Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 483 กลืนกินวิญญาณ
ตอนที่ 483 กลืนกินวิญญาณ
ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์หันหลังชนกัน ในมือขณะนี้ถืออาวุธพร้อมรบ
ชายในชุดเกราะสีดําทั้งสามปิ ดล้อมพวกเขาเอาไว้พร้อมรอยยิ้มชั่วช้า
ขณะนี้พวกเขายังไม่คิดลงมือ ราวกับมาเพื่อเจรจา
“ฉินหยุน ประหลาดใจใช่ไหมเล่า? แท้จริงพวกเรามาถึงนานแล้ว
พวกเราก็แค่ต้องการเปิ ดตัวให้เหนือลํ้ากว่าพวกหน้าโง่ห้าคนนั่น!”
ชายชุดดํากล่าว “ด้วยกําลังของเจ้า จัดการพวกเราไม่ง่าย นอกจากนี้
พวกเรายังมียอดฝีมือขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้ากว่ายี่สิบคนรอ
อยู่ภายนอก!”
ฉินหยุนเผยเสียงเย็น “มีอะไรอยากพูดจงรีบพูดออกมา!”
“นครโบราณยุทธ์เต๋ามีรากฐานค่ายอาคม ขณะนี้คงอยู่ในการควบคุม
ของเจ้า จึงทําให้เข้าเมืองแล้วไม่อาจออกใช่หรือไม่? สํานักอื่นไม่
ทราบ แต่พวกเราทราบ ย้อนกลับไป พวกเราทั้งสามสํานักมีส่วนร่วม
ในการก่อสร้างนครโบราณแห่งนี้!” ชายร่างใหญ่กล่าว
หยางฉีเย่ว์เอ่ยคํา “สํานักเก้าตะวันสมควรมีเก้า เมื่อครู่มีห้า ขณะนี้
พวกเจ้ามีสาม แล้วอีกหนึ่งเล่า?”
“สํานักเก้าตะวันลําดับที่เก้ายุติไปเนิ่นนานแล้ว รากฐานของพวกเขา
ในแดนเทพอ้างว้างถูกทําลาย! ดังนั้นอย่าได้กังวลไป จะไม่มีสํานัก
เก้าตะวันอื่นโผล่มาอีกแน่!” ชายวัยกลางคนบอกเล่าออกมา
ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ถึงกับเกิดอาการตื่นตระหนกภายใน
“กลับเข้าเรื่อง! หากเจ้ายังคิดอยากมีชีวิตรอด จงร่วมมือกับพวกเรา
เข้าร่วมสํานักเก้าตะวันของพวกเรา ร่วมมือกับพวกเราควบคุมนคร
โบราณแห่งนี้!” ชายชุดดําหัวเราะดัง “ทางด้านผลประโยชน์ที่พวก
เราจะมอบให้แก่เจ้า ย่อมต้องไม่น้อยหน้า!”
หยางฉีเย่ว์ขณะนี้ส่งเสียงสื่อสารบอกต่อฉินหยุน บอกเขาว่าอย่าได้
ยอมรับไม่ว่ามันจะเป็นอะไร
ฉินหยุนย่อมไม่ยอมรับอยู่แล้ว เขาเชื่อว่าสามสํานักตรงหน้านี้คือผู้
อยู่วิถีเต๋าอันชั่วร้าย
นอกจากนี้ สายตาที่อีกฝ่ ายใช้มองหยางฉีเย่ว์ ยังทําให้เขาโกรธอย่างยิ่ง
“แล้วหากพวกเราปฏิเสธ?” หยางฉีเย่ว์เอ่ยถาม
“เช่นนั้นข้าจะส่งพวกเจ้าไปตาย!” ชายวัยกลางคนหัวเราะดัง
คําพอกล่าวจบ มือของหยางฉีเย่ว์เคลื่อนไหวเล็กน้อย ปลดปล่อย
ดาบออกอย่างรวดเร็ว แทงเข้าที่ศีรษะของชายตรงหน้า
ฉินหยุนสับฟันกระบี่ใหญ่ในมือ ส่งร่างชายวัยกลางคนกระเด็นไกล
“เหตุใดชุดเกราะพวกมันแข็งแกร่งนัก?” ฉินหยุนสบถภายใน หาก
ไม่มีชุดเกราะนั่น กระบี่ของเขาย่อมสับชายร่างใหญ่ออกเป็นสองท่อน
แล้ว
“เสี่ยวหยุน เจ้าไปถ่วงเวลามันไว้ ไม่ต้องสังหารมัน รอข้ากลับมา!”
หยางฉีเย่ว์กล่าวคําจบ นางเร่งรีบไล่ตามคนอื่นที่หลบหนี ดาบในมือ
ของนางกวัดแกว่งจ้วงแทงออก
ฉินหยุนไล่ตามชายวัยกลางคนที่ร่างกระเด็น เริ่มเข้าต่อกรกับอีกฝ่ าย
ไม่นานนัก หยางฉีเย่ว์สังหารคนเหล่านั้นก่อนจะกลับมาหาฉินหยุน
เพียงการจ้วงแทงไม่กี่ครั้ง นางก็สังหารคนสุดท้ายได้เรียบร้อยแล้ว
ฉินหยุนตระหนก พละกําลังของหยางฉีเย่ว์แท้จริงถึงกับชวนสะพรึง
เพียงนี้ นางสามารถทะลวงผ่านอุปกรณ์เต๋าที่ป้องกันร่างกาย แทง
ทะลุเข้าร่างบุคคลเหล่านั้น
แต่เมื่อครู่ ตอนที่นางประมือกับคนเหล่านั้น นางไม่คล้ายใช้พลังใด
ออกมา
ฉินหยุนคาดเดา ว่าหากเป็นเมื่อครู่ หยางฉีเย่ว์คงกังวลว่าแม่เฒ่าหลิง
จะพบเห็น
“พี่หยางยอดเยี่ยมนัก!” ฉินหยุนยิ้มกว้าง
หยางฉีเย่ว์โยนร่างคนตายออกไปไกล ขณะนางคิดนําแก่นเต๋า
ออกมา นางพบว่าร่างกายไม่อาจขยับ!
ฉินหยุนสีหน้าแปรเปลี่ยน ไม่เพียงแต่ร่างกายไม่อาจขยับ พลังใน
แก่นเต๋าทั้งสามของเขาก็ถูกผนึกไว้!
“ต้องพูดเลย พวกเจ้ารับมือยากนัก! แต่กระนั้นพวกเราก็ยังสามารถ
จับตัวเจ้าได้!” เด็กหนุ่มหล่อเหลาในชุดดําทะยานกายเข้ามา
หยางฉีเย่ว์เผยเสียงเย็น “เสี่ยวหยุน ที่พวกเราสู้เมื่อครู่นี้ พวกมันส่ง
คนลอบเข้ามา วางค่ายอาคมธงไว้ใกล้เคียง เปิ ดการทํางานพวกมัน
ขังพวกเราเอาไว้ภายในนี้!”
“แม่นางที่งดงามนี้กล่าวได้ถูกต้อง พวกเจ้าขาดซึ่งความระวัง ก็นะ มี
กันแค่สองคนเองนี่!” เด็กหนุ่มหล่อเหลาในชุดดํายิ้มกว้าง “สวัสดี
ทุกท่าน ข้าคือจ้าวนครคนใหม่ของนครโบราณ อู่เฉิงเทียน!”
“เมื่อครู่ข้าให้โอกาสเจ้ายอมรับเงื่อนไขของพวกเรา แต่ไม่เพียงไม่
ยอมรับ ยังสังหารคนของพวกเรา!”
อู่เฉิงเทียนยิ้มขณะเดินเข้าหาหยางฉีเย่ว์ อีกฝ่ ายไม่คล้ายได้รับผลกระทบ
ของค่ายอาคม
“เจ้าคิดทําอะไร? หากแตะต้องนาง ข้าจะให้เจ้าต้องตายอย่างน่าสังเวช!”
ฉินหยุนคํารามกราดเกรี้ยวเมื่อเห็นว่าอู่เฉิงเทียนเดินเข้าหาหยางฉีเย่ว์
“งดงามไร้ผู้ใดเทียบ หาได้ยากนัก! ข้าย่อมคิดสัมผัสนาง ให้นางได้
มอบบุตรหลานกับข้าสักจํานวนหนึ่ง!” อู่เฉิงเทียนหัวเราะ
เขาเดินถึงข้างกายหยางฉีเย่ว์ ลูบไล้เส้นผมหางม้า ปากดูดดื่มเข้าที่
แก้มของนาง ใบหน้าขณะนี้เปี่ ยมด้วยความพึงพอใจขณะกล่าว “ช่าง
เป็นหญิงงามไร้ใครเทียบในโลกหล้า! ข้าจะรับไปดูแลเอง!”
หยางฉีเย่ว์โกรธถึงขั้นทั้งร่างกายสั่นเทิ้ม ดวงตาของฉินหยุนขณะนี้
แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานด้วยความกราดเกรี้ยว
เวลานี้เอง หลายคนเข้ามาถึงข้างกายฉินหยุน แทงท่อขนาดประมาณ
นิ้วเข้าที่สีข้างของเขาดูดเอาเลือดออก
“โฉมงาม เจ้าช่างงดงามนัก นามว่าอันใดกัน? เร่งรีบบอกต่อข้าผู้เป็น
สามี ข้าจะได้ทําให้เจ้ารู้สึกดีราวขึ้นสวรรค์!” อู่เฉิงเทียนใช้ลิ้นเลียริม
ฝีปากอย่างหยาบช้าขณะเผยความตื่นเต้นที่ใบหน้า
“ข้ายอมตายดีกว่าให้เจ้าแตะต้อง!” นางพบว่าฉินหยุนหลั่งเลือด
ภายในใจขณะนี้โกรธแค้นยิ่ง
ใบหน้าของฉินหยุนกระตุกเพราะอู่เฉิงเทียนวางมือลงที่ไหล่ของ
หยางฉีเย่ว์ และกําลังจะเปลื้องผ้านางออก!
“สารเลว!” ฉินหยุนคํารามเกรี้ยวกราด ปลดปล่อยพลังแรงดึงดูด
แกร่งกล้าออกจากร่าง
ผู้คนที่เข้ามานําเลือดของเขาออกจากร่าง ล้วนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า
ระดับที่เก้า ชั่วขณะนี้ วิญญาณยุทธ์พวกเขาหลุดลอยออกจากร่าง
จากนั้นจึงพุ่งเข้าหาร่างของฉินหยุน!
ดวงตาของฉินหยุนแปรเปลี่ยนเป็นสีดําสนิท ทั้งสองข้างขณะนี้
เปรียบดั่งหลุมไร้ก้นที่ชวนขนลุก
อู่เฉิงเทียนขณะคิดเปลื้องผ้าหยางฉีเย่ว์ เขาไม่คิดว่าฉินหยุนจะแปร
สภาพไปเช่นนี้ได้!
สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยน เร่งรีบทะยานกายออกพร้อมตะโกน “พวก
เจ้าเข้ามาจัดการมัน!”
ฉินหยุนยังไม่อาจขยับ ทว่าร่างของเขาปรากฏแรงดึงดูดที่ทรงพลัง
ออกมา!
ถัดจากนั้น ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้าหลายสิบคนซึ่ง
ซ่อนตัวต่างทะยานกายออก ขณะใกล้ถึงตัวฉินหยุน พวกเขาพบว่า
วิญญาณยุทธ์ตนเองหลุดลอยและหายเข้าไปในร่างของฉินหยุน
“พวกเจ้าต้องตาย!” ฉินหยุนคําราม
“พวกเรา?? ฮ่าฮ่าฮ่า!! ลําพังตัวเจ้ายังขยับไม่ได้!” อู่เฉิงเทียนเกือบเข้า
ไปใกล้แล้ว แต่พอพบว่าผู้คนที่เข้าไปใกล้ถูกพรากวิญญาณยุทธ์ เขา
ตื่นตะลึงจนเว้นระยะห่าง
อู่เฉิงเทียนเร่งรีบกลับไปถึงข้างกายหยางฉีเย่ว์พร้อมยิ้มกว้าง “นี่เป็น
คนรักเจ้าอย่างนั้นสินะ! อย่างนั้นให้ข้าได้เล่นสนุกกับนาง! วางใจ
ข้าจะทําให้นางพึงพอใจต่อหน้าเจ้า เช่นนี้เจ้าจะได้…”
คํายังไม่ทันกล่าวจบ ฉินหยุนพุ่งทะยานออก ปล่อยหมัดเข้าที่ศีรษะ
ของอู่เฉิงเทียนด้วยความกราดเกรี้ยวผ่านหมัดสีดํา
อู่เฉิงเทียนแข็งแกร่ง เขาหลบเลี่ยงรวดเร็ว ชั่วขณะนี้ เขาหาได้สงบ
ใจอีก เพราะฉินหยุนสามารถเคลื่อนไหวได้แม้อยู่ในค่ายอาคม
“สวรรค์ เร่งรีบควบคุมค่ายอาคมสังหารพวกมันเร็วเข้า!” ชายชรา
เผยสีหน้าเย็นเยือก
พวกเขาเพิ่งสูญเสียศิษย์ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้าพรสวรรค์
เหนือลํ้าไปมาก ทว่าพวกนั้นหาได้สําคัญไม่
สําหรับอู่เฉิงเทียน เขาสําคัญยิ่งกว่าผู้ใด พวกเขาไม่อาจให้อีกฝ่ าย
ตายอยู่ที่นี่ได้
อู่เฉิงเทียนเร่งร้อนเว้นระยะห่างจากฉินหยุน ควบคุมค่ายอาคม พร้อม
ปลดปล่อยอสนีบาตฟาดออกเป็นสาย เข้าโจมตีใส่ฉินหยุนและหยาง
ฉีเย่ว์
“แตกสลายไปเสีย!” ฉินหยุนคํารามร้องด้วยโทสะ เท้าขณะนี้กระทืบ
ที่พื้น แรงสั่นไหวรุนแรงปรากฏจากร่างของเขา
แรงระเบิดถูกปลดปล่อย ถูกสาดเทเข้าสู่พื้นดิน
แผ่นดินไหวรุนแรงปะทุออก พื้นดินเปรียบดั่งคลื่นที่ไม่สมํ่าเสมอ
ของนํ้าทะเล เกิดกลายเป็นบ่อโคลนและหลุมตามพื้นขึ้นลงเป็น
ระลอกคลื่น!
นี่คือความสามารถเทวะแผ่นดินไหวของฉินหยุน มันทําให้เกิด
แผ่นดินไหวรุนแรง
เดิมสถานที่แห่งนี้ราบเรียบ แต่พอเกิดแผ่นดินไหวขึ้น ขณะนี้มัน
โป่ งพองกลายเป็นเนินเขาขนาดย่อมขึ้นแทน!
พื้นดินสั่นไหวต่อเนื่องราวกับมันคิดร้องคํารามออก รอยแยกบนพื้น
แผ่ขยาย ธงอาคมที่ถูกติดตั้งเอาไว้ ถูกทําลายจนไม่เหลือ
หยางฉีเย่ว์ขณะนี้เคลื่อนไหวได้ จึงเร่งรีบทะยานกาย จ้วงแทงดาบ
ของนางเข้าใส่ร่างอู่เฉิงเทียน ทําลายแก่นเต๋าอีกฝ่ าย ตัดแหล่งกําเนิด
พลังจนสิ้น จากนั้นค่อยใช้เชือกมัดร่างอีกฝ่ ายไว้
“อู่เฉิงเทียนหรือ? ข้าจะให้เจ้าได้ทราบพลังของข้าก่อนตายตก!”
หยางฉีเย่ว์กล่าวคําจบ นางจึงเข้ามาถึงข้างกายฉินหยุน ช่วยพยุงร่าง
ของเขาด้วยอาการปวดใจ ขณะนี้ยังช่วยโคจรพลังภายในสู่ร่างของ
เขา
“อย่าได้บุ่มบ่ามใช้พลังวิญญาณยุทธ์นี้ เจ้ายังควบคุมมันไม่ได้!” นาง
ลูบที่ใบหน้าของฉินหยุนอย่างอ่อนโยนพร้อมกล่าวเตือนเสียงเบา
“พี่หยาง ท่านยังไม่เป็นไร!” ฉินหยุนยิ้ม หมอกสีดําในดวงตาเลือน
หาย ถัดจากนั้น ผิวหนังของเขาค่อยเกิดรอยปริแตกพร้อมหลั่ง
เลือดออก
หยางฉีเย่ว์ปลดปล่อยหมอกสีเงินเข้าปกคลุมทั้งร่างของฉินหยุน ช่วย
รักษาผิวหนังที่ปริแตกเหล่านั้น
โทเทมต้นไม้ที่ภายนอกวิญญาณยุทธ์ของฉินหยุน ก็ปลดปล่อยขุม
พลังชีวิตแกร่งกล้าช่วยเหลือฉินหยุนฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ
หยางฉีเย่ว์อุทานร้องตื่นตระหนก “นี่เจ้ามีโทเทมต้นไม้ด้วย ไม่
แปลกใจเลยที่เหตุใดจึงสามารถรั้งวิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬที่โหดร้าย
นั้นไว้ได้!”
นางรู้จักฉินหยุนมาเนิ่นนาน กระนั้นกลับไม่เคยทราบเรื่องราว
เหล่านี
ฉินหยุนกําลังฟื้นฟูอาการ ความสามารถการฟื้นฟูของเขาแต่เดิมก็
แกร่งกล้ามากแล้ว ขณะนี้เขาได้ทราบ ว่าตนไม่อาจใช้ความสามารถ
เทวะของวิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬ เพราะร่างกายและจิตใจยังไม่
แข็งแกร่งมากพอ!
หากจิตใจไม่แข็งแกร่งมากพอ ก็จะไม่อาจควบคุมตนเองเอาไว้ได้
หากร่างกายไม่แข็งแกร่งมากพอ เช่นนั้นก็จะถูกทําลายโดยผล
สะท้อนกลับของพลังที่ระเบิดออก
อู่เฉิงเทียนร่างถูกพันธนาการเอาไว้ สายตามองไปยังชายชราบน
อากาศพร้อมโอดครวญ “ท่านปู่ ช่วยข้า… แก่นเต๋าข้าถูกทําลาย ข้า
ไม่อาจใช้พลังได้!”
“ฉินหยุน เจ้าคิดอยากทราบความลับของนครโบราณยุทธ์เต๋าใช่
หรือไม่? ตราบเท่าที่ส่งเขาออกมานอกเมือง ข้าจะบอกเจ้าทั้งหมด!”
ชายชราชุดดําเผยเสียงถอนหายใจยาวกล่าวคําออก
“ข้าไม่คิดทราบแล้ว!” ฉินหยุนตอบโต้ “ขณะนี้ข้าคิดเพียงแต่สังหาร
ตัวบัดซบสารเลวผู้นี้!”
หยางฉีเย่ว์เผยเสียงเย็น “เช่นกัน!”
นึกย้อนถึงสิ่งที่นางถูกกระทําเมื่อครู่ โทสะในใจนางสุมแน่นอก
เป็นนางรังเกียจการกระทําเหล่านั้นถึงที่สุด
“หากสังหารเขา! เจ้าจะไม่มีวันทราบ! ความลับของนครโบราณมีแต่
พวกเราสํานักเก้าตะวันที่ทราบ พวกเรารู้เป็นอย่างดีเพราะพวกเราคือ
หนึ่งในผู้ร่วมก่อสร้างนครโบราณแห่งนี้!” ชายชรายังคงกล่าวอย่าง
เฉยชาด้วยความอดทน
หยางฉีเย่ว์ปลดปล่อยพลังใดสู่ร่างของอู่เฉิงเทียนไม่อาจทราบ ทว่า
อีกฝ่ายขณะนี้กรีดร้องเสียงเสียดแทงแก้วหูออกมาแล้ว
พร้อมกันนี้ ฉินหยุนยังแยกวิญญาณยุทธ์ของอู่เฉิงเทียนออกมา
เมื่อได้เห็นวิญญาณยุทธ์ ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ถึงกับประหลาดใจ
ไม่น้อย เป็นวิญญาณยุทธ์ตะวันระดับทองม่วง!
“เจ้า! จงหยุดมือเดี๋ยวนี้ พวกเรายังสามารถคุยกันได้!” ชายชรากล่าว
คําจบ ฉินหยุนปลดปล่อยฝ่ ามือมังกรสัมบูรณ์เข้าใส่ร่างของอู่เฉิง
เทียน ร่างอีกฝ่ ายกลับกลายเป็นเถ้าธุลี
ไม่ว่าจะด้วยอะไร ฉินหยุนจะไม่ปล่อยอู่เฉิงเทียนไปอย่างแน่นอน
และหยางฉีเย่ว์ ก็ไม่คิดปล่อยให้อู่เฉิงเทียนรอดชีวิตเช่นกัน
“จงตาย!” ชายชราที่ลอยค้างกลางอากาศกลายเป็นกราดเกรี้ยว ออร่า
สีดําแผ่ขยายปกคลุมร่าง มังกรสีดําปรากฏออกจากร่างของเขา
ชั่วขณะที่มังกรสีดําปรากฏออกมา มันพุ่งทะยานผ่านประตูเมือง
เป้าหมายคือฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์!