Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 827 : พายุหมุนเมฆเก้าสี
ตอนที่ 827 : พายุหมุนเมฆเก้าสี
ฉินหยุนคิดอยากไปยังฐานลับของตระกูลหลง ที่แห่งนั้นย่อมต้องเป็นจุดยุทธศาสตร์ลับ
หีบยักษ์ เป็นตระกูลหลงคิดเก็บกู้กลับไปยังฐานลับ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคิดอยากฝึกฝนให้ผู้คนของตนเองแข็งแกร่งขึ้นในที่แห่งนั้น
ฉินหยุนสงสัยเรื่องฐานลับนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม ทว่าคิดอยากไปไม่มีทางใช่เรื่องง่าย กระนั้นตอนนี้หลงเทียนจีเป็นผู้นำทาง คิดไปยังฐานลับแห่งนั้นถือเป็นเรื่องง่ายดายแล้ว
ฐานกำลังของตระกูลหลงในแคว้นมังกรทะยานฟ้าเลิศล้ำ พวกเขาสามารถมีอำนาจทัดเทียมตระกูลเจี้ยน
ตระกูลหลงยังมีพันธมิตรอีกหลากหลาย และพันธมิตรเหล่านั้นย่อมต้องเป็นชนชั้นนำจากแคว้นอื่น
แคว้นมหาดวงดาวในการควบคุม แคว้นอื่นจึงรับรู้
คุกคาม
ดังนั้นแล้ว พวกเขาจึงต้องหันพึ่งพาตระกูลหลง
และตระกูลหลงยอมรับการเสนอตัวของฝักฝ่ายทั้งหลายจากแคว้นอื่น พวกเขาจะไม่รุกรานหรือตั้งตัวเป็นภัยคุกคามแก่พันธมิตร
ทว่าเงื่อนไขที่ต้องยอมรับ คือเข้าร่วมเป็นกำลังเพื่อต่อสู้กับตระกูลเจี้ยนและพันธมิตร
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยยืนข้างฉินหยุน คอยช่วยเหลือวิเคราะห์สถานการณ์ เวลานี้ทั้งสองกำลังมุ่งหน้าไปยังฐานลับแห่งนั้นด้วยกัน หลงเทียนจีทำหน้าที่นำทาง
“ที่ข้าคิดจัดการตระกูลหลงมีสองเป้าหมาย หนึ่งคือนำวิญญาณยุทธ์ของเฉียวเฟิงกลับคืนมา และสองงานนี้สำคัญที่สุด คือช่วยพี่สาวซาลาเปานึ่งและพี่สุยให้พ้นจากคำสาป!” ฉินหยุนเวลานี้มีความเกลียดชังต่อตระกูลหลงเป็นล้นพ้น
“นอกจากสองเป้าหมายนี้แล้ว พวกเรายังต้องคิดหาทางจับตัวมังกรเซียนมาให้ได้!” เสี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยยิ้ม
“ถูกต้องแล้ว!” ฉินหยุนรับรู้ถึงที่ตั้งจากหลงเทียนจี เวลานี้ซ่อนเร้นตนเองพร้อมเชี่ยวเย่ว์เหม่ยพวกเขาจะไม่เผยออร่าใดระหว่างการไล่ตาม
ที่เห็นเวลานี้ คือภูเขาอันยิ่งใหญ่ราวกับไร้จุดสิ้นสุด พลังวิญญาณในพื้นที่แถบนี้ค่อนข้างเบาบาง กล่าวได้ว่าเป็นสถานที่อันดีสำหรับใช้หลบซ่อน สาเหตุว่าทำไมแคว้นมังกรทะยานฟ้าจึงตั้งฐานลับที่นี่ บางที่อาจเป็นเพราะค่อนข้างสะดวกยามเมื่อคิดโจมตีแคว้นมหาดวงดาว
สามวันหลังจากหลงเทียนจีเรียกแมงมุมน้อยกลับมา ฉินหยุนจึงได้รับแก่นเต๋จากท้องของบรรดาแมงมุม ถัดจากนั้น เขาจึงเริ่มนำเอาวิญญาณยุทธ์ออกมา ก่อนจะส่งเนื้อมังกรก้อนใหญ่ให้แก่หลงเทียน
จากนั้นจึงส่งนางเข้าไปยังไข่มุกเม็ดที่สามของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน ให้นางได้อยู่กับเหยาเฟิง
ฐานลับตระกูลหลงอยู่เบื้องหน้าอีกไม่ไกล ขณะฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเข้าใกล้ พวกเขาจึงได้เห็นบนฟ้าที่อยู่ไม่ไกล เมฆเก้าสีได้ปรากฏ ทันทีที่มันปรากฏขึ้น พวกมันควบแน่นจนเกิดขึ้นเป็นพายุหมุนที่ละน้อย
“นั่นมันอะไรกัน?” ฉินหยุนมองทางเชี่ยวเย่ว์เหม่ย พบว่าสีหน้าของนางเวลานี้เผยความตื่นตะสิ่ง
“ค่ายอาคมใหญ่แห่งแดนอ้างว้างถูกกระตุ้นการทำงาน!” เสี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวคำอย่างอื่นตะลึง
“ค่ายอาคมใหญ่แห่งแดนอ้างว้าง?” ฉินหยุนสงสัยว่ามันคืออะไร
“มันคือเส้นแบ่งระหว่างแดนเชียนอ้างว้างและแดนวิญญาณอ้างว้าง มีผู้ใช้ค่ายอาคมอันน่ากลัวนี้เพื่อข้ามผ่านเส้นแบ่งมาจากแดนเซียนอ้างว้าง!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยเสียงหนักอึ้ง “ยิ่งไปกว่านั้น ยังมาที่ฐานลับของตระกูลหลง น่าจะเป็นฝีมือตระกูลหลงแน่แล้ว!”
อย่างกะทันหัน ลำแสงเข้มข้นร่วงหล่นสู่พื้นเบื้องล่างพายุหมุนขนาดใหญ่ยักษ์ ฉินหยุนนำเอาอุปกรณ์วิญญาณสอดส่องระยะไกล พบเห็นว่าที่ปลายเบื้องล่างลำแสงนั้น ปรากฏเป็นกลุ่มคนเคลื่อนคล้อยลงมาอย่างเชื่องช้า
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวหลังได้พบเห็นเรื่องราว “หลายคนจากแดนเซียนอ้างว้างมายังที่นี่!
“พวกนั้นเป็นเซียน?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ย่อมไม่ใช่! แม้เป็นเซียนมาถึง พวกเขาก็ต้องถูกดูดกลืนหายกลับไปยังแดนเซียนอ้างว้าง!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยส่ายศีรษะ “น่าจะเป็นครึ่งเซียนหกทัณฑ์พิบัติ คนเช่นนั้นที่แดนเชียนอ้างว้างมีมากมายนัก!”
ฉินหยุนรู้สึกถึงลางบอกเหตุไม่ดีที่อาจเกิดขึ้น “ตระกูลหลงถึงขั้นเรียกกำลังเสริมมาจากแดนเซียนอ้างว้าง!”
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยพยักหน้ารับ “หากข้าเดาไม่ผิด ฐานลับของตระกูลหลง น่าจะถูกสร้างเอาไว้โดยบรรพบุรุษ จุดประสงค์ก็เพื่อไว้ใช้ติดต่อกับแดนเชียนอ้างว้าง!”
“ตระกูลหลงมีอิทธิพลในแดนเซียนอ้างว้างมากมายเลยหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“เป็นเช่นนั้น จอมจักรพรรดิเซียนมังกรได้ปกครองสำนักมังกรฟ้าอันเกรียงไกรในแดนเซียนอ้างว้าง! หากคนเหล่านี้มาจากแดนเซียนอ้างว้าง ก็เป็นไปได้มากที่จะมาจากสำนักมังกรฟ้า เรื่องราวคล้ายจะเป็นปัญหาไม่น้อยแล้ว” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว
“พวกมันเหล่านั้นมาที่นี่ เพื่อช่วยเหลือตระกูลหลงรับมือกับตระกูลเจี้ยนหรือ?” ฉินหยุนเกิดความกังวลภายใน หากเปิดศึกขึ้นจริง ขั้วอำนาจใหญ่ของแคว้นมหาดวงดาวย่อมต้องเข้าร่วมศึกสงคราม
“ไม่น่าเป็นไปได้! พวกมันมาที่นี่ก็เพราะท่าน! ด้วยครอบครองหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรทั้งยังจับตัวมังกรพิทักษ์สำนักของพวกมันไป รวมถึงทำลายตระกูลหลงแห่งแคว้นมหาดวงดาวนั้นมากพอที่คนของสำนักมังกรฟ้าแห่งแดนเซียนอ้างว้างจะต้องมาเยือนแล้ว!” เชียวเย่ว์เหม่ยกล่าวตอบ
ฉินหยุนไหวไหล่เผยยิ้ม “เย่ว์เหม่ย นี่คงไม่ใช่หรอกกระมัง? พวกมันเหล่านั้นจะยอมสูญเสียทรัพยากรมหาศาล เดินทางจากสำนักมังกรฟ้าที่แดนเซียนอ้างว้างมาที่นี่ มูลค่ามหาศาลขนาดนั้นที่พวกมันจ่ายไป คงไม่มีทางใช่เพียงข้าอย่างแน่นอน!”
“มันมีค่าเพียงนั้น! ท่านจึงเป็นเป้าหมายหลักของพวกมัน เป้าหมายอื่นของพวกมันยังมีนั่นก็คือตั้งตัวขึ้นเป็นผู้ปกครองตระกูลหลงแห่งแดนวิญญาณอ้างว้าง!” เสี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว
เดิมฉินหยุนคิดอยากไปยังฐานลับเพื่อรับชม ทว่าตอนนี้ ผู้คนของแดนเซียนอ้างว้างมาถึง ทั้งยังไม่ทราบว่าพวกเขาแข็งแกร่งเพียงใด กระนั้นก็ไม่มีทางอ่อนด้อย หากฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหมียไปทั้งสภาพนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับเป็นเหยื่อเสนอตัวถึงที่
“แม้พวกเราไม่เข้าฐานแห่งนี้ อย่างน้อยก็ยังได้รับผลการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่! อย่างน้อยก็ได้ทราบ ว่าตระกูลหลงซ่องสุมกองกำลังแข็งแกร่งเอาไว้ที่นี่!” ฉินหยุนกัดฟันแน่น “เหมือนว่าเขตแดนลึกล้ำจะไม่ส่งกำลังเสริมใดมา ดังนั้นจึงต้องเรียกหากำลังเสริมมาจากแดนเซียนอ้างว้าง!”
“พี่ชาย ข้านึกกังวลนัก ท่านถึงกับตกเป็นเป้าของสำนักมังกรฟ้าไปแล้ว! หม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรของท่าน รวมถึงจารึกวิญญาณ แม้เป็นแดนเซียนอ้างว้าง นั่นก็ถือเป็นสิ่งล้ำค่ายิ่ง!” เช่ียวเย่ว์เหม่ยกล่าว
“อย่าได้กังวลไป ข้าย่อมไม่เป็นไร!” ฉินหยุนหัวเราะรับ “ก่อนอื่น พวกเราควรไปยังนครราชันมังกร!”
ตามข่าวลือ นครราชันมังกรเป็นเมืองที่ใหญ่และคึกคักที่สุดของแดนวิญญาณอ้างว้างเขตแดนนอก ข่าวลือนี้แพร่ออกไปเพราะตระกูลหลง จริงหรือไม่ล้วนไม่สำคัญ ทว่าเมืองแห่งนี้ไม่อาจเป็นเฉยได้
อย่างไรแล้ว เมืองแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองและใหญ่โตอย่างยิ่ง มันใหญ่ขนาดสามารถพอให้คนจำนวนสิบล้านใช้พักอาศัย ภายในและภายนอกของนครราชันมังกร รูปปั้นมังกรและลวดลายอันงดงามสามารถพบเห็นได้
ภายในนครราชันมังกร ผู้คนของตระกูลหลงแทบไม่ต่างอะไรกับราชัน หาได้มีผู้ใดกล้ายั่วยุพวกเขา ตามปกติ ตระกูลหลงก็มีการแก่งแย่งกันภายในเมืองอยู่แล้ว พวกเขามักต่อสู้กันเองหลายครั้งครา
วิธีการของตระกูลหลง คือเปิดกว้างให้เกิดการต่อสู้กันภายใน พวกเขาภายนอกมองดูสามัคคีทว่าภายในไม่ใช่ มีแต่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดแก่งแย่งผลประโยชน์
“นครราชันมังกร ฐานใหญ่ของตระกูลหลง!” ฉินหยุนเมื่อมาถึง เขาจึงมองไปยังสิ่งปลูกสร้างที่ตั้งเรียงรายแออัด พื้นที่แม้กว้างขวาง ทว่าหนทางกลับวุ่นวาย ภายในอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
เมืองแห่งนี้ย่อมไม่ใช่ธรรมดา อย่างน้อยฉินหยุนก็รู้สึกได้ว่าเมืองแห่งนี้มีความโหดเหี้ยมคงอยู่ ภายใต้ชีวิตชีวา ตระกูลหลงตั้งอยู่ที่บริเวณตะวันออกของเมืองแห่งนี้ และสถานที่พำนักของจ้าว เมืองอยู่ที่ตรงกลาง
ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเมื่อผ่านประตูเมืองเข้ามาแล้ว พวกเขาจึงต้องโดยสารรถลากไปยังคฤหาสน์ราชันมังกร
แม้เป็นคนของตระกูลหลง พวกเขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้บินในเมือง นี่ก็เพื่อควบคุมความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง
มีแต่คนของตระกูลหลงผู้เลิศล้ำ จึงสามารถถือครองตัวขึ้นบินบนฟ้าในเมืองได้ หากผู้อื่นถูกตรวจพบว่าบินโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่นนั้นบทลงโทษย่อมสาหัส
นอกจากรถลากแล้ว ยังมีเรือบินที่สามารถใช้งาน ทางหนึ่งก็เพื่อให้ท้องฟ้ามีแต่พาหนะโดยสารที่ถูกจัดเตรียมให้ง่ายแก่การตรวจตรา อีกทางหนึ่ง ท้องฟ้าจะได้ไร้ซึ่งความวุ่นวาย ผู้ใดในเมืองล้วนสามารถได้เห็นท้องฟ้าสีครามพร้อมหมู่เมฆสีขาว
เนื่องจากหากไม่มีการห้ามบิน ฟากฟ้าคงแออัดไปด้วยผู้คนที่บินไปมากันวุ่นวาย เรือบินนี้เป็นของตระกูลหลง เป็นสิ่งที่สร้างผลกำไรได้อย่างงดงาม
หลายคนต่างต้องใช้บริการนี้ทุกวี่วัน เรือบินกล่าวได้ว่าเร็วที่สุด และก็มีราคาแพงที่สุดด้วยโดยหลักแล้ว ผู้ที่สามารถจ่ายได้ไหวจึงสามารถโดยสาร ดังนั้นเหรียญม่วงจึงสะพัดในธุรกิจนี้เข้าสู่ตระกูลหลงอย่างมหาศาล
“สองถึงสามพันเหรียญม่วงต่อการโดยสารหนึ่งรอบ แพงนัก!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยนฉินห ยุนขึ้นบนเรือบินพร้อมบ่นอุบ
สำหรับฉินหยุน เงินตราไม่ใช่ปัญหา อย่างไร เขาก็มีหลายพันล้านเหรียญม่วงกับตัว ทั้งยังเป็นเงินที่ได้มาจากบ่อนของตระกูลหลง
ทั้งฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย เวลานี้กำลังเดินทางไปยังที่ตั้งของคฤหาสน์ราชันมังกร
สถานที่อันเจริญในเมืองแห่งนี้มีไม่มาก หนึ่งในนั้นคือคฤหาสน์ราชันมังกร และสถานที่พำนักของจ้าวเมือง ละแวกใกล้เคียงนั้นจะมีแต่ความเจริญและคึกคัก โดยเฉพาะกับพื้นที่คฤหาสน์เจ้าเมือง บริเวณนั้นจะมีแต่บ้านและสิ่งปลูกสร้างใหญ่โต
คิดซื้อหาห้องหนึ่งที่นี่ก็ต้องจ่ายมากมายถึงหลายสิบล้าน หรืออาจมากถึงหลายร้อยล้าน ผู้คนปกติย่อมไม่มีทางจ่ายเพื่อซื้อได้ไหว
ดังนั้นผู้คนที่พักอาศัยในบริเวณนี้ จึงเป็นกลุ่มคนสำคัญของขั้วอำนาจใหญ่แห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้า
พวกเขาต่างพักอาศัยอยู่ใกล้ตระกูลหลง เพื่อการสร้างสายสัมพันธ์อันดี รวมถึงได้เข้าใจสภาพภายในของตระกูลหลงเพื่อการดำเนินธุรกิจด้วย
เวลานี้ ไม่เพียงแต่ผู้คนของสำนักใหญ่แห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้าจะมายังที่นี้ กระทั่งผู้คนของสำนักที่มีชื่อเสียงจากแคว้นทั้งหลายยังต้องเดินทางมา เป็นผลให้ราคาบ้านเรือนในละแวกนี้ยิ่งพุ่งทะยานขึ้นเสียดฟ้า
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม เรือบินจึงใกล้ถึงคฤหาสน์ราชันมังกร ที่ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยพบเห็นอยู่เวลานี้ คือคฤหาสน์ราชันมังกรขนาดใหญ่ยักษ์ที่เบื้องล่าง
คฤหาสน์ราชันมังกร มันแทบไม่ต่างอะไรกับเมืองขนาดย่อม ผู้คนนับแสนพักอาศัยอยู่ภายในที่แห่งนั้น ยามมองลงจากเบื้องบน ที่พบเห็นได้คือสิ่งปลูกสร้างสูงใหญ่และตำหนักจำนวนมากที่อยู่ภายในคฤหาสน์ ทั้งยังมีสวนที่หลากหลาย รวมถึงน้ำตกและภูเขาขนาดใหญ่ หากจะกล่าวว่าเป็นสรวงสวรรค์ก็ไม่เกินเลยแม้สักนิด
ฉินหยุนคิด ว่าเกาะลอยฟ้าสองชั้นของตระกูลเจี้ยนยอดเยี่ยมแล้ว ทว่าตอนนี้เขารู้สึก ว่าตระกูลหลงมีความเหนือกว่า
“อย่างไรแล้วตระกูลหลงก็คงอยู่ในประวัติศาสตร์มายาวนานนับไม่ถ้วน รากฐานพวกเขาจึงหยั่งลึกยิ่งกว่าตระกูลเจี้ยน!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยถอนหายใจกล่าว “หากการต่อสู้ปะทุขึ้นเมื่อใดชนะหรือพ่ายแพ้กล่าวได้ว่ายากตัดสินนัก!”
ฉินหยุนสัมผัสได้จากระยะไกล ถึงม่านพลังของคฤหาสน์ราชันมังกรที่แข็งแกร่ง คิดบุกฝาเข้าไปเป็นเรื่องยาก แม้จะใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวงก็ตามที
“ตระกูลหลงแข็งแกร่งกว่าที่ข้าคิดเอาไว้มากนัก!” แม้ฉินหยุนได้ยินเรื่องราวก่อนเดินทางมากระนั้นเขาก็เพียงคิด ว่าคงแข็งแกร่งกว่าตระกูลหลงแห่งแคว้นมหาดวงดาวไม่มาก
ตอนนี้ได้พบเห็นกับตาตนเอง เป็นเขาไม่ทราบ ว่าคฤหาสน์ราชันมังกรแห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้า มันแทบไม่อาจนำคฤหาสน์รัศมีมังกรแห่งแคว้นมหาดวงดาวมาเทียบเปรียบ
ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยลงจากเรือบินที่ลงจอด เชี่ยวเย่ว์เหม่ยคิดอยากใช้วิธีเดิม นั่นก็คือเข้าสู่ตำหนักจารึกเทวะ แต่เมื่อพิจารณาให้ถี่ถ้วน นางจึงตัดสินใจทำตามฉินหยุน
นางทราบ ว่าครั้งนี้ฉินหยุนมีแต่ต้องลงมือให้สำเร็จ ดังนั้นนางจึงไม่กล้าละเล่นไปทั่วเหมือนเช่นเคย
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยนฉินหยุนสู้โรงเตี้ยมใกล้เคียง และที่อยู่ใกล้เคียงคฤหาสน์ราชันมังกร พวกมันมักตกแต่งด้วยสีทองเป็นประกายวิบวับ
โรงเตี้ยมบางแห่งสูงถึงหนึ่งร้อยชั้น ทั้งยังมีสิ่งส่องประกายแสงสีทองวิบวับประดับประดายามค่ำคืนพวกมันส่องแสงเป็นประกายดึงดูดสายตาผู้คนที่สัญจร