Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 466 ผสานพลังเต๋า
ตอนที่ 466 ผสานพลังเต๋า
ฉินหยุนเดิมคิดว่าเม็ดยาเซียนเก้าต้นกําเนิด จะหลงเหลือฤทธิ์โอสถ
อยู่เพียงน้อยนิดเนื่องด้วยสภาพหมดอายุ
แต่ตอนนี้ เพียงเขากินเข้าไป พลังงานที่ล้นทะลักออกจากเม็ดยาเซียน
เก้าต้นกําเนิด มันไหลเข้าสู่แก่นเต๋าทั้งสามของเขา
เชี่ยวเย่ว์หลานพบว่าใบหน้าของฉินหยุนแดงกํ่า สีหน้ากลายเป็นน่า
เกลียด นางเร่งรีบเดินเข้ามาสอบถามทั้งคิ้วขมวด “เสี่ยวหยุน เจ้าเป็น
อะไรไป?”
“เย่ว์หลาน ในร่างข้า… มันมีพลังมากเกินไป…” ฉินหยุนพอเห็น
เชี่ยวเย่ว์หลานเข้ามาใกล้ เขาจึงวางมือลงที่หน้าท้องของนาง จากนั้น
จึงโคจรพลังที่อัดแน่นจนแทบระเบิดถ่ายเท
เชี่ยวเย่ว์หลานรู้สึกถึงพลังไร้สิ้นสุดทะลักเข้ามา นางนั่งตรงหน้าฉิน
หยุน หลับตาลง และเริ่มทําการขัดเกลาพลัง
“เสี่ยวหยุน ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?” นางเร่งรีบส่งเสียงทางจิต
สื่อสาร สอบถามฉินหยุนด้วยความเป็นกังวล
“ดีขึ้น…” ฉินหยุนครอบครองวิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬที่วิวัฒนาการ
แล้ว ดังนั้นความเร็วการขัดเกลาพลังงานจึงมหาศาล
หลังแบ่งสันปันส่วนพลังงานถ่ายเทออก ฉินหยุนค่อยมีสภาพคงที่
มากขึ้น
พลังของเม็ดยาเซียนเก้าต้นกําเนิดที่หมดอายุ ถึงกับน่าสะพรึงกลัว
เพียงนี้ มันแทบไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นยาที่หมดอายุแล้ว!
เชี่ยวเย่ว์หลานส่งเสียงถามมา “เสี่ยวหยุน หุบเขาลึกลํ้าจันทราของ
เรา มีเคล็ดวิชาฝึกฝนแห่งสวรรค์ ที่สามารถใช้ฝึกร่วมกับบุรุษ เรียก
ขานกันว่าพระสูตรหัวใจตะวันจันทรา”
“ตราบเท่าที่ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวส่งถ่ายพลังแก่นเต๋าให้อีกฝ่ าย
ทั้งสองจะสามารถผสานพลังของแก่นเต๋าสลับกันไปและโคจรไป
ทั่วร่างกายได้”
“เมื่อเจ้าฝึกฝนเพียงลําพัง พลังเต๋าจะเพียงโคจรในร่าง หากฝึกฝน
ร่วมกัน มันจะผสานพลังเต๋าของพวกเราเข้าด้วยกัน ภายหลัง มันจะ
เริ่มเกิดการโคจรครั้งใหญ่ในร่างของพวกเรา!”
“เคล็ดวิชาฟ้าประทานอะไรเยี่ยงนั้น! มีเงื่อนไขใดหรือไม่?” ฉินหยุน
ส่งเสียงทางจิตถามกลับ
“เพียงให้ข้าช่วยเจ้าชักนําพลัง มันจะช่วยเร่งความเร็วทุกภาคส่วนแก่
การฝึกฝนของเจ้า! ทั้งเจ้าและข้าต่างมีสามแก่นเต๋า นี่ย่อมช่วยเหลือ
ให้พวกเราฝึกฝนได้รวดเร็วขึ้น!” เชี่ยวเย่ว์หลานยิ้มบาง
ฉินหยุนเอ่ยถาม “อย่างนั้นแล้ว สื่อชิงเฉิงและผู้อื่น ต่างทราบเรื่อง
พระสูตรหัวใจตะวันจันทรานี้เช่นกันหรือ?”
“ข้าไม่ทราบ พวกนางล้วนตัวคนเดียว ดังนั้นท่านยายตู้อาจไม่ส่งต่อ
เคล็ดวิชานี้แก่พวกนาง!” เชี่ยวเย่ว์หลานกล่าวคํา “เสี่ยวหยุน ผ่อน
คลายลง ข้าจะเริ่มชักนําพลังงานในกายเจ้าแล้ว!”
“ย่อมได้!” ฉินหยุนเร่งรีบผ่อนคลายสภาวะ ทางด้านวิญญาณยุทธ์
ตะวันทมิฬ ขณะนี้ยังคงขัดเกลาฤทธิ์ของเม็ดยาเซียนต่อเนื่อง
อย่างรวดเร็ว เขารู้สึกได้ว่าแก่นเต๋าทั้งสามเปี่ ยมด้วยพลังเต๋า นี่คือ
พลังเต๋าที่ส่งผ่านมือของเขาเข้าไปในกายของเชี่ยวเย่ว์หลาน
หลังจากพลังเต๋าเข้าสู่ร่างของเชี่ยวเย่ว์หลาน นางปลดปล่อยพลังเต๋า
ของนางออกมา ผสานมันเข้ากับของฉินหยุน
ผลลัพธ์ที่ได้ พลังเต๋าจากแก่นเต๋าหลายแก่น ขณะนี้ผสานเกิดเป็น
คลื่นพลังเต๋า โคจรรวดเร็วภายในร่าง จากนั้นค่อยชําระร่างกายพวก
เขาอย่างต่อเนื่อง
ฉินหยุนสัมผัสได้กระจ่างชัด ว่าพลังเต๋าที่เขาปลดปล่อยออกไป
ขณะนี้กําลังเพิ่มมากขึ้น และยังทําให้แก่นเต๋าของเขาแข็งแกร่งขึ้น!
“พระสูตรหัวใจตะวันจันทรานี้น่าทึ่งนัก!” ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะ
อุทานชื่นชม “พวกเราสมควรเลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็วแล้ว!”
“เสี่ยวหยุน เม็ดยาที่เจ้ากินช่างวิเศษนัก! พลังงานเช่นนี้ ถือเป็นพลังงาน
เก้าตะวันที่บริสุทธิ์ยิ่ง!” เชี่ยวเย่ว์หลานอุทานตอบ
เมื่อพวกเขาฝึกฝนร่วมกัน ฉินหยุนสัมผัสได้ ว่าวิญญาณยุทธ์ทั้งสาม
ของเชี่ยวเย่ว์หลานเป็นสีดําล้วน!
“เย่ว์หลาน วิญญาณยุทธ์ที่สามของเจ้าคืออะไรกัน? ที่ข้าครอบครอง
คือวิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬ!” วิญญาณยุทธ์พลังจิตและวิญญาณยุทธ์
มังกรของเชี่ยวเย่ว์หลาน ขณะนี้วิวัฒนาการเป็นสีดําแล้ว
กระทั่งถึงตอนนี้ เขายังไม่ทราบว่าเชี่ยวเย่ว์หลานครอบครองวิญญาณ
ยุทธ์ที่สามอันใดไว้!
“ความจริง ข้าไม่มั่นใจนักว่ามันคืออะไร… เอาไว้พูดคุยกันภายหลัง!”
เชี่ยวเย่ว์หลานกล่าว
ฉินหยุนไม่ถามต่อ การฝึกฝนของเชี่ยวเย่ว์หลานที่ผ่านมาต้องเกิน
กว่าผู้ใดคาด ไม่เช่นนั้น การที่วิญญาณยุทธ์ของนางแปรเปลี่ยนเป็น
สีดําและก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สาม จะแทบไม่มีทาง
เป็นไปได้เลย
ไค่เซียงจิ้งขณะนี้ลอบอิจฉาต่อฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลาน นางกําลัง
รับชมพวกเขาฝึกฝนกันอย่างตั้งใจ
นางย่อมทราบถึงพระสูตรหัวใจตะวันจันทราอันแกร่งกล้า หากนาง
ฝึกฝนกับคนรักของนาง นางย่อมสําเร็จผลลัพธ์สองเท่าด้วยความ
พยายามเพียงครึ่งหนึ่ง
พระสูตรหัวใจตะวันจันทรา ย่อมมีตัวตนในตําหนักจันทราทมิฬซึ่ง
ไค่เซียงจิ้งสังกัดเช่นกัน นี่ถือเป็นเคล็ดวิชาฝึกฝนลึกลับ กล่าวได้ว่า
เรียนรู้ได้เฉพาะสตรีเพศ และสามารถฝึกฝนได้กับคู่ชีวิตเพียงหนึ่ง
หากนางฝึกฝนร่วมกับบุรุษที่นางไม่เชื่อใจ หรือจิตที่ไม่ประสานเข้า
ด้วยกัน ทั้งสองอาจเกิดการฝึกฝนแตกซ่านขึ้นได้
ดังนั้นแล้ว พระสูตรหัวใจตะวันจันทราน้อยครั้งจะส่งต่อให้บรรดา
ศิษย์!
สาเหตุว่าทําไมเชี่ยวเย่ว์หลานได้เรียนรู้ ก็เพราะแม่เฒ่าตู้ทราบถึง
ความสัมพันธ์ระหว่างนางและฉินหยุน!
ผ่านการฝึกฝนอยู่สามวัน ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานค่อยหยุดฝึกฝน
ร่วม พวกเขาขณะนี้มองกันเองด้วยดวงตาเบิกกว้าง สัมผัสถึงความ
ยินดีที่แสดงออกซึ่งกันและกัน!
พวกเขาไม่คาดคิด ว่าเพียงสามวันจะถึงกับก่อเกิดอักขระชีวิตตัวที่สี่
ก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สี่ได้!
วิญญาณยุทธ์สามารถดูดกลืนพลังเต๋าจากอักขระชีวิตตัวที่สี่ จากนั้น
จะควบแน่น เกิดขึ้นเป็นพลังเต๋าแรกเริ่มที่แกร่งกล้า!
พลังเต๋าแรกเริ่ม แข็งแกร่งยิ่งกว่าพลังเต๋าเดิมถึงสองหรือสามเท่า
สําคัญกว่านั้น พลังเต๋าแรกเริ่มจําเป็นต้องฝึกฝนเพื่อบํารุงเลี้ยงกาย
เต๋าให้เกิดขึ้นเป็นอักขระชีวิตตัวที่ห้า!
เชี่ยวเย่ว์หลานยิ้มบาง นางไม่กล่าวอันใด ทั้งสองคล้ายสื่อสารกัน
ทางจิต ต่างรับรู้ได้ถึงความยินดีในใจของกันและกัน
“อันดับแรก ผนึกพลังจากเม็ดยาเซียนนั่นเสีย รอจนเจ้ามีระดับการ
ฝึกฝนที่เสถียรภาพคงที่แล้ว ค่อยเริ่มการฝึกฝนกันอีกครั้ง!” เชี่ยวเย่ว์
หลานส่งเสียงทางจิตบอกต่อฉินหยุน
ฉินหยุนพยักหน้ารับ สายตาหันมองไปทางหงเหยียนและมู่หรงต้า
เหริน ทั้งสองเกือบฟื้นฟูสมบูรณ์แล้ว ขณะนี้กําลังหยอกล้อกัน
ทางด้านเซี่ยอู๋เฟิ ง เขากลับสู่สภาวะพร้อมเต็มที่ ชายชราสองคนที่
ร่วมทางมากับเขา ต่างก็อยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยมแล้วเช่นกัน
กระนั้น หากต้องเผชิญหน้าผู้ฝึกตนสายเลือด ผู้ฝึกตนโทเทม และผู้
ฝึกตนจากแดนวิญญาณอ้างว้างที่ภายนอก นี่ถือว่ายังเป็นกําลังที่อ่อน
ด้อยเกินไป
“ให้ข้าออกไปตรวจสอบสถานการณ์ก่อน!” ฉินหยุนกล่าวขึ้น
“น้องหยุน ให้ข้าร่วมทางไปด้วย!” เซี่ยอู๋เฟิ งเผยความกังวล
“ขอรับ!” ถัดจากนั้น ฉินหยุนและเซี่ยอู๋เฟิ ง รวมถึงชายชราขอบเขต
วรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้าทั้งสอง จึงออกไปโดยอาคมเคลื่อนย้ายสู่
ภายในป่ า
ที่นี่ มีร่องรอยของคนจํานวนมากเคยเดินทางผ่านมาก่อน!
ฉินหยุนพอได้เห็นรอยเท้าจํานวนมาก เขาถึงกับต้องยํ้าเตือนตนเอง
ฉับพลันนี้เอง ชายวัยกลางคนห้าคนพลันเข้ามาในป่ า!
ฉินหยุนและขณะเร่งรีบหลบซ่อนในยอดไม้
“จากสํานักราชันอัคคี!” เซี่ยอู๋เฟิ งส่งเสียงบอกต่อฉินหยุน “สองคน
อยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า ที่เหลืออยู่ระดับที่ห้า รับมือไหว
หรือไม่?”
เซี่ยอู่เฟิ งเป็นผู้ฝึกตนดาบ ระดับการฝึกฝนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋า
ระดับที่สาม ด้วยดาบต้นกําเนิดของเขา ย่อมสามารถรับมือบรรดา
ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่ห้าไหว
“แน่นอน!”
ฉินหยุนขณะนี้อยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สี่ ในเมื่อเขาสามารถใช้
พลังเต๋าแรกเริ่ม จึงไม่เป็นปัญหาหากต้องรับมือขอบเขตวรยุทธ์เต๋า
ระดับที่ห้า
เซี่ยอู๋เฟิ งขณะนี้เร่งรีบไปยังทิศทางหนึ่ง เขาคิดอยากล่อคนจํานวน
หนึ่งออกห่าง จากนั้นค่อยส่งต่อให้ฉินหยุนและคณะไล่ตามลอบ
โจมตี
“ตามไป!” ชายวัยกลางคนจากสํานักราชันอัคคีเร่งร้อนตะโกน
คนเหล่านี้มาที่นี่เพื่อจับตัวฉินหยุน ทั้งหมดล้วนเป็นศัตรู!
ฉินหยุนและผู้อาวุโสสองคนตามด้านหลัง แรกเริ่มเขาใช้ยันต์สะกด
กายทําการตรึงร่างคนของสํานักราชันอัคคี จากนั้นจึงพุ่งเข้าใส่ ใช้
พลังเต๋าแรกเริ่ม ผลักฝ่ ามือเข้าหาร่างขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่ห้า!
พลังเต๋าแรกเริ่มทะยานออก ขณะนี้มันก่อเกิดรูปร่างเพราะโทเทม
ราชสีห์สวรรค์ มันพุ่งทะยานเข้าหาร่างอีกฝ่ ายพร้อมฉีกกระชาก
ออกเป็นชิ้น!
ฉินหยุนไม่คาดคิด ว่าพลังเต๋าแรกเริ่มจะกินพลังงานมากมายเพียงนี้
นอกจากนี้ พลังเต๋าแรกเริ่มยังมีพื้นฐานมาจากอักขระชีวิต
อักขระชีวิตแก่นเต๋าราชสีห์สวรรค์ที่ส่งถ่ายออกมา มันก่อเกิดขึ้น
เป็นรูปของราชสีห์สวรรค์
ผู้อาวุโสสองคนจากสํานักดาบสวรรค์แตกตื่นเพราะฝ่ ามือโจมตีของ
ฉินหยุน ความหวาดกลัวเกาะกุมหัวใจพวกเขา ขณะนี้พวกเขาใช้
อาวุธในมือ ทําการสังหารขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้าสองคนจาก
สํานักราชันอัคคีเรียบร้อยแล้ว!
ถัดจากนั้น คือการล้างสังหารผู้ที่เหลือรอด!
หน่วยที่แข็งแกร่งของสํานักราชันอัคคี ถูกคณะของฉินหยุนสําเร็จ
โทษเพียงอึดใจ!
“น้องหยุน นั่นพลังเต๋าแรกเริ่มหรือ? เจ้าอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับ
ที่สี่แล้ว?” เซี่ยอู๋เฟิ งเผยความประหลาดใจ “ข้าทราบอยู่แล้ว ว่าคํา
สาปวิญญาณยุทธ์สีดําไม่ควรเป็นปัญหาสําหรับเจ้า!”
ผู้อาวุโสอุทานดังขึ้น “ฉินหยุน อักขระชีวิตที่แก่นเต๋าของเจ้าถึงกับ
เป็นอักขระชีวิตโทเทม ไม่นึกเลย… กล่าวโดยสรุปแล้ว วรยุทธ์เต๋า
ระดับที่สี่ พลังเต๋าแรกเริ่มจะใช้เพียงเพื่อบํารุงเลี้ยงกายเต๋า หากใช้ใน
การต่อสู้ มันจะใช้พลังงานมหาศาล บางครั้งอาจกวาดเอาพลังภายใน
จากแก่นเต๋าไปจนหมด!”
ฉินหยุนพยักหน้ารับ “เมื่อครู่ข้าใช้พลังจากแก่นเต๋าไปมากจริง ๆ
โชคดีที่มีสองแก่นเต๋า!”
เขารู้สึกว่าการใช้พลังเต๋าแรกเริ่มในการต่อสู้ไม่น่ามีปัญหาอะไร มัน
น่าจะสามารถทําให้เขาสังหารขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่หกได้ด้วย
ซํ้า!
ขณะพวกเขาต่อสู้กันเมื่อครู่ ย่อมดึงดูดความสนใจผู้อื่นในละแวกไม่
น้อย กลุ่มที่แข็งแกร่งขณะนี้เริ่มถูกดึงดูดมากันแล้ว!
อีกฝ่ ายมีกันสามคน พวกเขาล้วนเป็นชายชราขอบเขตวรยุทธ์เต๋า
ระดับที่เก้า ไม่ทราบว่าพวกเขาสังกัดที่ใด
“พวกเราต้องจับตัวฉินหยุนเป็นการด่วน! พวกเราไม่คิดว่าตําหนัก
โทเทมจะชั่วช้าถึงขั้นไปจับตัวหงเมิ่งจู! ผู้หญิงคนนั้นกับฉินหยุนมี
สัมพันธ์อันดีต่อกัน ฉินหยุนเป็นคนที่รักความยุติธรรม หากมันทราบ
เรื่อง ย่อมต้องถูกล่อหลอกให้ออกไปแน่!” ชายชราโพล่งคําดังขึ้นมา
“แม้หงหยิงเป็นราชันยุทธ์ เขากลับไร้ซึ่งพลังต่อต้านตําหนักโทเทม!”
“การต่อสู้เมื่อครู่นี้ หรือฉินหยุนจะโผล่หัวออกมา?”
ทุกคนต่างทราบ ว่าก่อนหน้านี้ฉินหยุนได้ช่วยชีวิตหงเมิ่งจูเอาไว้
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหงเมิ่งจูและหงเหยียน ถือว่าได้ว่า
ค่อนข้างดี และยังได้รับการยอมรับจากหงหยิง
เหตุนี้ตําหนักโทเทม จึงลงมือก่อการโดยจับตัวหงเมิ่งจูเอาไว้!
ฉินหยุนที่ซ่อนตัวเองพอได้ทราบเรื่อง เขารู้สึกคล้ายถูกฟ้าผ่าลงที่
กลางศีรษะ ความโกรธภายในใจระเบิดออก เขาเร่งรีบนําเอาอาวุธ
ยันต์สองชิ้นออกมา ขว้างปาใส่ชายชราสามคนนั้น!
ตู้ม!
อาวุธยันต์ระดับราชันขณะนี้ระเบิดออก ชายชราทั้งสามร่วงหล่นลง
มาพร้อมอาการสาหัส!
ฉินหยุนกวัดแกว่งกระบี่สีดําในมือ รุกคืบไปด้านหน้าด้วยก้าวดารา
เร้นลับ ระเบิดเสียงคําราม สับฟันเข้าใส่ร่างของชายชราทั้งสาม!
“ตําหนักโทเทม!” เขาคํารามดัง พุ่งทะยานไปทิศทางหนึ่ง เป็นบริเวณ
ถนนเส้นหลัก สอบถามผู้คนแถวนั้นว่าตําหนักโทเทมอยู่ที่ใด!
เซี่ยอู๋เฟิ งและอีกสองผู้อาวุโส ต้องเร่งรีบไล่ตามเขาไป
ฉินหยุนขณะนี้สวมหน้ากากหนังมนุษย์ วิ่งตัดผ่านถนนเส้นหลัก
เพียงไม่นาน เขาได้ทราบว่าคนของตําหนักโทเทมแขวนหงเมิ่งจู
เอาไว้ด้านในประตูเมือง
ตอนนี้ หลายคนที่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าได้ทราบ ว่าพวกตนไม่อาจ
ออกไปหลังเข้าเมืองแห่งนี้มาแล้ว
พวกเขาเชื่อ ว่านี่เป็นตําหนักจารึกเทวะทําการผนึกเมือง ตราบเท่าที่
จับตัวฉินหยุนเอาไว้ พวกเขาจะออกจากเมืองได้
หงเมิ่งจูถูกนําตัวมาในเมือง มือถูกรัดพันเอาไว้ ร่างกายเต็มไปด้วย
บาดแผล นางถูกแขวนประจานที่ประตูเมือง คนของตําหนักโทเทม
กําลังรอคอยฉินหยุนให้ปรากฏตัว!
ฉินหยุนเมื่อเข้ามาใกล้ เขาสัมผัสได้ถึงออร่าผู้ฝึกตนโทเทมกว่าสิบ
คน พวกเขาเหล่านี้อยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า และยังมีคนหนุ่ม
ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สี่และห้าซึ่งฝึกฝนโทเทมเช่นเดียวกันยืน
รออยู่
กับดักนานาชนิดติดตั้งเอาไว้ที่ประตูเมือง ธงหลากหลายถูกปักเอาไว้
พวกเขาพอเดินผ่าน ธงเหล่านั้นจึงจมหายลงไป