Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 693 โลหิตอสูร
ตอนที่ 693 โลหิตอสูร
ฉินหยุนไม่เคยได้ยินถึงวิชายุทธ์อย่างโทเทมร่างแฝดมาก่อน หลังได้
เห็นกับตาตนเอง เขายังต้องตระหนก
พลังของโทเทมร่างแฝดที่ตูเสินอี้ปลดปล่อยออกมา มันคล้ายกับตนเอง
ออร่านั้นก็มีกำลังทัดเทียมเทียบเท่า
ฉินหยุนเพียงยืนนิ่งไร้การเคลื่อนไหวที่เดิม ถูกล้อมเอาไว้ด้วยตูเสินอี้
ถึงสอง เขายังไม่ทราบว่าควรตอบสนองอย่างไร กระนั้นร่างกายก็
ขยับโดยสัญชาตญาณทะยานขึ้นกลางอากาศ
ตูเสินอี้และร่างแฝดนั้นตอบสนองรวดเร็ว พริบตาจึงกระโดดพรวด
ตามล่าฉินหยุนอย่างใกล้ชิด
“สองตัวนี่… จงรับฝ่ามือ!”
ฉินหยุนบิดร่างกลางอากาศโจมตีลงไปด้วยฝ่ามือเข้าใส่ตูเสินอี้
ห้าฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ พลังงานจากฝ่ามือทั้งห้าโจมตีต่อเนื่อง พวก
มันผสานรวมกับฝ่ามือแรก พลังที่ผสานจึงยิ่งเพิ่มพูน นำพามาซึ่ง
คลื่นพลังรุนแรงระเบิดออก!
ตูเสินอี้และร่างแฝดนั้นกลายเป็นถูกปกคลุมด้วยพลังฝ่ามือ
พร้อมกันนี้ หลิงหยุนเอ๋อจึงปลดปล่อยพลังแรงโน้มถ่วง
เสียงดังบังเกิด ตูเสินอี้และร่างแฝดร่วงหล่นสู่พื้นจากการโจมตีผสาน
พร้อมกันนี้ ฉินหยุนจึงทะยานร่างลงมาประหนึ่งขุนเขาคิดบดขยี้
เขาปลดปล่อยดัชนีทะลวงขุนเขาแยกปฐพีออกมา พลังดัชนีแปร
เปลี่ยนเป็นลำแสงสีดำยิงพุ่งออกจากสองปลายนิ้วที่ประสาน
เป้าหมายโจมตี ย่อมเป็นร่างหลักของตูเสินอี้
ตูเสินอี้สัมผัสได้ถึงพลังดัชนีแกร่งกล้า กระนั้นเขายังอาการสงบ
เพียงนอนกับพื้น อ้าปาก พร้อมส่งเสียงคำรามดังออกมา
จากปากของเขา มันปรากฏหมอกสีดำทะลักแปรเปลี่ยนเป็นเสา
พลังงานสีดำ นำพามาพร้อมอักขระโทเทมพุ่งเข้าปะทะกับพลังดัชนี
ตู้ม!
พลังสีดำสองสายปะทะกันและกัน หมอกสีดำจึงกระจายตัวเข้าปก
คลุมทั้งลานประลองเอาไว้
ลานประลองกว้างใหญ่ กลับกลายเป็นมีหมอกหนาดูชั่วร้ายปกคลุม
ทำเอาผู้อื่นที่ภายนอกไม่อาจพบเห็นเรื่องราวภายใน
เจี้ยนสือเทียนลอยตัวอยู่เหนือลานกว้าง เขาขมวดคิ้วมองลงตรวจสอบ
สถานการณ์
เพียงไม่นาน หมอกสีดำจึงค่อยเลือนหาย พร้อมกันนี้ ตูเสินอี้และร่าง
แฝดเร่งรีบปล่อยหมัดโจมตี อัดแน่นพลังงานเอาไว้ในหมัดแปรเปลี่ยน
เป็นภาพจำแลงอสูรชวนสะพรึง
“เป็นวิชายุทธ์โทเทม!” ฉินหยุนได้เห็นร่างจำแลงอสูร ภายในมันอัด
แน่นด้วยอักขระโทเทมอสูร ภายในใจเวลานี้ต้องกลับกลายเป็นหนัก
อึ้ง
พลังงานหมัดนี้แทบปกคลุมฟากฟ้าและผืนดิน ราวกับมันคิดเข้า
กลืนกินฉินหยุน
ฉินหยุนพลันคำรามร้อง ใช้เสียงคำรามราชสีห์สวรรค์
เสียงคำรามเป็นของสัตว์ร้ายโบราณ มันพร้อมเขย่าหัวใจและจิต
วิญญาณผู้คน
เสียงคำรามราชสีห์สวรรค์เกิดเป็นคลื่นเสียงที่มาพร้อมพลังแห่งความ
เที่ยงธรรม มันเข้าสะท้านสะเทือนต่อหมัดพลังงานอสูรรุนแรงจน
กระจายหาย
ถัดจากนั้น ร่างเงากรงเล็บราชสีห์สวรรค์จึงปรากฏที่แขนของฉินหยุน
สิ่งนี้คือกรงเล็บราชสีห์สวรรค์
ฉินหยุนปลดปล่อยวิชายุทธ์โทเทม พุ่งเข้าปะทะตูเสินอี้และร่างแฝด
เมื่อครู่ ตูเสินอี้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวต่อเสียงคำรามของฉินหยุน
กระนั้น เมื่อคิดถึงความจริงที่ตนครอบครองโลหิตอสูร เขาจึงยังคง
ความมั่นใจเอาไว้
เขาควบคุมร่างแฝดผสานรวมกับตนเอง บุกโจมตีใส่ฉินหยุนผู้ซึ่งคิด
พุ่งเข้าปะทะ
หลังจากที่ตูเสินอี้ทั้งสองพุ่งเข้าหา ทั้งสองร่างนั้นพร้อมใจโจมตีฉิน
หยุนต่อเนื่อง คลื่นพลังงานรุนแรงทะลักออกราวกับเสียงฟ้าคำราม
จากสวรรค์สะท้านสะเทือนดังก้องทั่วทิศ เกิดขึ้นเป็นการศึกครั้งตึง
เครียดขึ้นมา
“ฉินหยุนแทบไม่เคยใช้วิชายุทธ์โทเทม ครั้งสู้กับข้าเขายังไม่ใช้มัน
ด้วยซ้ำ!” เจี้ยนหนันหู่มองจากเบื้องล่างลานประลองพร้อมกัดฟัน
“เป็นเขาปรามาสต่อข้าอย่างนั้นหรือ?”
เปาเฉิงโฉ่วหัวเราะ “เขาจงใจเก็บซ่อนเอาไว้ต่างหาก ฉินหยุนมักเป็น
เช่นนี้ เขาไม่เผยพลังแท้จริงของตนเองให้ผู้อื่นรู้โดยง่ายมาแต่ไหน
แต่ไร!”
“เจ้าหมอนี่ ยังมีพลังอันเหนือล้ำใดซุกซ่อนเอาไว้อีกกันแน่?” เจี้ยน
หนันหู่กำหมัดตนเองแน่น “เมื่อใดได้เผชิญหน้า ข้าย่อมต้องบีบบังคับ
ให้เขารีดเร้นทุกสิ่งที่มีออกมา!”
สภาพของฉินหยุนตอนนี้ มันไม่ต่างเผชิญหน้าศัตรูถึงสองคนที่มี
กำลังไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน กระนั้น เขาก็ยังสามารถต้านรับ ด้วย
กำลังระดับนี้ มันทำเอาหลายคนต้องรู้สึกนึกทึ่ง
ตูเสินอี้ไม่อาจบดขยี้ฉินหยุนในพริบตาได้ เพราะเมื่อต่อสู้กับฉินหยุน
เขารับรู้ได้ถึงกำลังของตนเองไม่เพียงพอที่จะสร้างอาการบาดเจ็บใด
แก่ฉินหยุน นี่ถือเป็นสถานการณ์ที่ตัวเขายังยากเข้าใจว่าเป็นไปได้
อย่างไร
ร่างกายฉินหยุนได้รับการปกป้องโดยพลังแห่งความเที่ยงธรรม นับ
เป็นเรื่องธรรมดาที่พลังอสูรของตูเสินอี้จะไม่อาจรุกล้ำสู่ร่างกายของ
ฉินหยุน
ด้วยเหตุนี้ รับมือกับตูเสินอี้ ฉินหยุนจึงไม่ต่างอะไรกับผู้ไร้เทียมทาน
ตูเทียนตี้รับชมการศึกจากระยะไกล เขายังพบว่าเรื่องราวชวนให้ต้อง
สงสัย เพราะเมื่อเทียบการฝึกฝน พละกำลังของตูเสินอี้เทียบเท่าร่าง
เซียนที่ฝึกฝนโลหิตเซียน
ก่อนหน้านี้ หานอี้หล่ายจากหุบเขาเซียนโอสถยังสะกดข่มฉินหยุน
จนอยู่หมัด
แต่แล้วผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ฉินหยุนถึงขั้นสามารถมีกำลังต้านรับ
ศิษย์โลหิตอสูรได้อย่างไร? เรื่องนี้ทำเอาผู้อาวุโสครึ่งเซียนหลายคน
ต่างต้องคิดว่าเรื่องราวยากเกินเข้าใจได้
“ตูเสินอี้ เจ้ามัวทำอะไร? เร่งรีบสังหารมันเสีย!” ตูเทียนตี้พลันตะโกน
ดังอย่างร้อนใจ
ตูเสินอี้ทั้งสองร่างย่อมร้อนใจไม่ยิ่งหย่อน การโจมตีของพวกเขาทั้ง
สองยิ่งมายิ่งดุดัน
ฉินหยุนเผชิญหน้าต้านรับตูเสินอี้ ต้องต้านรับการโจมตีเหล่านั้น
สำหรับเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย บางครั้งเขายังป้องกันพลาด ร่างกายจึง
ได้รับอาการบาดเจ็บจากหมัดและฝ่ามือที่โจมตีใส่ กระนั้นก็ไม่ใช่
อาการบาดเจ็บร้ายแรงอันใด
นั่นเป็นเพราะพลังแห่งความเที่ยงธรรมได้สกัดขวางเอาพลังอสูรของ
ตูเสินอี้เอาไว้ได้
ด้วยเหตุนี้ พลังของตูเสินอี้ที่โจมตีใส่ร่างของฉินหยุน มันจึงเป็นพลัง
เฉพาะของร่างกาย ด้วยร่างราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำของฉินหยุน มันจึง
แทบไม่อาจทำอันตรายร้ายแรงใดได้
ฉินหยุนตอนนี้ค่อยได้ยืนยันเช่นกัน ว่าพลังของผู้ฝึกตนอสูรเช่นตู
เสินอี้แทบไม่นับเป็นภัยคุกคามใดต่อตัวเขา ทั้งหมดนี้เป็นเพราะ
ความเลิศล้ำของพลังแห่งความเที่ยงธรรม
“ตำหนักโทเทมคือสำนักอันชั่วร้าย ไม่ช้า ข้าจะกำจัดกวาดล้างไปให้
หมด!” ฉินหยุนมองทางตูเสินอี้พร้อมกล่าวเสียงเย็นภายในใจ
“เสี่ยวหยุน ทำลายร่างแฝดนั่นเสีย!” หลิงหยุนเอ๋อตะโกนบอก
เพราะตูเสินอี้ไม่อาจสะกดฉินหยุนเอาไว้ เขาจึงจมดิ่งสู่สภาวะกลืน
ไม่เข้าคายไม่ออก อาการใจเย็นของเขาก่อนหน้าเริ่มเลือนหาย แทนที่
ด้วยเสียงคำรามร้องคลุ้มคลั่ง ร่างกายต้องเผยออร่าสีดำทะลักออกไม่
หยุด
นี่ถือเป็นจุดอ่อนร้ายแรงของผู้ฝึกตนอสูร พวกเขาพร้อมสูญเสีย
สภาวะจิตใจโดยความคิดอันชั่วร้ายที่เข้าครอบงำ
ตูเสินอี้ทั้งสองเกิดคลุ้มคลั่ง พวกมันโจมตีฉินหยุนอย่างไม่สนอื่นใด
ฝ่ามือกวัดแกว่ง เสียงคำราม ริมฝีปากหอนดัง
ฉินหยุนโคจรพลังแห่งความเที่ยงธรรม รุกคืบต่อยร่างแฝด จากนั้น
จึงส่งฝ่ามือโจมตีรุนแรงร่างแฝดนั้น
พลังฝ่ามือที่ถ่ายเทสู่ร่างแฝดได้ทะลักออกซึ่งแสงสีขาว ฉีกกระชาก
ร่างแฝดจากโทเทมของตูเสินอี้กระจายหาย
หลังจากที่โทเทมแฝดหยุดทำงาน ตูเสินอี้ยิ่งคลุ้มคลั่ง เส้นผมยาว
มากขึ้น ร่างกายเคลื่อนไหวอย่างไม่อาจควบคุมทิศทาง ดวงตาแปร
เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ผิวหนังทั้งร่างถูกปกคลุมด้วยพลังงานอสูรสีดำ
ดูชั่วร้าย
“ตูเสินอี้ สงบใจลงเดี๋ยวนี้!” ตูเทียนตี้ตะโกนดัง
ตูเสินอี้สูญสิ้นสติไปแล้ว เวลานี้ไม่ต่างอะไรกับสัตว์อสูร หมัดต่อย
ออกใส่ฉินหยุนอย่างไม่อาจควบคุม
ไม่มีผู้ใดคาดคิด ว่าสถานการณ์จะดำเนินมาจนเป็นเช่นนี้ได้
ราชันแคว้นเยี่ยกล่าวคำ “ฉินหยุนมีกำลังเพิ่มขึ้นมหาศาลเพียงนี้อย่าง
กะทันหันได้อย่างไรกัน? เขาถึงขั้นสามารถสังหารร่างแฝดของตูเสิน
อี้ได้!”
“นี่มันเรื่องบ้าอะไร? ย้อนกลับไปตอนฉินหยุนสู้กับหานอี้หล่าย
ตอนนั้นเป็นมันด้วยซ้ำที่ถูกทำร้ายจนสภาพไม่เหลือชิ้นดี! ตูเสินอี้
ของตำหนักโทเทมเรา ไม่มีทางที่อ่อนด้อยไปกว่าหานอี้หล่ายคน
นั้น!” ตูเทียนตี้กำหมัดแน่นกล่าวอย่างร้อนรน
เพราะสถานการณ์ตอนนี้ สำหรับตูเสินอี้แล้วถือเป็นอันตรายยิ่ง
แรกเริ่ม ผู้คนต่างมั่นใจว่าฉินหยุนต้องถูกตูเสินอี้บดขยี้ กระนั้นเวลา
นี้ ผลลัพธ์กลับกลายเป็นตรงกันข้าม
ที่ชวนให้เหลือเชื่อมากที่สุด ก็คือตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ ตูเสินอี้ไม่
อาจทำร้ายฉินหยุนอย่างเป็นรูปธรรมได้เลย
เจี้ยนรั่วหยานในตอนแรกก็ร้อนรน แต่เมื่อนึกได้ว่าฉินหยุนจงใจ
เลือกคู่ต่อสู้เช่นตูเสินอี้ นางจึงค่อยวางใจ
ตู้ม!
ตูเสินอี้คลุ้มคลั่งพุ่งปะทะใส่ฉินหยุน หมัดนั้นทะยานออกซึ่งหน้า
พลังของหมัดรุนแรง กระนั้นก็ทำได้เพียงให้หน้าของฉินหยุนหันไป
เล็กน้อยเท่านั้น
ตอนนี้ ฉินหยุนไม่แม้แต่คิดหลบเลี่ยง เขาปล่อยให้ตูเสินอี้ได้โจมตี
ตนเอง นั่นก็เพราะพลังของตูเสินอี้แทบไม่นับเป็นภัยคุกคามใดต่อ
เขาได้อีก
“เสี่ยวหยุน ก่อนหน้านี้ เจ้ากลืนกินโลหิตเซียนของหานอี้หล่าย และ
ตรงหน้าเจ้าตอนนี้คือโลหิตอสูร กลืนกินมันเป็นอย่างไร? มาทดสอบ
กันว่าเจ้าสามารถฝึกฝนร่างเซียนอสูรได้หรือไม่!” หลิงหยุนเอ๋อยิ้ม
กล่าว
“ร่างเซียนอสูร?” ฉินหยุนนึกย้อนถึงเซี่ยฉีโหรว
เป็นที่ทราบ ว่าเพราะเซี่ยฉีโหรวฝึกฝนร่างเซียนอสูร ดังนั้นจึงเกิด
เรื่องราวหลายอย่างตั้งแต่ครั้งนั้น
“ได้!”
ฉินหยุนเดิมคิดทำให้ตูเสินอี้กลับกลายเป็นชิ้นเนื้อ แต่หลังได้ยินคำ
ของหลิงหยุนเอ๋อ เขาจึงเปลี่ยนใจ
“ฉินหยุน ข้าจะกินเจ้าทั้งเป็น!”
ตูเสินอี้ที่ดุร้ายคลุ้มคลั่งเผยยิ้มสยดสยอง หมัดต่อยเข้าใส่ฉินหยุนไม่
หยุดยั้ง แต่แล้ว หมอกสีดำที่ปลดปล่อยจากร่างได้แปรเปลี่ยนเป็น
เชือกพันธนาการร่างฉินหยุนเอาไว้
แขนของฉินหยุนถูกกัด กระนั้นเมื่อตูเสินอี้รับรู้ได้ถึงพลังแห่งความ
เที่ยงธรรมในเลือดของเขา มันกลายเป็นราวกับกัดเข้าใส่มวลอัคคี
ร้อนแรงที่แผดเผา
พร้อมกันนี้ ฝ่ามือฉินหยุนได้ทะลวงสู่ร่างตูเสินอี้ประหนึ่งมีดอัน
แหลมคม
หลิงหยุนเอ๋อใช้โอกาสนี้ปล่อยพลังกลืนกิน ทำการสูบเอาโลหิตอสูร
ในร่างตูเสินอี้ ผนึกพวกมันไว้ในแก่นเต๋าตะวันทมิฬ กระทั่งโทเทม
อสูรก็ถูกชิงเอามา
“พี่หยุน เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?” เจี้ยนรั่วหยานพอได้เห็นฉินหยุนถูก
กัด นางจึงตะโกนถามอย่างห่วงหา
ร่างกายฉินหยุนถูกปกคลุมด้วยหมอกสีดำ ผู้อื่นที่ภายนอกไม่อาจได้
เห็นว่ามือของเขาทะลวงร่างตูเสินอี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ฉินหยุนจบสิ้นแล้ว!” ตูเทียนตี้เผยเสียงหัวเราะดัง “ตูเสินอี้ เจ้าปลิด
ชีพมันได้งดงามนัก!”
แต่แล้ว คำเพียงกล่าวจบ ตูเสินอี้และฉินหยุนจึงปรากฏ!
แม้ฉินหยุนถูกกัด ทว่าสภาพยังคงอยู่ดีสมบูรณ์
อีกทางหนึ่ง ใบหน้าของตูเสินอี้ซีดเซียวราวคนตาย
ตูเสินอี้ที่ผิวหนังทั้งร่างกายเป็นสีดำเมื่อครู่ เวลานี้กลับกลายเป็นซีด
ขาว นี่หมายความถึงเขาไร้ซึ่งชีวิตแล้ว!
“ตูเสินอี้… นี่เจ้าเป็นอะไรไป!” ตูเทียนตี้ผู้ซึ่งกำลังหัวเราะ กลับกลาย
เป็นต้องอ้าปากค้างเผยสีหน้าตื่นตะลึงร้องตะโกนเสียงดัง
ฉินหยุนเร่งรีบพุ่งทะยาน โจมตีออกด้วยห้าฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์
ปลดปล่อยอัคคีเพลิงสีดำทะลักออก เผาไหม้ร่างตูเสินอี้ด้วยอัคคีสีดำ
จนมอดไหม้
ตูเสินอี้ ผู้ซึ่งฝึกฝนโลหิตอสูร เวลานี้ได้สิ้นชีพลงอย่างไม่หลงเหลือ
แม้แต่ศพ!
กระทั่งผู้คนจากแคว้นมังกรทะยานฟ้ายังต้องตื่นตะลึงภายในใจยาม
ได้เห็น เพราะพวกเขารู้สึก ว่ากำลังของตูเสินอี้นั้นไม่เลว
แต่แล้ว เขากลับต้องพ่ายแพ้ต่อฉินหยุน!
เจี้ยนหนันหู่ยิ่งสงสัยต่อพลังแท้จริงที่ฉินหยุนเก็บงำเอาไว้มากขึ้น
ตูเทียนตี้ได้แต่ยืนนิ่งงงงัน ความโกรธสุมอัดภายใน ร่างกายต้อง
ทะลักล้นออกด้วยพลังอสูรรุนแรง
ศิษย์ที่เลิศล้ำจากตำหนักโทเทมทั้งสองคนของเขาต้องสิ้นชีพที่นี่!
สำหรับตำหนักโทเทม นี่ถือเป็นความเสียหายครั้งร้ายแรง
เปาเฉิงโฉ่วและเจี้ยนสือเทียนรู้สึกว่าเรื่องราวเกินคาดคิด เพราะพวก
เขาต่างคิดกันไปแล้ว ว่าฉินหยุนต้องมีสภาพย่ำแย่บาดเจ็บสาหัสดัง
เช่นครั้งก่อน
แต่แล้วตอนนี้ ฉินหยุนไม่เพียงแต่เอาชนะตูเสินอี้ เขายังไม่แม้แต่จะ
บาดเจ็บ นี่เรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ประการหนึ่งแล้วด้วยซ้ำ!
ฉินหยุนก้าวเดินลงจากลานประลอง ใบหน้าเผยรอยยิ้มอ่อนรับผู้คน
ตูเทียนตี้คำรามดังแต่ไกล “ฉินหยุน ด้วยกำลังของเจ้าไม่มีทางเอาชนะ
โลหิตเซียนหรือโลหิตอสูรได้! เจ้าใช้อุบายใดเอาชนะมากันแน่?!”