Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 469 สามสระนํ้าศักดิ์สิทธิ
ตอนที่ 469 สามสระนํ้าศักดิ์สิทธิ์
ที่นครโบราณยุทธ์เต๋าแห่งนี้ มันถูกควบคุมเอาไว้โดยตําหนักจารึก
เทวะมานานหลายปี ขณะนี้กว่าครึ่งถูกทําลายย่อยยับ
นครโบราณยุทธ์เต๋าได้รับการคุ้มกันจากค่ายอาคมลึกลับและม่าน
พลังแกร่งกล้า มีแต่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าจึงสามารถเข้าไปได้
ตอนนี้ กระทั่งว่าใช้ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋ามากมาย พวกเขาก็ยัง
ไม่อาจสะกดฉินหยุนเอาไว้ได้!
พื้นดินใกล้เคียงประตูเมืองพังทลาย หลายคนติดอยู่ในช่องที่พื้นโผล่
ร่างออกมาเพียงเล็กน้อย ภายในใจพวกเขาเวลานี้เปี่ ยมล้นด้วยความ
หวาดกลัว!
ฉินหยุนทําลายคําสาปวิญญาณยุทธ์ดํา ได้รับความสามารถเทวะ!
กระทั่งผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่หก ก็ยังต้องหวาดกลัวต่อ
พลังอํานาจนี้!
บนท้องฟ้า บรรดาราชันยุทธ์ปรารถนาทําลายม่านพลังนครโบราณ
เข้าจับตัวฉินหยุนเอาไว้
ทว่า ค่ายอาคมของนครโบราณแกร่งกล้า ไม่ต้องกล่าวถึงราชันยุทธ์
เช่นพวกเขา กระทั่งเป็นผู้แข็งแกร่งกว่า ก็ยังไม่อาจทําอะไรมันได้
“ตําหนักจารึกเทวะ เร่งรีบเปิ ดประตูเมือง! ตัดสินจากพละกําลังของ
ฉินหยุน ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับตํ่ากว่าหกจะตกอยู่ใน
อันตรายหากต้องเผชิญหน้ากับเขา!” ราชันยุทธ์สายเลือดตะโกนดัง
บรรดาตระกูลสายเลือดชนชั้นสูง ได้ส่งรุ่นเยาว์หลายคนไปล่าฉิน
หยุน
ขณะนี้ พวกเขาได้ทราบ ว่าฉินหยุนเลื่อนระดับพลัง ดังนั้นจึงได้แต่
ต้องเรียกศิษย์ที่การฝึกฝนตํ่ากลับมา
ราชันยุทธ์จากแดนยุทธ์อ้างว้างมองทางคนของตําหนักจารึกเทวะ
และกล่าว “ฉินหยุนเป็นอาจารย์จารึกวิญญาณระดับสูง ยันต์สะกด
กายที่เขาสร้างขึ้น เพียงพอให้สะกดร่างผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋า
ทุกระดับ! นอกจากนี้ เขายังมีหม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกร
สายเลือดและโทเทมราชสีห์สวรรค์ หากยังปล่อยให้เขาลอยนวล
เช่นนี้ต่อไป กระทั่งว่าอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า ก็อาจต้องถูก
เขาสังหาร!”
“เร่งรีบปิ ดค่ายอาคมผนึกของตําหนักจารึกเทวะแล้ว พวกเราจะได้
นําคนของเรากลับคืนออกมา! หากเป็นแบบนี้ต่อ จะไม่ใช่พวกเราไล่
ล่าฉินหยุน แต่จะเป็นมันที่ไล่ล่าศิษย์มากพรสวรรค์ขอบเขตวรยุทธ์
เต๋าของพวกเรา!”
นครโบราณยุทธ์เต๋าเข้าได้แต่ไม่อาจออก ทุกคนคิดว่าเป็นตําหนัก
จารึกเทวะผนึกการออกจากนครโบราณ
ทว่าในความเป็นจริง คือฉินหยุนต่างหากที่ควบคุมค่ายอาคมใหญ่
ของนครโบราณเอาไว้!
ราชันยุทธ์ตําหนักจารึกเทวะหลั่งเหงื่อเย็นกล่าวตอบ “ขอกล่าวตาม
ตรง ผนึกของนครโบราณไม่ได้อยู่ในการควบคุมพวกเรา แต่ที่มัน
ปรากฏอย่างกะทันหัน พวกเรากําลังพยายามหาสาเหตุ!”
เมื่อผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าเบื้องล่างได้ยินคํากล่าวเหล่านี้ เสียง
ร้องระงมก่นด่าสาปแช่งดังออกไม่ขาด
พวกเขาเดิมคิดว่าต่อให้สังหารฉินหยุนล้มเหลว ก็ถือเป็นโอกาสได้
เข้านครโบราณ
แต่แล้วครานี้ เป็นพวกเขาต้องติดอยู่ที่นี่แทน!
พวกเขาล้วนจดจําและตราตรึงภาพฉากที่ฉินหยุนฉีกร่างผู้ฝึกตนโท
เทมเป็นชิ้น กลืนกินพวกเขา นั่นเปรียบดั่งมารร้ายชวนขนหัวลุก!
ราชันยุทธ์ตําหนักโทเทมเผยเสียงเย็น “ดูเหมือนพวกเรามีแต่ต้อง
ร่วมมือกันทําลายนครโบราณ! พวกเราล้วนเป็นศัตรูของฉินหยุน
หากปล่อยให้เขาได้เติบโตต่อไป จะไม่มีพวกเราคนใดหนีรอด!”
ยอดฝีมือแดนวิญญาณอ้างว้างหาได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ ผู้อาวุโสคน
หนึ่งแค่นเสียงตอบ “กับแค่ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋ามีอันใดให้
ต้องหวาดกลัว? เขาครอบครองสองแก่นเต๋า หากต้องการก้าวถึง
ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ยังต้องการเวลาอย่างน้อยหนึ่งร้อยปี ! และ
ยังมีขอบเขตวรยุทธ์ลึกลํ้ารอคอย! อย่างน้อยที่สุด หากคิดอยากเห็น
ราชันยุทธ์ ก็ต้องใช้เวลาหนึ่งพันปี หรือมากกว่านั้น!”
“พวกเราต้องได้รับสายเลือดราชสีห์สวรรค์จากเขา!” ดวงตาของ
ราชันยุทธ์สายเลือดเปี่ ยมด้วยความละโมบ “ตราบเท่าที่พวกเรา
ได้รับเลือดราชสีห์สวรรค์สักจอกหนึ่ง พวกเราจะสร้างสายเลือด
ราชสีห์สวรรค์ขึ้น หลังจากนั้น พวกเราจะสร้างผู้สืบทอดสายเลือด
ราชสีห์สวรรค์ได้อีกมาก!”
“ถูกต้องแล้ว! พวกเราตระกูลสายเลือดชนชั้นสูง ต้องร่วมมือกันจับ
ตัวฉินหยุน!” ราชันยุทธ์สายเลือดคนอื่นกล่าวด้วยความหิวกระหาย
“ด้วยสายเลือดนั่น การจัดการมังกรย่อมเป็ นเรื่องง่ายดาย!”
ตระกูลสายเลือดชนชั้นสูงเกลียดชังการแย่งชิงสายเลือด
กระนั้นตอนนี้ พวกเขาคิดแย่งชิงสายเลือดราชสีห์สวรรค์จากฉินหยุน
นี่ทําเอาหลายผู้คนล้วนหยามเหยียดต่อพวกเขาอยู่ภายใน
ถัดจากนั้น ราชันยุทธ์เหล่านี้ร่วมมือกัน ระดมการโจมตีใส่ม่านพลัง
โปร่งแสงไม่หยุด ทว่า มันไร้ผลแทบจะสิ้นเชิง
ม่านพลังมีอํานาจการดูดกลืนพลังแกร่งกล้า มันสามารถดูดกลืนพลัง
อันแข็งแกร่งและส่งถ่ายออกไป
ฉินหยุนนําเซี่ยอู๋เฟิ งสู่ส่วนลึกของพื้นดิน ผ่านทางรอยแยก พวกเขา
วิ่งเป็นทางยาวก่อนค่อยใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวง กลับสู่
ฐานของค่ายอาคม
เมื่อกลับมาถึง เขาเร่งรีบนําร่างบาดเจ็บของเซี่ยอู๋เฟิ งวางในถังหยก นี่
ก็เพื่อช่วยเขารักษาอาการบาดเจ็บ
หงเมิ่งจูได้ไค่เซียงจิ้งช่วยเหลือรักษา
เชี่ยวเย่ว์หลานพบว่าฉินหยุนบาดเจ็บเช่นกัน ดังนั้นจึงเข้ามาช่วยรักษา
“ผู้อาวุโสหวัง และผู้อาวุโสจาง ทั้งสองคนตายแล้ว!” ฉินหยุนนึก
ย้อนถึงเรื่องนี้ เขาต้องกําหมัดเอาไว้แน่น นํ้าเสียงกราดเกรี้ยวกล่าว
ออก “ตระกูลสายเลือดชนชั้นสูง รอข้าก่อนเถอะ!”
ตอนนี้ มู่หรงต้าเหรินและคณะค่อยได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ขณะ
โทสะสุมแน่น พวกเขาก็ยังรู้สึกอึ้ง ที่ฉินหยุนสามารถช่วยเหลือหง
เมิ่งจูจากสถานการณ์เช่นนั้นมาได้
ระหว่างที่เชี่ยวเย่ว์หลานช่วยรักษาอาการฉินหยุน นางพบว่ามันมี
เส้นสายพลังรุนแรงจํานวนมากกระจายในร่างของเขา
พลังงานเหล่านี้ไม่ใช่ของฉินหยุน แต่เป็นสิ่งที่ดูดกลืนเข้ามา
“พลังงานในกายเจ้ารุนแรงนัก ให้ข้าร่วมขัดเกลากับเจ้า!” เชี่ยวเย่ว์
หลานเอ่ยคํา “ระหว่างนี้ ก็ขัดเกลาเม็ดยาเซียนให้เรียบร้อยไปด้วย
เลย!”
ฉินหยุนคาดหวังเลื่อนระดับพลังโดยเร็ว เพื่อให้ได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่
มากขึ้น มีแต่ทําเช่นนี้เขาจึงสามารถกําจัดผู้ฝึกตนด้านนอกได้!
ดาบต้นกําเนิดของเซี่ยอู๋เฟิ งถูกเอาไป ตัวเขายังบาดเจ็บรุนแรงโดยผู้
ฝึกตนสายเลือด หากเขาไม่อาจได้รับกลับคืน ก็ต้องทําการฝึกฝนมัน
อีกครั้งหนึ่ง
ไค่เซียงจิ้งมาจากตําหนักจันทราทมิฬในแดนวิญญาณอ้างว้าง นาง
เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ทว่านางใช้เคล็ดวิชาลับสะกด
ระดับการฝึกฝนตนเอง และเข้ามายังนครโบราณยุทธ์เต๋า
ถึงอย่างนั้น นางก็ไม่อาจปลดปล่อยพลังขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ
ไม่เช่นนั้นนางจะถูกพลังของนครโบราณที่ไม่ยอมรับ ทําการทรมาน
จนถึงแก่ความตาย
นางทราบว่าตนเองเป็นผู้ฝึกตนแข็งแกร่งที่สุดในที่นี้ ทุกคนต่าง
ต้องการกําลังของนาง
“ฉินหยุน กระทั่งว่าข้าลงมือ ก็ใช้พลังได้แค่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับ
ที่เก้า! หน้าที่ของข้าคือคุ้มกันเย่ว์หลาน!” ไค่เซียงจิ้งกล่าวคํา “หาก
เจ้าคิดกระหายพลังอย่างแท้จริง ข้ามีข้อแนะนํา!”
“ในนครโบราณ มันมีสถานที่ฝึกฝนอันศักดิ์สิทธิ์สามแห่ง พวกมัน
คือสระหัวใจเต๋า สระต้นกําเนิดเต๋า และสระกายเต๋า! สถานที่นั้นไม่
ทราบแน่ชัด โดยสรุป สถานที่แห่งนั้นคือที่ที่ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์
เต๋าสามารถก้าวทะยานอย่างยิ่งยวดได้!”
ฉินหยุนขณะนี้ฝึกฝนร่วมกับเชี่ยวเย่ว์หลาน เขาลืมตาขึ้นและกล่าวคํา
“ให้ข้าได้ลอง ดูว่าสามารถรับรู้ตําแหน่งมันผ่านฐานอาคมได้หรือไม่!”
อย่างรวดเร็ว เขาโคจรพลังจิตสู่รากฐานค่ายอาคม สัมผัสถึงค่ายอาคม
ใหญ่ของนครโบราณ
หากมันมีสระนํ้าแห่งการฝึกฝนทั้งสาม อย่างนั้นย่อมต้องมีการใช้
พลังงานมหาศาลเพื่อหล่อเลี้ยง
“สระหัวใจเต๋าใช้เพื่อฝึกฝนพลังจิต สระต้นกําเนิดเต๋าใช้เพื่อฝึกฝน
แก่นเต๋าและวิญญาณยุทธ์ สุดท้ายสระกายเต๋า ใช้เพื่อฝึกฝนกายเนื้อ!”
ไค่เซียงจิ้งกล่าว “หากทราบว่ามันอยู่ที่ใด และพวกเรายึดครองได้
อย่างนั้นมันจะช่วยให้พวกเราทุกคนเลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็ว!”
ผ่านรากฐานค่ายอาคม ฉินหยุนสัมผัสถึงสถานที่ตั้งซึ่งมีการดูดกลืน
พลังงานจากค่ายอาคมมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว
และเขายังได้ทราบ ว่าสามารถเคลื่อนย้ายไปจากที่นี่ได้โดยตรง!
“พบมันแล้ว ไว้ค่อยไป!” ฉินหยุนกล่าวตอบ
“ข้าจะไปกับเจ้าด้วย!” เชี่ยวเย่ว์หลานเผยความกังวลไม่น้อยขณะเร่ง
รีบกล่าว
ไค่เซียงจิ้งก็เป็นกังวล เพราะหน้าที่หลักของนางคือคุ้มกันเชี่ยวเย่ว์
หลาน
“พี่จิ้งอย่าได้ห่วง!” เชี่ยวเย่ว์หลานยิ้มให้
หงเมิ่งจูต้องการไค่เซียงจิ้งช่วยรักษาอาการบาดเจ็บ เซี่ยอู๋เฟิ งต้องใช้
เวลาเยียวยาตนเอง ดังนั้นไค่เซียงจิ้งจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับ
“เจ้าต้องระวังให้มาก!” ไค่เซียงจิ้งชี้แนะฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลาน
อย่างเคร่งเครียด
หลังฝึกฝนร่วมกันเรียบร้อย ฉินหยุนกลับคืนสภาวะสูงสุดรวดเร็ว
ความคิดนึกย้อนถึงสภาพน่าขนลุกที่เขาร่วงหล่นไปก่อนหน้า ทําเอา
เขาต้องพรั่นพรึง
ฉินหยุนกุมมือเชี่ยวเย่ว์หลานเอาไว้ ส่งถ่ายพลังสู่ค่ายอาคมเคลื่อนย้าย
ที่รากฐานค่ายอาคม จากนั้นพวกเขาค่อยไปยังภูเขาแห่งหนึ่ง
ภูเขานี้เต็มไปด้วยต้นไม้โบราณสูง ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานปรากฏ
ตัวในโพรงต้นไม้ยักษ์ต้นหนึ่ง
สถานที่ตั้งของค่ายอาคมเคลื่อนย้ายทั้งหมดล้วนอยู่ในต้นไม้ยักษ์
และเก็บงําเป็นความลับอย่างดีเยี่ยม
ขณะนี้ฟ้ามืดแล้ว ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานสามารถใช้พลังเงา
กลมกลืนกับความมืดและสภาพแวดล้อมซ่อนเร้น
เพียงไม่นาน พวกเขาพบถํ้าแห่งหนึ่ง มันเก็บซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดี
ปากทางเข้ามีหินใหญ่ปิ ดกั้นเอาไว้
ฉินหยุนดึงเชี่ยวเย่ว์หลานเข้าหา ใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวง
หินก้อนใหญ่ เข้าสู่ภายในถํ้าได้อย่างเงียบงัน
นครโบราณแห่งนี้ ถูกควบคุมเอาไว้โดยตําหนักจารึกเทวะเป็ นเวลา
ยาวนาน ดังนั้นสถานที่สําหรับการฝึกฝนแห่งนี้ก็สมควรถูกควบคุม
เอาไว้นานแล้วเช่นกัน
มีแต่ค่ายอาคมเคลื่อนย้าย และรากฐานค่ายอาคมที่ยังไม่ถูกค้นพบ
เชี่ยวเย่ว์หลานกุมมือฉินหยุนแน่น นางขณะนี้รับรู้ถึงพลังอันลี้ลับ
ของตะวันทมิฬ
อย่างกะทันหัน นางปล่อยมือออกจากฉินหยุน
ฉินหยุนตระหนก เร่งรีบมองหาเชี่ยวเย่ว์หลาน ทว่าเขาไม่อาจพบ
เห็นอะไร!
“เสี่ยวหยุน!” เชี่ยวเย่ว์หลานส่งเสียงทางจิตถึงฉินหยุน “ข้ามีพลัง
หลบซ่อนในความมืดเช่นกัน!”
“เย่ว์หลาน! เจ้าและเย่ว์เหม่ยถึงกับคล้ายคลึงกัน เป็นนางสามารถคัด
ลอกวิญญาณยุทธ์ผู้อื่น และเจ้าถึงกับสามารถคัดลอกความสามารถ
พิเศษของผู้อื่น!” ฉินหยุนสื่อสารกลับ เรื่องนี้ทําเอาเขาอึ้ง
“ไว้มีเวลาในภายหน้า หากเจ้ามีพลังพิเศษอื่น เช่นนั้นบอกต่อข้า จะ
ได้ทําการคัดลอกมันมา!” เชี่ยวเย่ว์หลานยิ้มอ่อน
นี่คือพลังอันลึกลับของวิญญาณยุทธ์ที่สามของเชี่ยวเย่ว์หลาน
จากนั้นพวกเขาค่อยสัมผัสมือกัน จึงค่อยทราบว่ายังอยู่ใกล้กัน
ถํ้าแห่งนี้มืดมิดและไม่ใหญ่ ขนาดเพียงสําหรับให้สามคนเดินผ่าน
หลังเดินอยู่กว่าพันเมตร ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานค่อยพบเห็น
ประตูบานใหญ่ของซ้ายและขวาของเส้นทาง นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่
เหนือศีรษะพวกเขาหลายสิบเมตร มันเป็นประตูเช่นกัน
“สระหัวใจเต๋า สระต้นกําเนิดเต๋า และสระกายเต๋า พวกมันล้วนอยู่
ที่นี่!” เชี่ยวเย่ว์หลานส่งเสียงสื่อสารดังมา “เข้าไปรับชมกัน!”
ฉินหยุนพยักหน้ารับ พาเชี่ยวเย่ว์หลานผ่านเข้าไปโดยความสามารถ
เทวะทะลุทะลวง โดยเลือกเข้าประตูทางซ้าย
หากต้องการเพียงทะลุทะลวงระยะทางสั้น ก็ไม่ได้เป็นการใช้พลัง
มากมายแต่อย่างใด ฉินหยุนยังสามารถใช้ร่วมกับเชี่ยวเย่ว์หลานได้
อย่างไม่ยากเย็น
ผ่านประตูมาแล้ว ฉินหยุนเร่งรีบนําไข่มุกวิญญาณโปร่งแสงออกมา
ทําให้ทั้งเขาและเชี่ยวเย่ว์หลานโปร่งแสง
โชคดีที่เขาลงมือรวดเร็ว เพราะภายในห้องมีคนอยู่มาก และทั้งห้อง
ก็ปรากฏแสงสีทองส่องสว่างเรืองรอง
ภายในเป็นห้องหินสี่เหลี่ยมกว้างหายสิบเมตร ที่ตรงกลางมีสระนํ้า
วงกลมกว้างราวยี่สิบเมตร ขณะนี้มีกว่าสิบคนแช่กายอยู่ในสระนํ้า
ข้างสระ มีชายชรายืนเฝ้าระวังอยู่ด้วย!
ชายชราผู้นี้ปกคลุมด้วยออร่าอสูร นี่เป็นผู้ฝึกตนอสูร!
กลุ่มคนที่แช่กายในสระนํ้า ทั้งหมดเป็นผู้ฝึกตนอสูร!
ฉินหยุนขณะนี้ คิดว่านี่เป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สํานักเต๋าอสูรทําร่วมกับ
ตําหนักจารึกเทวะ!
“เย่ว์หลาน ลงมือ!”
ฉินหยุนนํายันต์สะกดกายออกมา ขว้างปาพวกมันเข้าใส่ พร้อมกันนี้
เขาได้เห็นเชี่ยวเย่ว์หลานทะยานกาย มือของนางสับฟันเข้าใส่ที่คอ
ของชายชรา!
ผู้คุ้มกันเฒ่าชราขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า เขาสัมผัสได้ถึงอันตราย
ที่เข้าใกล้ ทว่าขณะที่พบ หัวก็ร่วงหล่นกลิ้งกับพื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว