โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 212
RC:บทที่ 212 ต้นไม้ร้อยปี
ทันทีที่สิ้นเสียงของหลิน เฟิง ที่ใจกลางคิ้วของเขาก็สว่างขึ้น ก่อนที่ปีศาจหุ่นไม้จะปรากฏกายตรงหน้าเขาด้วยรูปร่างต้นไม้ปีศาจ
โดยทั่วไปแล้วนั้น ปีศาจต้นไม้นั้นมีแค่ร่างเปล่าๆเท่านั้น แต่เมื่อถึงคราวต้องสู้ มันก็สามารถฝังตัวเองเข้าไปในต้นไม้ได้และพละกำลังก็จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมหลิน เฟิงจึงไม่ได้ปล่อยต้นไม้ปีศาจนี้ออกมาตั้งแต่ต้น เพราะมันจะไม่มีพลังในการต่อสู้มากนักถ้าปราศจากการแอบอิงกับต้นไม้
“นี่ไงล่ะ ที่นี่มีต้นไม้เพียบเลย อย่างน้อยก็ร้อยกว่าปีล่ะ นายไหวใช่ไหม” หลิน เฟิงกล่าวขึ้นกับหุ่นไม้ตัวดังกล่าว
หลังจากเข้ามาในภูเขาเป็นเวลาครู่ใหญ่แล้วนั้น ต้นไม้ขนาดใหญ่มากมายก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
โดยแต่ละต้นต้องใช้สองหรือสามคนโอบเลยทีเดียว เป็นต้นไม้อายุร้อยกว่าปีได้
“ขอรับ” ร่างของต้นไม้ปีศาจพยักหน้า
“ก็ดี งั้นฝังร่างนายเข้าไปในต้นไม้ใหญ่นี้เลย ไม่งั้นเดี๋ยวถูกพวกมันจับได้” หลิน เฟิงว่ากระตุ้นอย่างไว
“ขอรับ” ทันทีที่สิ้นเสียงของปีศาจต้นไม้ มันก็หายวับไปก่อนจะแทรกร่างของตนเข้าไปในต้นไม้อายุร้อยปี
ทันใดนั้นเองต้นไม้อายุร้อยปีต้นดังกล่าวก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล กิ่งก้านรวมถึงใบไม้ทั้งหมดที่อยู่บนต้นหายวับไป ก่อนที่ใบหน้าขนาดใหญ่จะปรากฏขึ้นไปอยู่บนนั้น เวลามองดูน่ากลัวอย่างมาก
นี่เป็นต้นไม้ปีศาจ มันฝังตัวเองเข้าไปในต้นไม้ พละกำลังครึ่งหนึ่งนั้นคือความสามารถของมัน ส่วนอีกครึ่งหนึ่งคืออายุและความทนทานของต้นไม้พวกนั้นและอื่นๆ
ในตอนนั้นเอง ต้นไม้ปีศาจก็เข้าแทรกเข้าไปในต้นไม้อายุร้อยปีต้นหนึ่ง โดยต้นไม้ดังกล่าวทั้งหนาและแข็งซึ่งเป็นสิ่งที่เสริมสร้างพละกำลังของต้นไม้ปีศาจ
ในตอนนี้ หลิน เฟิงสัมผัสได้ถึงระดับของต้นไม้ปีศาจ ซึ่งเทียบเท่ากับผู้มีพลังระดับ A พละกำลังของต้นไม้ปีศาจในตอนนี้ กับ เมื่อตอนที่หลิน เฟิงเคยพบนั้นช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
หลิน เฟิงจำได้ว่าในตอนนั้น ต้นไม้ต้นใหญ่ที่ต้นไม้ปีศาจได้เข้าไปแทรกแซงนั้นมีอายุ 20 หรือ 30 ปี ในขณะที่ตอนนี้ต้นไม้ที่มันเข้าไปแทรกอยู่มีอายุ 100 กว่าปีเลยทีเดียว ช่องว่างระหว่างต้นไม้ทั้งสองต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ในตอนนั้นเอง หลิน เฟิงก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ นี่ถ้าต้นไม้ปีศาจแทรกซึมเข้าไปในต้นไม้อายุร้อยปีเข้าแล้วล่ะก็ พวกเขาก็แทบไม่ต้องเข้ายุ่งอะไรด้วยเลย
เพราะพละกำลังเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่หลิน เฟิงอยากจะต่อกรด้วยเลย เขารู้สึกได้ว่าพละกำลังในขณะนี้ของต้นไม้ต้นนี้นั้นเป็นพละกำลังของผู้ใช้พลังระดับ A เลยทีเดียว
ตราบใดที่การซุ่มโจมตีครั้งนี้เป็นไปได้ด้วยดีแบบที่เราคาดไม่ถึง ก็ประเมินได้เลยว่ามีพวกเขาไม่กี่คนที่จะสามารถจับการเคลื่อนไหวของต้นไม้ปีศาจนี้ได้ทัน
“ถ้าการซุ่มโจมตีเป็นไปได้สวย แล้วพวกนั้นยังกล้าตามเราต่อล่ะก็ ก็จะไม่มีใครได้มีชีวิตกลับไปในวันนี้แน่ แล้วอีกอย่าง ต้นไม้ปีศาจ ตอนนี้นายมีพลังเทียบเท่ากับระดับ A สินะ” หลิน เฟิงว่าเสียงเครียด
“ขอรับ นายท่าน” ต้นไม้ร้อยปีต้นดังกล่าวเผยใบหน้าออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้น
“เอา พวกเรารอพวด้ขาเข้ามาอย่างเงียบๆ” หลิน เฟิงเอ่ยกับต้นไม้ปีศาจยักษ์
ต้นไม้ปีศาจต้นดังกล่าวจึงรีบเผยช่องขนาดใหญ่ออกมา จากนั้น หลิน เฟิงเข้าไปในนั้นโดยทันทีก่อนจะนั่งลง เขาจำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูพลังวิญญาณโดยไว
ส่วนหวัง หานกับจื้อเฉิงนั้น พวกเขาเจอสถานที่ซ่อนตัวอย่างรวดเร็วก่อนที่จะทำการรักษาบาดแผล ฟื้นฟูพละกำลังทางจิตวิญญาณ
“ตามมา ลมหายใจพวกมันอยู่ตรงนี้” หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ ตงฟาง เซียงกับตงฟาง เย่วจิงก็ไล่มาทันจนได้
ในไม่ช้า พวกเขาก็มายังสถานที่ที่พวกหลินเฟิงเคยมา เพียงแต่ว่าพอมาตอนนี้กลับมองไม่เห็นอะไรอีกแล้ว แถมลมหายใจก็หายไปด้วยเช่นกัน ไม่เจอร่องรอยอะไรเลย
“หาพวกมันให้เจอ อากาศเบาบางแบบนี้ พวกมันไม่ได้หายไปไหนหรอก” ตงฟางเซียงว่าขึ้น
จากนั้น ผู้คนก็เริ่มตามหาต่อไป ไม่นาน ก็มาถึงต้นไม้ใหญ่ ทั้งเจ็ดคนเดินอยู่ใต้ต้นไม้ต้นดังกล่าว
“ไม่สิ ลมหายใจที่เพิ่งเกิดขึ้นได้หายไปจากที่ตรงนี้ แถมยังไม่มีที่ให้ซ่อน แล้วหายไปได้ยังไงกันนะ” สิ่งนี้ทำให้ตงฟาง เย่วจิงไม่เข้าใจ
“บ้าเอ้ย นี่พวกมันหนีไปได้แล้วงั้นหรือ” ตงฟาง เซียงโกรธจัดมากเสียจนปล่อยสายฟ้าฟาดไปผ่าโดนกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้ๆ
“ฮึบ” ภายในต้นไม้ปีศาจยักษ์นั้น หลิน เฟิงกำลังดูดซับพลังวิญญาณ แล้วทันใดนั้นเอง ความรู้สึกของพลังวิญญาณก็หลั่งไหลเข้ามาในตัวเขาอย่างท่วมท้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ภูเขาใหญ่ลูกนี้นั้นมีพืชขึ้นเขียวชอุ่มโดยรอบ ยิ่งหลิน เฟิงดูดซับพลังวิญญาณมากขึ้นเท่าไหร่ พลังวิญญาณของเขาก็ยิ่งฟื้นตัวขึ้นมาได้เร็วเท่านั้น
แม้ว่าความเร็วนี้จะไม่เร็วเท่ากับการดูดซับแก่นวิญญาณโดยตรง แต่นี่กลับไม่มีผลข้างเคียงใดๆเลย ผลลัพธ์ที่ได้คือการเสริมสร้างกายภาพชั่วคราวซึ่งจะลดผลข้างเคียงของการดูดซับแก่นวิญญาณที่บังคับให้เข้ามาในร่างนี้ได้อย่างมหาศาล
ในตอนนี้ ถึงหลิน เฟิงจะอยู่ในต้นปีศาจยักษ์ แต่เขาก็สามารถเห็นผู้คนที่อยู่ข้างนอกผ่านต้นไม้ปีศาจต้นนี้ได้
ในขณะเดียวกัน ตงฟาง เซียงกลับคิดว่าหลิน เฟิงหนีไปแล้ว เขาจึงโกรธจัดเสียจนทำลายข้าวของใกล้ตัว พืชต้นเล็กๆรวมถึงต้นไม้ถูกสายฟ้าผ่าจนเกรียม
“นายท่าน จะลุยเลยไหมครับตอนนี้” ต้นไม้ปีศาจถามขึ้น
“ยัง เดี๋ยว รอก่อน รอจนกว่าพวกนั้นจะลดการระมัดระวัง ให้พวกนั้นแปลกใจเล่นที่ทุกวินาทีต้องคอยโดนฆ่าจะดีกว่า แล้วตอนนี้ ฉันเองก็ฟื้นฟูพลังไปได้30%แล้ว ฉันจะลงมือก็ต่อเมื่อพลังไปถึง 50 หรือ 60% เผื่อไว้น่ะ” หลิน เฟิงว่าขึ้น
“ขอรับ นายท่าน”
ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจึงต้องคอยซ่อนตัวและต้องคอยตามหากันอยู่ตลอดเวลา ตงฟาง เซียงและหลิน เฟิงคือด้านสว่างและด้านมืด พวกเขาอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ตงฟาง เซียงและตงฟาง เย่วจิงคงไม่มีแนวโน้มว่าจะหาหลิน เฟิงเจอ พวกเขากำลังจะยอมแพ้และกลับออกไป
แต่ทว่าหลิน เฟิงกลับไม่คิดเช่นนั้น เพราะเมื่อมาถึง เรื่องอะไรที่จะปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้ง่ายๆแบบนั้นล่ะ
ไม่กี่นาทีต่อมาหลังจากนั้น พลังวิญญาณของหลิน เฟิงก็ฟื้นฟูขึ้นมาได้ถึง 40% และเกือบจะถึง 50% จนกระทั่งในตอนนี้ตงฟาง เซียงก็เลิกล้มที่จะหาต่อแล้ว
“ช่างเถอะครับ นายน้อย พวกเราหาเจ้าพวกนั้นเป็นเวลานานแล้ว น่าจะหนีกันไปแล้วล่ะครับ ไม่อย่างงั้น เราจะหาพวกเขาไม่เจอได้ยังไง” ผู้มีพลังระดับ B คนหนึ่งว่าขึ้น
“ใช่แล้ว พี่ชายเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อยเลยนะครับ กลับไปพักกันเถอะ” ผู้มีพลังระดับ B อีกคนว่าขึ้น
ในตอนนั้นเอง พวกเขาหลายคนต่างได้รับบาดเจ็บ เมื่อเห็นว่าไม่สามารถหาตัวหลิน เฟิงได้เจอแน่ พวกเขาจึงนั่งลงกับพื้นเพื่อพักผ่อน
พวกเขาคนหนึ่งนั่งลง ก่อนที่คนอื่นๆจะทำตาม คนห้าหรือหกคนต่างนั่งลงบนพื้น บางคนก็นอนแผ่หลา บางคนก็พิงกัน หลากหลายท่า
“บ้าเอ้ย” เมื่อเห็นแบบนั้น ตงฟาง เซียงก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก เขาน่าจะรู้ว่าหลิน เฟิงหนีไปได้แล้ว ไม่อย่างงั้นเขาคงไม่ต้องมามัวตามหาแบบนี้หรอก
“เฮ้อ ช่างน่าสมเพช” ตงฟาง เย่วจิงก็เช่นเดียวกัน ช่างเป็นเรื่องน่าสมเพชเมื่อคิดว่าเขานั้นน่าจะเอาอาวุธวิญญาณอย่างใบมีดเงาเลือดที่หลิน เฟิงครอบครองมาได้
แม้ว่าของวิเศษนั้นจะไม่เข้ากับวิชาของเขา แต่เขาก็สามารถไปเอามันไปที่ตลาดมืดเพื่อแลกเปลี่ยนอาวุธวิเศษแบบเดียวกันกับของของเขา ถ้าทำแบบนั้น พละกำลังของเขาก็จะเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง รวมถึงสถานะของเขาในตระกูลก็จะดีขึ้นเช่นกัน
แต่ในตอนนั้นเอง ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไร้ประโยชน์
กลุ่มคนที่นั่งอยู่ใต้ต้นปีศาจยักษ์ พวกเขาไม่รู้เลยว่าหลิน เฟิงอยู่ห่างจากพวกเขาไม่ถึงหนึ่งเมตร และที่ที่หลินเฟิงอยู่ก็อยู่ในดงของพวกเขานั่นเอง
“ต้นไม้ปีศาจ ฉันพร้อมลุย…”