Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 675 วิญญาณดวงดาว
ตอนที่ 675 วิญญาณดวงดาว
ฉินหยุนย่อมทราบ ว่าหากเกิดความผิดพลาดระหว่างฝึกฝนพระสูตร
หัวใจตะวันจันทรา ผู้ที่มีระดับการฝึกฝนต่ำกว่าจะเป็นผู้แบกรับ
อาการบาดเจ็บร้ายแรงที่สุด
ด้วยระดับการฝึกฝนเช่นปิ งชิง กระทั่งว่าทำผิดพลาด มันก็แทบไม่
นับเป็นอะไร
เวลานี้ ภายในใจของฉินหยุนอัดแน่นด้วยความตื่นเต้นขณะยื่นฝ่ามือ
ออกไป
ปิงชิงคว้าฝ่ามือทั้งสองเอาไว้ พร้อมประกบนิ้วของเขาและนางเข้า
ด้วยกัน
ฉินหยุนเกิดมึนงง เห็นได้ชัดว่าปิงชิงใช้พลังเยือกแข็งเป็นหลัก กระนั้น
ยามสัมผัส มือของนางกลับอบอุ่น การสัมผัสอยู่ตลอดมันให้ความ
รู้สึกทั้งนุ่มและสบาย มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากภาพลักษณ์อันเย็น
เยือกของตัวนาง
“ฉินหยุน หลับตาลง อย่าได้คิดอื่นใด! การฝึกฝนร่วมกับข้าที่นี่ มัน
แตกต่างจากการฝึกฝนร่วมกับผู้อื่นทั้งหมดที่เจ้าเคยประสบมา!”
น้ำเสียงปิงชิงเผยอาการสงบ “เจ้าและข้ากำลังฝึกฝนจิตร่วมกัน เจ้า
ต้องให้ความร่วมมือกับข้า!”
ฉินหยุนเป็นกังวล ว่าพวกเขาอาจจะเกิดอะไรผิดพลาดเพราะปิงชิง
เข้าใจในตัวเขาผิด ถึงตอนนั้น นางจะยิ่งเกลียดชังเขามากขึ้น
โชคยังดี เป็นเพราะความอบอุ่นผ่านฝ่ามือของปิงชิงที่ได้รับมา ทำ
ให้ความกังวลภายในของเขาเลือนหายไปได้
ทีละน้อย ฉินหยุนเริ่มปล่อยตนเองให้เข้าสู่สภาวะว่างเปล่า
เขาพลันหลับใหลอย่างรวดเร็ว
ยามเมื่อตื่นขึ้น จึงได้พบว่าตนเองอยู่ในพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็ง
สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่ กว้างขวางเสียยิ่งกว่าตำหนักพระราชวังเซียน
ยุทธภัณฑ์
“ที่นี่… ที่ใดกัน?” ฉินหยุนที่ลืมตาขึ้น จึงต้องเอ่ยถามอย่างสับสน
“เป็นมิติมายาของข้า!” ปิงชิงคว้าจับที่มือของเขาเอาไว้อย่างนุ่มนวล
“สงบใจลง พวกเราเข้าสู่สภาวะการฝึกฝนร่วมสำเร็จแล้ว”
“จริงหรือ? วิเศษนัก!” ฉินหยุนรู้สึกยินดีพลางยิ้มกล่าว “พี่สาวปิงชิง
นี่คล้ายท่านยอมเชื่อใจข้าจากก้นบึ้งของหัวใจท่านแล้ว!”
“อย่าได้ใจเกินไปนัก ข้าเพียงต้องการช่วยเหลือเจ้าเลื่อนระดับเพื่อไป
ช่วยเหลือหยางฉีเย่ว์!” ปิงชิงกล่าว “ให้ข้าช่วยเจ้าควบคุมพลังดวงดาว
เพื่อเสริมพลังให้แก่จิตผลึกแก้วดวงดาวของเจ้า!”
ฉินหยุนไม่ทราบว่าเพราะอะไร ทว่าเขายินดียิ่งนักที่สามารถฝึกฝน
ร่วมกับปิงชิงได้ อย่างน้อย มันก็หมายความถึงปิงชิงเชื่อใจเขาระดับ
หนึ่งแล้ว
ความเชื่อใจจากผู้ที่ไม่เคยเชื่อ เป็นสิ่งที่ยากได้รับมา
ฉินหยุนสงบใจลง ไม่ถามอื่นใดออกมา เขาเพียงร่วมมือกับปิงชิง
ปล่อยให้นางได้ควบคุมการชักนำพลังดวงดาว
หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “เสี่ยวหยุน นี่คล้ายดังเจ้ากำลังเดินในความฝัน!
เขตแดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์คือแดนมายาแห่งความฝัน เช่นนี้
ด้วยเขตแดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์ เจ้าจึงสามารถข้ามมายังแดน
แห่งความฝันของปิงชิง นี่ถือเป็นสภาวะที่ลึกลับยิ่ง มันทำให้จิตของ
เจ้าได้รับประสบการณ์อย่างลึกล้ำ!”
“ฟังดูซับซ้อน และข้าก็ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย แต่โดยสรุปแล้วก็ไม่ใช่
เรื่องแย่ถูกไหม?” ฉินหยุนถามกลับ
“ย่อมไม่ใช่เรื่องแย่อยู่แล้ว!” หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะตอบ “เสี่ยวหยุน
บางทีพี่สาวปิงชิงผู้นี้อาจมีความรู้สึกพิเศษต่อเจ้า เพราะแบบนั้นนาง
จึงเชื่อใจเจ้าถึงเพียงนี้! เจ้าสามารถทดลองดูได้ ว่าตัวเจ้าจะสามารถ
คว้าใจนางมาครองได้หรือไม่!”
“อย่าได้พูดกล่าวไร้สาระไป เพราะข้าสามารถได้รับความเชื่อใจจาก
เย่ว์หลานและพี่หยาง ดังนั้นพี่สาวปิงชิงจึงยอมเชื่อในตัวข้า หาได้มี
ความรู้สึกเช่นนั้นเข้ามาข้องเกี่ยวไม่!” ฉินหยุนกล่าว
“ข้าจะรอดู!” หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะรับ
ฉินหยุนไม่คิดเชื่อ ว่าปิงชิงจะมีความรู้สึกอื่นใดให้แก่เขา เพราะตัว
เขาได้สร้างความผิดร้ายแรงต่อปิงชิงเอาไว้ อย่างไรแล้ว ชาติภพก่อน
เขาทำร้ายนางอย่างสาหัส เป็นผลให้นางต้องถูกผนึกมาเป็นเวลา
ยาวนานยิ่ง
แม้ฉินหยุนอยู่ในเขตแดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์ ทว่าด้วยวิธีการ
พิเศษ ทำให้เขาสามารถเข้ามายังมิติมายาของปิงชิง ทั้งยังสามารถ
ดูดกลืนพลังดวงดาวปริมาณมหาศาลได้
แก่นเต๋าดวงดาวและเม็ดยาลึกล้ำวิญญาณต้นกำเนิด พวกมันคือแหล่ง
พลังงานมหาศาลที่ไหลหลั่งเข้าสู่จิตผลึกแก้วดวงดาวของฉินหยุน
“ฉินหยุน เพราะข้าอยู่ที่บรรทมเซียนตะวันจันทรา และเจ้าได้เข้าสู่
มิติมายาของข้า มันเทียบเท่ากับการได้อยู่ภายในมิติกาลอวกาศตะวัน
จันทรา มันจะส่งผลทำให้เจ้าได้รับเวลาการฝึกฝนเพิ่มมากขึ้น!” ปิง
ชิงกล่าว
“วิเศษนัก!” ฉินหยุนอุทานชื่นชมพร้อมยิ้มตอบ ตัวเขาเวลานี้ค่อย
ตระหนักได้ ว่าปิงชิงกำลังช่วยชี้นำพลังจิตให้แก่ตนเอง
ที่ทำเขาตกใจยิ่งกว่า ก็คือพลังงานแหล่งที่สามซึ่งกำลังถ่ายเทเข้าสู่จิต
ผลึกแก้วดวงดาว!
นอกจากแก่นเต๋าดวงดาว และเม็ดยาลึกล้ำวิญญาณต้นกำเนิด มันยังมี
พลังจิตอันเลิศล้ำอีกหนึ่ง มันคล้ายคลึงพลังดวงดาว ทว่าแข็งแกร่งยิ่ง
กว่าพลังดวงดาว
ฉินหยุนพบว่าแปลก หลิงหยุนเอ๋อพลันอุทานดัง “เสี่ยวหยุน พี่สาว
ปิงชิงผู้นี้ไม่ใช่คน!”
“หยุนเอ๋อ เจ้าว่าอะไร? แม้พี่สาวปิงชิงเกลียดชังตัวข้าในชาติภพก่อน
กระนั้นตอนนี้นางก็ดีต่อข้านัก!” ฉินหยุนกล่าวตอบ
“ที่ข้าหมายถึง นางไม่ใช่มนุษย์!” หลิงหยุนเอ๋อคล้ายพบเจออะไร
บางอย่างเข้า นางทั้งตื่นเต้นและยินดีเป็นล้นพ้น “อย่าได้บอกว่าเจ้า
ไม่ทราบถึงพลังงานที่สามอันแปลกประหลาดนี้?”
“มันแปลกก็จริง แต่สมควรเป็นพลังดวงดาว พี่สาวปิงชิงน่าจะแปร
สภาพจิตของตนเองเป็นดวงดาวหรือจันทรากระมัง? พลังจิตของ
นางจึงมีตัวตนเช่นนี้ ไม่คล้ายมีอันใดแปลก!” ฉินหยุนตอบคำ
“ไม่ ไม่ใช่ หากจิตแปรเปลี่ยนเป็นดวงดาวหรือจันทรา อย่างนั้นมัน
จะไม่มีทางเป็นเช่นนี้! พลังจิตของนางมาพร้อมกับพลังดวงดาวที่
แกร่งกล้า! เจ้าทราบหรือไม่ว่ามันหมายความถึงอะไร?” หลิงหยุน เอ๋
อกล่าว “เช่นกัน แกนกลางดวงดาวที่เจ้าได้รับมาก่อนหน้า เป็นนาง
ดัดแปลงมันอย่างง่ายดาย ทำให้ตอนนี้สามารถปลดปล่อยพลังเยือก
แข็งออกมาได้!”
ฉินหยุนคิดตาม พบว่าเรื่องราวแปลกจริงดังคำอธิบาย เขาพลันถาม
“อย่างนั้นแล้วนี่หมายความถึงอะไร?”
“พี่สาวปิงชิงผู้นี้เป็นวิญญาณดวงดาว!” หลิงหยุนเอ๋อโพล่งเสียงดัง
อย่างไม่อาจอดกลั้น “นางก็เป็นดังข้า! พวกเราจัดได้ว่าคล้ายคลึงกัน!”
ฉินหยุนพลันเผยสีหน้าโง่งมยามได้ยิน เขาถาม “แต่หยุนเอ๋อ เจ้าไม่
สามารถออกจากมิติมายาของข้าได้!”
“เพราะข้าคือวิญญาณเต๋าของวิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬ พี่สาวปิงชิง
ของเจ้าผู้นี้ นางเป็นวิญญาณดวงดาวของดวงดาวบนฟากฟ้า เป็นนาง
ฝึกฝนจนสำเร็จและกลายเป็นผู้คนเช่นนี้!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “ดวง
ดาวที่ให้กำเนิดนาง สมควรเป็นดวงดาวน้ำแข็ง!”
*ชื่อของ ปิงชิง ประกอบด้วยคำว่า ดวงดาว และ น้ำแข็ง*
ฉินหยุนพิจารณาตาม ขณะนี้กลับกลายเป็นต้องอึ้ง
“นอกจากนี้แล้ว ดวงดาวน้ำแข็งนั่นย่อมต้องไม่ใช่ธรรมดา มันยัง
สมควรอยู่บนฟากฟ้านั่น!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “ก่อนหน้านี้ นางมอง
หยามเหยียดต่อจอมราชันดวงดาวอสูร ก็เพราะนางคือวิญญาณดวง
ดาวที่แกร่งกล้าอย่างยิ่ง!”
“โดยสรุปก็คือ นางเป็นตัวตนที่เหนือล้ำกว่าใช่หรือไม่?” ฉินหยุน
ถามกลับ
“เดิมสมควรแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ทว่าวิญญาณดวงดาวนั้นเป็นตัวตนที่
หาได้ยากยิ่งนัก โดยเฉพาะกับวิญญาณดวงดาวที่ทรงพลังอำนาจ
พวกมันมักเป็นเป้าหมายของผู้แข็งแกร่งจนถูกไล่ล่า นางกล่าวว่า
พลังของนางอ่อนลง หรือก็คือ ดวงดาวของนางได้ถูกทำลายหรือถูก
ผนึกเอาไว้!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
ฉินหยุนกลายเป็นเกิดความดำมืดขึ้นภายใน เขารู้สึกว่านั่นอาจเป็น
ชาติภพก่อนของเขาที่ไปก่อเรื่องเอาไว้
“ที่แดนวิญญาณอ้างว้างแห่งนี้ สามารถค้นหาดวงดาวของนางได้
หรือไม่?” ฉินหยุนถาม
“วาจาเจ้าช่างไร้สาระนัก! นางเป็นผู้มาจากแดนเซียนอ้างว้าง ดวงดาว
ของนางก็สมควรเป็นของแดนเซียนอ้างว้าง” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
“เจ้าจะเข้าใจเองยามได้ไปยังแดนเซียนอ้างว้าง!”
ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัย สายตาเวลานี้หันมองไปยังร่าง
เซียนงดงามของปิงชิง
ปิงชิงเองก็มองมา สีหน้าของนางเย็นเยือก
“พี่สาวปิงชิง… ท่านเป็นวิญญาณดวงดาว?” ฉินหยุนพลันเอ่ยถามขึ้น
“เจ้า… นี่เจ้าทราบได้อย่างไร?” ปิงชิงตื่นตะลึงถึงขนาดร่างกายอด
ไม่ได้ที่จะเผยอาการสะท้าน “แม้เป็นตัวเจ้าในชาติภพก่อนก็ไม่ทราบ
เรื่องนี้!”
ฉินหยุนพลันโล่งใจ อย่างน้อยตัวเขาในชาติภพก่อนก็ไม่ได้ทำอันตราย
ใดต่อดวงดาวของปิงชิง
“ข้า… ข้าเพียงคาดเดา!” ฉินหยุนตอบกลับ “พลังดวงดาวของท่าน
คล้ายคลึงกับพลังแกนกลางดวงดาวของจอมราชันดวงดาวอสูร แม้ว่า
นั่นจะเป็นวิญญาณดวงดาวอสูรก็ตาม”
“เจ้ารู้เรื่องของวิญญาณดวงดาวเพียงใด?” ปิงชิงเร่งรีบถาม
“เรื่องนี้ ข้าไม่ขอปิดบังต่อท่าน ข้าทราบอักขระดวงดาวและจันทราดี
ไม่น้อย และพวกมันเหล่านั้นข้าได้รับจากสำนัก นามคือประตูจารึก!”
ฉินหยุนกล่าว “ครั้งนั้น ข้ายังได้ทราบอีกหลายเรื่องของวิญญาณดวง
ดาว! พี่สาวปิงชิง ท่านมีดวงดาวอยู่บนฟากฟ้าใช่หรือไม่?”
“ดวงดาวนั้นหายไปแล้ว ไม่เช่นนั้น ข้าคงแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้!” ปิงชิง
กล่าว
“มันหายไปได้อย่างไรกัน?” ฉินหยุนน้ำเสียงเจื่อนเอ่ยถาม
“ข้าไม่ทราบ โดยสรุป หลังดวงดาวนั้นถูกค้นพบ จึงตกกลายเป็น
เป้าหมายของหลายผู้คน เพราะดวงดาวขนาดใหญ่มาก ข้าจึงไม่ทราบ
ว่าจะเก็บซ่อนมันได้อย่างไร และกระทั่งว่าข้าเก็บซ่อน สุดท้ายมันก็
ต้องถูกค้นพบ!”
“ครั้งที่ข้าถูกผนึก การเชื่อมต่อกับมันได้ถูกทำลาย กระนั้น ข้าก็ทราบ
ว่าดวงดาวของข้ายังคงอยู่ในมวลหมู่ดาวของแดนเซียนอ้างว้าง!”
ปิงชิงพอกล่าวถึงเรื่องนี้ ดวงตาของนางต้องเศร้าหมองไม่ใช่น้อย
“มีคนซ่อนมันเอาไว้หรือ?” ฉินหยุนได้เห็นความเศร้าหมองในดวงตา
ของปิงชิง เขาพลันเกิดความเสียใจตาม
“หากจะมีคนซ่อนดวงดาวของข้าได้ อย่างนั้นมันก็ต้องแข็งแกร่ง และ
ยังจะสามารถหาตัวข้าผ่านดวงดาว บางทีอาจกระทั่งถึงสามารถควบคุม
ข้า ดังนั้นแล้ว ข้าจึงต้องการพลังเซียนเก้าวิวัฒน์เพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น
ข้าจะได้ตัดอำนาจการควบคุมนั่นและนำเอาดวงดาวของข้ากลับคืน
มา!” ปิงชิงกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว
ฉินหยุนถอนหายใจเบากล่าวคำ “หากข้ามีพลังที่เหนือล้ำกว่านี้ ข้าจะ
ไปยังแดนเซียนอ้างว้างเพื่อช่วยเหลือท่าน!”
“เจ้าควรฝึกฝนให้ดี! เมื่อใดเจ้าไปยังแดนเซียนอ้างว้าง เมื่อนั้นเจ้าจะ
มีแต่ปัญหารุมล้อมยิ่งกว่าข้า!” ปิงชิงแค่นเสียงเบากล่าวตอบกลับมา
กาลเวลาผันผ่าน ปิงชิงได้ช่วยเหลือฉินหยุนชี้นำการฝึกฝนพลังจิต
เพียงไม่นาน หนึ่งปีภายในมิติมายาของปิงชิงจึงผ่านพ้น
ปิงชิงขมวดคิ้วกล่าว “เจ้าน่าจะเจออาการตีบตันเข้าแล้ว ส่วนสาเหตุ
ข้าไม่อาจทราบ”
นางปล่อยมือจากฉินหยุนและกล่าว “ทำสมาธิ ตั้งใจให้ดี สัมผัสถึง
สถานการณ์ของตัวเอง!”
ฉินหยุนหลับตาลง เข้าสู่สภาวะลอยล่อง เขามองที่ดวงดาวสีม่วงเป็น
ประกาย มันคือจิตผลึกแก้วดวงดาว ขนาดของมันใหญ่มากขึ้น ทว่า
ยังไม่แปรสภาพกลายเป็นจันทรา
“เสี่ยวหยุน สถานการณ์ของเจ้าค่อนข้างพิเศษ บางทีเจ้าอาจจะต้อง
ใช้ผู้ที่มีวิญญาณยุทธ์จันทราเพื่อชี้นำ จนทำให้มันแปรสภาพเป็น
จันทราได้สำเร็จ!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
“ตอนนี้พลังจิตของข้าเพิ่มขึ้นมากแล้ว กระนั้นก็ยังไม่อาจเปิดไข่มุก
เม็ดที่สามของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน” ฉินหยุนค่อนข้างผิดหวัง เขา
ได้แต่ต้องรอคอยโอกาสหน้า
เขายังคงอยู่ในมิติมายาของปิงชิงต่อ ด้วยอะไรไม่ทราบ เขาหลับไป
เป็นเวลาหลายวัน และตลอดหลายวันนั้น เขาได้ถูกฝังเอาไว้อยู่
ภายในจิตผลึกแก้วดวงดาวของตนเอง
ปิงชิงมองที่ฉินหยุนโดยตลอด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุใด
ระหว่างการฝึกฝน นางจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของฉินหยุนพร้อม
อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้าไปสัมผัส
แม้ที่นี่เป็นมิติมายา กระนั้นสัมผัสกลับสมจริง กระทั่งฉินหยุนยัง
รู้สึกได้ ว่าปิงชิงใช้มือลูบที่ใบหน้าของตนเองอย่างอ่อนโยน
“เสี่ยวหยุน นางช่างร้อนแรงนัก ฮ่าฮ่าฮ่า!” หลิงหยุนเอ๋ออดไม่ได้ที่
จะหัวเราะเบา
“เจ้า! อย่าได้กล่าววาจาไร้สาระ!”
ฉินหยุนไม่คิดเห็นเช่นนั้น ในพริบตา เขาลืมตาขึ้นพร้อมมองที่มือ
ขาวนวลของปิงชิงที่สัมผัสใบหน้าตนเอง
ปิงชิงเร่งรีบถอนมือกลับก่อนจะหันหลังให้ฉินหยุน
“พี่สาวปิงชิง เมื่อครู่นี้… ท่านทำอะไร?” ฉินหยุนไม่ทราบว่าภายใน
ปิงชิงมีความคิดอันใดคงอยู่
“ข้ากำลังตรวจสอบสภาพจิตผลึกแก้วดวงดาวของเจ้า แล้วหลายวัน
มานี้เจ้าพบเจออันใดบ้างหรือไม่?” ปิงชิงเอ่ยถามเสียงเย็นเยียบ