Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 801 : คร่ากุม
ตอนที่ 801 : คร่ากุม
ได้ยินเสียงเหยาเฟิงตอบรับ หัวใจฉินหยุนค่อยสงบลงได้
“พี่สาวเหยาเฟิง ข้าพบเจอกับคนที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง” ฉินหยุนบอกเล่าเรื่องมังกรภูตผีแก่เหยาเฟิง
ทันใดนี้เอง กลุ่มก้อนพลังงานสีดําจึงปรากฏตรงหน้าฉินหยุน เหยาเพิ่งได้ยินคํากล่าวฉินหยุน นางจึงออกมาในทันที
มังกรภูตผีและผู้อื่นต่างคิด ว่าฉินหยุนได้ปลดปล่อยของดีออกมาส่งมอบ ทว่าแท้จริงกลับเป็นผู้คน
เหยาเพิ่งที่ปรากฏตัว นางจึงคว้าจับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกพร้อมสับฟันใส่มังกรภูตผี
มังกรภูตผีสัมผัสได้ถึงกําลังอันเลิศล้ําของเหยาเฟิง ภายในใจของมันนั้นตระหนกแตกตื่น จนต้องเร่งรีบนําเอาขวานยักษ์สีแดงออกมาต้านรับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกเอาไว้
เคร้ง
ตึง!
อาวุธอันเหนือชั้นทั้งสองปะทะต่อกัน เกิดขึ้นเป็นแรงสั่นไหวกระจายทั่วทิศ ชั้นน้ําแข็งภายในสถานที่แห่งนี้ถล่มลงมาเป็นชิ้นเพราะคลื่นสั่นไหวดุดัน
กลุ่มคนเขตแดนลึกล้ําและตระกูลหลงต่างร่างกระเด็นกระจาย หลายคนได้รับบาดเจ็บ
เหยาเพิ่งเมื่อลงมือโจมตี นางได้ใช้พลังส่วนหนึ่งส่งไปช่วยสื่อชิงเฉิง สุ่ยเทียนสื่อ และหลันซูเหยาที่บาดเจ็บอยู่ข้างฉินหยุน ตัวฉินหยุนเวลานี้ก็บาดเจ็บสาหัส เขาได้แต่ส่งทั้งสามคนเข้าสู่ไข่มุกเม็ดแรกของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน เพื่อหยิบยืมพลังจากสองต้นกําเนิดเขียนที่อยู่ภายในช่วยรักษาแก่พวกนาง
“นี่เจ้าเป็นใคร?” มังกรภูตผีถือขวานสีแดงดุดันขณะต้านรับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกที่สะกดข่มไม่หยุดหย่อนเอาไว้
“ผู้ที่สังหารเจ้า!” น้ําเสียงเหยาเพิ่งเย็นเยือกทะลวงถึงแก่นกระดูก ฝ่ามือของนางโจมตีออกใส่มังกรภูตผี
เหยาเฟิงเพียงผลักฝ่ามือเบาออก มันถึงขั้นสั่นสะท้านพระราชวังใต้ดินแห่งนี้หวั่นไหว รอยปริแตกเกิดขึ้นทุกหนแห่งคลื่นเสียงสั่นสะเทือนกระจายตัวครีนครานทั่วทั้งห้อง
กลุ่มคนเขตแดนลึกล้ําและตระกูลหลงไม่อาจต้านรับ เพราะพลังสั่นไหวมันเข้าทําร้ายพลังงานและเลือดเนื้อพวกเขาโดยตรง จนส่งผลให้ต้องกระอักเลือดออก
ฉินหยุนกินยาเข้าไปสองเม็ด เหล่านี้เป็นปิงชิงมอบไว้ให้ มันจะทําให้เขาสามารถฟื้นตัวได้รวดเร็ว ฉินหยุนรักษาอาการบาดเจ็บตนเองทีละน้อย ก่อนจะแปรเปลี่ยนร่างเป็นโปร่งแสงพร้อมพุ่งทะยานเข้าหากลุ่มคน
“หยุนเอ๋อ เจ้ามีวิธีทําให้หม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรปลดปล่อยพลังดูดกลืนมหาศาลหรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
แม้เขาลักลอบเข้ามาเงียบงัน ทว่ายังไม่ใช่ลงมือสังหาร อย่างไรแล้วกลุ่มคนของตระกูลหลงและเขตแดนลึกล้ําเหล่านี้ต่างก็เป็นครึ่งเซียน หากนําเอาค้อนเทวะเก้าตะวันออกมาสังหาร ผู้อื่นที่ยังรอดย่อมตอบสนองทันที ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะจับตัวคนกลุ่มนี้ในคราวเดียว เช่นนั้นพวกมันจะได้ไร้พิษสง!
“ปล่อยหม้อราชสีห์สวรรค์ออกมา ข้าจะใช้พลังดูดกลืนรุนแรงที่สุดในพริบตาถ่ายเทเข้าสู่ตัวหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร พร้อมดูดกลืนคนกลุ่มนี้เข้าไปในคราวเดียว!” หลิงหยุน เอ้อกล่าว
ผู้คนของเขตแดนลึกล้ําและตระกูลหลง เวลานี้รักษาตนเองกันอยู่
เหยาเฟิงและมังกรภูตผีปะทะต่อกันอย่างดุดัน เป็นผลให้ทั่วทั้งบริเวณมีแต่รอยปริแตก ราวกับสถานที่แห่งนี้พร้อมพังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ
ฉินหยุนที่เข้าใกล้กลุ่มคน เขาพลันปลดปล่อยหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร หลิงหยุนเอ๋อเข้าควบคุมตะวันทมิฬ ปลดปล่อยพลังทั้งหมดที่มันมีออกมาในคราวเดียว
ปากหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรเคลื่อนคล้อยลง ปากหม้อนั้นเปรียบดังกระแสน้ําวนขนาดใหญ่ยักษ์จนเกิดเสียงชวนขนลุก มันเผยพลังอํานาจดูดกลืนมหาศาลดูดเอากลุ่มคนเข้าไป!
“เป็นหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร ไอ้มารร้ายฉินหยุนนั่น!” คนผู้หนึ่งกล่าวตะโกนดัง ทว่า ตะโกนเพียงจบคํา การกระทํายังไม่อาจตอบสนองก็ถูกดูดหายเข้าไปในหม้อแล้ว
มีแต่ครึ่งเซียนสามคนที่ตอบสนองทันเวลา พวกเขาโคจรพลังต้านทานอํานาจดูดกลืนมหาศาลพร้อมพุ่งเข้าหาฉินหยุน
ฉินหยุนใช้กําลังเลิศล้ําเปิดเผยตนเองออก พร้อมควบคุมหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร เร่งรีบบินไล่ตามติดทางด้านหลัง
ตุ้ม!
ครึ่งเซียนทั้งลงมือโจมตีหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรรุนแรง ส่งผลให้ทั้งฉินหยุนและหม้อกระเด็น
แม้เหยาเพิ่งตั้งสมาธิต่อกรกับมังกรภูตผี ก็ไม่ใช่ว่านางละเลยให้ความสนใจทางด้านฉินหยุน ได้เห็นเขาถูกปิดล้อม นางจึงแบ่งถ่ายกําลังส่วนหนึ่งไปยังฉินหยุน ด้วยสัมผัสถึงกําลังเลิศล้ําจากเหยาเพิ่งที่พุ่งเข้าหา เขาจึงเร่งรีบเข้าหลบซ่อนในหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร
ครืน!
เหยาเฟิงโจมตีโดยไม่สนว่าโดนผู้ใด มันรุนแรงมากล้ําขนาดระเบิดหินใหญ่ทั้งหลายที่มุมห้อง แม้ครึ่งเซียนทั้งสามต้านรับไว้ ร่างก็ยังต้องกระเด็นไกลลิ่ว กําลังของเหยาเฟิงเหนือล้ําทัดเทียมราชันเซียน
ด้วยฉินหยุนหลบซ่อนในหม้อราชสีห์สวรรค์ที่แข็งแกร่ง ดังนั้นเขาจึงปลอดภัยไร้อันตราย บรรดาครึ่งเซียนเหล่านั้นไร้ซึ่งชุดเกราะที่ดี โดนการโจมตีรุนแรงระดับนั้นเข้าใส่จึงต้องบาดเจ็บสาหัสในพริบตา
เม็ดยาที่ฉินหยุนกินเข้าไปก่อนหน้า พวกมันปลดปล่อยพลังการรักษาต่อเนื่อง บาดแผลฉินหยุนสมานอย่างรวดเร็ว และเขายังใช้โอกาสนี้นําเอาค้อนเทวะเก้าตะวันออกมา ก่อนจะพุ่งทะยานร่างเข้าหากลุ่มครึ่งเซียนที่เหลือพร้อมฟาดค้อนลง
ค้อนเทวะเก้าตะวันดูดกลืนพลังเต่ลึกล้ําของฉินหยุน ปลดปล่อยเอาปลายหอกเก้าสีสันสุกสว่างมาพร้อมพลังเก้าตะวันเข้มข้น!
ตุ้ม!
ฉินหยุนควบคุมหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร โรมรันเข้าพัวพันกับครึ่งเซียน บรรดาครึ่งเซียนเหล่านี้ได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อน และเมื่อครู่ยังโดนเหยาเฟิงโจมตีใส่ ทั้งยังโดนหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรเข้าปะทะจนร่างกระเด็น
อย่างไรแล้วอีกฝ่ายก็เป็นถึงครึ่งเซียน แม้ผิวหนังเกิดบาดแผลเต็มไปหมด แต่เมื่อได้เห็นฉินหยุนทะยานเข้าหาจึงเร่งรีบลุกขึ้นยืน ฉินหยุนมาถึง จึงให้หลิงหยุนเอื้อปลดปล่อยแรงโน้มถ่วงอันหนักอึ้ง ครึ่งเซียนเหล่านี้ถูกสะกดลงจนไม่อาจขยับ กระนั้นด้วยเวลาเพียงครู่ ฉินหยุนกลับเข้ามาถึงพร้อมฟาดหวดค้อนเทวะเก้าตะวันลงใส่ที่ศีรษะ
ตึง!
ศีรษะถูกฟาดหวดลงรุนแรง เสียงระเบิดดังสนั่น แสงเก้าสีสุกสว่างกระจายตัวออกราวกับอาวุธอันแหลมคม ฉินหยุนสังหารครึ่งเซียนได้อีกคนหนึ่งแล้ว
“ฉินหยุน จงรับความตาย!” หลงอุ่นหยวนทะยานร่างมาพร้อมเผยท่วงท่าหมัดสะกดข่ม
“อีก!”
แม้ฉินหยุนใช้หม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรต้านรับ ร่างนั้นยังต้องกระเด็นปะทะกําแพงเพราะการโจมตี หลงอุ่นหยวนหวาดกลัวฉินหยุนใช้ค้อนโจมตี โชคดีที่เขาเว้นระยะห่างจากฉินหยุน จึงไม่ตกเป็นเป้าเมื่อครู่
“หลงอุ่นหยวน อย่าได้คิดว่าจะสังหารข้าได้!”
ฉินหยุนควบคุมหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรลอยออกพร้อมเรียกใช้งานโทเทมราชสีห์สวรรค์ หม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร มันมีโทเทมราชสีห์สวรรค์ทั้งเก้าประเภทแกะสลักเอาไว้
หลงอุ่นหยวนหัวเราะโฉดชั่วกล่าวดัง “เป็นเจ้าที่ตาย!”
เขาหาได้หวั่นเกรงหม้อที่บินเข้าหาแม้เพียงนิด มือยกขึ้นพร้อมปล่อยหมัดเข้าใส่หม้อ แต่แล้วอย่างกะทันหันนี้เอง ราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพพลันปรากฏตัว!
ทันทีที่ปรากฏ ราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพจึงพุ่งทะยานเข้าหาหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรจนมันขยายขนาดใหญ่ขึ้น
จากนั้น หม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรจึงปลดปล่อยหมอกพลังงานสีดําแกร่งกล้าออกมา ปากหม้อเริ่มอัดแน่นด้วยพลังราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร มันเข้ากดดันลงที่ร่างหลงอุ่นหยวนจนถึงขนาดคิดหายใจยังยากลําบาก
หลงอุ่นหยวนไม่คิด ว่าฉินหยุนสามารถปลดปล่อยราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพอันแข็งแกร่งออกมา เพื่อเสริมกําลังสะกดมังกรแก่หม้อได้เช่นนี้
ตุ้ม!
ปากหม้อเข้าปกคลุมหลงอุ่นหยวนจนมิดบดบัง ขนาดหม้อหดตัวเล็กลง ฉินหยุนค่อยสูดลมหายใจยาวเข้าปอดได้
ตึง ตึง ตึง!
เสียงก้อนอิฐร่วงหล่นสู่พื้นที่ใต้ดินยิ่งถี่ พื้นที่แห่งนี้ถูกทําลายเพราะแรงปะทะจากเหยาเฟิงและมังกรภูตผี
มังกรภูตผีเพิ่งออกจากผนึกได้เมื่อครู่ เป็นตัวเขายังไม่ฟื้นคืนพลังถึงขีดสุด ทั้งยังไม่มีอาวุธเช่นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลก ดังนั้นเขาจึงเสียเปรียบในทุกสัดส่วน ร่างต้องถูกเฉือนหันหลายครั้งครา ยิ่งไปกว่านั้น ทุกครั้งที่ถูกเฉือนนั่น มันจะรู้สึกราวกับจิตวิญญาณถูกดูดกระชากเลือนหาย เป็นตอนนี้เองที่เขาค่อยได้ตระหนักว่าอาวุธนี้มีความพิเศษตรงสามารถดูดกลืนพลังจิตวิญญาณ!
“นางตัวบัดซบ เจ้าเป็นใครกันแน่? เหตุใดที่ร่างจึงมีพลังคําสาปของจอมจักรพรรดิอสูรเซียน?” มังกรภูตผีจดจําออร่าของเหยาเพิ่งได้ มันมีร่องรอยพลังออร่าอันเลิศล้ําของจอมจักรพรรดิอสูรเซียน
ผู้ซึ่งถูกจอมจักรพรรดิอสูรเซียนสาป ย่อมไม่ใช่ตัวตนธรรมดา! มังกรภูตผีสบถต่อบรรพบุรุษ สิบแปดชั่วโคตรของฉินหยุนอยู่ภายใน เขาไม่คิดว่าฉินหยุนจะสามารถนําพาสตรีชวนสะพรึงผู้นี้ปรากฏตัว
เป็นมันคิด ว่าชีวิตนี้โชคร้ายยิ่ง ผนึกที่ต้องใช้ความยากลําบากและเวลายาวนานกว่าจะทําให้คลายออกได้ หลุดพ้นแล้วยังต้องพบเจอสตรีโหดเหี้ยมแข็งแกร่ง ในพริบตา ร่างก็บาดเจ็บสาหัสแล้ว
“อ๊าก!”
ศีรษะมังกรภูตผีถูกเปิดออกโดยกระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลก เป็นผลให้เสียงร้องออกตะโกนดังต้องเผยออก จิตวิญญาณเวลานี้กําลังถูกกระบี่ศักดิ์สิทธิวิญญาณปรโลกดูดกลืนอย่างรุนแรง
เหยาเฟิงยินดี นางเร่งรีบคว้าร่างมังกรภูตผีก่อนกลับไปพบฉินหยุน
“คืนให้เจ้า!”
เหยาเชิงส่งกระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกกลับคืน ก่อนเร่งรีบกลับเข้าสู่วิญญาณเทวะเก้าตะวันพร้อมมังกรภูตผีที่จับตัวไว้ได้ ไข่มุกเม็ดที่สองของวิญญาณเทวะเก้าตะวันเวลานี้ จึงมีทาสเงา และมังกรภูตผีที่สภาพครึ่งตาย ทั้งสองจะกลายเป็นแหล่งพลังงานหล่อเลี้ยงให้เหยาเฟิงได้ดูดกลืน
“พี่สาวเหยาเฟิง ขอท่านส่งเนตรศักดิ์สิทธิ์สีครามทั้งสองมาด้วยแล้ว!” ฉินหยุนร้องบอก ก่อนจะเข้าไปเก็บโลงศพยักษ์ จากนั้นจึงเร่งรีบมุ่งหน้าไปยังประตูหยกทองคําที่เสียหาย
“รับไป!” เหยาเพิ่งนําเนตรศักดิ์สิทธิ์สีครามออกจากมังกรภูตผี ก่อนจะส่งมันตรงไปยังไข่มุก เม็ดที่หนึ่งของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน
ทันทีเมื่อออกมาได้ เขาจึงได้เห็นยักษ์ไว้เศียรฝูงใหญ่ พวกมันกลับกลายเป็นศพเช่นเดิมนอนกับพื้น
เจี้ยนสือเทียนและคณะยังคงอยู่ที่ด้านนอก พวกเขายังไม่จากไปไหน!
“ฉินหยุน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” เจี้ยนหลิงหลงพบเห็นฉินหยุนออกมา นางจึงเร่งรีบเข้ามาช่วยพยุงร่างด้วยเพราะฉินหยุนเวลานี้มีแต่บาดแผล
“ข้ายังไหว พวกเราต้องรีบออกไป! ที่แห่งนี้พร้อมถล่มได้ทุกเมื่อ!” ฉินหยุนร้องตะโกน
เจี้ยนหลิงหลงหามฉินหยุนขึ้นแผ่นหลังของนาง เจี้ยนสือเทียนและเปาเฉิงโฉ่วร่วมกันเปิดทาง เบื้องหน้า กลุ่มคนเร่งรีบบินผ่านอากาศหลบเลี่ยงเหล่ายักษ์ไร้เศียรที่นอนอยู่บนพื้น
ตุ้ม ตุ้ม ตุ้ม!
สิ่งปลูกสร้างใหญ่โตครึ่งทรงกลมใจกลางเมืองภูตผีต้องห้าม เวลานี้เกิดการถล่มอย่างต่อเนื่อง
สิ่งปลูกสร้างถูกทําลาย ม่านพลังภายในจึงสูญเสียอํานาจ
เจี้ยนสือเทียน เปาเฉิงโจ่ว และคณะคนได้แต่ต้องตั้งสมาธิหลบเลี่ยงสิ่งที่พังทลายลงมา พวกเขาเหล่านี้คือจักรพรรดิยุทธ์และครึ่งเซียนทรงอํานาจ หลบเลี่ยงสิ่งของที่ร่วงหล่นถือเป็นเรื่องง่ายดาย กระทั่งว่าเส้นทางถูกปิดขวาง ด้วยพลังระดับครึ่งเซียนย่อมเปิดทางออกได้ในพริบตา ผ่านไปครึ่งชั่วยาม พวกเขาค่อยออกมาจากสิ่งปลูกสร้างครึ่งทรงกลมได้สําเร็จ
เพราะมวลพลังงานสีดําภายในเมืองภูตผีต้องห้ามเลือนหาย แสงจากเก้าตะวันจึงสาดส่องลง มาอีกครั้งหนึ่ง เลือดประหลาดสีดําทั้งหลายในเมืองก็เริ่มระเหยเลือนหายไปเช่นกัน
“พวกเราต้องไปจากเขตแดนอ้างว้างแห่งนี้! ที่นี่อันตรายเกินไป!” เจี้ยนสือเทียนกล่าว
ฉินหยุนเองก็คิดอยากกลับไปโดยเร็ว เพื่อมุ่งหน้าไปยังตระกูลหลงหาทางช่วยเหลือสื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อให้พ้นจากคําสาป
คณะคนเร่งรีบออกพ้นจากเมืองภูตผีต้องห้าม ก่อนจะมุ่งหน้าไปสู่ทางออกเขตแดนอ้างว้าง
ฉินหยุนตอนนี้รู้สึกผ่อนคลายได้มาก เพราะด้วยอยู่บนแผ่นหลังของเจี้ยนหลิงหลง เขาจึงหลับตาพักก่อนจะผล็อยหลับไป