Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 486 มังกรกระดูก
ตอนที่ 486 มังกรกระดูก
หลังจากที่ฉินหยุนปลดยันต์ดังกล่าวออกมา เส้นสายสีทองจํานวน
มากจึงปรากฏบนพื้น ค่ายอาคมเคลื่อนย้ายปรากฏขึ้น
“ยันต์ตามรอยตะวันนี้ทรงพลังนัก!” เมื่อฉินหยุนได้ถือมันไว้ในมือ
เขารับรู้ได้ถึงความอุ่น
เป็นที่ทราบกันว่ายันต์นี้คงอยู่ที่นี่มานานนับ กระนั้นมันยังมีสภาพ
คล้ายเพิ่งสร้างขึ้นใหม่
หยางฉีเย่ว์เดินเข้ามา นางยิ้มกล่าว “หากเป็นไปได้ด้วยดี อีกไม่นาน
เจ้าจะได้วิญญาณดวงตะวันที่สอง!”
“การได้รับวิญญาณดวงตะวันคงไม่ใช่เรื่องง่าย!” ฉินหยุนยิ้มแหย
“ตําหนักจารึกเทวะยังต้องใช้เวลายาวนานเพื่อค้นหามัน! หากข้า
ต้องการวิญญาณดวงตะวันนั้น อย่างน้อยก็ต้องมีการเสียเลือดเนื้อ
บ้าง!”
“ด้วยพี่หยางช่วยเหลือ เจ้าย่อมต้องได้รับ!” หยางฉีเย่ว์หัวเราะคิกคัก
ฉินหยุนมองที่ค่ายอาคมเคลื่อนย้ายบนพื้นขณะยิ้มตอบ “พี่หยาง
เช่นนั้นไปที่สวนโบราณกันเลยดีกว่า!”
“ไปกัน!” หยางฉีเย่ว์พยักหน้ารับรัวเร็ว นางกําลังคาดคิดถึงสิ่งที่จะ
ฉินหยุนเข้าควบคุมค่ายอาคมเคลื่อนย้าย ถึงตอนนี้เขาค่อยทราบว่า
มันมีพลังงานไม่พอ!
“ค่ายอาคมเคลื่อนย้ายนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับค่ายอาคมของนครโบราณ
มันจําเป็นต้องใช้ทรัพยากรพลังงานแยกต่างหาก!” ฉินหยุนคิ้วขมวด
“บางทีอาจเป็นเพราะผู้สร้างมัน เป็นกังวลว่าแหล่งพลังงานของนคร
โบราณจะถูกทําลาย และอาจส่งผลถึงค่ายอาคม”
“ต้องใช้พลังงานเพียงใดกัน?” หยางฉีเย่ว์เร่งรีบเอ่ยถาม
“น่าจะราวหนึ่งพันล้านเหรียญม่วง!” ฉินหยุนมองที่ค่ายอาคม พบว่า
มันมีก้อนอิฐขนาดใหญ่วางไว้บนพื้น คล้ายสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ
ภายในก้อนอิฐ มันคือมิติเก็บของขนาดใหญ่ที่สามารถบรรจุเหรียญ
ม่วงมหาศาล
“มากมายนัก ข้าไม่เคยเห็นเหรียญม่วงมากมายขนาดนั้นมาก่อนด้วย
ซํ้า!” หยางฉีเย่ว์เดินไปมา “พวกเราทําอย่างไรดี? เสี่ยวหยุน เจ้าขัด
เกลาอุปกรณ์วิญญาณระดับราชันได้ใช่หรือไม่? อย่างนั้นขัดเกลา
พวกมันขึ้น แล้วขาย เช่นนี้จะเป็นวิธีการหาเหรียญม่วงที่เร็วที่สุด!”
ขณะนางเผยความกังวล ฉินหยุนนําบัตรผลึกเหรียญม่วงออกมายิ้ม
กล่าว “พี่หยางอย่าได้กังวลแล้ว ข้ายังมีเหลือเฟื อถึงเจ็ดพันล้าน!”
หยางฉีเย่ว์พอได้เห็นบัตรผลึกเหรียญม่วงที่ฉินหยุนส่งมา นางถึงขั้น
อึ้งไปวูบ ขณะนี้รับบัตรมาพร้อมสํารวจพิจารณา
“นี่… เจ้าไปหาเหรียญม่วงขนาดนี้มาได้อย่างไรกัน?” นางสูดลม
หายใจเข้าลึกเมื่อได้เห็นจํานวน
“หามาสิขอรับ!” ฉินหยุนยิ้มกว้าง บอกต่อนางถึงเรื่องราวที่เขาร่วมมือ
กับมู่เฟิ ง ฉ้อโกงเอาเหรียญม่วงปริมาณมหาศาลมา
“เจ้านี่นะ!” หยางฉีเย่ว์ยิ้ม “เช่นนั้นก็ดี ข้าจะออกไปภายนอก ช่วยเหลือ
เจ้าแลกเปลี่ยนเหรียญม่วงมาให้!”
“อืม ส่งมันไปยังบัตรท่านจะดีกว่า! จริงด้วย พี่หยาง ท่านมีอุปกรณ์
มิติเก็บของที่ใหญ่พอหรือไม่? ข้าต้องการให้ท่านช่วยแลกมาสักสาม
พันล้าน!” ฉินหยุนกล่าว
“ย่อมไม่มี” หยางฉีเย่ว์ส่ายศีรษะ กระนั้น นางก็หาได้เป็นกังวลใดไม่
เพราะฉินหยุนสามารถขัดเกลาอุปกรณ์วิญญาณมิติเก็บของ
ฉินหยุนเร่งรีบนําเอาหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรออกมา หลัง
วุ่นวายอยู่หลายวัน เขาค่อยขัดเกลาอุปกรณ์มิติเก็บของสามชิ้น พวก
มันเป็นกล่องเรียบง่ายที่สามารถจุได้มากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญ
ม่วง
“พี่หยาง แยกกันไปแลกเปลี่ยน เช่นนี้จะได้รวดเร็วกว่า!” ฉินหยุน
กล่าว
หากหยางฉีเย่ว์ต้องการแลกเหรียญม่วงจํานวนมหาศาล ก็ต้องไปยัง
ตําหนักจารึกเทวะหลายสาขา
“ไม่ เจ้าอยู่ที่นี่ ขัดเกลายันต์ ตระเตรียมสําหรับเดินทางสู่สวนโบราณ!”
หยางฉีเย่ว์ยิ้มตอบ “เสี่ยวหยุน เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะหนีหายหลังได้รับ
เหรียญม่วงมหาศาลขนาดนี้หรือ?”
ฉินหยุนหัวเราะ “พี่หยางย่อมไม่ใช่คนเช่นนั้น หากเป็นพี่หยางย่อม
ทราบ ว่าอยู่ร่วมกับข้าย่อมดีกว่ามีหลายพันล้านเหรียญม่วงนั่นเป็น
ไหน!”
“ช่างรู้จักพูดนัก!” หยางฉีเย่ว์ยิ้ม ก่อนจะไปจากห้องลับชั้นใต้ดิน
ออกสู่ภายนอกเพื่อแลกเปลี่ยนเหรียญม่วง
ฉินหยุนอยู่ที่นี่ เริ่มขัดเกลายันต์สะกดกายและกระสุนปื นใหญ่
รวมถึงมีดบินจํานวนหนึ่งที่ขัดเกลาขึ้นจากแก่นวิญญาณระดับลึกลํ้า
แม้เขาครอบครองอุปกรณ์เต๋าจํานวนหนึ่ง แต่ไม่มีพวกมันที่เหมาะสม
ใช้งาน ทว่าเกราะป้องกันค่อนข้างมีประโยชน์ ภายหน้าเขาค่อยขาย
พวกมันยังได้
หยางฉีเย่ว์ที่ออกไปทําการแลกเปลี่ยน อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหลัก
เดือน
ช่วงเวลานี้ มันเพียงพอให้ฉินหยุนได้เตรียมการแก่ตนเอง
หนึ่งเดือนผันผ่าน ฉินหยุนขัดเกลายันต์สะกดกายระดับราชันได้
หนึ่งร้อยแผ่น กระสุนปื นใหญ่สามสิบลูก พร้อมมีดบินอีกสามเล่ม
หยางฉีเย่ว์ยังไม่กลับมา เรื่องนี้ทําเอาฉินหยุนกังวลไม่น้อย
ที่เขากังวลไม่ใช่ว่าหยางฉีเย่ว์จะหนีหาย แต่เขากลัวว่านางจะเผชิญ
กับอันตราย
“พี่หยุน ท่านอย่าได้กังวล! พี่หยางคล้ายฟื้นคืนความทรงจําในชาติภพ
ก่อนแล้ว นางรับมือได้ยากกว่าที่ท่านคิด!” โมโมขณะนี้สร้างหยด
แก่นจันทราสําเร็จ มันเพียงพอให้นางและกระต่ายหยกได้กินร่วมกัน
กระต่ายหยกถูกโมโมปลุกให้ตื่น พร้อมกับหยางหยาง ทั้งสามใช้เวลา
ร่วมกันทั้งวันและคืนในมิติเก็บของละเล่นไปทั่ว ทว่าเจ้าตัวน้อยน่ารัก
เหล่านี้ประมาทไม่ได้ ทั้งหมดล้วนครอบครองความสามารถสะเทือน
ฟ้าดิน
ตึง! ตึง! ตึง!
ฉินหยุนอยู่ในห้องใต้ดิน ขณะนี้รับรู้ถึงอาการพื้นดินที่สั่นไหว
“มีคนโจมตีอาคมคุ้มกันเมืองหรือ?” ฉินหยุนเร่งรีบเดินออกจากฐาน
ค่ายอาคม แปรสภาพร่างกายให้โปร่งแสง มุ่งหน้าไปยังประตูทางเข้า
เมื่อถึงประตูเมือง เขาถึงกับอึ้งไปวูบ!
ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่กํายํา ยืนหยัดตรงหน้าประตูเมือง เขา
สวมใส่ชุดสีดําหยาบกร้าน ครึ่งใบหน้ามีหน้ากากปกปิ ดเอาไว้ ใน
มือถือหอกมังกร กําลังโจมตีเข้าใส่ค่ายอาคมใหญ่อย่างไม่ยั้งมือ
ชายวัยกลางคนผู้นี้ปลดปล่อยออร่าข่มขวัญ มองไปก็ทราบว่าเป็นผู้
แข็งแกร่ง
“เสด็จพ่อ!” ฉินหยุนเร่งรีบปรากฏตัวพร้อมร้องตะโกน “อย่าได้
โจมตีแล้ว ค่ายอาคมนั่นข้าลําบากขัดเกลามันขึ้นมานะ!”
ชายด้านนอกประตูเมืองไม่ใช่ใครอื่น เป็นฉินหลง!
“เป็นอย่างนี้นี่เอง นึกว่ามีคนผนึกเมืองนี้เอาไว้เสียอีก!” ฉินหลงยิ้ม
กว้างเมื่อพบว่าฉินหยุนปรากฏตัวตรงหน้า
ฉินหยุนเร่งรีบปิ ดค่ายอาคมใหญ่ ให้ฉินหลงได้เข้ามา
ได้เห็นบิดาตนเองมาถึงปุบปับเช่นนี้ เขายินดีไม่น้อยเลยทีเดียว
“เจ้าหนูแสนซน อย่างไรแล้วเจ้าก็เป็นบุตรชายข้า ถึงกับสร้างปัญหา
ใหญ่โตไปทั่ว! ทั้งยังแปรเปลี่ยนแดนยุทธ์อ้างว้างอย่างพลิกกลับ!”
ฉินหลงเมื่อเข้ามาแล้ว จึงลูบที่หัวฉินหยุนพร้อมหัวเราะดัง
“เสด็จพ่อ…”
“อย่าได้เรียกพ่อเป็นเสด็จพ่อ พ่อก็แค่จักรพรรดิคนหนึ่งที่ผู้คนใน
ดินแดนสุดขอบเรียกหา!” ฉินหลงโบกมือไหววูบ
ฉินหยุนยิ้ม “ข้าจะทําได้อย่างไร! เสด็จพ่อ เหตุใดมาที่นี่กัน? ภูมิภาค
ชายแดนเกิดเรื่องขึ้นหรือ?”
“ตอนแรก คนของหุบเขาลึกลํ้าจันทราไปถึง จากนั้นจึงเป็นคนของ
ตําหนักจันทราทมิฬ พวกเขาล้วนกวาดเอาศิษย์มีพรสวรรค์ไปจนหมด
สิ้น! ด้วยพวกเขาอยู่ที่นั่น ลูกวางใจได้!” ฉินหลงตบไหล่ฉินหยุน
พร้อมยิ้มบอกเล่าออกมา
ย้อนกลับไปกาลก่อน หลายสํานักเข้าร่วมในการก่อสร้างหลุมฝัง
เซียน ผลลัพธ์ที่ได้ สํานักเหล่านั้นถูกกวาดล้างเพื่อปิ ดปาก กระนั้นก็
ยังเหลือเมล็ดพันธุ์ชั้นเลิศเอาไว้ในภูมิภาคชายแดนแห่งนั้น
ฉินหยุนนําทางบิดาตนเองสู่ฐานค่ายอาคม พร้อมเรียกโมโมออกมา
เขายิ้มกล่าว “เสด็จพ่อ ให้ข้าหยิบยืมโทเทมมังกรของท่านหน่อยแล้ว!”
“สวัสดีท่านลุงเจ้าค่ะ!” โมโมกล่าวทักทายฉินหลงด้วยความสุภาพ
“ภูติอสูรพระแม่ ข้าทราบอยู่แล้วว่านางย่อมไม่ตายโดยง่าย!”
จากนั้นเขาค่อยถอดหน้ากากออก
ฉินหยุนนําเอาไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรทั้งหมดที่มีเหลือออกมา นี่ก็เพื่อให้
โมโมได้ทํางานอย่างลื่นไหล คัดลอกเอาโทเทมมังกรของฉินหลง
ออกมา
ผ่านไปสามวัน โทเทมมังกรขณะนี้ได้โมโมคัดลอกออกมาสมบูรณ์
แล้ว
ฉินหลงกลับมาสวมใส่หน้ากาก “เสี่ยวหยุน! หลุมฝังเซียนที่ซุกซ่อน
เอาไว้ในเขตแดนอ้างว้าง ทางที่ดีลูกอย่าได้ออกค้นหามัน! หากลูก
พบเจอมัน สุสานเซียนนั่นก็จะถูกเปิ ดเผยด้วย!”
“หากลูกไม่มีกําลังพอให้เข้าไป อย่างนั้นจะต้องมีผู้อื่นเข้าครอบครอง
แทนลูกแน่!”
“เสด็จพ่อ ทั้งแดนยุทธ์อ้างว้างขณะนี้เป็นแบบนี้ไปแล้ว เมื่อข้าเพิ่มพูน
การฝึกฝนจนแกร่งกล้ากว่านี้ ก็คงไม่อาจกลับมาได้อีก!” ฉินหยุน
ถอนหายใจ “ข้าต้องก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ดังนั้นจึงต้องไป
หลบซ่อนตัวในแดนวิญญาณอ้างว้าง ไม่อย่างนั้นข้าจะถูกแรงกดดัน
พลังที่นี่เข้าเล่นงาน!”
“เก้าดวงตะวันกําลังปกป้องบางสิ่ง เพราะเหตุนั้นพวกมันจึงลงมือ
ดังที่เห็น แต่มันก็ไม่ได้คงอยู่ชั่วกาลนาน! ดังนั้นลูกไม่ต้องกังวลว่า
จะกลับมาไม่ได้!” ฉินหลงกล่าว
“เสด็จพ่อ ที่ภูมิภาคชายแดนแห่งนั้น มีความลับมากมายซุกซ่อน
เอาไว้หรือขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถามเสียงเบา
“ถูกต้อง” ฉินหลงพยักหน้ารับ “ความลับมีมากมายนัก! โดยสรุป
พ่อจะสํารวจเทือกเขาเมฆมังกรไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง!”
ขณะนี้เสียงของเขาคล้ายเบาลงขณะกล่าวต่อ “หลังได้อ่านตํารา
โบราณมากมาย พ่อพบบันทึกถึงเส้นทางที่เชื่อมต่อชายแดนของ
พวกเราไปยังแดนเซียนอ้างว้าง!”
“ในอดีต เซียนมากมายเลือกที่จะสร้างสุสานเซียนมากมายเอาไว้ใน
เทือกเขาเมฆมังกร บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขาสะดวกเดินทางมาถึง
ที่แห่งนั้น!”
ฉินหยุนขณะนี้ค่อยพบ ว่าการฝึกฝนของบิดาตนเองค่อนข้างสูงส่ง
“เสด็จพ่อ ท่านอยู่ระดับใดกันแล้ว? นี่คล้ายแข็งแกร่งยิ่งนัก!” เขาเอ่ย
ถาม
“พ่อขณะนี้อยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า! พ่อเป็นพ่อของลูก จะ
ไม่แข็งแกร่งกว่าลูกได้หรือ?” ฉินหลงหัวเราะ “อีกไม่ช้าพ่อก็จะเข้า
สู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณแล้ว!”
ฉินหยุนอึ้งไปวูบ เขารู้สึกว่าการเลื่อนระดับตนเองรวดเร็วแล้ว ทว่า
ฉินหลงกลับรวดเร็วยิ่งกว่า
“เสด็จพ่อ ท่านฝึกฝนอย่างไรกัน? รีบสอนแก่ข้าแล้ว!”
ฉินหลงหัวเราะ “วิธีการฝึกฝนของพ่อไม่เหมาะสมกับลูก! ทุกคน
ต่างมีวิธีเป็นของตนเอง อย่าได้ฝืนตน ไม่เช่นนั้นจะง่ายต่อการเกิด
ความผิดพลาด!”
“ขอรับ!” ฉินหยุนเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงนําบิดาตนเอง
ออกจากฐานค่ายอาคมสู่ภายนอก
จากนั้นเขาจึงนําร่างมังกรออกมา
ฉินหลงพอได้เห็นมังกรที่ตายแล้ว เขาอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นค่อยยิ้ม
และอุทานออก “ครั้งพ่อยังเด็ก พ่อเคยเจอเจ้านี่ในเทือกเขาเมฆมังกร
พ่อไม่คิดเลยว่ามันจะตกอยู่ในมือของลูก!”
ใบหน้าของเขาเผยความยินดีขณะยิ้มให้ฉินหยุน ไม่ช้ารอยยิ้มนั้น
เลือนหาย เพราะฉินหยุนต้องการให้เขาช่วยเหลืองานยากลําบาก นั่น
ก็คือการเลาะเนื้อและเกล็ดมังกรออก หลงเหลือไว้เพียงแต่โครง
กระดูก
ฉินหลงอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า และยังครอบครองโทเทม
มังกร พละกําลังของเขาย่อมไม่ธรรมดา
มีผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ฉินหยุนไม่ใช้งานให้คุ้มก็ออกจะเสียเปล่าเกินไป
แล้ว
ที่พื้นขณะนี้ ปรากฏโครงกระดูกมังกรสภาพสมบูรณ์ แม้เลือดมังกร
เป็นสีทอง แต่กระดูกมังกรนั้นขาวเปรียบดังหิมะ
ฉินหยุนนําวิญญาณยุทธ์มังกรสีดําที่เพิ่งได้รับก่อนหน้านี้ออกมา
จากนั้นจึงแกะสลักโทเทมมังกรลงที่พื้นผิววิญญาณยุทธ์มังกรสีดํา
โดยอาศัยปากกาลึกลํ้าสะท้อนจิต
ผ่านไปสองวันผลงานค่อยเสร็จเรียบร้อย จากนั้นเขาจึงควบคุมมังกร
สีดําให้ผสานรวมกับกระดูกมังกร
“เสี่ยวหยุน นี่ลูกคิดขัดเกลาหุ่นเชิดมังกรหรือ?” ฉินหลงพอได้เห็น
กระดูกมังกร เขาพลันลอยขึ้นกลางอากาศพร้อมอุทานร้องด้วยความ
ตื่นตกใจ
“ถูกต้องแล้ว! แต่นี่ก็แค่ผลงานที่ยังไม่เสร็จสิ้นดีขอรับ ในภายหน้า
เมื่อข้ามีวัสดุที่ดีกว่านี้ ข้าจะเพิ่มเกราะเกล็ดและเนื้อภายใต้เกล็ด
ให้แก่มัน!” ฉินหยุนยิ้มตอบ “แต่เท่านี้ก็เพียงพอให้ใช้งาน หากมี
พลังงานเพียงพอ มังกรกระดูกตัวนี้สมควรมีพลังที่แกร่งกล้า!”
ฉินหยุนรู้สึกว่า อย่างน้อยมันก็สามารถใช้ถ่วงผู้ฝึกตนขอบเขตวร
ยุทธ์ลึกลํ้าได้พักหนึ่ง
เกราะเกล็ดมังกรเดิมก็มีประโยชน์มหาศาลแล้ว ดังนั้นภายหน้าฉิน
หยุนเพียงแค่ใช้เหล็กกล้าหยวนลึกลํ้า เพื่อขัดเกลามังกรกระดูก เป็น
มังกรกระดูกเหล็กกล้า
ฉินหลงโล่งใจที่ได้เห็นบุตรชายมีศักยภาพเพียงนี้ เขายังต้องกลับไป
ภูมิภาคชายแดนเพื่อสํารวจเส้นทางไปยังแดนเซียนอ้างว้าง ดังนั้น
เขาจึงไม่คิดอยู่ต่อนานนัก
ฉินหยุนส่งฉินหลงออกจากเมือง ขณะนี้เขายิ่งเกิดความกังวล เพราะ
หยางฉีเย่ว์ยังไม่กลับมา
เขาควบคุมมังกรกระดูกบินไปมา ด้วยขนาดใหญ่โตของมังกรกระดูก
รูปลักษณ์ของมันชวนให้เกรงขาม
ฉินหยุนรออยู่อีกสามวันในซากปรักหักพังไม่ไกลจากประตูเมือง
ในที่สุดเขาค่อยได้เห็นหยางฉีเย่ว์เดินทางกลับมา
หยางฉีเย่ว์สวมใส่ชุดสีดําพร้อมหน้ากาก ด้วยพลังที่ไม่ทราบว่าคือ
อะไร นางสามารถผ่านค่ายอาคมใหญ่คุ้มกันนครโบราณและเข้ามา
ได้
หยางฉีเย่ว์เมื่อเข้ามาแล้ว นางได้เห็นรอยยิ้มที่ใบหน้าฉินหยุนที่เปี่ ยม
ด้วยความกังวลห่วงหา นางขณะนี้รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
“เสี่ยวหยุน สํานักเก้าตะวันและสํานักอื่นของแดนวิญญาณอ้างว้าง
ได้ส่งศิษย์ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สามมากมายสู่สวนโบราณ
พวกเขาสมควรนําหุ่นเชิดที่แกร่งกล้าร่วมทางไปด้วย…”
ก่อนนางจะกล่าวคําจบ นางจึงได้เห็นมังกรกระดูกบินมาแต่ไกล!
“ขณะนี้ข้าเองก็มีหุ่นเชิดที่แข็งแกร่ง!” ฉินหยุนยิ้มตอบ “ไปกันดีกว่า
ขอรับ พวกเราจะเปิ ดการทํางานของค่ายอาคม และเข้าสู่สวนโบราณ
เหล่านั้น!”