงเร็ว ๆ นี้ ท่านจะได้เห็นในไม่ช้า…”