Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 507 การเดิมพันที่บ้าบิ่น
ตอนที่ 507 การเดิมพันที่บ้าบิ่น
แม้ตระกูลหลู่ไม่ทรงอํานาจเท่าตระกูลหยาง แต่อย่างไรแล้วพวกเขา
ก็ยังเป็นตระกูลที่มีสาขากระจายทั่วแดนวิญญาณอ้างว้าง
ตราบเท่าที่ไม่เผชิญหน้ากับห้าตระกูลใหญ่ ศิษย์ของตระกูลหลู่ย่อม
คิดทําตามใจชอบได้อย่างไม่ต้องยี่หระต่อผู้ใด
แต่แล้วขณะนี้ ศิษย์ตระกูลหลู่กําลังถูกเหยียดหยันโดยคนไม่มีหัวนอน
ปลายเท้าผู้หนึ่ง!
นอกจากนี้ เมื่อครู่ศิษย์ของตระกูลหลู่ ก็เพิ่งถูกฉินหยุนลงมือสังหาร!
นี่ถือเป็นการหยามหน้าครั้งร้ายแรง!
เด็กหนุ่มร่างสูงจากตระกูลหลู่ หลู่ชิงถง เผยนํ้าเสียงกราดเกรี้ยวร้อง
บอกต่อฉินหยุน “หาได้สําคัญไม่ว่าเจ้าเหยียดหยามข้าอย่างไร แต่ใน
เมื่อเจ้าอหังการอวดดีต่อหน้าพี่หยาง เช่นนั้นข้าจะสังหารเจ้าเสีย!”
“ยอมรับว่าเป็นสุนัขเสียด้วย!” ฉินหยุนไพล่มือไว้ที่ด้านหลังขณะยิ้ม
เย้ยหยัน
หยางมู่เทียนยิ่งสีหน้าดํามืด “ฉินหยุน กระทั่งว่าเป็นสุนัขข้า ก็ไม่ใช่
อะไรที่เจ้าจะล้อเล่นด้วยได้!”
“จงรีบคุกเข่ากราบกรานขออภัยต่อสุนัขของข้าเสีย ตัวเจ้าหาได้มีอัน
ใดดีเทียบสุนัขของข้าได้ไม่ ดังนั้นเจ้ามีสิทธิ์อะไรไปล้อเขาเล่นได้
เพียงนั้น?”
ทุกคนพอได้ยินคํากล่าวของหยางมู่เทียน พวกเขาถึงกับอึ้ง!
ผู้คนเพิ่งได้เห็นกันเมื่อครู่ ว่าหลู่ชิงถงออกโรงปกป้องหยางมู่เทียน
อย่างสุดตัว!
แต่แล้ว อีกฝ่ ายก็กลายเป็นได้แค่สุนัขตัวหนึ่ง!
กระนั้น ใบหน้าของหลู่ชิงถงก็เผยความภาคภูมิ หากได้เป็นสุนัขของ
หยางมู่เทียน อย่างไรแล้วก็ถือเป็นสิ่งดีงามประการหนึ่งสําหรับเขา!
หยางมู่เทียนคือบุตรหลานตระกูลหยาง และเขายังแข็งแกร่งยิ่ง!
แต่เป็นเพราะโชคร้าย ทําให้เขาไม่อาจเข้าร่วมห้าสํานักดวงดาว
ระดับพลังของเขา ถือว่าผ่านเกณฑ์เฉลี่ยของห้าสํานักดวงดาว หรือ
อาจกระทั่งสูงลํ้ากว่า
แม้ได้เข้าร่วมหอขุนเขาดาบกระบี่ เขาก็ยังคงเป็นตัวตนที่เหนือลํ้า
ภายหน้า เขาย่อมได้กลายเป็นบุคคลสําคัญของตระกูลหยาง!
ได้สร้างคุณงามความดีต่อศิษย์ที่เลิศลํ้าของห้าตระกูลใหญ่ มันเป็น
สิ่งที่บรรดานายน้อยตระกูลชั้นรองล้วนปรารถนาคิดกระทํา!
ด้วยแรงเกื้อหนุนจากศิษย์เลิศลํ้าของห้าตระกูลใหญ่ บรรดาศิษย์ของ
ตระกูลอื่นจะมีหน้ามีตาขึ้นในสังคมได้ภายหน้า กระทั่งอาจยกระดับ
สถานะตัวตนขึ้นมา!
สาเหตุที่หยางมู่เทียนกล่าวออก ก็เพื่อเป็นการยั่วยุฉินหยุน
แต่หากฉินหยุนยอมขออภัยต่อสุนัขของเขาจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็น
เรื่องราวชวนสําราญ!
อย่างไรแล้ว ฉินหยุนก็คือผู้ที่ครั้งหนึ่งตบหน้าเหลียวฉงเจิ้ง
“หยางมู่เทียน สุนัขเจ้าช่างหาญกล้าดีนัก!” เทียนรั่วเหลิงย่อมต้อง
ช่วยเหลือฉินหยุน นางยืนหยัดตรงหน้าพร้อมกล่าวเสียงเย็น “เพียง
ฟันมันครั้งหนึ่ง ข้าก็สังหารมันได้สิ้นซากแล้ว!”
หยางมู่เทียนหัวเราะดังตอบ “แล้วอย่างไร? ฉินหยุนเป็นสุนัขเจ้าหรือ?
เหตุใดเจ้าปกป้องมันเพียงนั้น!?”
“เขาคือสหายข้า!” เทียนรั่วเหลิงคิ้วขมวด สีหน้าขณะนี้ยิ่งดํามืด จิต
สังหารของนางปลดปล่อยออกรุนแรง “หากเจ้ากล้าหาเรื่องสหายข้า
อีกครั้ง ข้ารับประกันว่าเจ้าจะต้องมีจุดจบดังเช่นหลงอวี้เหว่ย! เจ้า
เชื่อหรือไม่ว่าข้าทําได้?”
เทียนรั่วเหลิงสังหารหลงอวี้เหว่ยไปเมื่อครู่ นับเป็นการยั่วยุตระกูล
หลงและตระกูลเทียนของนางเอง ดังนั้นขณะนี้ นางจึงไม่มีอันใด
ต้องหวาดเกรงต่อตระกูลหยาง!
ขณะนี้ กระทั่งหลงอู่เฉินยังไม่กล้ายั่วยุนาง!
เศษเนื้อของหลงอวี้เหว่ยยังคงกองอยู่ ผู้คนพอได้เห็นกองชิ้นเนื้อ ก็
อดไม่ได้ที่จะเผยความสั่นกลัวออก!
หยางมู่เทียนแค่นเสียง “ฉินหยุน เจ้าเพียงกล้าอวดดีได้เพราะมีอุปกรณ์
เต๋า และได้รับการคุ้มครองจากเทียนรั่วเหลิง!”
“เอาอย่างนี้เป็นไร เจ้าต่อสู้อย่างยุติธรรมกับหลู่ชิงถง! หากเจ้าแพ้
และยังรอดชีวิต จงคุกเข่าขออภัยต่อหลู่ชิงถง! และขอให้เทียนรั่ว
เหลิงมอบเขาหมาป่ าทั้งยี่สิบ รวมถึงชุดเกราะเต๋าของเจ้าแก่พวกข้า!”
“หากเจ้าชนะ ข้าจะมอบเขาหมาป่ ายี่สิบอันให้ รวมถึงกล่าวขออภัย
ต่อเจ้าด้วยตัวเอง! ว่าอย่างไรละ?”
“พี่หยาง… เรื่องนี้…” หลู่ชิงถงเหม่อไปครู่ก่อนจะได้สติกลับคืน
พร้อมหันมองทางหยางมู่เทียนด้วยความตื่นตระหนก
ถึงกับยอมวางเดิมพันเขาหมาป่ ายี่สิบเขา และยังรับปากว่าจะขออภัย
ด้วยตนเอง ชัดเจนว่าหยางมู่เทียนเชื่อว่าหลู่ชิงถงสามารถเอาชนะ!
เทียนรั่วเหลิงแค่นเสียง “หยางมู่เทียน เจ้าช่างน่าสมเพชนัก!”
“เป็ นเจ้าคิดใช้เขาหมาป่ าเพียงยี่สิบเขา เพื่อต่อสู้แย่งชิงเกราะเต๋างั้น
หรือ? และคําขอโทษโดยตัวเจ้านับเป็นอะไร? ผู้ใดคิดว่ามันมีค่า? คํา
ขอโทษของเจ้าเทียบเท่าชุดเกราะเต๋าหรืออย่างไร?”
“กระทั่งว่าให้ข้าสับหัวเจ้าออกเป็นแปดส่วน ก็ยังไม่คล้ายจะพอ
เทียบเท่าชุดเกราะเต๋าได้เลยด้วยซํ้า!”
กล้ามเนื้อใบหน้าหยางมู่เทียนกระตุก เขาไม่คิดว่าจะโดนยั่วยุได้
เพียงนี้ สายตาเย็นเยือกของเขากําลังจับจ้องที่เทียนรั่วเหลิง
เสียงตะโกนกราดเกรี้ยวตอบโต้กลับทันควัน “เทียนรั่วเหลิง อย่าได้
คิดว่าเจ้าจะทําตัวหยิ่งผยองได้นานนัก! ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ ชีวิต
เจ้าไม่มีทางอยู่รอดได้เกินหนึ่งปี !”
เทียนรั่วเหลิงหัวเราะดัง “ถูกต้อง ข้าย่อมไม่รอดไปเกินกว่าปี ! เพราะ
เหตุนั้นข้าจึงกล้าสังหารเจ้าอย่างไรเล่า!”
“หากเจ้ามีความกล้า เช่นนั้นจงเข้ามา!”
หลงอู่เฉิน เย่ว์อู่หลัน รวมถึงศิษย์ของตระกูลอื่น เวลานี้ล้วนถอยห่าง
พวกเขาต่างทราบ ว่าการยั่วยุเทียนรั่วเหลิงขณะนี้ไม่ใช่ความคิดที่ฉลาด
กระนั้น หยางมู่เทียนขึ้นหลังเสือแล้วยากจะลง!
หากไม่เกิดการต่อสู้ ก็ได้แต่เป็นสงครามนํ้าลายถ่มใส่กัน
หากต่อสู้ ย่อมต้องมีคนตาย
หยางมู่เทียนจ้องมองหลงอวี้เหว่ย ผู้ซึ่งขณะนี้เป็นเศษซากกองเนื้อ
มนุษย์ ฟันของเขากัดแน่น ชัดเจนว่าเขาไม่กล้าลงมือก่อน!
กระนั้น เขาก็ยังมีหน้าตาที่ต้องรักษา “ฉินหยุน หากเจ้าจัดการหลู่
ชิงถงได้ เจ้าจะได้รับเขาหมาป่ าทั้งสิ้นยี่สิบเขา! นอกจากนี้ ข้ายังจะ
คุกเข่าขออภัยต่อเจ้าด้วย!”
“หากเจ้าแพ้ จงส่งเขาหมาป่ าจํานวนยี่สิบ และกระบี่ลึกลํ้าในมือ
จากนั้นจงขออภัยต่อหลู่ชิงถง เจ้าจะว่าอย่างไร?”
เทียนรั่วเหลิงแค่นเสียง “เจ้ามั่นใจในพลังของหลู่ชิงถงเพียงนั้น?”
ดวงตาของหยางมู่เทียนเปี่ ยมด้วยความเชื่อมั่นขณะมองทางหลู่ชิงถง
“ถูกต้อง! หากฉินหยุนไม่พึ่งพาอุปกรณ์เต๋า หลู่ชิงถงย่อมสังหารมัน
ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว!”
“เช่นนั้นก็จงเข้ามา!” ใบหน้าฉินหยุนเรียบเฉย หาได้เผยสีหน้าใดออก
ขณะนี้เขาส่งชุดเกราะเต๋าและกระบี่ ส่งพวกมันให้เทียนรั่วเหลิง
ฝูงชนพอได้เห็นฉินหยุนส่งมอบชุดเกราะเต๋าแก่เทียนรั่วเหลิงอย่าง
ไม่คิดใดมาก พวกเขาถึงขั้นทราบว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองหาได้
เล็กน้อยไม่!
ฉินหยุนถอดออกกระทั่งเสื้อคลุม เผยออกซึ่งมัดกล้ามแกร่ง มันเป็น
มัดกล้ามที่งดงามได้รูป เป็นเขาต้องการแสดงถึงกําลังที่มีพร้อม
เสน่ห์ที่เหลือล้นของตนเอง
ดวงตางดงามของเย่ว์อู่หลันขณะนี้ มันเผยประกายจับจ้องคล้ายต้อง
มนตร์ ราวกับความคิดของนางสื่อผ่านออกมาสายตา เป็นนางคิดจับ
ฉินหยุนโยนลงพื้นพร้อมกระทําชําเราอีกฝ่ ายให้สาแก่ใจ
การประลองครั้งนี้จะไม่มีการใช้อาวุธ!
หลู่ชิงถงมั่นใจเปี่ ยมล้นว่าสามารถเอาชนะฉินหยุน นอกจากนี้ หยาง
มู่เทียนยังให้ค่าเขาเอาไว้สูงลํ้า ด้วยเหตุนี้ แรงใจของเขาจึงพุ่งทะยาน!
พลังในกายของเขาเปรียบดังปื นใหญ่ มันพร้อมระเบิดปลดปล่อย
ออกแล้ว!
“หลู่ชิงถง หากเจ้าจัดการมันได้ ข้า หยางมู่เทียนผู้นี้ จะขอเป็นพี่น้อง
ร่วมสาบานกับเจ้า!”
คําของหยางมู่เทียน ยิ่งสร้างขวัญกําลังใจแก่หลู่ชิงถง ร่างกายเขา
ขณะนี้ถึงกับเต้นเร่า!
บรรดาศิษย์หลายคนในกลุ่ม ขณะนี้ต่างมองหลู่ชิงถงด้วยความริษยา
ตาร้อนผ่าว!
ได้เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับหยางมู่เทียน ก็เปรียบดังได้ก้าวเท้าขึ้น
สวรรค์ไปข้างหนึ่ง!
หากสําเร็จได้จริง ตําแหน่งของหลู่ชิงถงในตระกูลหลู่ ย่อมต้องพุ่ง
ทะยานขึ้นฟ้า!
เทียนรั่วเหลิงคิดอยากพูดอะไรบ้างเพื่อให้กําลังใจฉินหยุน กระนั้น
นางกลับไม่ทราบว่าควรพูดอันใด อย่างไรแล้ว ฉินหยุนก็ไม่ได้ขาด
แคลนอันใดเลยแม้สักนิด!
ชั่วขณะนี้ ใบหน้างดงามของเย่ว์อู่หลันเผยเสน่ห์ร้อนแรง เสียงอ่อน
นุ่มของนางกล่าวออก “ฉินหยุน หากเจ้าชนะ ข้าจะยอมร่วมหลับนอน
กับเจ้าในงานเทศกาลใบไม้ผลิ ให้เจ้าได้เชยชมเรือนร่างอันงดงาม
ของข้า!”
ฝูงชนต่างหันควับเผยเสียงฮือฮาดังสนั่น พวกเขาแทบไม่อาจเชื่อหูว่า
เมื่อครู่ได้ยินอันใด!
ได้ร่วมรักภายใต้แสงจันทร์กลางใบไม้ผลิ นั่นคือรางวัลที่เย่ว์อู่หลัน
เสนอ มันคือสิ่งที่ชายหลายคนในที่นี้ฝันใฝ่ !
ได้เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับหยางมู่เทียนก็นับว่าน่าอิจฉาตาร้อนแล้ว
แต่หากได้ร่วมรักดูดดื่มกับเย่ว์อู่หลันสักคืนหนึ่ง ย่อมเพียงพอให้
ริษยาจนบ้าคลั่ง!
กระทั่งหยางมู่เทียนและหลงอู่เฉิน ทั้งสองขณะนี้ยังถูกสะกดไว้โดย
คําของเย่ว์อู่หลัน!
เย่ว์อู่หลันแข็งแกร่ง สถานะของนางในตระกูลเย่ว์สูงลํ้า
กระนั้น อย่างมาก นางก็เพียงครอบครองอุปกรณ์ลึกลํ้า ยังห่างไกล
และยากเย็นนักหากนางคิดครอบครองอุปกรณ์เต๋า!
เย่ว์อู่หลันครอบครองใบหน้างดงาม บางครั้งนางก็เผยเสน่ห์เย้ายวน
บางครั้งก็เผยความอ่อนช้อย บางครั้งก็เป็นความสง่างามชวนยากแก่
การต้องสัมผัส
ทั้งนี้ นางยังเป็นผู้ที่สามารถสังหารผู้อื่นได้โดยตาไม่กระพริบ ตั้งแต่
นางยังเยาว์ ผู้คนล้วนทราบว่านางคือนางมารกระหายเลือด!
แต่แล้ว เย่ว์อู่หลันผู้นั้น ขณะนี้กลับคิดยอมสละเรือนร่างเพื่ออุปกรณ์
เต๋า!
เทียนรั่วเหลิงแค่นเสียงเบา ไม่ทราบว่านางขณะนี้เกิดความรู้สึกอัน
ใดอยู่ภายใน
แม้นางเป็นโฉมงามแกร่งกล้า ทว่าสถานะของนางยังห่างไกลจากเย่ว์
อู่หลัน นอกจากนี้ นางยังยั่วยุตระกูลหลงไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นภาย
หน้าย่อมต้องถูกตระกูลเทียนไล่ล่า
ผู้คนล้นทราบ ว่าเทียนรั่วเหลิงย่อมมีชีวิตต่อไปได้อีกไม่นาน!
ด้วยเหตุนี้ เย่ว์อู่หลันจึงใช้โอกาสที่เกิดขึ้น คิดแย่งชิงฉินหยุนมาเป็น
ของนาง! นางทราบดี ว่าชายทุกผู้ล้วนปรารถนาในเรือนร่างของนาง!
ด้วยความมั่นใจมากล้นในความงดงามและสมบูรณ์ของร่างกาย นาง
จึงกล้ายั่วยวนฉินหยุนเพียงนี้!
ฉินหยุนยังคงเผยสีหน้าสงบ สายตาจับจ้องคู่ต่อสู้ เขาไม่หวั่นไหวแม้
มีรางวัลเป็ นเรือนร่างของเย่ว์อู่หลัน!
“เริ่มได้!” หยางมู่เทียนตะโกนดัง
หลู่ชิงถงเป็นชายร่างสูงกว่าฉินหยุนเกือบช่วงศีรษะ ถือว่าเป็นผู้ฝึก
ตนที่สูงใหญ่
กระนั้น ความเร็วของเขาหาได้เชื่องช้าไม่!
พริบตา ร่างของเขาเกิดเป็นแสงวูบ เข้าปรากฏตัวที่ด้านหลังฉินหยุน
หมัดขณะนี้ปลดปล่อยออกไปแล้ว!
ครืน!
หมัดปล่อยออก สายฟ้าอสนีบาตทองม่วงผ่าออกดังสนั่น!
สายฟ้าอสนีบาต แปรเปลี่ยนเป็นนาคาสายฟ้านับไม่ถ้วน เข้าล้อมฉิน
หยุนเอาไว้จากทั่วสารทิศ!
“หมัดระเบิดสายฟ้าชั้นโลกา! จากที่เห็น สมควรเชี่ยวชาญถึงขั้น
สมบูรณ์แล้ว!”
“ฉินหยุนคงได้แต่ต้องหลบ คิดเผชิญหน้าโดยตรงนั้นไม่มีทาง
เป็นไปได้!”
“ต้องกล่าวเลย เคล็ดวิชาตัวเบาของฉินหยุนน่าประทับใจนัก เขาถึง
ขึ้นหลบพวกมันมาได้!”
ฉินหยุนไม่ทราบระดับย่อยของฝ่ ามือมังกรสัมบูรณ์ ที่เขาทราบ ก็
เพียงมันทรงพลังแกร่งกล้าอย่างยิ่ง
กระนั้นเขาไม่คิดใช้ กลับกัน เขาเพียงหลบเลี่ยงหมัดสายฟ้าที่พุ่งเข้า
หา!
หลู่ชิงฉงพบเห็นอีกฝ่ายหลบพ้น อดไม่ได้จนต้องร้องคํารามออก
“ไอ้หนูโสโครก อย่าได้หลบให้มากความแล้ว!”
ผู้คนล้วนกล้าออกปาก ว่าฉินหยุนไม่กล้าเผชิญหน้าโดยตรงกับหลู่
ชิงถง!
เขาอาศัยเพียงแต่เคล็ดวิชาเคลื่อนไหวที่เลิศลํ้า ทําการหลบเลี่ยงและ
ค่อยหาโอกาสรับมือกับหลู่ชิงถง
หยางมู่เทียนหัวเราะ “เห็นหรือไม่! มันด้อยกว่าหลู่ชิงถงทุกทาง!”
“ฉินหยุนที่ไร้ซึ่งอุปกรณ์เต๋า ชะตามันมีแต่ต้องแพ้!”
ผู้คนที่รับชมอยู่ ต่างเชื่อว่าฉินหยุนต้องพ่ายแพ้
กระนั้น กว่าครึ่งชั่วยามผ่านพ้น หลู่ชิงถงยังไม่อาจเอื้อมนิ้วสัมผัสถึง
ตัวฉินหยุนได้!
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป หลู่ชิงถงจะรีดเร้นพลังจนหมดสิ้นแล้วเหนื่อย
ตายไปเอง!
หลู่ชิงถงครอบครองออร่าแกร่งกล้า พลังเต๋าของเขาเรียกได้ว่าระดับ
ชวนสะพรึง
กระทั่งหลงอู่เฉิน และหยางมู่เทียน ก็ยังไม่กล้าเผชิญหน้าในทางตรง
แม้หมัดสายฟ้าของหลู่ชิงถงแข็งแกร่ง แต่มันก็ไร้ค่าหากไม่อาจโจมตี
ฉินหยุน นอกจากนี้ มันยังเป็นการใช้พลังเต๋ามหาศาลอย่างเสียเปล่า!
เทียนรั่วเหลิงแค่นเสียง “หยางมู่เทียน นี่เจ้าต้องซ้อมคุกเข่าหรือไม่?
อัจฉริยะแห่งตระกูลหยาง ขณะนี้กลับต้องคุกเข่าให้แก่ผู้ฝึกตนธรรมดา
น่าสนใจนัก ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ฝูงชนเดิมคิดว่าฉินหยุนพ่ายแพ้อย่างไม่มีข้อสงสัย ขณะนี้กลับรู้สึก
ว่าเคล็ดวิชาเคลื่อนไหวเป็นสิ่งสําคัญยิ่งประการหนึ่ง
ไม่เพียงแต่สามารถทําให้หลบหนีพ้นจากอันตราย แต่รูปแบบการ
ต่อสู้เช่นนี้ ยังเป็นการบั่นทอนพลังของคู่ต่อสู้จนแพ้ภัยตัวเอง!
“เทียนรั่วเหลิง หากเจ้ามีความกล้า และหากเชื่อมั่นตัวฉินหยุน เช่นนั้น
มาเดิมพันกันเพิ่มเป็นอย่างไร? ข้าขอเสนออาวุธวิญญาณระดับราชัน!”
หยางมู่เทียนร้องโพล่งตะโกนดังขึ้น “เจ้าเองก็สมควรมีอุปกรณ์
วิญญาณระดับราชันหรือไม่ใช่?”
“ย่อมได้!” เทียนรั่วเหลิงนํากระบี่สั้นของตนออกมา
หยางมู่เทียนนําเอาโล่กลมขนาดเล็กออกมา
ทั้งสองคืออุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน กระนั้นคุณภาพของพวกมัน
ค่อนข้างตํ่าเตี้ย
“เขาหมาป่ าอีกสักสิบเขาเป็นอย่างไร?” เทียนรั่วเหลิงตะโกนดังขึ้น
“ย่อมได้ ข้าคิดออกปากถามอยู่พอดี!” หยางมู่เทียนหัวเราะดัง พร้อม
ร้องตะโกนบอกต่อหลู่ชิงถง “น้องหลู่ รีดเร้นฝีมือออก สังหารฉิน
หยุนมันได้แล้ว!”
หลู่ชิงถงพอได้ยินหยางมู่เทียนเรียกหาเป็นน้องชาย เขาถึงกับบังเกิด
ความตื่นเต้นร้องตะโกนรับคํา!
ร่างกายของเขา ขณะนี้ระเบิดออกซึ่งแสงทองม่วง จากภายในมวลแสง
มันปรากฏนาคาสายฟ้าทองม่วงสองเศียรเลื้อยออกมาจากเหยือกแสง
ขนาดใหญ่
นาคาสายฟ้าสองเศียรก้มหัวเล็กน้อย แลบเอาลิ้นยาวของมันออก พร้อม
กันนี้ ร่างนาคาพลันพุ่งเข้าใส่ฉินหยุนเปรียบดังสายฟ้าฟาดเข้าใส่!
สิ่งนี้คือวิญญาณยุทธ์ของหลู่ชิงถง เป็นวิญญาณยุทธ์นาคาสายฟ้า
สองเศียรระดับทองม่วง และมันก็ครอบครองพิษร้ายแรง!