ระบบร้านค้าออนไลน์ - ตอนที่ 128
TB:บทที่ 128 การเดิมพันหนึ่งร้อยล้าน
การประมูลได้ดำเนินต่อไปท่ามกลางหินหยกสี่ชิ้นที่หลงเหลืออยู่ซึ่งเฉินหลงประมูลมาได้สองชิ้น ชิ้นแรกเป็นหยกเขียวจักรพรรดิมูลค่า 150 ล้านหยวนและชิ้นที่สองเป็นหยกแดงซึ่งนอกจากจะเป็นหยกที่มีคุณภาพเยี่ยมแล้ว ยังมีมูลค่าถึง 200 ล้านหยวนอีกด้วย
งานประมูลได้ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย ในที่สุดงานการกุศลก็จบลงแล้ว เฉินหลงสามารถประมูลหินหยกได้ทั้งหมดสี่ชิ้นซึ่งทั้งสี่ชิ้นนั้นก็เป็นหินหยกที่มีแร่หยกอยู่มากที่สุดของงานนี้
ในการขายของประมูลทั้งหมดมีมูลค่าถึง 1.2 ล้านล้านหยวน เพียงเฉินหลงแค่คนเดียวก็ประมูลราคาไปทั้งหมดเกือบ 600 ล้านหยวนแล้ว
หลังจากที่งานการกุศลจบลงไปแล้ว คนที่ประมูลของไปได้ก็ต่างพากันโอนเงินและนำของที่ประมูลได้กลับไปแปรรูป พวกเขากลับไปอย่างร่าเริง ในขณะที่กลุ่มคนที่ประมูลไม่ได้ก็กลับไปอย่างเงียบๆและแอบร้องอยู่ในใจ
แค่เฉินหลงอยู่ที่นี่ ก็คงมีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ต้องผิดหวังกลับไป
“เสี่ยวเฉิน คุณมีสายตาเฉียบคม” ตอนที่เฉินหลงกำลังโอนเงิน ซูชิงเฟิ่งก็มองเฉินหลงแล้วยิ้มให้
“เพราะมันเป็นหินหยกจำนวนมากที่ถูกคุณซื้อกลับมาไงครับคุณซู ไม่ว่าผมจะตาดีแค่ไหนก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกครับ” เฉินหลงไม่ได้ปฏิเสธ เพราะอย่างไรซูชิงเฟิ่งรู้ถึงสถานะขอบเขตกำเนิดของเขาหมดแล้ว จะมีอะไรสำคัญไปกว่าการที่เขาได้รู้ถึงความสามารถอีกอย่างนึง เมื่อได้ยินคำพูดของซูชิงเฟิ่ง เขาก็ถึงกับหันไปมองหน้าเฉินหลงอย่างประหลาดใจ เดิมทีเขาคิดว่าเฉินหลงและคนจากตระกูลจินสู้ราคาประมูลกัน แต่เมื่อได้ยินคำพูดของซูชิงเฟิ่งแล้ว เขาก็รู้สึกว่าเขาดูถูกเฉินหลงเกินไป
คำสารภาพของเฉินหลงทำให้ซูชิงเฟิ่งยิ่งชอบเฉินหลงมายิ่งขึ้น จากนั้นเขาก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เสี่ยวเฉิน คุณต้องการที่จะเปิดดูหยกทั้งสี่ชิ้นที่นี่เลยไหม?”
“ไม่ดีกว่าครับ ผมกลัวว่าจะไปกระตุ้นบางคนเข้า” เฉินหลงมองไปที่จินเหลียงหยวน อวี่จินหรูและคนอื่นที่อยู่ข้างๆ
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินหลง สีหน้าของจินเหลียงหยวนก็เปลี่ยนไป พวกเขาไม่คิดว่าเฉินหลงจะรวยขนาดนี้ ในสายพวกเขาเฉินหลงดูมีเงินเพียงไม่กี่ดอลลาร์ แต่พวกเขากลับถูกขโมยหยกไปด้วยเงินที่เฉินหลงมีมากกว่า เขาจะรู้รึเปล่าว่าการทำแบบนี้มันก็เหมือนกับการขโมยของของคนอื่นด้วยเงิน แต่ความสามารถแบบนี้มีสิทธิที่จะทำได้อยู่แล้ว และตอนนี้พวกเขาก็โดนมากับตัวเองและทำให้รู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก
“ไม่ต้องกังวลไปเสี่ยวเฉิน ไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องที่นี่หรอก” ตอนที่ซูชิงเฟิ่งกำลังพูด แม้ว่าเสียงของเขาจะค่อนข้างเรียบ แต่ก็เหมือนมีแรงกดดันออกมาจนคนอื่นปฏิเสธไม่ได้
เฉินหลงเผยรอยยิ้มออกมาอย่างมั่นใจและพูดว่า
“ผมไม่กลัวคนที่มาหาเรื่องหรอกครับ” เขาเป็นถึงปรมาจารย์ขอบเขตกำเนิดเลยนะ หากเขากลัวแค่คนธรรมดาๆจะมาหาเรื่องจริง เขาคงไม่ทำเรื่องให้ยุ่งยากหรอก
“ดูจากอายุของคุณแล้วคุณคงจัดการกับปัญหาได้ ผมนี่ลืมไปเลยจริงๆ”
เวลานี้ ซูชิงเฟิ่งคิดเรื่องสถานะของพลังที่เป็นขอบเขตกำเนิดของเฉินหลงและพลังของพ่อบ้านของเขาเอง อย่างไรซะมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเขานั้นแข็งแกร่งเกินมนุษย์ คนแบบนี้จะมากลัวคนปกติทั่วไปได้อย่างไรกัน
ตอนนี้ อวี่จินหรูได้เดินมาหาเฉินหลงและพูดว่า
“สุดหล่อ เมื่อกี้ที่คุณพูเรื่องหินหยกของคุณดีกว่าของพวกเรา ทำไมพวกเราไม่มาเปรียบเทียบและดูกันว่าใครจะมีแร่หยกที่มีมูลค่าสูงกว่ากันละ?”
“แล้วทำไมผมต้องเดิมพันกับคุณด้วยละ?” เฉินหลงถอยหลังไปสองก้าวเพื่อให้มีช่องว่างระหว่างเขากับอวี่จินหรูโดยอัตโนมัติ
สำหรับอวี่จินหรูเองดูมียินชี่(阴气,ความพร้อมทางร่างกาย)มากเกินไป ทางที่ดีควรจะหลีกเหลี่ยงดีกว่า
“ตราบใดที่คุณสามารถชนะได้ด้วยหยกทั้งสี่ชิ้นนี้ พวกเรายินดีที่จะจ่ายให้คุณ 100 ล้านหยวน แต่ถ้าคุณแพ้ พวกเราก็จะสามารถเลือกหยกหนึ่งในสี่ที่คุณประมูลมาได้” อวี่จินหรูพูดด้วยรอยยิ้มอย่างเขินอาย”
อย่างไรก็ตาม อวี่หรูจินก็เป็นที่มักจะทรยศอยู่เสมอจริงๆตามที่จางกวงหนานได้บอกไว้ ในบรรดาหินหยกทั้งสี่ที่เฉินหลงประมูลมา ยกเว้นแค่ชิ้นแรกที่เหลือแต่ละชิ้นราคามากกว่า 100 ล้านหยวน ถ้าพวกเขาชนะ เฉินหลงอาจต้องสูญเสียหยกมูลค่าถึง 200 ล้านหยวน ยิ่งไปกว่านั้นเฉินหลงต้องเดิมพันกับคนทั้งสี่คน ถึงแม้ว่าเขาอาจจะแพ้ พวกเขาแต่ละคนต้องจ่ายเฉินหลง 25 ล้านหยวน มันก็ดูสูญเสียไม่มากนัก
“คุณเฉิน อย่าไปท้าพนันกับพวกเขาเลย มันไม่คุ้มหรอก” จางกวงหนานรีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไรครับ พวกเขาดูยินดีที่จะให้เงินผม ดังนั้นผมก็จะเล่นกับพวกเขา” เฉินหลงไม่ได้สนใจคำเตือนนั้นเลย ไม่ว่ายังไงก็แน่ใจที่จะเดิมพันในครั้งนี้ ทำไมเราจะไม่อยากทำกำไรบ้างละ เมื่อเห็นว่าเฉินหลงยินดีที่จะเดิมพัน จางกวงหนานจึงไม่พูดอะไรแล้ว เขาทั้งสองคนต่างยังไม่รู้จักกันดี เขาได้แนะนำไปแล้วและเฉินหลงก็เลือกที่จะไม่ฟังเขา งั้นก็แล้วเขาก็แล้วกัน
เมื่อเฉินหลงตกลงแล้ว อวี่จินหรูและจินเหลียงหยวนก็ได้เลือกหินหยกที่พวกเขาประมูล พวกเขาได้เลือกหยกชิ้นที่มีพื้นผิวสมบูรณ์ แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าไม่มีแร่หยกในนั้นเลย พวกเขาคิดว่าตัวเองโชคดี เมื่อเฉินหลงเห็นดังนั้นแล้วเขาก็ไม่คิดที่จะพูดอะไร เขาทำได้เพียงเลือกหยกที่ประมูลมาในมูลค่า 35 ล้านหยวนที่สามารถทำให้พวกเขาแพ้จนอับอายได้
ซูชิงเฟิ่งมีผู้เชี่ยวชาญด้านหินอยู่ที่นี่ หยกที่พวกเขาเอาออกมาให้อาจารย์จื่อผู้เชี่ยวชาญดู จากประสบการณ์ของเขาสามารถดูออกได้อย่างรวดเร็ว
อวี่จินหรูผ่าหินหยกออกและพบว่าไม่มีผงฝุ่นมรกตเลย
ผู้เชี่ยวชาญหยิบหินหยกดิบที่ถูกผ่าออกแล้วของเฉินหลงขึ้นมาดูจนรู้สึกตื่นเต้น ทุกวันนี้เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะได้พบหยกที่คุณภาพดีขนาดนี้ เขาไม่คิดว่าชีวิตนี้เขาจะสามารถจับหยกที่บริสุทธิ์และล้ำค่าด้วยมือของเขาเองได้ เขารู้สึกโชคดีมาก
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้คนที่โชคดีจริงๆกำลังพูดว่า
“เอาละ คุณควรยอมรับความพ่ายแพ้นี้นะ” เฉินหลงมองหน้าอวี่จินหรูซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่กล้าสบตาเลย
“คุณชนะ พวกเราจะจ่าย”
พวกเขาทั้งสี่หมดคำที่จะพูดและเลือกที่จะไป หินหยกทั้งสี่ที่พวกเขาเลือกไม่คิดว่าจะไร้ประโยชน์ขนาดนี้ พวกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ
เมื่อเห็นอวี่จินหรูเดินเข้ามา เฉินหลงก็พูดว่า
“ไม่ต้องให้ผมหรอกครับ ให้คุณซูเถอะ ถือซะว่าให้ผมได้ให้ความรักกับเด็กๆที่อยู่ในพื้นที่ยากไร้”
คนอย่างอวี่จินหรูทำให้เฉินหลงรู้สึกอึดอัดปวดหัวได้เมื่อเห็นหน้า เขาจึงย่อมอยู่ให้ห่างจากเขา
หลังจากที่พวกเขาทั้งสี่คนได้ให้เงินมาแล้ว อวี่จินหรูก็กลับไปอย่างท้อใจ ในฐานะที่เป็นฝ่ายแพ้ พวกเขาจึงไม่มีหน้าอยู่ต่อ
“คุณเฉิน คุณนี้ช่างโชคดีจริงๆ คุณคงทำเงินได้มากจากการที่ซื้อหยกแก้วมาในราคาเพียง 35 ล้านหยวน” หลังจากที่พวกเขากลับกันไปหมดแล้ว จางกวงหนานก็มองเฉินหลงด้วยความอิจฉา
“แต่ยังไงถ้าคุณยินดีที่จะขายหยกให้กับพวกเรา พวกเราสามารถให้ราคาที่น่าพอใจกับคุณได้แน่นอนครับ”
“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมไม่สามารถขายพวกมันให้คุณได้เพราะมันมีประโยชน์มากกว่านั้น” เฉินหลงส่ายหน้าปฏิเสธจางกวงหนาน
หยกพวกนี้เฉินหลงจะใช้เอาไปแลกคะแนนแลกเปลี่ยน เขาย่อมไม่ขายให้จางกวงหนานอยู่แล้ว
เมื่อได้ยินคำปฏิเสธของเฉินหลง จางกวงหนานก็พูดได้เพียงว่า
“เรื่องนั้นคงไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าเกิดคุณเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ โปรดติดต่อผมมานะครับ แต่” หลังจากที่เฉินหลงตอบกลับไป จางกวนหนานก็ขอตัวกลับก่อน
ซูชิงเฟิ่งชวนเฉินหลงและจี้โม่ซีให้อยู่ต่อ เขาทั้งสองตอบตกลง จากนั้นเขาเห็นว่ามีหินหยกชิ้นหนึ่งที่ได้ถูกผ่าออกแล้วจึงเก็บส่วนที่เหลือของหยก