Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 821 : ความลับของตระกูลหลง
ตอนที่ 821 : ความลับของตระกูลหลง
ชายวัยกลางคนที่อหังการอวดดี ยามได้เห็นอาวุธซึ่งฉินหยุนนําออกมา เขาพลันเผยสีหน้าเหยียดหยันกล่าวคํา “ด้วยอาวุธเจ้า? ไม่ใช่ว่ามาจากตระกูลใหญ่หรือไร? เหตุใดจึงมีอาวุธผุพังเช่นนั้น?”
ฝีเท้าของเขาก้าวเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเดียดฉันท์ มือคว้าจับเข้าที่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกพร้อมแผ่นเสียง “ด้วยอาวุธเช่นนี้”
คํายังไม่ทันกล่าวจบ เขากลับสัมผัสได้ถึงพลังชวนขนลุกคลุ้มคลั่งจากภายในกระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลก ขณะตื่นตระหนก ฉินหยุนก็สับฟันกระบออกอย่างดุดันแล้ว!
ฟึ่บ!
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกมุ่งตรงเข้านั่นเศียรชายวัยกลางคน ศีรษะนั้นร่วงหล่นกลิ้งกับพื้น จิตวิญญาณถูกกระบี่กลืนหายหมดสิ้น
เรื่องนี้เป็นผลให้ราชันยุทธ์จากตระกูลหลงสะดุ้งตื่นตระหนก ราชันยุทธ์ผู้อื่นของสํานักวิญญาณเมฆายิ่งกราดเกรี้ยว เพราะถึงขั้นมีคนนอกลงมือสังหารคนของพวกเขาในบ้านตนเอง
“เจ้า… รนหาที่ตาย!” ราชันยุทธ์วัยชราตะโกนดังด้วยโทสะพร้อมพุ่งทะยานเข้าหา
ฉินหยุนพลันหายตัวอย่างไร้ร่องรอย หลบเลี่ยงการโจมตีของราชันยุทธ์ผู้นั้น ก่อนจะสับฟันเข้าใส่ร่างราชันยุทธ์ตระกูลหลง
ราชันยุทธ์ตระกูลหลงย่อมไม่อ่อนด้อย เขาหลบเลี่ยงในพริบตาพร้อมพุ่งทะยานออกจากห้องสู่ภายนอก ฉินหยุนไล่ตามติด ราชันยุทธ์เฒ่าชราอีกหลายคนยามได้เห็นพลังอํานาจชวนสะพรึงของฉินหยุน เวลานี้พวกเขาร้อนรนว่าราชันยุทธ์ตระกูลหลงจะไม่อาจต้านรับไว้ได้
หากคนของตระกูลหลงสิ้นชีพที่นี่ สํานักวิญญาณเมฆาจะไม่มีทางหนีพ้นจากความรับผิดชอบที่แห่งนี้คือแคว้นมังกรทะยานฟ้า ตระกูลหลงเป็นขั้วอํานาจอันสูงสุดของที่นี่
ฉินหยุนที่พุ่งทะยานไล่หลังราชันยุทธ์ตระกูลหลงเวลานี้นําดาบหนักขนาดใหญ่ยักษ์ออกมา มันเป็นอุปกรณ์เต๋า ทว่าในสายตาฉินหยุนอุปกรณ์เต่นี้ไม่ต่างอะไรกับขยะข้างทาง
“กําลังเจ้าไม่แย่ ข้าประเมินเจ้าผิดไป!” ราชันยุทธ์ตระกูลหลงแค่นเสียง “อย่างดีที่สุด เจ้าก็แค่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับสูงสุด เผชิญหน้าราชันยุทธ์ เจ้าหาได้มีโอกาสชนะไม่!”
ระหว่างพูดคุย ราชันยุทธ์ตระกูลหลงได้ระเบิดพลังเท้าพุ่งเข้าหาฉินหยุนทางด้านข้าง ดาบ หนักสับฟันลง เสียงมังกรคํารามร้องปรากฏ ดาบทองคํากรดผ่านอากาศจนเกิดเป็นสายลมรุนแรงคลื่นพลังดาบเข้าปกคลุมฉินหยุน
ร่างกายฉินหยุนไหวเล็กน้อยพร้อมปลดปล่อยพลังสั่นไหว เข้ากวาดล้างสายลมรุนแรงจาก คลื่นพลังดาบ ก่อนจะต้านรับดาบหนักที่ฟาดฟันลงมาด้วยกระบี่
เคร้ง ตึง!
เสียงแตกหักดังกึกก้อง มันมาพร้อมแรงระเบิดคลื่นอากาศรุนแรง จนเป็นผลให้อาคารบ้านเรือนเบื้องล่างต้องสั่นเทิ้ม
ราชันยุทธ์เฒ่าชราจากสํานักวิญญาณเมฆาล้วนนิ่งอึ้งต่อพลังอํานาจของฉินหยุน พวกเขาไม่คิด ว่าคนหนุ่มผู้นี้จะครอบครองพลังถึงขั้นสามารถต่อกรกับราชันยุทธ์ตระกูลหลง ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านั้น ดาบหนักขนาดใหญ่ยักษ์ของราชันยุทธ์ตระกูลหลง เวลานี้มันปรากฏรอยบินร้าวขึ้นมาแล้ว
“พวกเราบุกโจมตีพร้อมกัน!” ราชันยุทธ์เฒ่าชราจากสํานักวิญญาณเมฆาตะโกนพร้อมเพรียง
ฉินหยุนสัมผัสได้ถึงออร่าแข็งแกร่งที่พลันปรากฏทางด้านล่าง เขาจึงเร่งรีบใช้งานก้าวเท้าร่างเงาประกายแสงสมบูรณ์หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย กระทั่งออร่าของตัวเขาก็ยังเลือนหายไปด้วย
บรรดาราชันยุทธ์ที่บินทะยานเข้ามา เมื่อได้เห็นว่าฉินหยุนหายวับในพริบตา พวกเขานิ่งอึ้ง
แต่แล้วอย่างกะทันหัน พวกเขารับรู้ได้ถึงบุคคลปรากฏทางด้านหลัง ศีรษะเร่งร้อนหันควับมองกลับ พบเห็นเป็นกระบีพุ่งเข้าหาพร้อมลําแสงสีดําอันเย็นเยือก
ฉินหยุนปรากฏตัวด้านหลังราชันยุทธ์เฒ่าชราเหล่านี้พร้อมลงมือสับฟันกระบี่ ตัดเอาร่างของราชันยุทธ์เหล่านั้นออกเป็นสอง
ร่างที่ถูกนั่นเป็นสองร่วงหล่นลงสู่เบื้องล่างอย่างชวนสังเวช ราชันยุทธ์เฒ่าชราเหล่านี้ฝึกฝนอย่างอื่นขมเป็นเวลายาวนานหลายปี
แต่แล้วยามต้องเผชิญหน้ากับฉินหยุนผู้ซึ่งอยู่เพียงขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับสูงสุด พวกเขากลับกลายเป็นถูกจัดการง่ายดาย ทั้งยังถูกนั่นร่างออกเป็นสอง ทว่าพวกเขายังไม่สิ้นชีพ เพียงแต่บาดเจ็บสาหัส และไม่อาจเคลื่อนไหวต่อสู้อื่นใดได้อีกต่อไปแล้ว
ราชันยุทธ์ตระกูลหลงยามได้เห็นพลังชวนสะพรึงของฉินหยุน เวลานี้ความหวาดกลัวอดไม่ได้ที่จะเข้าเกาะกุมหัวใจ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
ราชันยุทธ์ตระกูลหลงกล่าวคําจบ ร่างจึงแปรเปลี่ยนเป็นแสงทองคําพุ่งทะยานไปไกลห่าง ฉินหยุนย่อมไม่คิดปล่อยอีกฝ่าย นําเอาปืนใหญ่ราชันราชสีห์ออกมาพร้อมยิงเข้าใส่ราชันยุทธ์ตระกูลหลงจากระยะไกล
หัวราชสีห์ขนาดใหญ่ที่ปากกระบอกปืนใหญ่เผยอํานาจ เสียงร้องคํารามระเบิดดังกึกก้องพุ่งปะทะเข้าใส่ราชันยุทธ์ตระกูลหลงจากระยะไกล
ตุ้ม!
เพียงครู่ที่หัวราชสีห์สีดําเผยอํานาจ มันเข้าโจมตีอย่างแม่นยําใส่ร่างราชันยุทธ์ตระกูลหลง ท้ายที่สุดนี้ ฉินหยุนจึงใช้ก้าวเท้าร่างเงาประกายแสงสมบูรณ์ไล่ตาม
ที่แผ่นหลังราชันยุทธ์ตระกูลหลง มันเผยออกซึ่งบาดแผลไฟไหม้จนผิวหนังดําเกรียมปริแตกตัวเขาสัมผัสได้ถึงฉินหยุนที่ไล่ตามทางด้านหลังประหนึ่งมัจจุราช ขณะคิดหลบเลี่ยง เขากลับได้ยินเสียงบางอย่างปริแตก
ฉินหยุนตามทัน ใช้งานสองนิ้วประสานเผยซึ่งดัชนีทะลวงขุนเขาแยกปฐพี พลังอํานาจดัชนีนี้เปรียบดังสายฟ้าสีดําทมิฬ มันมาพร้อมพลังเต่ลึกล้ำอันแข็งแกร่งหวีดร้อง เส้นทางการพุ่งผ่านของพลังได้หลงเหลือหมอกสีดําฟุ้งกระจายไว้กลางอากาศ
“อ๊าก!” ราวกับร่างราชันยุทธ์ตระกูลหลงผู้นี้จมดิ่งในห้วงสายฟ้าอสนีบาตสีดํา เป็นผลให้เขาต้องกรีดร้องเจ็บปวด
เฉินหยุนทะยานตามทันในพริบตา พร้อมเตะรุนแรงเข้าใส่ร่างราชันยุทธ์ตระกูลหลงจนกระเด็น
ตึง!
ราชันยุทธ์ตระกูลหลง ร่วงหล่นไปปะทะกับร่างราชันยุทธ์เฒ่าชรา เป็นผลให้แรงปะทะบดขยี้หนึ่งในเหล่านั้นจนตายตก ราชันยุทธ์เฒ่าชราที่ยังเหลือรอด พยายามคลุกคลานขึ้นจากพื้นด้วยสองมือ พวกเขาเวลานี้เหลือเพียงร่างท่อนบน ปากต้องร้องออกขอความช่วยเหลือดังระงม
“เจ้าเป็นใครกันแน่? ยั่วยุพวกเราตระกูลหลงเช่นนี้ อย่าได้คิดว่าจะตายสบาย!” ราชันยุทธ์ตระกูลหลงกระอักโลหิตออกคําโต เขาเผยความหวาดกลัวทว่าเอ่ยคําข่มขู่
หาได้มีผู้ใดคาดคิดไม่ ว่าขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับสูงสุดเยาว์วัยผู้นี้ จะถึงขั้นสามารถเอาชัยจากกลุ่มราชันยุทธ์ พลังอํานาจระดับนี้ มันมากพอให้ผู้คนเกิดความรู้สึกชวนสะพรึงไม่รู้จบ
ฉินหยุนบินกลับตามมา ระหว่างเคลื่อนคล้อยลงจากฟ้า เขาได้ปลดปล่อยพลังสั่นไหวผ่านขาทั้งสอง
พลังสั่นไหวสะกดลงที่ร่างบรรดาราชันยุทธ์เฒ่าชรา บดขยี้พวกเขาเหล่านั้นออกเป็นเสี่ยง
ราชันยุทธ์ตระกูลหลงต้องตายด้วยสภาพชวนสังเวช เขากระอักเอาโลหิตออกคําโตพร้อมกรีดร้องยามเผชิญหน้ากับความตาย
ฉินหยุนเข้านําแก่นเต๋และวิญญาณยุทธ์ของผู้คนเหล่านี้ออก ก่อนจะเผาร่างจนกลายเป็นเถ้าธุลีก่อนเดินกลับห้อง
พ่อลูกแซ่หลูเวลานี้ต่างหวาดกลัวไม่อาจพูดกล่าวคําใดต่อพลังอํานาจที่ฉินหยุนเผยออก
“เหตุใดคนของตระกูลหลงจึงมาที่นี้?” ฉินหยุนเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ได้ยินมาว่า ผู้คนของตระกูลหลงกําลังมีความเคลื่อนไหวอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ส่วนพวกเขาทําอันใดนั้น ข้าก็ไม่อาจทราบได้” เหล่าหลูกล่าวตอบ อาการบาดเจ็บของเขาเวลานี้ดีขึ้นไม่น้อย
“พวกท่านควรเร่งรีบยุบสํานักวิญญาณเมฆานี้เสีย! คนของตระกูลหลงอยู่ใกล้เคียง พวกมันย่อมต้องมาที่นี่เพื่อหาแรงงานเป็นแน่ ดีที่สุดคือออกจากพื้นที่นี้อย่างเด็ดขาด!” ฉินหยุนกล่าว
เหล่าหลูและหลูเฉาเหวิ่นต่างพยักหน้ารับ ทั้งยังกล่าวขอบคุณต่อฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย
ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเดินทางออกจากสํานักน้อยแห่งนี้ มุ่งหน้าไปยังทิศทางหนึ่ง มันเป็นทิศทางที่ราชันยุทธ์ตระกูลหลงคิดบินไปเมื่อครู่
“พี่ชาย ปืนใหญ่ราชันราชสีห์ของท่านวิเศษนัก! รอจนพวกเรากลับไป ข้าจะขอให้พี่สาวหลิงหลงสร้างให้แก่ข้าสักกระบอกหนึ่ง!” เขียวเย่ว์เหม่ยเผยรอยยิ้มซุกซนกล่าวคํา
“ได้เลย!” ฉินหยุนยิ้มตอบ
“ตระกูลหลงมีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ไกลห่างเช่นนี้ พวกมันน่าจะค้นหาอะไรบางอย่างกันอยู่ พวกเราสมควรเร่งรีบไปรับชม!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว “พวกเราตอนนี้อยู่ในเทือกเขาใหญ่แห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้า พลังวิญญาณในพื้นที่แถบนี้ค่อนข้างเบาบาง ทั้งยังอยู่ห่างไกลจากเมืองใหญ่ค่อนข้างมาก”
ฟ้ามืด เชี่ยวเย่ว์เหมยนําเอากระจกวิเศษของนางออกมา ภายในมันปรากฏจุดแสงจํานวนมากเคลื่อนไหวบนพื้นผิวกระจก
“มีหลายคนอยู่ในละแวกนี้!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว แต่ละจุดแสงบนกระจกของนาง เป็นการแสดงถึงวิญญาณยุทธ์
ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงร่อนลงในป่าบนเขาเบื้องล่าง
เชียวเย่ว์เหม่ยสํารวจมองกระจกของนางและกล่าว “มีหลายร้อยคนเลยทีเดียว!”
“หลายร้อย? พวกมันมาจากตระกูลหลงหมดเลยหรือ? จํานวนนี้ไม่ใช่น้อยเลย!” ฉินหยุนอุทาน
“ใช่ ส่วนว่าพวกมันแข็งแกร่งเพียงใดนั้นข้าไม่อาจทราบ! คิดว่าพวกมันน่าจะค้นหาอะไรบางอย่าง ตัวบัดซบตระกูลหลงเหล่านี้ที่หาเรื่องพวกเรามาโดยตลอด เวลานี้ถือว่าอับโชคแล้ว!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยยิ้ม
ด้วยกระจกของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยขึ้น ทําให้ฉินหยุนสามารถระมัดระวังรุดหน้าเข้าสู่พื้นที่ป่าของภูเขาใหญ่ได้ พื้นที่แถบนี้ค่อนข้างเงียบงันและมืดมิด กระทั่งนกหรือสัตว์สักตัวยังไม่ปรากฏให้เห็น เรื่องราวดังกล่าวต้องมีสาเหตุเบื้องลึกเบื้องหลัง
สถานที่เช่นภูเขาไกลห่างและมีป่าหนาทึบเช่นนี้ อย่างไรแล้วก็สมควรต้องมีนกหรือสัตว์อาศัยอยู่ แม้เป็นกลางคืน มันก็ไม่ควรเงียบงันถึงเพียงนี้
ไม่นานนัก ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงมาถึงพื้นที่ซึ่งมีคนคงอยู่ เสียงดังอึกทึกสามารถได้ยินชัดเจน
ฉินหยุนดึงเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเข้าใกล้ แปรเปลี่ยนร่างเป็นโปร่งแสง รวมเข้ากับยันต์เตซ่อนเร้นลึกลับ จึงเป็นหลักประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่เผยออร่าใดหลุดรอด
พื้นที่เบื้องหน้าค่อนข้างสว่างไสว ทันทีเมื่อเคลื่อนตัวเข้าใกล้ถึง พวกเขาจึงได้เห็นว่าต้นไม้ทั้งพื้นที่ถูกตัดออก และยังปรากฏหลุมขนาดใหญ่ถูกขุดเจาะที่พื้น
เรือบินมากมายต่างลอยตัวเหนือหลุมยักษ์ ทั้งยังมีสัตว์บินได้อีกหลายตัว เห็นได้ชัดว่าคนกลุ่มนี้กําลังค้นหาบางสิ่งบางอย่าง
ตอนนี้เอง หลายคนเริ่มบินกระจายตัว เรือบินลําใหญ่เริ่มหย่อนเชือกลงไป
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวเสียงเบา “พวกมันคิดถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา!”
ฉินหยุนพยักหน้ารับ
เป็นดังคาด ไม่นานจากนั้น เรือบินลําใหญ่จึงเริ่มลอยลําขึ้นสูง หีบสีดําขนาดใหญ่ยักษ์ถูกดึงขึ้นจากเบื้องล่าง
ทั้งฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยต้องเกิดนึกหวาดกลัว หีบสีดําขนาดใหญ่ยักษ์ใบนี้ ขนาดกว้างและยาวของมันมากกว่าหนึ่งพันเมตร กล่าวได้ว่าใหญ่มหึมา กระนั้น มันไม่คล้ายหนักอันใด ไม่เช่นนั้นเรือบินคงไม่มีทางดึงมันขึ้นมาได้
“สงสัยนักว่าอันใดอยู่ภายใน!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยใคร่อยากรู้ นางปรารถนาเข้าไปรับชมที่ภายใน
“อีกไม่นานพวกเราก็ได้ทราบ! ขนาดของมันใหญ่มาก ภายในสมควรเป็นอุปกรณ์วิเศษมากมายเป็นแน่!” ฉินหยุนกล่าว
หีบสีดําขนาดใหญ่ยักษ์ พื้นผิวของมันผ่านกาลเวลามายาวนานยิ่ง มันต้องเป็นสิ่งจากกาลก่อนเรือบินลําใหญ่กําลังเคลื่อนตัวเชื่องช้าขณะดึงหีบยักษ์ขึ้นมาด้วย
ผู้คนทั้งหลายของตระกูลหลงต่างเดินทางโอบล้อมไว้ ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเดินทางตามติดใกล้ชิด
กลางวัน เรือบินจึงเพิ่มความเร็วมากขึ้น
“เย่ว์เหม่ย พวกมันคิดเดินทางไปนครราชันมังกร?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
นครราชันมังกร เป็นฐานใหญ่ของตระกูลหลงแห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้า มันคือมหานครขนาดใหญ่มหึมา
“ไม่น่าใช่ นครราชันมังกรไม่ใช่อยู่ทิศทางนั้น” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวตอบ ตอนนี้ ทั้งสองได้แต่ต้องติดตามต่อไป
ท่ามกลางผู้คนตระกูลหลงคณะนี้ มีหนึ่งคนเป็นครึ่งเซียน และจักรพรรดิยุทธ์อีกหลายคนรวมถึงราชันยุทธ์อีกหลายสิบคน ที่เหลือต่างอยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ
พวกเขากระทั่งนํามังกรกิ้งก่าขนาดเล็กบินได้ออกมาใช้งานลาดตระเวนโอบล้อมเรือบินลําใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเข้มงวดคุ้มกันที่บยักษ์เป็นอย่างยิ่ง เป็นการเผยให้เห็น ว่าภายในนั้นต้องเป็นสิ่งของทรงคุณค่าของตระกูลหลง
“พี่ชาย ตามที่กระจกของข้าแจ้ง ในหีบยักษ์นั่น มันมีร่างวิญญาณคงอยู่ที่ภายใน!” เชี่ยวเย่ว์เหมียพลันอุทานบอกออกมา
Related