Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 474 ตําหนักจารึกเทวะตัดสินใจ
ตอนที่ 474 ตําหนักจารึกเทวะตัดสินใจ
หานเฝิงหู่ได้เห็นสีหน้าฉินหยุนแปรเปลี่ยน เขากล่าวต่อ “ข้าไม่ได้
โกหกต่อเจ้า นี่คือความจริง! สาเหตุว่าทําไมเกิดขึ้น ตําหนักจารึกเทวะ
ของเรากําลังตรวจสอบ!”
ได้ยินคํากล่าวของหานเฝิงหู่ คนของตําหนักโทเทมจึงนําเอายันต์
สื่อสารออกมา
ฉินหยุนกําหมัดแน่น เขาไม่ทราบว่าควรทําอย่างไร เรื่องนี้ไม่ใช่
อํานาจที่มนุษย์สามารถควบคุม
“ตําหนักโทเทม สิ่งที่ทําให้พวกเจ้าสนใจประตูลึกลํ้าเก้าสมบูรณ์
อย่างยิ่งยวด ไม่ใช่ลูกศรเทพกําราบตะวันเหล่านั้นหรอกหรือ?
ขณะนี้ลูกศรเทพบินหายโดยไม่ทราบสาเหตุ อย่างนั้นแล้วประตูลึก
ลํ้าเก้าสมบูรณ์ควรค่าให้จัดการหรือ? พวกเจ้าจงคิดให้ดี เว่ยจงเจิ้ง
และคนของเขา ไม่ใช่ง่ายรังแกดังที่คิด!” หานเฝิงหู่กล่าวอีกครั้ง
คนของตําหนักโทเทมต่างก็คิด ว่าความสูญเสียครั้งนี้ก็ใหญ่หลวง
แล้ว หากพวกเขาต้องต่อกรกับเว่ยจงเจิ้งซึ่งหน้า ย่อมเป็นการศึกครั้ง
ยิ่งใหญ่ ถึงตอนนั้น พวกเขาจะต้องสูญเสียคนอีกมาก
ภายในนครโบราณ ตําหนักโทเทมของพวกเขาเพียงสูญเสียแค่ผู้ฝึกตน
ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า
ยอดฝีมือของตําหนักโทเทมขณะนี้ยังล้มตายกันไม่มาก พวกเขายังมี
กําลังรุ่นใหม่ให้เหลือไว้เติบโต
แต่หากยอดฝีมือของตําหนักโทเทมมากมายต้องตาย อย่างนั้นแล้ว
สํานักที่แกร่งกล้า จะต้องกลืนกินพวกเขาเปรียบดั่งพยัคฆ์จ้องรอ
ตะครุบเหยื่อ เมื่อพบเห็นโอกาส พวกเขาย่อมต้องถูกกลืนกินจน
หมดสิ้น
หานเฝิงหู่มองที่ฉินหยุน ดวงตาทั้งสองจับจ้อง นํ้าเสียงเผยความจริงใจ
“ฉินหยุน แม้มีคนของตําหนักจารึกเทวะของพวกเราล้มตายด้วยมือ
เจ้าจํานวนมาก เรื่องนี้ไม่มีเหตุผลให้ต้องหยิบยกมาพูด อย่างไรแล้ว
ก็ถือเป็นการเข้าใจผิดกันครั้งใหญ่”
เขาหยุดกล่าวไปครู่หนึ่ง หันมองทางผู้ฝึกตนเต๋าอสูร จากนั้นจึง
กล่าวต่อ “ตําหนักจารึกเทวะของเรา ไม่ได้คิดอยากเป็นศัตรูกับเจ้า
ขณะนี้ตัวข้า จ้าวตําหนัก ยอมออกหน้ามาเจรจาสันติด้วยตนเอง! ข้อ
พิพาทระหว่างเจ้าและตําหนักจารึกเทวะจะถือเป็นโมฆะต่อกัน! นับ
จากวันนี้ ตําหนักจารึกเทวะของเราจะยินดีต้อนรับเจ้าให้รับตําแหน่ง
อาจารย์จารึกอีกครั้ง!”
บรรดาผู้อาวุโสและจ้าวสํานักหลายแห่ง ได้ยินคํากล่าวของหานเฝิงหู่
พวกเขาล้วนใจกระตุก!
พวกเขาทราบชัดเจน ว่าข้อพิพาทครั้งนี้สร้างความสูญเสียแก่ตําหนัก
จารึกเทวะมากมายเพียงใด!
แต่แล้วจ้าวตําหนักบอกกล่าวด้วยตนเอง หานเฝิงหู่ถึงขั้นยอมปล่อย
วาง!
หานเฝิงหู่คือจ้าวตําหนัก คํากล่าวของเขามีนํ้าหนัก เรื่องนี้ทําฉินหยุน
ประหลาดใจไม่น้อย
ผู้คนขณะนี้ทบทวนความคิด รู้สึกว่าตัวเลือกของตําหนักจารึกเทวะ
เป็นไปอย่างช่วยไม่ได้
อย่างไรแล้ว ตําหนักจารึกเทวะมีทั่วทุกหนแห่ง หากฉินหยุนภายหน้า
แข็งแกร่ง เขาย่อมต้องเข้าทําลายตําหนักจารึกเทวะทุกสาขาในแดน
ยุทธ์อ้างว้างอย่างแน่นอน
“ฉินหยุน เจ้ายินดีรับข้อเสนอของข้าหรือไม่?” หานเฝิงหู่กล่าวถาม
ฉินหยุนชี้มือไปทางราชันยุทธ์ และผู้อาวุโสของตําหนักจารึกเทวะ
“ข้ายอมรับได้หากพวกมันตายที่นี่และเดี๋ยวนี้!”
ฝูงชนระเบิดเสียงฮือฮา พวกเขาพบว่าเรื่องราวใหญ่โตเกินคาดคิด!
หางเฝิงหู่เป็นจ้าวตําหนักของตําหนักจารึกเทวะ เขาจะลงมือสังหาร
ผู้ใต้บัญชาตัวเองหรือ?
นอกจากนี้ พวกเขายังเป็นราชันยุทธ์ และยอดฝีมือขอบเขตวรยุทธ์
ลึกลํ้า พวกเขาเหล่านั้นล้วนเป็นอาจารย์จารึกที่แกร่งกล้า
บรรดาผู้อาวุโสที่ถูกฉินหยุนชี้หน้า ล้วนมองมาด้วยความเหยียดหยัน
“ได้!” หานเฝิงหู่กล่าวคําจบ ดาบยาวปรากฏในมือ สับฟันออกนับ
พันครั้งพร้อมเสียง ‘ฉัวะ’ ดังแทบนับไม่ถ้วน
เพียงพริบตา ร่างชายชราเหล่านั้นแหลกสลายกลายเป็นละอองเลือด!
ตู้ม!
หานเฝิงหู่ยื่นฝ่ ามือออก ส่งคลื่นเปลวเพลิงก้อนใหญ่ เผาเศษซาก
เหล่านั้นให้กลายเป็นธุลี!
ฉินหยุนพอได้เห็น ใบหน้าเขาถึงกับเผยความตื่นตระหนก!
ภายในใจ เขากลัวคนเช่นหานเฝิงหู่ คนที่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ถือ
ว่าน่าสะพรึงยิ่ง!
ผู้อื่นล้วนแตกตื่นเช่นกัน ต่างคิดกันว่าสมองของหานเฝิงหู่มีปัญหา
แล้ว!
“ตอนนี้ถือว่าตกลงกันแล้ว! นับจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างตําหนัก
จารึกเทวะและเจ้าจะไม่ใช่ความเป็นปฏิปักษ์อีกต่อไป!” หานเฝิงหู่
กล่าวเย็นเยือก
สาเหตุว่าทําไมเขาจึงทําเช่นนี้ ก็เพื่อปกป้องตําหนักจารึกเทวะใน
แดนยุทธ์อ้างว้าง หากตําหนักจารึกเทวะถูกล่าล้างบางในภายหน้า
เขาต้องรับผิดชอบความเสียหายครั้งใหญ่หลวง
เขาราวกับทราบแน่แก่ใจ ว่าฉินหยุนสามารถทําได้!
คนจากตําหนักโทเทม ตระกูลสายเลือดชนชั้นสูง และจากแดน
วิญญาณอ้างว้าง ไม่ได้ขอสันติจากฉินหยุน
เพราะพวกเขาไม่เหมือนอย่างตําหนักจารึกเทวะ พวกเขามีกําลัง
กระจายทั่วทุกหนแห่ง
ฉินหยุนสูดลมหายใจเบา “ตกลง! ข้าหวังว่าคนจากตําหนักจารึกเทวะ
ของท่านจะไม่สร้างปัญหาแก่ข้าในภายหน้า ไม่เช่นนั้นพวกเราจะ
กลับกลายเป็นศัตรูต่อกันอีก!”
ราชันยุทธ์วัยกลางคนร้องโพล่งขึ้น “จ้าวตําหนักหาน แล้วนครโบราณ
ยุทธ์เต๋าเล่า? ท่านไม่คิดทวงกลับคืนหรือ? นี่ถือเป็นทรัพยากรของ
แดนยุทธ์อ้างว้าง เป็นแดนเซียนอ้างว้างประทานให้พวกเรา จะปล่อย
ให้ตกอยู่ในมือฉินหยุนหรือ?”
ฉินหยุนทราบในพริบตา ว่าผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าของตระกูล
สายเลือดชนชั้นสูง คงมาที่นี่บ่อยครั้งเพื่อฝึกฝนเป็นการลับ
คนของตําหนักจารึกเทวะและสํานักอื่น ขณะนี้ร่วมมือกัน คิดอยาก
ทวงคืนนครโบราณ
หานเฝิงหู่กล่าว “หากมีความสามารถ จงนํามันกลับมาด้วยตนเอง
ตําหนักจารึกเทวะของเราไม่ได้ข้องเกี่ยวกับมันอีกแล้ว!”
ราชันยุทธ์จากสํานักในแดนวิญญาณอ้างว้างแค่นเสียง “ในเมื่อเจ้า
กล่าวเช่นนั้น นครโบราณยุทธ์เต๋าก็ถือเป็นของพวกเรา พวกเราจะนํา
มันกลับ!”
หานเฝิงหู่กล่าวตอบ “มีขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้ามากมายเพียงใด
จงส่งเข้าไป ตําหนักจารึกเทวะของข้าไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว!”
“ช่างขลาดเขลานัก! พวกเราย่อมไม่ปล่อยไอ้สารเลวฉินหยุนนี่ไป
อย่างแน่นอน!” ชายชราจากตําหนักโทเทมคํารามกราดเกรี้ยว
“สุนัขเฒ่า จงเงียบปากเจ้าเสีย!” สีหน้าฉินหยุนเย็นเยือกขณะกล่าว
ด้วยความสุขุม
“ไอ้หนู สุนัขเป็ นเจ้า ข้าจะขุดรากถอนโคนยันบรรพบุรุษเจ้า!” ราชัน
ยุทธ์ตําหนักโทเทมหัวเราะพร้อมสาปแช่งด้วยความสถุล
ราชันยุทธ์ เพื่อระบายความโกรธ ถึงขั้นยอมปล่อยวาจาเสื่อมเสีย
ออกมาเช่นนี้!
“ฮ่าฮ่าฮ่า อยากต่อว่าข้าจงทําไป เจ้าจะทําอะไรข้าได้? มีความกล้า
ออกมาปะทะกับข้าหรือไม่?” ราชันยุทธ์ตําหนักโทเทมหัวเราะดัง
ออกมา “หากไม่อาจออกมา เจ้าก็เท่ากับต้องติดอยู่ในนครโบราณนั่น
ตลอดชั่วชีวิต!”
“เมื่อใดเจ้าออกมา คิดหรือจัดการข้าได้? ข้าคือราชันยุทธ์ เพียงนิ้ว
เดียวก็บดขยี้เจ้าได้แล้ว!”
ผู้คนขณะนี้มองราชันยุทธ์ตําหนักโทเทมที่ด่าทอฉินหยุน แม้พวก
เขาไม่ร่วมวง อย่างน้อยก็ยังรู้สึกว่าเรื่องราวที่รับชมชวนตื่นเต้น
“ฉินหยุน หงเมิ่งจูกับเฟิ งหงหลันเป็นผู้หญิงของเจ้าใช่หรือไม่? ทาง
ที่ดีอย่าได้ให้ข้าจับพวกนางได้ ไม่เช่นนั้น ข้าจะให้ศิษย์จากทั้งตําหนัก
โทเทมรุมโทรมนางแพศยาสองตัวนั่น ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ราชันยุทธ์ตําหนักโทเทม ถึงขั้นเผยความยินดีเมื่อได้เห็นสีหน้ากราด
เกรี้ยวของฉินหยุน ถ้อยคํายั่วยุต่อฉินหยุนยังปลดปล่อยอย่างต่อเนื่อง
หานเฝิงหู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าราชันยุทธ์จะกล้าตํ่าทรามได้
เพียงนี้ นี่ถือเป็นการหยามเกียรติผู้ฝึกตนที่ระดับทัดเทียมกันด้วย
“โอ้ โอ้ โอ้ คิดอยากใช้พลังราชสีห์สวรรค์จัดการข้าหรือ? น่าเสียดาย
หน่อยนะ ที่เจ้าออกมาไม่ได้!”
“จริงด้วย เฟิ งหงหลันเป็ นเจ้ารักษาใช่หรือไม่? ข้าคือคนที่มอบพิษ
นั้นแก่นางเอง ไว้ครั้งหน้าจับตัวนางได้ ข้าจะไม่ปล่อยให้นางได้รอด
ชีวิตนานนัก!” เมื่อราชันยุทธ์ผู้นี้เห็นดวงตาฉินหยุนเผยความดํามืด
เขายิ่งเกิดความยินดี
ผู้คนที่พบเห็น กล้าบอกกล่าวว่าโทสะฉินหยุนแทบปะทุออกแล้ว!
“ยังจดจําผู้ขัดเกลาวิญญาณของเจ้าได้หรือไม่?” ฉินหยุนเอื้อนเอ่ย
เชื่องช้า
ได้ยินการกล่าวถึงผู้ขัดเกลาวิญญาณ ราชันยุทธ์ตําหนักโทเทมถึงกับ
เผยสีหน้าดํามืด!
ความสูญเสียผู้ขัดเกลาวิญญาณของพวกเขา เป็ นเว่ยจงเจิ้งลงมือ!
“ประตูลึกลํ้าเก้าสมบูรณ์ของเจ้า!”
“ในเมื่อสังหารผู้ขัดเกลาวิญญาณเพียงหนึ่งเดียวของพวกเรา หนี้แค้น
ครั้งนี้ย่อมต้องทวงถาม!” ราชันยุทธ์ตรงหน้าเผยโทสะ
เรื่องราวนี้ตําหนักโทเทมเก็บงําเป็นความลับมาโดยตลอด ขณะนี้
ผู้คนได้ทราบ พวกเขาเผยความแตกตื่นกันถึงขีดสุด
ผู้ขัดเกลาวิญญาณถือเป็นตัวตนลํ้าค่า ความจริงที่ตําหนักโทเทม
ครอบครองผู้ขัดเกลาวิญญาณ ก็ทําให้หลายสํานักต้องริษยา โชคดีที่
อีกฝ่ ายถูกสังหาร ไม่เช่นนั้นสํานักอื่นคงได้แต่ริษยากันต่อไปแล้ว
“ข้าคือผู้สังหารมันเอง!” กล่าวคําจบ ฉินหยุนคํารามพร้อมนําเอาแส้
ยาวปรากฏในมือ
แส้นี้ยาวกว่ายี่สิบเมตร ฉินหยุนเหวี่ยงออกเต็มกําลัง ทะลุทะลวงผ่าน
ม่านพลังออก!
แส้ยาวรัดพันรอบกายราชันยุทธ์ตําหนักโทเทม ร่างนั้นถูกลากเข้าหา
ฉินหยุน!
บรรดาราชันยุทธ์ตระหนก พวกเขาขณะนี้บินออกห่างไปหลายพัน
เมตร เว้นระยะจากฉินหยุนเป็ นการเร่งรีบ!
กระทั่งหานเฝิงหู่ยังต้องหนีไกลด้วยความหวาดกลัวเกาะกุมหัวใจ!
พวกเขาไม่คิด ว่าฉินหยุนจะสามารถลากร่างผู้คนด้านนอกเข้าปะทะ
กับม่านพลัง พลังเช่นนี้ถือว่าแปลกเกินไปแล้ว!
ฉินหยุนใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวง ผสานความสามารถเทวะ
เข้ากับแส้ ทําให้มันทะลวงออก เข้าเกาะกุมราชันยุทธ์ตําหนักโทเทม
เอาไว้ได้
จากนั้น เขาจึงส่งถ่ายพลังของความสามารถเทวะทะลุทะลวงสู่ร่าง
ราชันยุทธ์ จากนั้นค่อยดึงอีกฝ่ ายเข้ามา
การทําเช่นนี้ ฉินหยุนสูญเสียพลังไม่ใช่น้อย สีหน้าของเขาซีดเผือด
จนถึงกับต้องกลับลงที่พื้น
ราชันยุทธ์ตําหนักโทเทมที่ถูกลากเข้าสู่นครโบราณ เวลานี้กําลังถูก
ฤทธิ์ของค่ายอาคมกําราบพลัง ทําให้ต้องร้องออกด้วยความเจ็บปวด
“เฒ่าสารเลว กล้าต่อว่าข้าหรือ อย่างนั้นเจ้าก็ต้องชดใช้!” ฉินหยุน
ร่อนลงที่พื้นขณะหอบหายใจ ทําการดูดกลืนพลังเก้าตะวันอย่าง
รวดเร็ว พลังที่ใช้ไปเมื่อครู่ ขณะนี้ฟื้นคืนอย่างรวดเร็ว!
ราชันยุทธ์ผู้นั้นขณะนี้ดิ้นรน คํารามร้องออกราวบ้าคลั่ง พลังต่อต้าน
ของนครโบราณยุทธ์เต๋า มีเอาไว้เพื่อกําราบผู้ฝึกตนเหนือกว่าขอบเขต
วรยุทธ์เต๋า ให้พวกเขาต้องเผชิญกับความเจ็บปวดเหลือแสน!
นี่เป็นเหตุผล ว่าทําไมราชันยุทธ์ไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้านครโบราณ
กลุ่มคนบนฟ้าสูง ขณะนี้มองราชันยุทธ์เบื้องล่างที่มีสภาพชวนสังเวช
พวกเขารู้สึกหวาดกลัวจากใจ
แม้พวกเขาไม่ทราบว่าฉินหยุนลากอีกฝ่ ายเข้าไปได้อย่างไร แต่เพียง
แค่คิดก็ชวนขนลุกแล้ว
หากพวกเขาถูกลากเข้านครโบราณ สุดท้ายต้องมีสภาพไม่ต่างอะไร
กับอีกฝ่ ายที่เห็นในขณะนี้!
ฉินหยุนทะยานร่างเข้าหา นําเอาแก่นเต๋าและวิญญาณยุทธ์ออกจาก
ร่างของราชันยุทธ์!
วิญญาณยุทธ์ดาบอัคคีทองม่วง แม้แก่นเต๋าไม่ใหญ่ แต่อย่างไรแล้วก็
เปี่ ยมด้วยพลังของราชันยุทธ์!
กระทั่งราชันยุทธ์ที่ลอยตัวสูงบนฟ้า พวกเขายังรู้สึกหวาดกลัวยาม
เมื่อมองแก่นเต๋าในมือของฉินหยุน!
หากแก่นนั่นระเบิด มันเพียงพอทําให้สังหารพวกเขาได้หมดสิ้น!
บรรดาราชันยุทธ์ขณะนี้กระจายตัว พวกเขาเป็นกังวลว่าฉินหยุนจะ
โยนแก่นนั่นออกมานอกค่ายอาคม
“ต้องลงมือแล้ว สังหารฉินหยุนและทวงนครโบราณกลับคืนมา!”
ราชันยุทธ์จากแดนวิญญาณอ้างว้าง หันไปบอกกล่าวกับผู้อาวุโส
สํานักของแดนวิญญาณอ้างว้าง
พวกเขาพยักหน้ารับ จากนั้นจึงร่อนลงตํ่าที่ด้านนอก อุปกรณ์
วิญญาณมิติเก็บของถูกใช้งาน หุ่นเชิดจํานวนมากปรากฏ!
หุ่นเชิดเหล่านี้บางตัวก็ดูคล้ายมนุษย์ ขณะที่บางตัวก็สร้างขึ้นจาก
เหล็กกล้าสีดํา พวกมันเป็นหุ่นเชิดที่มีทั้งมนุษย์และสัตว์ปะปนกัน
หุ่นเชิดหลายร้อยตัวก้าวเดินด้วยฝี เท้าหนักอึ้งดังก้อง พวกมันกรีธา
ทัพเข้านครโบราณอย่างผ่าเผย
พวกเขาคิดปลดปล่อยหุ่นเชิดเหล่านี้เข้าเมืองนานแล้ว ทว่าพวกเขา
ต้องการให้ฉินหยุนได้ใจไปสักพักก่อนค่อยลงมือ
ฉินหยุนนําแก่นเต๋าราชันยุทธ์ออกมา ขณะคิดโยนมันออก เขาได้ยิน
เสียงของเชี่ยวเย่ว์หลานดังขึ้นผ่านการสื่อสารทางจิต
“เสี่ยวหยุน ให้ข้ารับมือหุ่นเชิดนับร้อยเหล่านั้นเอง อย่าได้สิ้นเปลือง
แก่นเต๋าราชันยุทธ์!” เชี่ยวเย่ว์หลานปรากฏตัวด้วยสภาพร่างโปร่ง
แสงขณะยืนข้างกายฉินหยุน