Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 490 ศึกปะทะหุ่นเชิด
ตอนที่ 490 ศึกปะทะหุ่นเชิด
หม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรมีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะในยุคโบราณ
มันเป็นอุปกรณ์เต๋าที่เลื่องชื่อ โดยหลักแล้วมันถูกขัดเกลาขึ้นเพื่อใช้
รับมือกับมังกร และมีการแกะสลักโทเทมราชสีห์สวรรค์เอาไว้
ชั่วขณะนี้ เมื่อฉินหยุนปลดปล่อยมันออก บรรดาผู้อาวุโสทั้งหลาย
จึงเผยความริษยา พวกเขาต่างเกิดความคิดละโมบ เปรียบดั่งพยัคฆ์
เฒ่าที่ได้เห็นเหยื่ออันโอชะ
หากฉินหยุนสามารถหลอมอุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน ก็หมายความ
ถึงเขาเป็นอาจารย์จารึกวิญญาณระดับราชันแล้ว!
หลายผู้คนขณะนี้พบว่าเรื่องราวยากเกินจะเชื่อ
เป็นที่ทราบกันดี ว่าสวนโบราณแห่งนี้ แทบไม่มีอาจารย์จารึกวิญญาณ
และอาจารย์จารึกวิญญาณที่ยอดเยี่ยมทั้งหลาย ย่อมไม่เข้ามายังสถานที่
แห่งนี้
กระทั่งว่าที่นี่มีตําหนักจารึกเทวะ อาจารย์จารึกวิญญาณก็มีเพียงน้อย
นิดมากนัก ยังไม่ต้องกล่าวถึงว่าเป็นระดับราชัน!
กล่าวไปแล้ว กระทั่งขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณยังมีอาจารย์จารึกวิญญาณ
ระดับราชันไม่มาก ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงขอบเขตวรยุทธ์เต๋า
ฉินหยุนเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าเยาว์วัย แต่หากได้เป็นอาจารย์
จารึกวิญญาณระดับราชัน เรื่องนี้เกินจะยอมรับและเชื่อได้ นี่มันขัด
กับสามัญสํานึกผู้คนทั่วไป!
ฉินหยุนขณะนี้นําศิลาแสงดาวใส่ลงหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร
จากนั้นจึงใส่เปลวเพลิงตะวันทมิฬเข้าทําการเผาไหม้
“ศิลาแสงดาวเผาไหม้ได้ยากยิ่ง เจ้าคิดใช้เวลายาวนานเพียงใดเพื่อเผา
ไหม้พวกมัน? พวกเราไม่มีเวลารอมากเพียงนั้น!” ผู้จัดการสาขาตําหนัก
จารึกเทวะร้องตะโกน เขาเองก็เป็นอาจารย์จารึก กระนั้นตัวเขาไม่ได้
วิเศษเช่นฉินหยุน ดังนั้นขณะนี้ความริษยาจึงก่อเกิดเป็นล้นพ้นภายในใจ
“อย่าได้กังวลไป ข้าไม่ให้รอนานแน่!” ฉินหยุนกล่าวคําจบ เขานําเอา
ศิลาแสงดาวออกจากหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร
ศิลาแสงดาวเดิมเป็นสีดํา ขณะนี้ถูกเผาไหม้จนแดงฉาน!
เป็นดังเขาว่าที่ไม่ปล่อยให้รอนาน แท้จริงแทบไม่ต้องรอเลยด้วยซํ้า!
ฉินหยุนนําเอาค้อนราชันยักษ์วิญญาณออกมา พร้อมกระดูกเหล็กกล้า
ระดับราชัน
กระดูกเหล็กกล้าระดับราชันขณะนี้ ถูกเขาหลอมรวมขัดเกลาเข้ากับ
ศิลาแสงดาวเพียงอึดใจ
ตึง ตึง ตึง ตึง…
ฉินหยุนเวลานี้ก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เจ็ด พละกําลังยิ่ง
เพิ่มพูน อักขระเต๋าแห่งชีวิตตัวที่เจ็ดได้แปรเปลี่ยนสู่ขุมพลังเต๋า มัน
สามารถปลดปล่อยคลื่นพลังที่แกร่งกล้าออกมาได้
ทุบอยู่ไม่กี่ครั้ง ศิลาแสงดาวและกระดูกเหล็กกล้าระดับราชันจึงหด
ขนาดเล็กลง ฉินหยุนเริ่มขึ้นรูปพวกมันเป็นกระบี่สั้นเล่มหนึ่ง
ท้ายที่สุด เขานําเอาปากกาลึกลํ้าสะท้อนจิตออกมา ทําการแกะสลัก
อักขระวิญญาณทั้งสิ้นเก้าชุด กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นในคราว
เดียว ทั้งยังเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่ง
กระบี่สั้นเล่มนี้ เขาใช้เวลาขัดเกลาขึ้นเพียงหนึ่งชั่วยามเท่านั้น!
แม้กระบี่สั้นเล่มนี้ค่อนข้างเล็ก แต่อย่างไรแล้วก็เป็นถึงอุปกรณ์
วิญญาณระดับราชัน มันเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง กระนั้นกลับถูกขัด
เกลาขึ้นได้รวดเร็วเพียงนี้
“เป็นอาวุธวิญญาณระดับราชันจริงหรือ?” เฉียนเฉ่าเผยความคลาง
แคลง “เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะหลอมมันเสร็จในเวลาอันสั้นเพียงนี้ นี่
ต้องเป็นการลวงหลอกต่อพวกเราแน่!”
“อย่างนั้นจงใช้อุปกรณ์ลึกลํ้าพิสูจน์มัน!” ฉินหยุนถือกระบี่สั้นในมือ
พร้อมยิ้ม “อุปกรณ์ลึกลํ้าในมือเจ้าคงไม่โป้ปดหรอกนะ!”
เฉียนเฉ่าแค่นเสียง “กระทั่งว่าเป็นอาจารย์จารึกลึกลํ้า ก็ยังไม่อาจสร้าง
อุปกรณ์วิญญาณระดับราชันได้รวดเร็วเพียงนี้ นับประสาอะไรกับเจ้า!”
เขานําเอาดาบยาวเล่มหนึ่งออกมา “นี่เป็นอุปกรณ์ลึกลํ้าของข้า! แม้
ระดับไม่สูง แต่ก็เกินพอที่จะรับมืออุปกรณ์วิญญาณระดับราชัน ยิ่ง
ไม่ต้องกล่าวถึงขยะในมือเจ้าชิ้นนั้น!”
หลายผู้คนล้วนได้เห็นกันชัดเจน ว่ากระบี่สั้นในมือฉินหยุนขัดเกลา
ขึ้นมาโดยใช้เพียงกระดูกเหล็กกล้าและศิลาแสงดาว ไม่มีทางที่จะ
เพิ่มวัสดุอื่นเข้าไปได้ต่อหน้าสายตาผู้คนมากมายเพียงนี้
หากศิลาแสงดาวเป็นของจริง เช่นนั้นมันย่อมต้องแข็งแกร่งยิ่ง!
ฉินหยุนวางกระบี่สั้นลงบนแท่นหลอมพร้อมกล่าว “หากดาบเจ้าไม่
อาจตัดกระบี่สั้นเล่มนี้ ถือว่าศิลาแสงดาวเป็นของจริง! เช่นนี้ ซินซิน
ก็ไม่ต้องคืนเหรียญม่วงแก่เจ้า ตกลงหรือไม่!”
“ไม่มีปัญหา!” เฉียนเฉ่าก้าวเดินเข้าไปอย่างมาดมั่น สับฟันกระบี่
ตรงหน้าอย่างเต็มแรง
เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น!
ดาบยาวของเฉียนเฉ่าแตกออก!
ตัวดาบแตกออก กระเด็นลอยปักกับพื้น ทําเอาผู้รับชมต่างกายแข็ง
ทื่อไปกันไม่เป็น!
สําหรับผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋า อุปกรณ์ลึกลํ้าถือว่ามูลค่าสูงลํ้า ผู้
ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าส่วนใหญ่จะใช้เพียงอุปกรณ์วิญญาณระดับ
ราชันกันเสียส่วนมาก
เฉียนเฉ่าเกิดความปวดร้าวภายใน รับชมดาบที่แตกหัก สีหน้ากลาย
เป็นเขียวคลํ้า
“ความจริงนี้ได้รับการพิสูจน์แล้ว ว่าหินนั่นคือศิลาแสงดาว! ด้วย
ความแข็งแกร่งนี้ กระทั่งอุปกรณ์ลึกลํ้ายังไม่อาจทําอะไรมันได้!”
ฉินหยุนยิ้มกว้างพร้อมหยิบกระบี่สั้นขึ้นมา ส่งมอบมันให้แก่ฉื่อซิน
ซิน
ฉื่อซินซินยืนกรานมอบห้าแสนเหรียญม่วงให้แก่ฉินหยุนก่อนจะ
ยอมรับกระบี่สั้นไว้
เรื่องนี้ทําเอาหลายผู้คนริษยา เพราะฉื่อซินซินใช้เพียงห้าแสนเหรียญ
ม่วงก็ซื้อหาอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันอันแข็งแกร่งมาไว้ในครอบ
ครองได้!
“ตาเฒ่าจากตําหนักจารึกเทวะนั่นสายตามืดบอดหรือไร? ศิลาแสงดาว
นั่นแกร่งกล้ายิ่งนัก มันน่าจะเป็นวัสดุใช้เพื่อขัดเกลาอุปกรณ์ลึกลํ้าได้
ด้วยซํ้า!”
“ใช่แล้ว! ถึงกับทําพลาดเช่นนี้ ไม่เพียงแต่สูญเสียศิลาแสงดาว แต่ยัง
เสียเงินไปนับล้านเหรียญม่วง!”
“ไม่ใช่ว่าตําหนักจารึกเทวะเป็นฝ่ ายที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนวิญญาณ
อ้างว้างหรอกหรือ? ช่างเสื่อมเสียนัก!”
“ต้องพูดเลย ว่าความสามารถของฉินหยุนที่สร้างอุปกรณ์วิญญาณ
ระดับราชัน ถึงกับเหนือลํ้ากว่าอุปกรณ์ลึกลํ้านั่นได้ ทั้งยังทําในเพียง
แค่หนึ่งชั่วยาม!”
“กระบี่สั้นเล่มนั้นบางทีเพียงด้อยกว่าอุปกรณ์ลึกลํ้าตรงอักขระ แต่
ลําพังตัววัสดุนั้น มันเข้าถึงอุปกรณ์ลึกลํ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!”
ฝูงชนขณะนี้ฮือฮาพร้อมกล่าวชมฉินหยุนไม่ขาด อย่างไรแล้ว เขาก็
ถือเป็นอาจารย์จารึกวิญญาณที่แกร่งกล้าผู้หนึ่ง!
หากสามารถสร้างหนี้บุญคุณแก่อีกฝ่ าย เช่นนั้นย่อมสามารถจ้างวาน
ให้สร้างอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันขึ้นได้แล้ว!
ผู้คนจากสํานักตะวันทองคํากัดฟันแน่นเมื่อได้พบเห็นเรื่องราวตรงหน้า
พรสวรรค์ของฉินหยุน กระทั่งสํานักเก้าตะวันยังไม่อาจเทียบเท่า
ผู้อาวุโสจากสํานักตะวันทองคําเอ่ยคํา “ฉินหยุน หม้อราชสีห์สวรรค์
สะกดมังกรนั่น เป็นอุปกรณ์เต๋าของสํานักตะวันทองคําของเรา!”
“เจ้าอาจไม่ทราบเรื่องนี้ แต่สํานักพวกเรามีส่วนร่วมในการสร้างหลุม
ฝังเซียน หม้อนั่นเดิมสร้างขึ้นโดยสํานักตะวันทองคําของพวกเรา!”
“ขณะนี้ได้เวลาส่งมันกลับคืนสู่เจ้าของอันชอบธรรมแล้ว!”
ฉินหยุนสีหน้าดํามืดขณะเอ่ยคํา “คิดอยากฉกชิงหม้อราชสีห์สวรรค์
สะกดมังกรของข้างั้นหรือ?”
“ไม่ใช่ของเจ้า แต่เป็นของพวกเราสํานักตะวันทองคํา! พวกเราหาได้
ฉกชิง เพียงแต่ทวงมันกลับคืน!” ผู้อาวุโสจากสํานักตะวันทองคํา
แค่นเสียงดังขึ้น “หากเจ้ายินดีส่งมันกลับคืน เช่นนั้นพวกเราจะทํา
เป็นมองไม่เห็นเรื่องที่เจ้าสังหารสั่วจินเฟย!”
ฉินหยุนหัวเราะดัง “ข้าส่งมันกลับคืนได้ แต่ข้าสงสัยนัก ว่าพวกเจ้ามี
ความสามารถได้การยอมรับจากหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร
หรือไม่!”
กล่าวคําจบ เขาโยนหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรออกไป มันบิน
ผ่านอากาศไปอยู่เหนือศีรษะผู้อาวุโสของสํานักตะวันทองคํา
ชายชราเผยสีหน้าประหลาดใจ ขณะมือคิดยื่นเอื้อมเข้าไปจับรับตัว
หม้อกลับมา เขาพบว่าหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรฉับพลันขยาย
ขนาดและร่วงหล่นลงมา!
ตู้ม!
หม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรกระแทกลงรุนแรง ทําเอาพื้นดิน
ถึงกับสั่นสะเทือน!
ผู้อาวุโสจากสํานักตะวันทองคําขณะนี้ถูกบดกลายเป็นกองเนื้อโดย
หม้อสามขาที่ร่วงหล่น เลือดและเนื้อขณะนี้ถึงกับกระจายออกเป็น
ดอกบัวโลหิต!
ชายชราผู้นี้มีคนของสํานักตะวันทองคํายืนรายล้อม ขณะนี้ผู้คนรอบ
ข้างร่างถูกย้อมไปด้วยสีเลือดและเศษเนื้อ สีหน้าพวกเขาเผยออกซึ่ง
ความสะพรึง!
ชายชรานี้เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดของสํานักตะวันทองคําในที่นี้ กระนั้น
เขากลับถูกบดขยี้จนถึงแก่ความตายโดยหม้อยักษ์ต่อหน้า!
ฝูงชนแทบไม่กล้าหายใจออกมาดัง กระทั่งถอยหนีเงียบงัน พวกเขา
กําลังจะได้เห็นศึกตึงเครียดที่พร้อมปะทุทุกเมื่อ!
บรรดาผู้อาวุโสที่หยิ่งผยองของตําหนักจารึกเทวะ ล้วนเผยสีหน้า
หนักอึ้งชัดเจนผ่านใบหน้า ขณะนี้เริ่มถอยกันแล้ว
อีกหลายคนจากสํานักอื่นที่เพิ่งมาถึง รวมกันแล้วกว่าสิบคน ทั้ง
คนชราและคนหนุ่ม พวกเขามาถึงไม่นานมานี้ ดังนั้นจึงยังไม่ได้เข้า
มาใกล้
ทันทีเมื่อมาถึง สิ่งที่พวกเขาได้ประสบพบเจอ คือหม้อราชสีห์สวรรค์
สะกดมังกร ใบหน้าพวกเขาถึงกับเปี่ ยมด้วยความโลภ
แต่หลังจากนั้น พวกเขาได้เห็นหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรลอย
ในอากาศ ก่อนจะร่วงหล่นลงมาเบื้องล่าง บดขยี้ร่างชายชราภายใต้
หม้อจนแหลกเละ
“ศิษย์ทุกคนของสํานักเก้าตะวัน ปลดปล่อยหุ่นเชิดออกมา!” ผู้อาวุโส
สํานักตะวันทองคําร้องตะโกน เร่งรีบปลดปล่อยพยัคฆ์ตัวใหญ่หลาย
เมตรออกมา
ผู้คนจากสํานักเก้าตะวันล้วนทราบ ว่าฉินหยุนไม่ใช่ตัวตนรับมือได้
ด้วยง่าย
บรรดาศิษย์ขณะนี้ต่างปลดปล่อยหุ่นเชิดแข็งแกร่งของตนกันออกมา
นี่คือมาตรการรับมืออันตรายของพวกเขา
แน่นอนว่า หุ่นเชิดเหล่านี้เป็นของดาษดื่นในสายตาของฉินหยุน
มนุษย์จระเข้เกราะของสั่วจินเฟยนับว่าแข็งแกร่ง กระนั้นก็ยังถูกฉิน
หยุนสังหารง่ายดาย ทว่าครั้งนั้น ฉินหยุนเผชิญหน้ากับหุ่นเชิดเพียง
หนึ่ง
ในเวลานี้ จํานวนหุ่นเชิดนับร้อยของหลายสํานักรวมกัน ทั้งตําหนัก
โทเทม ตระกูลสายเลือดชนชั้นสูง และสํานักเก้าตะวัน พวกเขาตั้งวง
ล้อมปิ ดกั้นฉินหยุนเอาไว้
กระทั่งหุ่นเชิดที่เป็นปราการทางอากาศก็มี
บรรดาผู้ควบคุมหุ่นเชิด ขณะนี้เริ่มถอยห่างออกไปแล้ว!
ฉื่อซินซินขมวดคิ้ว หันมองรอบด้าน พบเห็นแต่หุ่นเชิดชวนสะพรึง
ความหวาดกลัวปรากฏในดวงตาของนาง
“ซินซินวางใจเถอะ เดี๋ยวข้าส่งเจ้าเข้าไปอยู่ในมิติเก็บของ ซ่อนตัวใน
นั้นจะปลอดภัย!” ฉินหยุนกล่าวพร้อมสัมผัสที่ใบหน้าของนาง
ฉื่อซินซินพยักหน้ารับก่อนจะถูกส่งตัวเข้าสู่วิญญาณเทวะเก้าตะวัน
ภายในนางไม่ได้โดดเดี่ยว เพราะยังมีโมโมและคณะอยู่เป็นเพื่อน
ฉินหยุนควบคุมหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรออกบินนําหน้า
เสียงเย็นเยือกกล่าวคําออก “คิดอยากจับตัวข้าหรือ?”
มีแต่ตําหนักจารึกเทวะที่ไม่เข้าร่วม อย่างไรแล้ว หานเฝิงหู่ก่อนหน้า
นี้ได้ปรับความเข้าใจกับฉินหยุนเรียบร้อย กระทั่งว่าพวกเขาอยาก
เข้าร่วม ก็ต้องพิจารณาให้มากก่อนกระทํา
“ฉินหยุน เจ้าฆาตกรร้าย เจ้ากระทั่งฉกชิงเอาอุปกรณ์เต๋าโบราณของ
สํานักเก้าตะวันเราไปครอบครอง แน่นอนว่าพวกเราย่อมต้องจับตัว
เจ้าเอาไว้!” ชายชราตะโกนดัง พร้อมกันนี้ เขาควบคุมหุ่นเชิดร่างสูง
ใหญ่พุ่งเข้าหาฉินหยุน
หุ่นเชิดตัวอื่นต่างก็เร่งรีบโจมตีตามติด พวกมันรวบรวมพลังแกร่ง
กล้าเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว บางตัวพุ่งเข้าหาฉินหยุน ขณะที่บางตัวเลือก
ปลดปล่อยการโจมตีในระยะไกล
ผู้คนขณะนี้ล้วนเชื่อ ว่าหากได้ควบคุมหุ่นเชิดจํานวนมากเพียงนี้
โจมตีบุคคลเพียงหนึ่ง การจับตัวย่อมต้องสําเร็จ!
กระนั้น พวกเขาประเมินฉินหยุนตํ่าเกินไป!
ฉินหยุนแค่นเสียง ปลดปล่อยหุ่นเชิดของตนออกมา!
แสงสีขาวสว่างวูบ มังกรกระดูกตัวใหญ่ยักษ์ปรากฏ!
มังกรกระดูกเมื่อปรากฏ มันเผยเสียงคํารามร้องดังสะท้านแดนดิน
พุ่งเข้าหากลุ่มคนที่เข้าควบคุมบรรดาหุ่นเชิดเอาไว้!
ฉินหยุนยืนสงบนิ่ง ปล่อยให้บรรดาหุ่นเชิดเข้าโจมตีตนเอง
ขณะนี้เขาสวมใส่ชุดเกราะเต๋า หุ่นเชิดเหล่านี้มีพลังเพียงขอบเขต
วรยุทธ์วิญญาณ ดังนั้นพวกมันไม่มีทางทะลวงพลังป้องกันของ
เกราะเต๋าได้อย่างแน่นอน
เวลานี้ ผู้ที่ควบคุมหุ่นเชิดซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป พบเห็นมังกรกระดูก
ร่างใหญ่คํารามพุ่งตัวเข้าหา หัวใจพวกเขาหล่นวูบแทบถึงแกนโลก
ไม่มีผู้ใดคาดคิด ว่าฉินหยุนจะมีหุ่นเชิดใหญ่โตและแกร่งกล้าเพียงนี้
ในครอบครอง!
จากระยะไกล มันเหมือนมังกรโครงกระดูก มันไม่มีเลือดและเนื้อ
กระนั้นรูปลักษณ์นี้ก็ทําเอาผู้คนขนหัวลุก กระทั่งต้องเร่งร้อน
หลบหนี!
ฉินหยุนกวัดแกว่งกระบี่ใหญ่เต๋าในมือ ปลดปล่อยวิชาวายุสังหารทั้ง
หกกระบวนท่า สับฟันหุ่นเชิดและสัตว์เลี้ยงทั้งหลายที่พุ่งทะยานเข้า
มา
ผู้รับชมซึ่งถอยหนีออกไปไกล ขณะนี้ตื่นตระหนกยามได้เห็นกระบี่
ในมือฉินหยุนที่โจมตีออก พวกเขาถึงขั้นยินดีที่ไม่ได้เสนอหน้าเข้า
ร่วมการศึกครั้งนี้!
ทุกครั้งที่กระบี่ใหญ่ในมือฉินหยุนสะบัดออก มันจะเกิดคลื่น
กระแทกทรงพลัง และจะมาพร้อมกับอสนีบาตอัคคี มังกร และ
พยัคฆ์ โหมเข้าซัดใส่หุ่นเชิดเหล่านั้นด้วยเสียงฟ้าคํารามดังสนั่น
เพียงพริบตาเดียว หุ่นเชิดกว่าครึ่งก็ถูกทําลายจนย่อยยับแล้ว!