ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 357-1 การค้าขายและการเกลี้ยกล่อม
ราชินีเห่อหลันมาเยือนในวันที่สองหลังจากเหรินฉี หนิงออกทัพไปแล้ว ม่อซิวเหยากับเยี่ยหลีเองก็ออกจาก โรงเตี๊ยมไปอยู่ที่เรือนหลังเล็กหน้าตาธรรมดาทั่วไปใน เมือง แม้ว่าลูกหลานของบรรดาขุ่นนางผู้มีอ านาจหลาย คนจะหายตัวไป แต่ไม่รู้ว่าถานจี้จือไปท าอีท่าไหน ตระกูลขุนนางเหล่านี้ล้วนเต็มใจที่จะไม่รายงานสิ่งที่น่า สงสัยนี้แก่เหรินฉีหนิง ดังนั้นเหรินฉีหนิงจึงยังไม่รู้ว่ามีการ เปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นอย่างลับๆ ในเมืองหลวงของเขา และออกเดินทางพร้อมกองทัพไปโจมตีด่านจื่อจิงด้วย ความล าพองใจ
แม้ว่าเป่ยจิ้งจะสถาปนาแคว้นได้ไม่นาน แต่ขุ่นนาง ผู้มีอ านาจในราชส านักเหล่านี้ โดยเฉพาะเหล่าขุนนางเก่า ในราชวงศ์ก่อน กลับสูญเสียความมุ่งมั่นในการก่อตั้ง แคว้นและจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ไปเสียแล้ว พวกเขา
书 呆子
รอคอยมายาวนานเกินไป ยาวนานเสียจนหากในยุคของ เหรินฉีหนิงยังไม่อาจท าได้ บางทีพวกเขาก็อาจละทิ้ง ความฝันอันเลือนรางที่จะมีแคว้นอันมั่งคั่งไป ดังนั้นถึงแม้ ในตอนนี้พวกเขาจะยังคงห่างไกลจากดินแดนอันร่ ารวยที่ บรรพบุรุษของพวกเขาคาดฝันไว้ แต่ถึงกระนั้นอย่างไรก็ ได้สถาปนาแคว้นอันกว้างใหญ่ขึ้นแล้ว ในความคิดของ พวกเขา ขอเพียงแค่ขับไล่หรือเข่นฆ่าชาวเป่ยจิ้งเหล่านั้น ไปได้ ก็ถือว่าพวกเขาประสบความส าเร็จแล้ว ดังนั้น ยาม นี้จึงควรจะเป็นเวลาที่พวกเขาเสพสุขแล้ว เพราะพวกเขา ยากล าบากกันมานานเกินไปแล้ว
บัดนี้ในสายตาของขุนนางเก่าราชวงศ์ก่อน เรื่อง ของราชส านักนั้นส าคัญน้อยเสียกว่าเรื่องของตัวพวกเขา เองเป็นอย่างมาก แก้วแหวนเงินทอง ที่ดินคฤหาสน์หลัง ใหญ่ที่พวกเขาได้มา ภรรยาและอนุรวมไปถึงลูกหลาน พวกเขาท างานหนักเพื่อตระกูลหลินมาหลายชั่วอายุคน
书 呆子
แล้ว ยามนี้ย่อมเป็นช่วงที่ควรได้รับผลตอบแทนแล้ว เช่นนี้จึงไม่มีใครคิดว่าการที่บุตรชายของตนถูกลักพาตัว ไปเป็นเรื่องประหลาด เพราะเป็นไปได้ว่าอาจมีอิทธิพล บางอย่างแทรกซึมเข้ามาในเมืองชางชิ่ง พวกเขารู้เพียงว่า ต้องช่วยลูกหลานของตนกลับมา ไม่อาจให้โจรลักพาตัว มาท าลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของพวกเขาได้ ในหมู่ของ พวกเขามีมหาเสนาบดีเป็นหัวเรือใหญ่ในเรื่องนี้ เพราะ คนที่ถูกลักพาตัวไปคือบุตรชายของอนุคนโปรด และยัง เป็นน้องชายร่วมมารดากับสนมอวิ๋นอีกด้วย
“ท่านอ๋อง พระชายา ราชินีเห่อหลันขอเข้าเฝ้าพ่ะ ย่ะค่ะ” ภายในเรือนหลังเล็ก เยี่ยหลีและม่อซิวเหยานั่ง ประจันหน้าดวลหมากรุกกันอยู่ เมื่อได้ยินเสียงรายงาน จากองครักษ์ด้านนอก เยี่ยหลีจึงวางหมากลง ก่อนจะ ยิ้มๆ ว่า “เชิญนางเข้ามา”
书 呆子
ผ่านไปไม่นาน ราชินีเห่อหลันก็เดินน าคนเข้ามา คนที่ตามมาด้านหลังนางคือชายชาวเป่ยจิ้งที่เป็นหัวโจก ในการต่อสู้ที่โรงเตี๊ยมเมื่อหลายวันก่อน ว่ากันว่าเป็น พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของราชินีเห่อหลัน
“ติ้งอ๋อง พระชายาติ้งอ๋อง” รอยยิ้มของราชินี เห่อหลันสดใสและเปิดเผย ไร้ซึ่งความขวยเขินอย่างสตรี จงหยวน เยี่ยหลีเอ่ยพลางอมยิ้ม “ล าบากราชินีต้องมา ด้วยตนเองแล้ว เชิญทั้งสองนั่งก่อน” ราชินีเห่อหลันก็ไม่ เกรงใจ นั่งลงตรงข้ามเยี่ยหลีและม่อซิวเหยาทันที ยิ้ม ก่อนจะเอ่ย “ติ้งอ๋องและพระชายาติ้งอ๋องช่างมี ความสามารถเสียจริง หากไม่ได้พี่ชายเข้าวังไปบอกข้า เกรงว่าข้าเองคงยังไม่รู้ว่าท่านทั้งสองมาถึงเป่ยจิ้งแล้ว”
เยี่ยหลีเอ่ยขอโทษ “พวกเรามาอย่างเร่งรีบ ไม่ทัน ได้บอกกล่าวราชินี โปรดอภัยด้วย”
书 呆子
ราชินีเห่อหลันเอ่ยพลางโบกมือ “ไม่ต้องเกรงใจข้า หรอก ติ้งอ๋องกับพระชายามาด้วยตนเองเช่นนี้ ข้ายินดียิ่ง นัก อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่า ทั้งสองท่านต้องการที่จะ ร่วมมือกับเป่ยจิ้งของเราอย่างจริงใจมิใช่หรือ” เยี่ยหลี เหลือบมองม่อซิวเหยา ม่อซิวเหยาเพียงยิ้มบางๆ แสดงออกว่าทุกอย่างให้นางเป็นคนจัดการเอง
เยี่ยหลีพยักหน้า และไม่อ้อมค้อมกับราชินีเห่อหลัน อีก นางถามพลางมองทั้งสองคนที่นั่งอยู่ว่า “เรื่องทุก อย่างของเป่ยจิ้ง ราชินีเห่อหลันล้วนตัดสินใจได้ใช่ หรือไม่”
ราชินีเห่อหลันเอ่ยพลางยิ้ม “ทุกชนเผ่าในเป่ยจิ้งได้ ลอบคัดเลือกให้เสด็จพ่อของข้าเป็นฮั่นอ๋องไว้แล้ว หากมี เรื่องอันใดที่ข้าตัดสินใจไม่ได้ ก็จะมีเสด็จพ่อข้าคอยตัน สินใจให้ พระชายาโปรดวางใจ” เยี่ยหลีพยักหน้าอย่าง พอใจ แต่ในใจกลับลอบถอนใจ ชาวเป่ยจิ้งหาใช่คนที่ไม่มี
书 呆子
เล่ห์เหลี่ยมดังเช่นที่พวกเขาเคยคิดไว้ไม่ อย่างน้อยก็ ราชินีเห่อหลันคนนี้ กับเสด็จพ่อของนาง รวมถึงชายหนุ่ม ตรงหน้าที่ดูราวน้ านิ่งไหลลึก แต่กลับไม่ใช่คนที่จะจัดการ ด้วยง่ายๆ
“เช่นนี้ก็ดี ต าหนักติ้งอ๋องสามารถช่วยเป่ยจิ้งต่อกร กับเหรินฉีหนิงได้ รับรองว่าเขาและอ านาจในมือของเขา จะไม่มีโอกาสได้ปลุกปั่นหรือก่อปัญหาใดๆ ในเป่ยจิ้งได้ อีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เป่ยจิ้งต้องรับปากว่า หลังจากเสร็จสิ้น เรื่องทั้งหมดแล้วถอนก าลังทั้งหมดออกไปให้อยู่นอกเขต แดนที่เคยเป็นของต้าฉู่เดิม ไม่ทราบว่าราชินีเห่อหลันมี ข้อโต้แย้งอันใดหรือไม่” เยี่ยหลีเอ่ยอย่างเรียบๆ
ราชินีเห่อหลันพยักหน้าพลางเอ่ย “ไม่มีปัญหา เรา เพียงแค่ต้องการชีวิตเดิมของเรากลับคืน ถึงแม้ว่าพวกเรา ชาวเป่ยจิ้งจะฉลาดไม่เท่าชาวจงหยวนเช่นพวกท่าน แต่ก็ ไม่ยอมถูกคนอื่นหลอกใช้” ทุกครั้งที่เหรินฉีหนิงออกรบ
书 呆子
มักให้กองทัพของเป่ยจิ้งเป็นแนวหน้าเสมอ นั่นก็ เพราะว่ากองทัพเป่ยจิ้งห้าวหาญกว่ากองทัพจงหยวนที่ เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน แต่นี่ก็เป็นความตั้งใจที่จะใช้วิธีนี้เพื่อ ท าให้กองทัพเป่ยจิ้งอ่อนแอลง และลดจ านวนประชากร ชาวเป่ยจิ้งไปพร้อมๆ กันด้วยไม่ใช่หรือ จะว่าไปตอนนี้เป่ ยจิ้งก็ได้สถาปนาแคว้นจนมีอาณาเขตกว้างใหญ่ แต่ชาว เป่ยจิ้งไม่ช านาญการเพาะปลูก หลายคนจึงไม่คุ้นชินกับ ชีวิตในจงหยวน ชีวิตแต่ละวันจึงยากล าบากเสียยิ่งกว่า แต่ก่อน
“ถึงแม้ลูกน้องของเหรินฉีหนิงจะโลภมากและเห็น แก่ตัว แต่ก็มีคนมีความสามารถอยู่ไม่น้อย อีกอย่างเหริน ฉีหนิงก็คอยขวางพวกเราไว้ทุกเรื่อง ตอนนี้เขาไปออกศึก แต่กลับน ากองทัพส่วนใหญ่ของเป่ยจิ้งไปด้วย กองก าลัง ส่วนใหญ่ที่ตั้งมั่นและรักษาการณ์อยู่ในเมืองชางชิ่งแห่งนี้ ก็ล้วนเป็นชาวจงหยวน หลังผ่านสงครามใหญ่ในสองปีนี้
书 呆子
มา กองทัพของเป่ยจิ้งเหลือทหารเพียงสามแสนกว่านาย เท่านั้น แต่จงหยวนของเหรินฉีหนิง กลับมีทหารหลาย ล้านนายอยู่ภายใต้การบังคับบัญชา ไม่ทราบว่าติ้งอ๋อง และพระชายาติ๋งอ๋องมีแผนการเช่นไร” ชายหนุ่มที่เงียบ มาโดยตลอดเอ่ยถาม น้ าเสียงแฝงไปด้วยความโกรธแค้น ขณะนี้เป่ยจิ้งมีทหารอยู่เพียงสามแสนกว่านาย ซึ่งที่เป็น เช่นนี้ก็ด้วยเพราะต าหนักติ้งอ๋อง ในสงครามกับฉู่จิงเมื่อปี ก่อน เป่ยจิ้งสูญเสียทหารไปสองแสนกว่านาย ขณะเดียวกันก็ท าให้ทุกชนเผ่าเกลียดชังเหรินฉีหนิงเป็น อย่างมาก
เยี่ยหลีไม่ใส่ใจท่าทีของเขา เมื่อกองทัพทั้งสองท า สงครามกันย่อมปราศจากความเมตตา ยิ่งไปกว่านั้นติ๋ง อ๋องเองก็สูญเสียคนไปไม่น้อยเพื่อรักษาฉู่จิง ต้าฉู่ไว้ ระหว่างทั้งสองแคว้น ไร้ซึ่งมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร แต่
书 呆子
อย่างน้อยส าหรับเรื่องเหรินฉีหนิงในตอนนี้ เป้าหมาย ของพวกเขาทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นสิ่งเดียวกันมิใช่หรือ
เยี่ยหลีเอ่ยอย่างเย็นชา “กองก าลังของเหรินฉีหนิง มีมากกว่าเป่ยจิ้งก็จริง แต่เกรงว่าที่สามารถใช้การได้จริง คงจะมีอยู่ไม่มาก” ไม่ว่าจะเป็นม่อซิวเหยาหรือเยี่ยหลี ต่างก็เป็นผู้ที่มาจากค่ายทหาร ย่อมเข้าใจว่าอะไรคือ ความแตกต่างระหว่างทหารที่เพิ่งเข้าร่วมกองทัพกับ ทหารฝีมือดีร้อยศึก หากต้องสู้ขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าทหาร จงหยวนสิบนายภายใต้การบังคับบัญชาของเหรินฉีหนิง คงไม่อาจรับมือทหารเป่ยจิ้งเพียงหนึ่งนายได้ ไม่ใช่เพราะ พวกเขาอ่อนแอเกินไป แต่เพราะทหารเป่ยจิ้งควบม้าไป ระหว่างเขาฉางไป๋และแม่น้ าเฮยหลงเจียง ระหว่างทุกชน เผ่าเข่นฆ่ากันจนได้กองก าลังที่กล้าหาญ ส่วนทหารจง หยวนนั้นเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดากลุ่มหนึ่งที่เพิ่งได้หัด หยิบอาวุธขึ้นมาก็เท่านั้น
书 呆子
“มิหน าซ้ า…กองก าลังเหล่านี้เดิมทีก็ล้วนเป็น ชาวต้าฉู่ เมื่อถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อจริงๆ ก็อาจไม่ จงรักภักดีต่อเหรินฉีหนิง” ชื่อเสียงของเด็กก าพร้าแห่ง ราชวงศ์ก่อนนั้นไม่เลวก็จริง แต่นั่นหมายถึงหลังจากการ บริหารอย่างตั้งใจ จนท าให้ชาวบ้านมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม พวกเขาถึงจะเริ่มคิดถึงราชวงศ์ก่อนที่อยู่ไกลแสนไกล แต่ บัดนี้เหรินฉีหนิงอาศัยฐานะราชบุตรเขยแห่งเป่ยจิ้ง สถาปนาแคว้นบุกยึดต้าฉู่ ในสายตาผู้คนจ านวนมาก เขา เป็นเพียงผู้รุกรานจากต่างแดนที่หน้าตาเหมือนชาวจง หยวนเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น สองปีที่ผ่านมาชาวเป่ยจิ้ง แห่งนี้ก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีสักเท่าไร อีกทั้งการเกณฑ์ก าลังพล จ านวนมากของเหรินฉีหนิงก็ท าให้ชาวบ้านเหล่านี้ต้อง ทนทุกข์อย่างแสนสาหัส ในเขตแดนนอกด่านจื่อจิง เป็น พื้นที่ที่ใกล้กับชนเผ่าป่าเถื่อน แต่ไหนแต่ไรล้วนเป็น ดินแดนที่กว้างใหญ่แต่ผู้คนเบาบาง ในช่วงเวลาสั้นๆ
书 呆子
เพียงสองปีนี้ เหรินฉีหนิงเกณฑ์ทหารเข้ามามากกว่าสอง ล้านนาย จะไม่ให้ชาวบ้านคับแค้นใจกันไปทั่วได้อย่างไร