Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 482 : ความลับของนครโบราณ
ตอนที่ 482 : ความลับของนครโบราณ
“พวกมันคิดเอาชีวิตข้า ยังจะมีอะไรให้ต่อรอง?” ฉินหยุนเอ่ยเสียง
เย็นชา
“ฉินหยุน ผู้เยาว์เหล่านั้นเป็นบุตรหลานของผู้อาวุโสสํานักพวกเรา
นอกจากนี้ พวกเขายังมีพรสวรรค์เหนือลํ้า และยังได้รับการบํารุงเลี้ยง
จากทรัพยากรของสํานักไปอย่างมหาศาล! ตราบเท่าที่เจ้าปล่อยพวก
เขา พวกเราสัญญาว่าจะมอบเงื่อนไขที่ดีให้!” ชายชราในชุดแดงกล่าว
เรื่องราวถึงขั้นนี้ พวกเขาได้แต่อดกลั้นโทสะภายในหัวใจเพื่อต่อรอง
กับฉินหยุน หากไม่แล้ว เด็กหนุ่มทั้งสี่คนล้วนต้องตายอย่างแน่นอน
ทุกคนกล้าบอก ว่าฉินหยุนมีเจตนาสังหารเด็ดเดี่ยวเพียงใด หากพวก
เขาไม่หาทางแก้ปัญหาโดยเร็ว เด็กหนุ่มทั้งสี่มีแต่ความตายที่รออยู่!
ฉินหยุน เซี่ยอู๋เฟิ ง และคณะต่างแลกเปลี่ยนสายตาต่อกัน พวกเขาคิด
ว่าตราบเท่าที่ผลประโยชน์ใหญ่มากพอ เช่นนั้นการเจรจาย่อมเป็นไปได้
“ย่อมได้ ข้าจะพูดคุยด้วย!” ฉินหยุนแสร้งครุ่นคิดไปชั่วขณะค่อย
ตอบกลับ
“พวกเราต้องคุยกันเป็นการส่วนตัว ตรงนี้ไม่สะดวก!” ชายชราใน
ชุดแดงบอกออกมา
เมื่อผู้คนใกล้เคียงได้เห็นว่าสํานักเก้าตะวันยอมตกลง พวกเขาต่าง
ถอนหายใจกันออกไม่จบสิ้น
“มาคุยกันตรงนี้! ข้าไม่คิดเสียเวลากับพวกเจ้านัก อันดับแรก ข้ามี
เงื่อนไข จงบอกต่อข้าตามตรง ว่าเหตุใดพวกเจ้ากระเหี้ยนกระหือรือ
ต่อนครโบราณยุทธ์เต๋านัก!” ฉินหยุนเอ่ยถาม
ความจริงที่ว่าสํานักเก้าตะวันมีเด็กหนุ่มอายุสิบห้าถึงสิบหกปี ซึ่งก้าว
สู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า เป็นการยืนยันว่าพวกเขาไม่จําเป็น
ต้องเพิ่มระดับการฝึกฝนผ่านนครโบราณยุทธ์เต๋าแต่อย่างใด
ดังนั้น มันจะต้องมีบางอย่างซุกซ่อนในนครโบราณอย่างแน่นอน
สีหน้าของบรรดาผู้อาวุโสจากสํานักเก้าตะวันแปรเปลี่ยน พวกเขา
ขมวดคิ้วและไม่ตอบกลับฉินหยุนในทันที!
“นี่เป็ นเรื่องสําคัญสําหรับพวกเรา ดังนั้นไม่ขอกล่าวคําใด!” ชายชรา
ตอบกลับ
เซี่ยอู๋เฟิ งเผยนํ้าเสียงเย็นเยือก “ไม่คิดบอกหรือ?”
“เงื่อนไขอื่นพวกเราล้วนยอมรับ แต่เงื่อนไขนี้ไม่!” ชายชราชุดแดง
เผยเสียงเย็น “อย่าได้คิดขุดคุ้ยเรื่องนี้!”
ผู้คนขณะนี้ต่างประหลาดใจพลางหารือกันด้วยนํ้าเสียงเบาค่อย
แท้จริง พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะมีสิ่งลํ้าค่าซุกซ่อนในนครโบราณ
ฉินหยุนหย่อนเชือกลงในหม้อ นําเด็กหนุ่มที่ถูกพันธนาการออกมา
เขากล่าวนํ้าเสียงลุ่มลึก “พวกเจ้าส่งคนเหล่านี้เข้ามาล่าหัวข้าเพื่อ
เหรียญม่วง หากไม่พูด พวกมันก็ไม่มีประโยชน์ใดกับข้าแล้ว!”
“ท่านลุง ช่วยข้า…” เด็กหนุ่มในชุดแดงที่มีใบหน้ายาวร้องด้วยความ
หวาดกลัว
“รอเดี๋ยว!” ชายชราชุดแดงเร่งร้อนตะโกน
“เช่นนั้นจงรีบบอกถึงความลับของนครโบราณออกมา!” ฉินหยุน
กล่าวเสียงเย็น
“ขอเป็ นเงื่อนไขอื่น ตราบเท่าที่พวกเราทําได้ พวกเราย่อมยินดีรับ
ไว้!” ชายชราชุดแดงตะโกนตอบโต้ “ฉินหยุน อย่าได้คิดขวางโชค
ลาภของตัวเจ้า! สํานักเก้าตะวันของพวกเราคือผู้แข็งแกร่งที่สุดของ
เก้าแดนอ้างว้าง พวกเรายินดีต่อรองกับเจ้า ถือว่าเป็นการไว้หน้ามาก
แล้ว!”
“ฉินหยุน อย่าได้ปฏิเสธอย่างโง่เขลา! เร่งรีบบอกเงื่อนไขของเจ้า
ออกมาและปล่อยตัวพวกเขา!” ชายชราอีกคนตะโกนเสียงเย็น
“เจ้าสังหารไปคนหนึ่งแล้ว หากยังคิดสังหารต่อ สุดท้ายจะเป็นการ
ยั่วยุทั้งสํานักเก้าตะวัน นี่จะไม่มีประโยชน์อันใดกับเจ้า!”
“ฉินหยุน พวกเราเพียงต้องการควบคุมนครโบราณยุทธ์เต๋า พวกเรา
เพียงต้องการจับตัวเจ้าออกมา หาได้มีเจตนาสังหารไม่!”
ฉินหยุนถึงขั้นมีโทสะ คิดอยากเอาหัวของเขาไปอย่างไรก็ได้ตามใจ
หรือ?
พวกเขาเหล่านี้ตรงหน้า ล้วนมองตํ่าต่อชีวิตของเขา หาได้เห็นเขาใน
สายตาไม่!
“สํานักเก้าตะวันของพวกเราแข็งแกร่ง หากเจ้ากลัวเกรง เช่นนั้นจง
ปล่อยพวกเขาเหล่านั้นออกมา! พวกเราจะยอมมอบหลายร้อยล้าน
เหรียญม่วงตอบแทนเป็นอย่างไร?” ชายชราชุดแดงพอได้เห็นฉิน
หยุนไม่พูด เขาจึงคิดว่าฉินหยุนกําลังพิจารณาทางเลือก
ฉินหยุนสูดลมหายใจเข้าลึก ใช้เชือกพิเศษดึงเอาอีกสามร่างออกมา
จากหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร
เมื่อบรรดาผู้อาวุโสสํานักเก้าตะวันได้เห็นฉินหยุนนําเด็กหนุ่มออกมา
ครบถ้วน รอยยิ้มพวกเขาขณะนี้เผยกว้างเด่นชัด
“คนฉลาดย่อมรู้จักการวางตัว!” ชายชราชุดแดงหัวเราะ “ฉินหยุน
พื้นฐานเจ้าไม่แย่ หากปรารถนาแก้ไขข้อพิพาทกับพวกเรา เจ้า
สามารถเป็นข้าทาสของสํานักพวกเราได้…”
กล่าวคําจบ ฉินหยุนวางมือที่หน้าท้องเด็กหนุ่ม พร้อมกันนี้ เสียง
กรีดร้องจึงดังขึ้น!
สีหน้าของชายชราชุดแดงแข็งค้าง ฉับพลันกลายเป็นความโกรธ
เกรี้ยว “หยุด หยุดเดี๋ยวนี้!”
ฉินหยุนแยกวิญญาณยุทธ์ออกต่อหน้า เป็นวิญญาณยุทธ์คลื่นเสียง
ระดับทองม่วงที่หาได้ยากยิ่ง
ถัดจากนั้น เขาจึงแยกวิญญาณยุทธ์ออกจากเด็กหนุ่มทั้งสาม ทั้งหมด
อยู่ระดับทองม่วง เป็นกระบี่ ดาบ และคันธนู!
เด็กหนุ่มทั้งสี่นอนทอดร่างกับพื้นพร้อมโอดครวญด้วยความเจ็บปวด
“ข้าเพิ่งพูดไป ว่าไม่คิดเสียเวลากับพวกเจ้า! หากไม่ตกลงรับเงื่อนไข
ของข้า เช่นนั้นก็จงรับชมโดยอย่าสะเออะกล่าวคํา!” ฉินหยุนแค่น
เสียง “หลายร้อยล้านเหรียญม่วงให้ข้าหรือ? คนเหล่านี้ช่างมูลค่าตํ่า
ต้อยนัก!”
“เช่นกัน ข้า ฉินหยุนไม่เคยหวาดเกรงสํานักเก้าตะวันของพวกเจ้า!”
แม่เฒ่าหลิงถอนหายใจยาว “สหายเฒ่า หากพวกเจ้ายอมรับเงื่อนไข
ของฉินหยุน ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะบอกความลับของนครโบราณ
ขณะนี้วิญญาณยุทธ์พวกเขาถูกนําออกมา ข้ายังใส่พวกมันกลับเข้า
ไปได้หาก…”
หลังจากผู้อาวุโสสํานักเก้าตะวันหารือกันอยู่พักหนึ่ง ชายชราชุดแดง
จึงออกหน้าพูดกล่าว “ฉินหยุน พวกเราจะบอกถึงความลับของนคร
โบราณยุทธ์เต๋า แต่เจ้าต้องยอมรับสามเงื่อนไข! อันดับแรก เจ้าต้อง
มอบเลือดราชสีห์สวรรค์แก่พวกเราถ้วยหนึ่ง!”
“อันดับสอง…”
ฉินหยุนพลันหัวเราะดังลั่น ขัดขวางชายชราชุดแดงไม่ให้พูดต่อ “คิด
หรือว่าข้าจะยอมรับเงื่อนไขพวกเจ้า! ในเมื่อไม่มีความจริงใจ เช่นนั้น
ก็ไม่มีเรื่องใดให้พูดต่อกันอีก!”
“พี่ใหญ่เซี่ย ข้าเพิ่งบอกไปว่าผู้ใดหาญกล้าเหยียบเข้านครโบราณยุทธ์
เต๋า จะต้องถูกสังหารก่อนแล้วค่อยถามทีหลัง! แต่พวกมันเหล่านี้
ค่อนข้างสังหารยากไปนิด!” ฉินหยุนกล่าว
“หากพวกมันขยับไม่ได้ ข้ายังสังหารพวกมันไหว!” เซี่ยอู๋เฟิ งเผย
เสียงเฉยชา
“รอเดี๋ยว! ตราบเท่าที่ยอมรับหนึ่งเงื่อนไขและเลือดราชสีห์สวรรค์
ถ้วยหนึ่ง ภายในสิบปี พวกเราจะยอมบอกถึงความลับของนคร
โบราณยุทธ์เต๋า!” ชายชราชุดแดงแตกตื่นเร่งร้อนตะโกนขึ้น
เซี่ยอู๋เฟิ งพอได้ยิน เขาเร่งรีบเรียกดาบต้นกําเนิด จ้วงแทงเข้าผู้คนบน
พื้น ความตายคืบคลานถึงทีละคน
กล่าวได้ว่าดาบต้นกําเนิดของเขายิ่งผ่านไปยิ่งน่ากลัว มันกระทั่งแทง
ผ่านม่านพลังของอุปกรณ์เต๋าได้!
ฉินหยุนปลดชุดเกราะเต๋า โยนร่างเหล่านั้นกลับเข้าหม้อราชสีห์
สวรรค์สะกดมังกร!
ผู้อาวุโสหลายคนของสํานักเก้าตะวันคํารามกราดเกรี้ยว ขณะนี้เข้า
โจมตีใส่ค่ายอาคมราวคนคลั่ง!
“พวกเจ้าส่งคนมาตัดหัวข้า ขณะนี้ข้าสังหารพวกมัน เรื่องราวมีอัน
ใดผิดพลาดไปหรือ?” ฉินหยุนแค่นเสียงเย้ยหยัน “เป็นพวกเจ้า
รนหาที่ตายเอง!”
ผู้คนต่างรู้สึกว่าคนของสํานักเก้าตะวันเหล่านี้ล้วนน่าสมเพช โอกาส
ได้ช่วยเหลือคนเหล่านั้นเห็นอยู่ตรงหน้า กระนั้นกลับปฏิเสธเงื่อนไข
ของฉินหยุน ไม่พอ ยังขอให้ฉินหยุนมอบเลือดราชสีห์สวรรค์
การเจรจาเช่นนี้ มันไม่ควรเป็นไปได้แต่แรกแล้ว!
สํานักเก้าตะวันช่างไม่รู้วิธีการเจรจาต่อรอง!
บางทีอาจเป็นเพราะสํานักเหล่านี้เป็นตัวตนที่เหนือลํ้าผู้อื่นมาโดย
ตลอด จึงไม่เคยทราบว่าควรรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร
พวกเขาเพียงคิดส่งหลายร้อยล้านเหรียญม่วงให้แก่ฉินหยุน และยัง
คิดขอให้ฉินหยุนยอมรับสามเงื่อนไขจากพวกเขา!
แม้ฉินหยุนไม่ทราบความลับนครโบราณ แต่เขาย่อมทราบว่ามันมี
สิ่งสําคัญซ่อนเร้นอยู่ภายใน หากไม่แล้ว สํานักเก้าตะวันคงไม่ปฏิเสธ
ถึงเพียงนี้
ชัดเจนว่าพวกเขากังวล ว่าฉินหยุนจะได้รับสมบัติลับในนครโบราณ
ขณะผู้คนของสํานักเก้าตะวันโกรธเกรี้ยวและบ้าคลั่ง ดวงตะวันบน
ท้องฟ้าก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงกํ่าแล้ว
ขณะนี้เป็นช่วงกลางวัน แต่อาทิตย์กลับเผยแสงสีแดงเปรียบดังยาม
อัสดง นอกจากนี้ อีกดวงหนึ่งก็เริ่มแปรเปลี่ยนสีแล้ว!
แม่เฒ่าหลิงขมวดคิ้ว “นี่คือการเตือนต่อพวกเราจากเก้าตะวัน หาก
เก้าตะวันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง แรงกดดันจะเริ่มปรากฏในสามแดน
อ้างว้าง เมื่อนั้นผู้ฝึกตนเหนือกว่าขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณจะถูก
กดดันจนถึงแก่ความตายโดยแรงกดดันนั่น!”
เมื่อผู้คนได้เห็นดวงตะวันสีแดงกํ่า คนของสํานักเก้าตะวันขณะนี้
ความโกรธเลือนหาย แทนที่ด้วยความหวาดกลัวฉายชัดผ่านสีหน้า
สํานักเก้าตะวันย่อมทราบดีกว่าใคร ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ!
“พวกเราต้องรีบไปยังแดนวิญญาณอ้างว้าง! หากเก้าตะวันแปรเปลี่ยน
เป็นสีแดงหมดสิ้น เมื่อนั้นพวกเราจะถูกเผาเป็ นเถ้าถ่าน!” ผู้อาวุโส
ของสํานักเก้าตะวันเร่งรีบลงพื้นเข้ารถลาก
กระทั่งผู้มาจากสํานักเก้าตะวันยังหวาดเกรง ผู้คนย่อมทราบว่า
เรื่องราวจะชวนสะพรึงเพียงใด!
หลายคนขณะนี้เกิดความหนักอึ้งภายใน เร่งรีบไปจากนครโบราณ
ยุทธ์เต๋า
“ฉินหยุน อย่าได้คิดว่าเจ้าจะได้อยู่ในนครโบราณอย่างสุขสบายแม้
ยอดฝีมือจากไป! พวกเราจะส่งคนขอบเขตวรยุทธ์เต๋ามาสังหารเจ้า!
เจ้าจะต้องหลบซ่อนในนครโบราณยุทธ์เต๋าไปชั่วชีวิต!”
“สํานักเก้าตะวันมีผู้อาวุโสที่แกร่งกล้ามากมาย พวกเขาจะมาจัดการ
เจ้าแน่!”
ชายชราจากสํานักเก้าตะวันเร่งรีบจากไปหลังเผยถ้อยคําทิ้งท้ายเอาไว้
ไม่นานจากนั้น ด้านนอกของนครโบราณยุทธ์เต๋าจึงกลายเป็ นเงียบ
งันและอ้างว้าง บรรดาผู้รับชมขณะนี้เร่งรีบหนีหายกลับสํานักตนเอง
ตระเตรียมเดินทางไปยังแดนวิญญาณอ้างว้างกันแล้ว
มีแต่คนจากตําหนักจันทราทมิฬและหุบเขาลึกลํ้าจันทราที่ยังไม่จาก
ไป เพราะหยางฉีเย่ว์อยู่ภายในนั้น
หลังจากคนของกองกําลังอื่นไปหมดสิ้น เชี่ยวเย่ว์หลาน เชี่ยวเย่ว์
เหม่ย และผู้อื่นค่อยใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวง พาเซี่ยอู๋เฟิ ง
หงเมิ่งจู และอีกหลายคนผ่านม่านพลังของนครโบราณออกมา
หยางฉีเย่ว์ไม่ออกมา นางบอกว่ายังมีเรื่องที่ต้องทําที่นี่
ครั้งเชี่ยวเย่ว์หลานคิดจากไป นางบอกเตือนต่อเขาเล็กน้อย และยัง
บอกให้ค้นหาความลับของนครโบราณ เมื่อทราบค่อยบอกต่อนาง
ในภายหน้า
เซี่ยอู๋เฟิ งติดตามแม่เฒ่าหลิงและคณะ เขาคือผู้ฝึกตนดาบ ไม่ว่าที่ใด
ย่อมยินดีต้อนรับเขาเสมอ
ได้เห็นขบวนรถลากยิ่งใหญ่จากไป หยางฉีเย่ว์ค่อยถอดหมวกคลุม
ออก เผยซึ่งความเด็ดเดี่ยวผ่านทางสีหน้า “ข้าสงสัยนัก เมื่อใดพวก
เราจะได้พบเจอพวกเขาอีกครั้ง!”
“พี่หยาง ท่านสามารถบอกเย่ว์หลานให้อยู่ เหตุใดนางจึงไป?” ฉิน
หยุนที่ต้องแยกจากเชี่ยวเย่ว์หลาน เป็นเขายอมรับเรื่องนี้ได้ยาก
“นางย่อมไม่คิดไป แต่หลังจากทราบว่าข้าคิดอยู่กับเจ้าที่นี่ต่อ นาง
ค่อยจากไปอย่างไร้กังวล!” หยางฉีเย่ว์ยิ้ม “เย่ว์หลานย่อมมีแผนการ
จึงไปแดนวิญญาณอ้างว้าง! เจ้า เย่ว์หลาน และเย่ว์เหม่ยล้วนมีความลับ
เป็นของตนเองกันทั้งสิ้น!”
ฉินหยุนเกาศีรษะพลางยิ้มรับ “พี่หยาง เช่นนั้นไปค้นหาความลับของ
นครโบราณยุทธ์เต๋ากันดีกว่า!”
“ตามนั้น!” หยางฉีเย่ว์พยักหน้ารับ
ขณะพวกเขาคิดจากไป ฉับพลันพบว่ามีออร่าแกร่งกล้าจํานวนหนึ่ง
ปรากฏ!
ชายในชุดเกราะสามคนเร่งรีบมาถึงรอบนอกของนครโบราณ
ชายร่างใหญ่ทั้งสามพอได้เห็นใบหน้างดงามของหยางฉีเย่ว์ พวกเขา
ล้วนเผยรอยยิ้มชั่วร้าย อาวุธและชุดเกราะสีดําที่สวมใส่ ล้วนเป็น
อุปกรณ์เต๋า
กระนั้น คล้ายไม่มีผู้ใดคุ้นเคยการใช้งานอุปกรณ์เต๋า ชัดเจนว่าผู้
อาวุโสพวกเขาเพิ่งให้หยิบยืมเมื่อครู่นี
รถลากขนาดใหญ่ทั้งสามปรากฏกลางอากาศ คล้ายพวกเขาเหล่านี้จะ
เป็นคนของสํานักเก้าตะวัน!
สํานักเก้าตะวันมีกันถึงเก้าสํานักภายใน เมื่อครู่มากันเพียงห้าเท่านั้น
เวลานี้ อีกสามสํานักที่เหลือเพิ่งมาถึง!