Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 499 จันทราสีเลือดอันลึกลับ
ตอนที่ 499 จันทราสีเลือดอันลึกลับ
ฉินหยุนจดจําคําของหยางฉีเย่ว์เอาไว้ เมื่อเขาฝึกฝนภายหน้า เขาจะ
ให้ความสนใจกับการใช้ความสามารถเทวะให้มากยิ่งขึ้น อย่างไร
แล้ว มันก็คือพลังอันแข็งแกร่งที่คงอยู่กับตัวเขา
“ขุมพลังเต๋าที่เจ้าฝึกฝนตอนนี้แข็งแกร่งพอแล้ว ให้ข้าชี้แนะเรื่องฝ่ า
มือมังกรสัมบูรณ์และก้าวเท้าเก้าสมบูรณ์ต่อแล้วกัน!”
หยางฉีเย่ว์นําเอาสมุดออกมาสองเล่ม พวกมันเป็นบันทึกสรุปของ
นางระหว่างเดินทางมายังแดนวิญญาณอ้างว้าง
หลังส่งมอบมันให้แก่ฉินหยุน นางค่อยเริ่มอธิบายลงรายละเอียด
ฉินหยุนก่อนหน้านี้ ได้ฟังสิ่งที่หยางฉีเย่ว์อธิบายเรื่องฝ่ ามือมังกร
สัมบูรณ์ และก้าวเท้าเก้าสมบูรณ์มาแล้ว แต่ครั้งนี้ มันลงรายละเอียด
ลึกยิ่งกว่า
กลางดึก หยางฉีเย่ว์ค่อยอธิบายจนครบถ้วน
ฉินหยุนหลับตาลง ทําการย่อยเนื้อหาที่ได้รับจากหยางฉีเย่ว์
อย่างกะทันหัน เสียงอึกทึกพลันดังจากนอกหน้าต่าง
“เหตุใดดวงจันทร์จึงเป็นสีเลือด?”
“ดวงจันทร์สีแดงนี้เปรียบดั่งเลือด น่ากลัวนัก!”
“หรือปรากฏการณ์นี้จะเป็นลางบอกเหตุถึงอะไรบางอย่าง?”
ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์พอได้ฟังเช่นนี้ ทั้งสองเร่งรีบมองออกไปยัง
นอกหน้าต่างบนท้องฟ้าสูง
จันทร์เต็มดวงสีแดงฉานเปรียบดั่งโลหิต ขณะนี้สาดส่องแสงจันทร์
สีเลือดลงสู่ผืนแผ่นดิน มันย้อมแดนดินจนแดงฉาน ทําเอาผู้คนเกิด
ความรู้สึกหวาดกลัวเกาะกุมในหัวใจ
“พี่หยาง เหตุใดดวงจันทร์เป็นสีแดงเช่นนี้?” ฉินหยุนมองบนฟากฟ้า
และเอ่ยถาม ขณะหันมองทางหยางฉีเย่ว์ จึงพบว่านางมีสีหน้า
เคร่งเครียดยิ่ง
หยางฉีเย่ว์เผยความร้อนใจ “เสี่ยวหยุน ข้าต้องไปแล้ว! เจ้ามีเหรียญ
ม่วงมากมาย ทั้งยังแข็งแกร่ง ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถดูแลตัวเองได้!”
ฉินหยุนคิดอยากถามอีกหลายเรื่อง แต่หยางฉีเย่ว์กลับกระโดดพรวด
ออกจากหน้าต่าง มุ่งหน้าไปยังดวงจันทร์สีเลือดนั้นแล้ว!
ขณะเขาคิดตามไป เสียงของหยางฉีเย่ว์พลันส่งมา “อย่าได้ตามมา นี่
อันตรายยิ่ง! ภายหน้าข้าค่อยบอกต่อเจ้าว่าเกิดอะไรขึ้น!”
ฉินหยุนถือสมุดทั้งสองเล่ม เหม่อมองหยางฉีเย่ว์หายวับไปยามราตรี
กาล ภายในใจขณะนี้ทั้งกังวลและเกิดข้อสงสัย
“พี่หยาง ท่านเองก็ดูแลตัวเองด้วย!” เขาส่ายศีรษะพร้อมถอนหายใจ
ฉินหยุนเก็บสมุดทั้งสองเล่ม นําเอาแผนที่หลุมฝังเซียนออกมา นี่ก็
นานแล้วที่เขาไม่เคยนํามันออกมาเลย
“หยดเลือดทดลองดูดีกว่า!” หยดเลือดจากปลายนิ้ว ขณะนี้หยดลง
สัมผัสกับแผนที่หลุมฝังเซียน
แผนที่หลุมฝังเซียน ฉับพลันเกิดอาการสั่นขึ้น!
“พี่สาว!” ฉินหยุนเร่งร้อนผสานจิตสํานึกเข้าสู่ผืนหนังสัตว์พร้อม
ตะโกน
“เสี่ยวหยุน! นี่เจ้าอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้าแล้ว? รวดเร็ว
นัก!” นํ้าเสียงของเซี่ยฉีโหรวดังให้ได้ยิน
“พี่สาว ข้าขณะนี้อยู่แดนวิญญาณอ้างว้าง! เมื่อใดข้าจะสามารถไปยัง
สุสานเซียนเพื่อค้นหาวิญญาณเสด็จแม่ได้?” ฉินหยุนเร่งร้อนเอ่ยถาม
“เจ้าถึงกับไปเยือนแดนวิญญาณอ้างว้างแล้ว! ข้าคิดอยู่ก่อนแล้ว แต่
ไม่คาดว่ารวดเร็วเพียงนี้” เซี่ยฉีโหรวกล่าวตอบ “เสี่ยวหยุน เรื่องที
เทือกเขาเมฆมังกรอย่าได้เร่งร้อน… ขณะนี้การคุ้มกันที่นี่ยิ่งมายิ่ง
หนาแน่น!”
“ขอรับ! ข้าจะพยายามฝึกฝนให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้นโดยเร็ว!” ฉิน
หยุนเร่งรีบพยักหน้ารับ
“ในเมื่อเจ้าอยู่ในแดนวิญญาณอ้างว้างแล้ว ก็ลืมเรื่องหลุมฝังเซียนไป
สักชั่วระยะเวลาหนึ่งก่อน ข้าจะติดต่อไปหาเจ้าเมื่อมีโอกาส! เลือด
ของเจ้าขณะนี้มีพลังแกร่งกล้ามากพอ ดังนั้นนับแต่นี้จึงไม่ลําบาก
อะไรนักหากคิดติดต่อสื่อสารหากัน!”
“วิเศษ!” ฉินหยุนเผยเสียงยินดี
ขณะเขาคิดถามเรื่องหยางฉีเย่ว์ เซี่ยฉีโหรวพลันกล่าวขึ้นก่อน “เสี่ยว
หยุน เจ้าอยู่แดนวิญญาณอ้างว้างแล้ว ดังนั้นก็สมควรค้นหาวิธีและ
เข้าร่วมสํานักเซียน!”
“สํานักเซียนหรือขอรับ?” ฉินหยุนเร่งรีบเอ่ยถาม
“ใช่ เจ้าควรเข้าร่วมสํานักเซียนเสียก่อน! เอาละ ไว้อีกสักพักหนึ่งข้า
จะติดต่อหาเจ้าอีกครั้ง!” จากนั้นเสียงจากทางฝั่งของเซี่ยฉีโหรวจึง
เลือนหายไป
ฉินหยุนไม่ทราบว่าสํานักเซียนคืออันใด
เขาได้แต่ออกจากที่พัก สอบถามผู้คนที่ภายนอก
หลังทราบเรื่องราว เขาพบว่าในแดนวิญญาณอ้างว้างมีห้าสํานักเซียน
พวกเขาล้วนเป็นสํานักแกร่งกล้าในแดนวิญญาณอ้างว้าง และยังเข้า
ร่วมได้ยากเย็นยิ่ง!
นอกจากห้าสํานักเซียน ยังคงมีห้าสํานักดวงดาว และสามสํานัก
จันทรา
ห้าสํานักดวงดาว ประกอบด้วยสํานักหมื่นดวงดาว สํานักดาบ
ดวงดาว หุบเขาเยือกแข็งดวงดาว เกาะขุนเขาดวงดาว และตําหนัก
พฤกษาดวงดาว
ทางด้านสํานักจันทราทั้งสาม ประกอบด้วยนครจันทราอัคคี ตําหนัก
จันทราทมิฬ และเกาะจันทราปี ศาจ ทั้งหมดล้วนเป็นสํานักที่รับ
เฉพาะหญิงสาว
ทางด้านห้าสํานักเซียน มีหุบเขาเซียนโอสถ นครเซียนยุทธภัณฑ์
ขุนเขาเซียนอัคคีคราม วิมานเซียนปี ศาจ และตําหนักเซียนดาบ
มีเพียงศิษย์ของสํานักดวงดาวและสํานักจันทรา จึงมีโอกาสได้เข้า
ร่วมสํานักเซียน
ตามปกติ มันจําเป็นต้องผ่านการทดสอบเมื่อถึงขอบเขตวรยุทธ์เต๋า
ระดับที่เก้า และยังมีการจํากัดอายุ ซึ่งจะต้องไม่เกินกว่าห้าสิบปี
ฉินหยุนหลังสอบถามไปทั่ว เขาค่อยทราบว่าการได้เป็นศิษย์สํานัก
เซียนเป็ นเรื่องยากเย็นเพียงใด
เพราะอันดับแรก เขาจําเป็นต้องเป็นศิษย์ของสํานักดวงดาวหรือ
สํานักจันทราเสียก่อน จากนั้นค่อยผ่านการแข่งขัน แย่งตําแหน่ง
ภายในสํานัก ก่อนจะสามารถเข้าสู่สํานักเซียนได้
การกระทําเช่นนั้น อาจต้องกินเวลายาวนานนับสิบปี !
ฉินหยุนเหม่อมองจันทราสีเลือด พร้อมถอนหายใจออกมารุนแรง
เขาคิดว่าหากหยางฉีเย่ว์ยังอยู่ เพียงไม่นานเขาต้องพบหนทางเข้าร่วม
สํานักเซียนอย่างแน่นอน
แดนวิญญาณอ้างว้างกว้างใหญ่ไพศาล กระทั่งว่ามีสํานักแกร่งกล้า
ปกครองอาณาเขตกว้างใหญ่ แต่ก็ยังมีอีกหลายพื้นที่ซึ่งไร้ผู้ครอง
ในแดนอสูรอ้างว้าง ก็มีสํานักอสูรที่แกร่งกล้ามากมาย รวมถึงตําหนัก
โทเทมด้วย!
แม้ว่าจันทราสีเลือดจะสร้างความแตกตื่น แต่พอรุ่งสาง หลายผู้คนก็
ลืมเลือนมันอย่างรวดเร็ว
ตะวันสาดส่องแสง ฉินหยุนก้าวเดินบนถนนเส้นหลัก ตระเตรียมมุ่ง
หน้าไปยังเมืองที่ใหญ่กว่านี
หลังการพิจารณาอยู่คืนหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมหนึ่งในห้าสํานัก
ดวงดาว แม้เป็ นเรื่องยากเข้าร่วม แต่ก็ยังง่ายดายกว่าสํานักเซียน
ฉินหยุนโดยสารเรือบิน ออกเดินทางพร้อมหลายผู้คน ไปยังนคร
พฤกษาโบราณ เมืองดังกล่าวถูกสร้างขึ้นโดยตําหนักพฤกษาดวงดาว
ตําหนักพฤกษาดวงดาวเป็นสํานักดวงดาว นามของมันออกจะแปลก
และยังเป็นสํานักที่ควบคุมแม่นํ้าสายใหญ่เอาไว้
กล่าวกันว่าแม่นํ้านั้นพิเศษยิ่ง พืชพรรณสําหรับการฝึกฝน รวมถึง
ต้นไม้ตามริมแม่นํ้าล้วนเติบโตอย่างรวดเร็ว
ฉินหยุนเลือกที่นี่เพราะเกิดความสงสัยต่อตัวสํานัก เพราะเหตุนั้นเขา
จึงคิดอยากไปสํารวจดู
ในห้องโดยสาร ฉินหยุนสนทนากับผู้อาวุโสคนหนึ่ง สอบถามอีก
ฝ่ ายถึงเรื่องราวของตําหนักพฤกษาดวงดาว
ชายชราหัวเราะ “ตําหนักพฤกษาดวงดาวถือเป็นสํานักศิษย์น้องของ
หุบเขาเซียนโอสถ โดยหลักแล้วที่นี่ไว้ใช้เพื่อเพาะปลูกสมุนไพร
ให้แก่หุบเขาเซียนโอสถ! กล่าวกันว่าหุบเขาเซียนโอสถนั้นเลิศลํ้า
พวกเขาครอบครองกองกําลังมากมายช่วยปลูกเลี้ยงพืชสมุนไพร!”
“ผู้อาวุโสเหลียว หากคิดไปยังหุบเขาเซียนโอสถโดยเร็วต้องทําเช่น
ไรขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถามอย่างสุภาพ
“ไปยังหุบเขาเซียนโอสถเป็ นเรื่องง่ายดาย แต่การเป็นศิษย์ต่างหากจึง
เป็ นเรื่องยาก!” ผู้อาวุโสเหลียวหัวเราะ “ข้าเคยไปเพาะปลูกสมุนไพร
โอสถในหุบเขาเซียนโอสถมาก่อน หากเจ้ามีพรสวรรค์อันดีในการ
บ่มเพาะโอสถ เช่นนั้นเจ้าย่อมสามารถไปยังหุบเขาเซียนโอสถได้!
พวกเขาครอบครองโอสถลํ้าค่าและหายากเอาไว้มากมายนัก!”
ฉินหยุนดวงตาเป็นประกาย เขาครอบครองถ้วยลึกลํ้าตะวันจันทรา
มันเป็นสิ่งวิเศษสําหรับช่วยเจริญเติบโตพืชพรรณโอสถ ก่อนหน้านี้
เขาไม่เคยมีโอกาสได้ใช้ ขณะนี้ในที่สุดค่อยพบหนทาง
ถ้วยลึกลํ้าตะวันจันทรา คือสิ่งที่เชี่ยวหยางหลงครอบครองเอาไว้ มัน
เป็นอุปกรณ์ลึกลํ้าอย่างดีเลิศชิ้นหนึ่ง
ถัดจากนั้น ฉินหยุนจึงสอบถามต่อผู้อาวุโสเหลียว ถึงความพิเศษ
จําเพาะ และเรื่องราวเชิงลึกของหุบเขาเซียนโอสถ
นครพฤกษาโบราณเป็นเมืองพิเศษยิ่ง ที่นี่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง จะมีก็แต่
ต้นไม้ขนาดใหญ่มาก
ร้านค้าและสถานที่อื่น ๆ ล้วนอยู่ในโพรงต้นไม้ขนาดใหญ่
กระทั่งว่ามีตําหนักจารึกเทวะ มันก็ยังต้องอยู่ภายในโพรงต้นไม้
โบราณ
ที่ใจกลางนครพฤกษาโบราณ มันมีแม่นํ้าสายใหญ่พาดผ่านตัวเมือง
นําไปยังตําหนักพฤกษาดวงดาวที่ลอยอยู่เหนือแม่นํ้า
เมืองแห่งนี้เต็มเปี่ ยมด้วยต้นไม้ใหญ่ ไม่มีอื่นใดพิเศษนอกจากต้นไม้
ทว่าขนาดมันใหญ่ยิ่ง มันเป็นเมืองที่สามารถจุผู้คนได้นับล้าน
ต้นไม้ทุกต้นในเมืองแห่งนี้ กิ่งก้านพวกมันจะแผ่ขยายจนกว้างกว่า
สองถึงสามร้อยเมตร และแม้ยอดไม้ใหญ่ไพศาล ทว่าพวกมันหาได้
สานพันกันมั่วแต่อย่างใด
ต้นไม้ใหญ่แต่ละต้น เปรียบดังสิ่งปลูกสร้างสูงใหญ่ มันมีโพรง
ต้นไม้มากมายอยู่ภายใน
เพราะนครพฤกษาโบราณพิเศษ ตําหนักพฤกษาดวงดาวจึงมีการนํา
สมุนไพรโอสถมากมายมาจําหน่ายที่นี่ ดังนั้นนครแห่งนี้จึงเต็มไป
ด้วยผู้คนหลากหลายพลุกพล่าน
กระทั่งตําหนักจารึกเทวะ ที่นี่ก็ยังมีถึงสองสาขาด้วยกัน
ฉินหยุนก่อนหน้านี้ได้ทราบ ว่านครพฤกษาโบราณบ่อยครั้งจะมี
ศิษย์หลายสํานักรวมตัวกัน พวกเขามักมาที่นี่เพื่อซื้อหาวัตถุดิบเพื่อ
ไปสกัดเป็นเม็ดยา
วัตถุดิบบางชนิด จะเติบโตได้เพียงแต่ในตําหนักพฤกษาดวงดาว
ดังนั้นแม้เป็นสํานักเซียน ก็ยังต้องมาที่นี่เพื่อทําการซื้อหา
ด้วยตัวเมืองกว้างใหญ่ ฉินหยุนจึงไม่มีทางเลือก ต้องว่าจ้างนกกระเรียน
พาโบยบินสู่ตําหนักพฤกษา
ต้นไม้ที่ตั้งของตําหนักพฤกษา ถือได้ว่าเป็นต้นที่หนาและสูงที่สุด
ของที่นี่ รัศมีต้นของมันกว้างนับร้อยเมตร!
เบื้องล่างต้นไม้ใหญ่ มันมีถํ้าขนาดใหญ่คงอยู่ เมื่อเข้าไปแล้ว จึง
พบว่าภายในเป็นโถงซื้อขายกว้างขวาง
ผู้คนมากมายรวมตัวกันที่นี่ เพื่อทําการซื้อขายกับตําหนักพฤกษา
รวมถึงการแลกเปลี่ยนทั้งหลาย ผู้คนนับพันขณะนี้กําลังส่งเสียง
จอแจชุกชุม
ฉินหยุนเมื่อเข้ามาแล้ว เขาจึงมองรอบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพบว่ามีโต๊ะ
ประชาสัมพันธ์
โต๊ะนี้ถูกออกแบบอย่างพิเศษ เพื่อรับสมัครคนสวนโอสถ!
ชายชรามีชีวิตชีวาผู้หนึ่งนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะ รับชมฉินหยุนพร้อม
กล่าวถามด้วยความสงสัย “เด็กหนุ่ม เจ้าคิดอยากเป็นอาจารย์โอสถ
หรือ? ไม่คล้ายว่ามันจะเหมาะกับเจ้านะ!”
“ข้าคิดอยากเป็นคนสวนโอสถในหุบเขาเซียนโอสถขอรับ นี่พอจะ
เป็นไปได้หรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ย่อมได้ แต่ก็ยังถือว่ายาก! กระทั่งว่าคิดอยากเป็นคนสวนโอสถใน
หุบเขาเซียนโอสถ ก็ยังต้องผ่านการแข่งขันอย่างสูงลํ้า! หากเจ้ามี
เจตนาแรงกล้า เช่นนั้นก็จ่ายหนึ่งร้อยล้านเหรียญม่วงเพื่อลงทะเบียน
ได้!” ชายชรากล่าว
ดวงตาฉินหยุนเบิกออกกว้าง หนึ่งร้อยล้านเหรียญม่วง!
“อย่าได้คิดว่านี่แพงเกินไป! นี่คือหนทางเดียวที่จะให้คนธรรมดาได้
เข้าสู่สํานักเซียน กระทั่งว่าเป็นคนสวนโอสถในหุบเขาเซียนโอสถ
กระนั้นเจ้าก็ยังจะได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล!” ชายชราหัวเราะ
รับ “แน่นอนว่าหลังจากลงทะเบียนแล้ว เจ้าต้องผ่านการคัดเลือก
หลายขั้นตอน ก่อนจะถูกเลือกตัวโดยหุบเขาเซียนโอสถ!”
ที่นี่ก็มีตําหนักจารึกเทวะ ดังนั้นบัตรผลึกม่วงจึงสามารถใช้งาน เขา
ส่งมอบหนึ่งร้อยล้านเหรียญม่วงให้แก่ชายชรา เพื่อทําการลงทะเบียน
อย่างเป็นทางการ
เมื่อลงทะเบียนแล้ว เขาจึงได้รับตั๋วหยก ถูกจัดแจงให้ไปยังพื้นที่โล่ง
กว้างทางตะวันตกของนครพฤกษาโบราณ เพื่อเข้าร่วมการทดสอบ
ในรอบแรก!
ผู้คนที่คิดอยากเข้าร่วมหุบเขาเซียนโอสถ แม้เป็นเพียงคนสวนโอสถ
ก็ยังมีมากมายนัก จํานวนเท่าที่ประเมินโดยคร่าว น่าจะมีมากกว่า
หนึ่งร้อยคน!
ฉินหยุนและอีกกว่าร้อยคนขณะนี้นั่งในห้องโถง รอคอยให้การ
ทดสอบเริ่มขึ้น
ท้ายที่สุดแล้ว จะมีเพียงหนึ่งคนที่สามารถได้เป็นคนสวนโอสถของ
หุบเขาเซียนโอสถ!
นอกจากฉินหยุน ผู้อื่นที่เหลือล้วนชรา ที่เข้าร่วม ส่วนใหญ่เป็น
ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า และขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณก็ยังมี!
บางคนเป็นคนสวนโอสถเฒ่าชราจากสํานักอื่น ขณะนี้เพิ่งรวบรวม
เงินได้ครบหนึ่งร้อยล้านเหรียญม่วง จึงได้มีโอกาสมาลงทะเบียน
“การคัดเลือกมีทั้งสิ้นสามรอบ และจะมีเพียงผู้เดียวที่สามารถผ่าน
ไปได้!” ชายชราชุดขาวก้าวเดินออกมาและกล่าว “รอบแรกของการ
ทดสอบ คือการต้องพบปะศิษย์ของตําหนักจันทราทมิฬ นครจันทรา
อัคคี และเกาะจันทราปี ศาจ พวกเจ้าต้องรับผิดชอบรักษาเมล็ดพันธุ์
โอสถลึกลํ้าที่ใกล้ตายให้ฟื้นคืนกลับมา!”
“ก่อนหน้านี้ พวกเขาซื้อหาเมล็ดพันธุ์โอสถลึกลํ้าจากพวกเราไป
มากมาย ทว่าเพราะไม่ดูแลพวกมันให้ดีพอ พวกมันจํานวนมากไม่
ช้าจะตายจนหมด พวกเจ้าต้องใช้ความสามารถที่มี เพื่อทําการรักษา
เมล็ดพันธุ์โอสถลึกลํ้าเหล่านั้นให้ได้!”