Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 853 : พลิกกลับ?
ตอนที่ 853 : พลิกกลับ?
หลงอวี้คังมองที่ปู่ของตนเอง ภายในเกิดความยินดีล้นทะลักออกมา เขาเร่งรีบก้าวเดินเข้าไปบอกกล่าวถึง เรื่องราวความตายของบิดาด้วยความโศกศัลย์ หลงคังเฉิงเพิ่งออกมาจากการเก็บตัว ได้ทราบว่าบุตรชายตกตาย แม้สีหน้ายังคงอาการสงบ กระนั้นไม่อาจมีผู้ใดทราบความรู้สึกภายใน
“หลงคังเฉิง บุตรเจ้าตกตายในงานประลองยุทธ์ เป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ ดังนั้นเจ้าไม่อาจทวงหนี้แค้นจากหลงฉวนอู่” ครึ่งเซียนตระกูลหลงกล่าว “แน่นอนว่า หากเจ้าต้องการสังหารหลงฉวนอู่ เช่นนั้นก็มีแต่ต้องสังหารในลานประลอง!”
หลงอวี้คังเคยคิดก่อการดูแล้ว ทว่าไม่อาจสาเร็จ ตอนนี้หลงอวี้เทียนพลันปรากฏตัว อีกฝ่ายเป็นผู้แข็งแกร่งสามารถเอาชนะทั้งหลงฉวนอูและเซียนหลจึงในการแข่งขันงัดข้อ
หลงคังเฉิงมองที่ฉินหยุน ทันทีเมื่อออกจากการเก็บตัว ได้มีคนแจ้งข่าวต่อเขาเรื่องหลงอวเทียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เขายังไม่มั่นใจว่าชายหนุ่มศีรษะล้านผู้นี้เป็นหลานชายตนเองจริงแท้หรือไม่
“ท่านปู่ พวกเราชนะได้รับของดีมา กระนั้นพวกมันเหล่านี้กลับคิดบีบบังคับพวกเราให้ส่งมอบกลับคืน!” หลงอวี้คังร้องทุกข์ต่อเรื่องราวให้หลงคังเฉิงได้รับรู้
หลงคังเฉิงยามได้ทราบ เขาจึงมองทางฉินหยุนด้วยสีหน้านึกถึง ผู้คนตระกูลหลงและสํานักมังกรฟ้าต่างคิดว่าปัญหากลายเป็นเกี่ยวพันยุ่งยากขึ้นมา
ด้วยหลงคังเฉิงออกหน้าที่นี้ คิดทวงคืนวิญญาณมังกรไม่ใช่เรื่องง่ายดายอีกต่อไป หลงทั้งเฉิงคือผู้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง สาเหตุที่พวกเขาไม่โจมตีหลงอวี้คัง ก็เพราะพวกเขายังเป็นกังวลต่อปู่ของอีกฝ่าย ตอนนี้ทางเลือกเหลือเพียงหนึ่งเดียวแล้ว นั้นก็คืองานประลองยุทธ์
“ของพวกนั้นหลานชายข้าชนะได้รับมา หากคิดอยากฉกชิงไป เช่นนั้นก็ต้องผ่านข้าไปก่อน!” หลงคังเฉิงขึ้นเสียง “เอาอย่างนี้เป็นไร พวกเราประลองต่อกัน พวกเจ้าเข้ามาต่อสู้กับข้ากันทีละคน หากสามารถสังหารข้า เช่นนั้นก็รับของกลับคืนไป!”
ครึ่งเซียนสานักมังกรฟ้าเอ่ยคําเสียงเย็นเยียบ “หลงคังเฉิง วิญญาณมังกรนั่นมีความสําคัญอย่างไม่อาจหาใดเปรียบต่อพวกเรา จงคิดให้ดี สถานการณ์เช่นนี้จงบอกต่อหลานชายเจ้าให้ส่งกลับคืนมาถือเป็นเรื่องดีต่อทุกฝ่าย! เดิมก็เป็นเพียงผู้เยาว์ละเล่นจนเลยเถิด เหตุใดพวกเราผู้อาวุโสจึงต้องเอาจริงเอาจังเพียงนี้?”
ผู้อาวุโสตระกูลหลงกล่าว “หลงคังเฉิง หากหลานชายเจ้าต้องสูญเสียสิ่งสําคัญในมือ ข้าเกรงว่าเจ้าคงไม่คิดเป็นจริงจังหรอกกระมัง?”
“หากต้องการกลับคืน ก็จงสังหารข้า!” สีหน้าหลงคังเฉิงเด็ดเดี่ยวและหนักอึ้ง “พวกเจ้าล้วนเป็นครึ่งเซียน หากไม่ยอมรับคําท้าทายของข้า เช่นนั้นก็อย่าได้สร้างเสียงรบกวนแก่โสดประสาทข้าอีก!”
ฉินหยุนและหลงอวี้คังต่างยืนด้านหลังหลงทั้งเฉิง สายตามองทางหลงฉวนอู่ด้วยสีหน้าภาคภูมิ
หลงฉวนอู่ถูกผู้อาวุโสตนเองตบหน้าท่ามกลางผู้คนหมู่มาก ภายในใจร้อนประหนึ่งอัคคีเพลิงเผาไหม้ ได้เห็นสีหน้าสองพี่น้องเย้ยหยันตนเพียงนี้ เขายิ่งนึกโกรธแค้น
เซียนหลูจิ้งเพียงรู้สึกเสียดาย เพราะนางไม่ได้รับของดีติดไม้ติดมือ ทว่านางได้เห็นหลงฉวนอู่ถูกหยามเหยียดต่อหน้าผู้คน ก็ทําให้นางพึงใจได้ไม่ใช่น้อยแล้ว
ไม่มีผู้ใดในกลุ่มผู้อาวุโสสานักมังกรฟ้าและตระกูลหลงรับคําท้า ฉินหยุนจึงได้ทราบตอนนี้ ว่าปู่ของหลงอวี้คังยอดเยี่ยมเพียงใด ไม่เช่นนั้น หลงอคังคงไม่มีทางได้รับต้นไม้มังกรโบราณ สําหรับนําไปสร้างหอแมกไม้ มังกรทั้งยังกล้ากเรื่องมอบสิทธิ์จํานวนหลายสิบขายจนได้รับเงินหลายพันล้าน
หลงคังเฉิงแค่นเสียง “ว่าอย่างไร? เจ้าไม่คิดทวงกลับคืนแล้วหรือ? เร่งรีบส่งคนออกมาสู้กับข้าได้แล้ว! พวกเจ้ามันขลาดเขลา ทราบเพียงแต่วิธีการรังแกผู้เยาว์!”
หลงอวี้คังจึงใช้โอกาสนี้ตะโกน “ตาเฒ่าบัดซบจากสํานักมังกรฟ้า และตาเฒ่าบัดซบอีกตัวข้างกาย พวกเจ้าล้วนมาจากแดนเซียนอ้างว้างที่แสนวิเศษหรือไม่ใช่? หากมีความกล้า เช่นนั้นจงสังหารท่านปู่ของข้า!”
ผู้คนล้วนได้เห็นทั้งปู่และหลานชายอวดดีเป็นล้นพ้น พวกเขาไม่กล้าพูดกล่าวใด กลุ่มผู้อาวุโสสํานักมังกรฟ้าและตระกูลหลงต่างโกรธแค้น หากเป็นก่อนหน้า พวกเขาอาจรับคําท้า
กระนั้นหลังผ่านเหตุการณ์สํารวจถ้ํามังกร ครั้งเซียนหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขามีกําลังรบต่อต้านหลงคังเฉิงไม่พอ เพราะตามข่าวลือ หลงคังเฉิงคือครึ่งเซียนหกทัณฑ์พิบัติ ทั้งยังเป็นอาจารย์จารึกที่ทรงอํานาจ
ฉินหยุนก่อนหน้านี้เคยตระเวนถามไถ่ไปทั่ว ตามที่ผู้คนส่วนใหญ่ในตระกูลกล่าว หลงคังเฉิงถือเป็นรุ่นเยาว์ ในระดับครึ่งเซียน กล่าวได้ว่าเขายังเยาว์ยิ่ง ทั้งยังผ่านทัณฑ์พิบัติมากมายมาได้
รวมถึงเป็นอาจารย์จารึกพรสวรรค์เลิศล้ํา ดังนั้นแล้ว ผู้เยาว์เช่นเขาจึงมีความสามารถต้านรับผู้อาวุโสกว่า
พบเห็นหลงคังเฉิงกับตาตนเอง เวลานี้ฉินหยุนยังต้องลอบหวาดกลัว เขาไม่คาดคิด ว่าคฤหาสน์ราชันมังกรจะเป็นสถานที่ซ่องสุมพยัคฆ์ร้ายและมังกรซ่อนเร้นเพียงนี้ ถึงกับมีผู้มากพรสวรรค์และแข็งแกร่งเก็บงําไว้มากมาย
ผู้คนสํานักมังกรฟ้าจากแดนเซียนอ้างว้าง พวกเขามีกําลังทัดเทียมต่อสู้กับหลงทั้งเฉิง กระนั้นพวกเขาไม่กล้า พวกเขาเกรงว่าหลงคังเฉิงจะถึงขั้นสละชีวิตตนเองต่อสู้ ถึงตอนนั้นพวกเขาไม่ตายก็พิการ
“เอาอย่างนี้เป็นไร พวกเราจะแลกเปลี่ยนของกับวิญญาณมังกรนั่น!” ชายชราสํานักมังกรฟ้ามองทางหลงคังเฉิงและเอ่ยถาม
“ถามเจ้าหนูนเอาเอง!” หลงคังเฉิงมองที่ฉินหยุน
“ข้าไม่คิดปล่อยมือจากมัน! พวกเจ้าสามารถนําสิ่งที่มีค่าทัดเทียมวิญญาณมังกรออกมาได้หรือ? หากมีของเช่นนั้นจริง จะทาใจยอมแลกเปลี่ยนมันได้จริงงั้นหรือ?” ฉินหยุนกล่าวถาม
“อุปกรณ์เซียนชิ้นหนึ่ง!” ชายชรากล่าวคำ
“ข้าไม่ต้องการ! กับอุปกรณ์เซียนผุพัง ข้าย่อมไม่สนใจ!” ฉินหยุนบัยปากกล่าวตอบ
ผู้อาวุโสตระกูลหลงขึ้นเสียงด้วยโทสะ “อย่างนั้นเจ้าต้องการอะไร?”
ฉินหยุนจึงหัวเราะ “ใช้ชีวิตหลงฉวนคู่แลกเปลี่ยน อย่างนี้เป็นไร?”
หลงฉวนอู่เวลานี้กลับกลายเป็นหวาดกลัว รับฟังค่าจบเขาแทบแหวเสียงดังขึ้นตอบโต้ในทันที “อย่าได้แม้แต่จะคิด!”
ผู้คนสํานักมังกรฟ้าต่างไม่รับข้อเสนอนี้ หลงฉวนอู่อย่างไรแล้วก็สําคัญ
“หนึ่งแสนล้านเหรียญม่วง!” ชายชราตระกูลหลงกล่าว
“คิดว่าจะหลอกเด็กหรือไร? แม้อุปกรณ์เซียนเขายังไม่ต้องการ เหตุใดจึงต้องการหนึ่งแสนล้าน? แม้อุปกรณ์เซียนระดับต้น มีหนึ่งแสนล้านก็ไม่อาจซื้อหาได้!” หลงคังเฉิงแค่นเสียงดัง
“เป็นพวกเจ้าไม่คิดนําของดีทัดเทียมมาแลกเปลี่ยน!” ฉินหยุนกล่าวค่า
“กับเรื่องราวเด็กเล่น ต้องให้พวกเราเอาจริงหรือไร? พวกเรานําสิ่งเหล่านี้ออกมาแลกเปลี่ยนด้วย ก็นับว่าเป็นบุญหัวเจ้าแล้ว!” ผู้อาวุโสสานักมังกรฟ้าตะโกนกราดเกรี้ยว
“ตาเฒ่าหัวหด หากหลงฉวนอู่ชนะได้รับสิ่งของจากข้า ยังจะกล่าวหรือไม่ว่าเป็นเรื่องของเด็ก? อย่าได้พูดจาไร้สาระ!” ฉินหยุนแค่นเสียง
ถึงตอนนี้เอง เซียนหลูจิ้งจึงเอ่ยคําเบา “เอาอย่างนี้เป็นไร… ให้ข้าเดิมพันอีกครั้ง… บางทีข้าอาจชนะทวงคืนมาได้”
ฝูงชนที่รับชมแทบต้องหลั่งน้ําตาออก แม้เป็นในเวลาเช่นนี้ เซียนหลูจิ้งก็ยังคิดอยากวางเดิมพัน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นสตรีรักชอบการพนันเป็นชีวิตเช่นนี้
“ก่อนหน้าพ่ายแพ้หลายครั้งครา ตอนนี้คิดพ่ายแพ้อีกครั้งหรือ?” ฉินหยุนหัวเราะดัง
“ข้ามีสองวิญญาณยุทธ์ความสามารถเทวะ เมื่อครูใช้เพียงหนึ่ง หากข้าใช้ถึงสอง เอาชนะเจ้าย่อมไม่ใช่เรื่องยาก! ข้าคือราชันยุทธ์ระดับสูง แต่เจ้า… คล้ายเพิ่งฝึกฝนพลังงานราชันเมื่อไม่นานมานี้ ก็เป็นได้แค่ราชันยุทธ์ระดับต้น!” เซียนหลจึงกล่าวออกอย่างไม่ยอมรับความด้อยกว่า
ผู้คนสานักมังกรฟ้าล้วนทราบถึงพลังอานาจของเซียนหลูจิ้งดี กระนั้นพวกเขาต่างก็คิดว่านางไม่อาจเชื่อถือ
หลงคังเฉิงคิดถึงเรื่องนี้จริงจัง เขาคิดอยากได้เห็นกับตาตนเอง ว่าหลานชายคนเล็กของตนที่เพิ่งเผยตัวนั้นแข็งแกร่งเพียงใด หากสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ เช่นนั้นเขาก็แข็งแกร่งอย่างจริงแท้
“หากเจ้าไม่คิดเดิมพันด้วยก็ช่างมัน! อย่างไรแล้ว ข้าก็ไม่ใช่ผู้ที่สูญเสียวิญญาณมังกร!” เซียนหลูจิ้งถอนหายใจเบา “ข้าเพียงคิดทวงมันกลับคืนก็เท่านั้น!”
หลงคังเฉิงพลันหัวเราะดังขึ้น “หากคิดทวงวิญญาณมังกรกลับคืน ก็มีแต่ต้องทําเช่นนี้! หากสูญเสียเพราะพ่ายแพ้ เช่นนั้นก็ต้องชนะและทวงกลับคืน!”
ฉินหยุนกล่าว “ต้องมีการนําของที่ดีทัดเทียมกันมาเป็นสิ่งต่อรอง!”
เซียนหลูจิ้งกล่าว “ของไม่จําเป็นต้องดี แต่หากมันกระตุ้นความสนใจเจ้าได้ เช่นนั้นเจ้าจึงรับ! เจ้าก็แค่คนทําตามใจชอบ ดังนั้นจึงไม่ต้องการสิ่งของมูลค่ามากอันใด ทว่าเป็นผู้ชอบสะสมของที่สนใจ เจ้าย่อมต้องรับคำท้าข้า!”
“ลองกล่าวมา!” ฉินหยุนรับคํา
ผู้คนสํานักมังกรฟ้าต่างคิดตาม พบว่าเหลือแต่วิธีการนี้แล้ว
ผู้อาวุโสคนหนึ่งเอ่ยถาม “หลูจิ้ง เจ้ามีอะไรไปต่อรองใช้เดิมพัน?”
เซียนหลูจิ้งกล่าวตอบ “ข้าเคยมีศิลาต้นกําเนิดจักรพรรดิราชันสี่สิบก้อน ที่เหลือพวกท่านล้วนนําไปหมด ตอนนี้คิดว่านําออกมาได้เท่าใด?”
“ห้าสิบ!” ดวงตาชายชราเผยประกาย เพราะศิลาต้นกําเนิดจักรพรรดิ์ราชันไม่สําคัญต่อพวกเขา ทว่าเป็นสิ่งล้ําค่าต่อราชันยุทธ์และจักรพรรดิยุทธ์
ฉินหยุนสบถภายใน มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการได้รับมาจริง กระนั้นมูลค่าไม่อาจทัดเทียมวิญญาณมังกร และ เขามั่นใจในกําลังตนเอง เขารู้สึกว่าคิดเอาชนะได้รับทั้งห้าสิบก้อนเหล่านั้นมาเป็นเรื่องง่าย ทว่าภายในก็อดไม่ได้ที่จะกังวลถึงความพ่ายแพ้
“ได้ อย่างนั้นพวกเราจะใช้ศิลาต้นกําเนิดจักรพรรดิราชันห้าสิบก้อนเป็นสิ่งต่อรอง! หากเจ้าแพ้ที่ต้องส่งมาก เพียงแค่วิญญาณมังกร!” ผู้อาวุโสสานักมังกรฟ้ากล่าว
“ได้ แต่จงนําก้อนศิลาเหล่านั้นออกมาก่อน ข้าเกรงว่าอาจมีการคดโกงเกิดขึ้น!” ฉินหยุนตอบค่ากลับ
พวกเขานําเอาศิลาออกมาวางไว้กับพื้น ฉินหยุนค่อยวางใจ ก่อนจะก้าวเดินไปยังโต๊ะและวางมือ
“นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว! ตัวบัดซบหัวล้าน ข้าจะเอาชนะเจ้าให้จงได้!” เซียนหลูจิ้งขึ้นเสียง
“เซียนหลูจิ้ง บอกกล่าวตามตรง ศิลาห้าสิบก่อนตรงนั้นมันมีค่าเสียยิ่งกว่าเรือนร่างเจ้าเสียอีก! เจ้าคิดว่าตนเองเป็นเซียนผู้งดงามเลิศล้ํา ทว่าสําหรับข้า เจ้าไม่มีค่าทัดเทียมก้อนศิลาพวกนั้นแม้แต่น้อย!” ฉินหยุนเผยเสียง หัวเราะเบาเป็นการกระตุ้นโทสะอีกฝ่าย
ผู้อื่นต่างต้องลอบนับถือความหาญกล้าของฉินหยุน เขาถึงขั้นกล้ากล่าววาจาเช่นนี้ต่อหน้าเซียนหลูจิ้ง นางย่อมพร้อมระเบิดเพลิงแห่งโทสะภายในใจออก มือของนางเวลานี้กํามือของฉินหยุนเอาไว้แน่น
“ตัวบัดซบหัวล้าน เจ้าต้องแพ้!” เซียนหลูจิ้งคําราม
“เริ่ม!” ผู้อาวุโสสํานักมังกรฟ้าเมื่อเห็นโอกาสจึงตะโกนในทันที
ร่างกายเซียนหลูจิ้งเริ่มทอประกาย นางปลดปล่อยนางเซียนหิมะออกมา กระนั้นครั้งนี้ฉินหยุนเลือกทุ่มสุดตัวแรงโน้มถ่วง พลังความสามารถเทวะทรมาน พลังความสามารถเทวะแผ่นดินไหว พลังลึกล้ําเก้าสมบูรณ์ พลังกลืนกิน เขาปลดปล่อยพวกมันออกมาอย่างแล้วอย่างเล่า
ฉินหยุนโหมปลุกพลังทั้งหมดที่มี ความสามารถเทวะทรมานสร้างความเจ็บปวดโดยตรงผ่านมือเซียนหลูจิ้ง จากนั้นจึงเป็นแรงโน้มถ่วงอันมหาศาล ความสามารถเทวะแผ่นดินไหว และพลังลึกล้ําเก้าสมบูรณ์ พวกมันถูกส่งออกมาต่อเนื่อง เป็นผลให้พลังล้นทะลักจนบรรยากาศสั่นสะเทือนเพียงอึดใจ มือของเซียนหลูจิ้งจึงเริ่มถูกกด ดันให้ลดต่ําลง และช่วงเวลานี้เอง พลังกลืนกินอันแข็งแกร่งมันจึงเข้ากลืนกินพลังเย็นเยือกเสียดแทงกระดูกของเซียนหลูจิ้ง
ตึง!
มือของเซียนหลูจิ้งปะทะกับโต๊ะหินรุนแรงโดยมือของฉันหยุน แรงปะทะรุนแรงขนาดเป็นผลให้เกิดคลื่นอากาศกระจายทั่วทิศ ผมเผ้าผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงต่างต้องยุ่งเหยิง
เพียงเริ่มไม่นาน เซียนหลูจิ้งก็พ่ายแพ้แล้ว!
เซียนหลูจิ้งนั่งเหม่อ นางไม่อาจยอมรับ นางถึงขั้นโกรธเกรี้ยวพุ่งตัวเข้าหาฉินหยุน พร้อมกัดเข้าที่มือเขารุนแรง จนส่งผลให้เขาต้องกรีดร้องตะโกนดัง…
ผู้คนต่างนิ่งงัน เซียนผู้งดงามสูงศักดิ์ เวลานี้กําลังกัดมือผู้อื่นประหนึ่งสุนัข!
“นางน้ําแข็งบัดซบ!” หลงอวี้คังพบเห็นฉินหยุนย่าแย่ เวลานี้จึงตะโกนดัง “น้องชาย เร่งรีบใช้เคล็ดวิชาของ เหล่าบุรุษเรากรงเล็บมังกรขย้ำจุด…”