โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 192
RC:บทที่ 192 พลังของต้นไม้ประหลาด
ในตอนนี้เอง เถาวัลย์นั้นก็ค่อยๆแผ่ออกมาจากบนยอดของต้นไม้ต้นนั้นตรงมาที่หลิน เฟิง
“นี่ พี่เฟิง ผมเจอขนไก่แล้ว” ในตอนนั้นเอง หวัง หานก็ชิงพูดขึ้น หลิน เฟิงจึงวิ่งออกมาในทันทีโดยปล่อยให้เถาวัลย์นั้นค้างเติ่งอยู่ในอากาศ
ทันทีที่มันค้างอยู่ในอากาศ มันก็รีบถอยรูดกลับไปในทันทีด้วยความเร็วสูงจนไม่มีใครเห็น
“เอ” หลิน เฟิงรู้สึกตกใจก่อนจะหันไปมองรอบๆด้วยความร้อนใจ แต่ก็ไม่พบอะไร
“มันไปไหนแล้วนะ” เมื่อไม่เห็น เขาจึงถามขึ้น
“นี่ไงครับ มีทั้งขนทั้งเลือดมากขึ้นเรื่อยๆเลย” หวัง หานชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง
“เอ๊ะ ทางที่ชี้ไปเป็นต้นไม้ที่ฉันเพิ่งพิงไปไม่ใช่หรือเนี่ย” หลิน เฟิงสับสน จากนั้นก็เดินต่อ
ยิ่งเดินไปเท่าไหร่ ทั้งขนนกและเลือดก็มีออกมาให้เห็นเรื่อยๆมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อเดินไปถึงต้นไม้ที่หลิน เฟิงเพิ่งพิงไปนั้น ก็พบรอยเลือดและขนนกตรงนั้นอีกด้วย
ต้นไม้ต้นนี้เต็มไปด้วยขนไก่และเลือด และในตอนนั้นเองที่หวังหานเงยหน้ามองขึ้นไปก่อนจะตะโกนออกมา
“เหวอ ผีหลอก”
หวัง หานเห็นว่ามีใบหน้าอยู่บนต้นไม้ ทั้งน่ากลัวและหม่นเศร้า มันมีทั้งปาก จมูกและตา หรือจะให้พูดสั้นๆก็คือหมดทั้งต้นนั้นคือใบหน้าทั้งหมดเลย
เมื่อหวัง หานตะโกนออกไป ต้นไม้ก็โผล่ออกมา พวกเขาเองเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติอีกด้วย และชายที่อยู่ตรงกลางนั้นก็รีบใส่เกียร์ถอยอย่างไว
ทันทีที่ชายคนนั้นและพวกสัตว์ถอยกลับไป เถาวัลย์หลายต้นก็ดิ่งตรงลงมาอย่างไว ก่อนจะมุ่งตรงไปยังพื้นจนทำให้เกิดรู
“ปกป้องหวัง หาน กันเขาไว้ กระจายกำลังกันล้อมรอบต้นไม้นี่ อย่าให้มันหนีไปได้” หลิน เฟิงกล่าวขึ้นก่อนหลีกออกมาเล็กน้อย
ในตอนนี้ ต้นไม้ดังกล่าวก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ จากเดิมทีที่เป็นต้นไม้ แต่ในทันใดนั้นเองร่างของมันก็กลายเป็นเถาวัลย์ร่างยักษ์ที่แผ่กิ่งก้านสาขามากมาย
อีกทั้งยังมีใบหน้าอันแสนสยดสยองบนเถาขนาดใหญ่ที่เมื่อเห็นก็รู้สึกขนลุก
“ไอ้เจ้านี่มันตัวอะไรกัน” เมื่อเห็นลักษณะที่สยดสยองแบบนั้น หลิน เฟิงก็เอ่ยถามขึ้น
“นายท่าน นี่อาจเป็นสัตว์วิญญาณพืช” มังกรดำตอบกลับมา
“สัตว์วิญญาณพืชงั้นหรือ มันอะไรกัน หรือนี่ก็คือสัตว์วิญญาณด้วยงั้นหรือ” หลิน เฟิงเอ่ยถาม
“ใช่แล้วล่ะ เจ้านี่ก็ถือว่าเป็นสัตว์วิญญาณด้วยเหมือนกัน ไม่ได้ต่างอะไรกับสัตว์วิญญาณเลย เพียงแต่รูปแบบชีวิตของมันเป็นพืชเท่านั้นเอง” มังกรดำอธิบาย
“เข้าใจล่ะ งั้นเราต้องกำราบมันก่อน” หลิน เฟิงออกคำสั่ง
ในขณะที่หลิน เฟิงและมังกรดำคุยกันอยู่นั้น เถาวัลย์ขนาดใหญ่ก็ปล่อยการโจมตีออกมา
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เพียงแค่เห็นเถาจากกิ่งก้านหลายๆท่อนแล้วนั้น แต่ละกิ่งนั้นก็มีลักษณะเหมือนกระบอกปืนที่ใช้ยิงใส่หลิน เฟิงและเหล่าสัตว์
“หมัดเพลิง” หลิน เฟิงปล่อยหมัดเพลิงออกไปโจมตีกิ่งที่พุ่งเข้ามาหาเขา
อีกฟากหนึ่งนั้น เสี่ยว เฮยใช้อุ้งเท้าตบเข้าที่เถาวัลย์ต้นนั้น ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง มังกรดำก็จัดการดึงเถาวัลย์ดังกล่าวด้วยหางของมันเพียงอย่างเดียว
ราชาหมาป่าขาวนั้นรวบรวมเอาใบเลื่อยลมเพื่อตัดเอาเถาวัลย์นั้นออกไป หรือจะให้พูดก็คือ มันมีทักษะเฉพาะเป็นของตัวเอง
ส่วนมังกรแห่งแสงนั้นที่อยู่อีกด้านหนึ่งนั้นก็บินขึ้นไปซ่อนตัวบนท้องฟ้า
ทั้งนี้ยังเหลือเพียงแค่สัตว์วิญญาณตัวอื่นๆเท่านั้น หรือจะให้พูด สัตว์วิญญาณหน้าใหม่ทั้งหกตัวนั้น ยกเว้นก็แต่งูตัวเล็กๆหลากสีบนหัวของพวกมันที่โดนโจมตีเข้าเต็มๆ ก่อนจะนอนราบลงไปกับพื้นพลางโอดครวญ
ส่วนตอนนี้ หลิน เฟิงเองก็รีบปล่อยหมัดออกไปและรู้สึกได้ว่าหมัดของตนนั้นเหมือนจะปะทะเข้ากับท่อนเหล็กซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้อย่างมาก
แต่ทว่าเถาวัลย์นั่นก็ถูกไฟจากหมัดของหลิน เฟิงเข้าโจมตีเช่นกัน ก่อนจะชะงักกลับไปอย่างรวดเร็ว
“เถาวัลย์นี่มันโจมตีมาที ยิ่งกว่าสัตว์วิญญาณสิบตัวรวมกันในทีเดียวเสียอีก ทรงพลังอะไรแบบนี้”
หลิน เฟิงรู้สึกอึ้งไป
พลังโจมตีของเถาวัลย์นั้นรุนแรงมากทีเดียว ยกเว้นก็แต่มังกรดำกับสัตว์วิญญาณระดับกลางตัวอื่นๆ ส่วนสัตว์วิญญาณห้าหรือหกตัวนั้นต่างได้รับบาดเจ็บ แม้แต่หมาป่าขาวตัวน้อยเองก็เช่นกัน พลังโจมตีที่ว่านั่นช่างน่ากลัวจับใจ
ลูกหมาป่าขาวนั้นเป็นลูกหลานของราชาหมาป่าขาว ระดับขั้นของมันนั้นไปถึงสัตว์วิญญาณระดับต่ำขั้นสุดยอดแล้วด้วย อีกไม่นานก็จะวิวัฒนาการเป็นสัตว์วิญญาณระดับกลางในที่สุด แต่ทว่ามันกลับได้รับบาดเจ็บอย่างที่คาดไม่ถึงเลย
“กลับมาก่อนพวก” หลิน เฟิงว่าขึ้นแก่เหล่าสัตว์วิญญาณระดับต่ำทั้งหกตัวนั้นรวมถึงหมาป่าน้อยด้วย
ในตอนนี้ หลิน เฟิง มังกรดำ สุนัขนรกเสี่ยวเฮย มังกรแสง ราชาหมาป่าขาวและตัวอื่นๆต่างก็ดาหน้าเข้าล้อมรอบเถาวัลย์ต้นนี้จนอยู่กลางวง
“เถาวัลย์ประหลาดนี่ไม่รู้ว่ามาจากไหน แต่มันน่าจะเป็นสัตว์วิญญาณที่มีคุณลักษณะแห่งไม้ ที่กลัวไฟ ใครที่มีพลังไฟก็ใช้ไฟโจมตีซะ ส่วนพวกที่ไม่ได้ใช้พลังไฟก็ให้ใช้คุณลักษณะอื่นจัดการมันไป” หลิน เฟิงว่าขึ้น
ส่วนหลิน เฟิงนั้นได้กลายเป็นผู้บังคับบัญชาโดยสมบูรณ์แล้ว สัตว์วิญญาณทุกตัวต่างน้อมรับคำสั่งของเขา เมื่อเขาพูดจบ สัตว์วิญญาณทุกตัวจึงลงมือเช่นเดิม
สุดท้าย จึงเป็นหมัดเพลิงนรกของหลิน เฟิงนั่นเองที่กักเก็บพลังงาน แล้วพลังคลื่นอันแข็งแกร่งก็แผ่ขยายออกไปอย่างช้าๆ
ในตอนนี้นั้น เถาวัลย์สีม่วงดังกล่าวที่เคยรู้สึกว่าไม่มีใครจะเอาชนะตนได้นั้นกลับแผดเสียงร้องลั่น ลำต้นเริ่มจมลงมา พร้อมหลบหนี
“มังกรแสง ราชาหมาป่าขาว หยุดมันที อย่าปล่อยให้มันหนีจากพื้นดินไปไหนได้” หลิน เฟิงว่าขึ้น
“โบร๋ว”
ราชาหมาป่าขาวหอนขึ้น พร้อมกับปีกบนหลังที่ขยับไปมา ทันใดนั้นเอง ก็เกิดใบเลื่อยลมขึ้นมามากมายก่อนจะตัดเถาวัลย์สีม่วงนั้น
เถาที่จมลงไปนั้นถูกหยุดไว้ด้วยใบเลื่อยลมนั้น
ในตอนนี้นั้น มังกรแสงจึงหลบซ่อนตัวในพื้นดินทันที และต่อมา เขาจึงเห็นเถาของเถาวัลย์สีม่วงนั้นปลิวออกมาจากพื้นดินในตอนนั้นเอง
“มังกรแสง ทำได้ดีมาก ไปกันเถอะ” เมื่อได้เห็นการโจมตีของมังกรแสง เขาก็ว่ามันจัดการได้เยี่ยมยอดจริงๆ
ก่อนที่มังกรแห่งแสงจะวิวัฒนาการนั้น มันเองก็เคยเป็นสัตว์วิญญาณที่มีคุณลักษณะแห่งดินมาก่อน การซ่อนตัวนั้นก็คือพละกำลังของมันนั่นเอง
สุนัขนรกสองหัวเสี่ยวเฮยรวมทั้งมังกรดำเองนั้นต่างเป็นสัตว์ที่ฉลาดที่มีการสังเกตอันแม่นยำ เมื่อเถาวัลย์นั้นถูกดันออกมา พวกมันก็จัดการปลดปล่อยออกมาในทันที
โฮ่ง โฮ่ง
หัวทั้งสองของสุนัขนรกนั้นคำรามก้องออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว พร้อมกับลูกบอลไฟในปากทั้งสองนั่นนั้นก็ปล่อยออกมาปะทะเข้ากับเถาวัลย์สีม่วงนั้น
โฮก
มังกรดำเองก็ไม่อยากจะเผยจุดอ่อนออกมา มันจึงพ่นลูกไฟสีดำในปากของมันออกไปด้วย
ในตอนนั้นเอง พวกมันต่างก็เข้าจัดการเถาวัลย์ต้นนั้น ส่วนหลิน เฟิงเองก็ค่อยๆก้าวเข้าไปเพราะเห็นว่าเมื่อตอนที่มังกรดำกับเสี่ยวเฮยโจมตีมันนั้น เถาวัลย์นั่นก็งอกกิ่งก้านของมันออกมาอีกมากมายก่อนจะห่อหุ้มเถาของตนเป็นลูกบอล
ตู้ม
โจมตีเถาวัลย์นั้นได้ตรงจุดพอดีเป๊ะ จากนั้นลำต้นก็ระเบิดเป็นจุณ เผาไหม้
แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ความสนใจของคนสัตว์ทั้งซ้ายขวาต่างไปอยู่ที่ไฟนั้นหมด หุ่นไม้ที่มีแขนที่สูงหนา 20 ซม.ก็ย่องออกมาเตรียมพร้อมหลบหนีออกไป
“จะไปไหน”
ในตอนนั้นเอง หลิน เฟิงก็ได้เริ่มสักที เขาเองก็กำลังรออยู่เลย เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเนี่ย และมันก็เป็นไปตามที่คิด เจ้าเถาวัลย์ม่วงนี้ช่างเจ้าเล่ห์เป็นยิ่งนัก
หลิน เฟิงก้าวเข้าไปในวิชาย่ำเงาด้วยปลายเท้า ก่อนจะปลดปล่อยหมัดเพลิงออกไปด้วยมือ จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปจับตัวหุ่นไม้วายร้ายนั้นอย่างไวว่อง
มือขวาของหลิน เฟิงนั้นกลายเป็นสีแดงเมื่อปล่อยอุณหภูมิสูงออกมาจนน่ากลัว เขาคว้าตัวหุ่นไม้จอมเจ้าเล่ห์นั่นก่อนจะปล่อยควันรมไปทั่วร่าง
“แค่กๆ โอ๊ยๆ ยอมแล้วๆ” หุ่นไม้ตัวเล็กนั่นอ้อนวอน
เมื่อเห็นว่ามันดูจะใกล้ซี้อยู่รอมร่อ หลิน เฟิงจึงพร้อมที่จะปล่อยมันไปแต่มังกรดำกลับหยุดเขาไว้ก่อน
“นายท่าน รอก่อน…”