Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 449
ทัพภูตผีมิโนทอร์
ผู้คนขณะนี้พอได้ยินคำกล่าวที่ไม่น่าเชื่อถือของชายตรงหน้า ขณะนี้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา หากอีกฝ่ายคิดสร้างเภทภัยแก่พวกเขา หายนะที่จะเกิดขึ้นย่อมไม่อาจคาดเดาได้
ฉินหยุนกล่าวต่อ “เพราะพี่สาวข้าต้องการเข้าไป ข้าจึงไม่โกหก! หากไม่เชื่อข้า ก็ส่งผู้อื่นเข้าไปดู! ภูตผีสัตว์ร้ายเหล่านั้นแข็งแกร่งสำหรับข้า แต่ไม่ใช่กับราชันยุทธ์!”
ผู้คนขณะนี้มองหน้ากัน ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไป
“ให้ข้าเข้าไปเอง!” กล่าวคำจบ ราชันยุทธ์หงหยิงจึงทะยานร่างเข้าไป
เพียงไม่นาน เขากลับมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ภายในมีภูตผีสัตว์ร้ายจำนวนมาก ทั้งยังมีนานาชนิด กระทั่งภูตผีสัตว์ร้ายที่ใช้พิษก็มี!”
มู่เฟิงเอ่ยถาม “ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณสามารถรับมือภูตผีสัตว์ร้ายเหล่านั้นไหวหรือไม่?”
หงหยิงพยักหน้ารับ “สมควรไหว! ผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์เต๋าต้องระวังตัวให้ดี! ส่วนจะมีราชันภูตผีที่แข็งแกร่งหรือไม่ ข้าย่อมไม่ทราบแล้ว!”
หวังเทียนซือกล่าวคำ “หลุมฝังเซียนกว้างใหญ่เช่นนี้ย่อมไม่มีทางปลอดภัย! หากไม่คิดเสี่ยง อย่างนั้นจะได้รับสมบัติเซียนมาได้อย่างไร? หากหวาดเกรง เช่นนั้นก็จงกลับกันไป!”
เงียบงันกันพักหนึ่ง หาได้มีผู้ใดถอยกลับไปไม่
“ดี เช่นนั้นก็เข้าไป! แต่พวกเราต้องจัดแจงกันก่อนว่าจะเข้าไปอย่างไร!” ราชันยุทธ์จากตำหนักจารึกเทวะกล่าวคำ “ข้าจะเข้าไปก่อน ผู้ใดคิดตามไปด้วย?”
ด้วยผู้อื่นนำทัพแล้ว ราชันยุทธ์อื่นย่อมต้องตาม
สื่อชิงเฉิงเดินมาที่ข้างกายฉินหยุน หมัดขณะนี้กำไว้แน่น นางเป็นกังวลว่าภายในอาจเกิดอะไรขึ้นกับเขาอีก
สุ่ยเทียนสื่อเอ่ยถามต่อฉินหยุน ถึงสถานการณ์ภายในโดยละเอียด
ฉินหยุนกล่าว “เมื่อเข้าไปแล้ว พวกเราต้องระแวดระวังราชันภูตผี พวกตัวเล็กตัวน้อยอื่น ไม่น่าส่งผลอะไรกับพวกเรามากนัก!”
แม่เฒ่าตู้กล่าวขึ้น “ชิงเฉิง พวกเจ้าให้ดูแลเด็กคนนี้ไปชั่วเวลาหนึ่งแล้วกัน! ทางด้านพวกเราไม่ต้องเป็นห่วง!”
สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อ ทั้งสองพยักหน้ารับ
ฉินหยุนพบว่าเรื่องราวชวนขบขัน หากจะมีใครในที่นี้หวาดกลัวภูตผีสัตว์ร้ายเป็นคนสุดท้าย คนคนนั้นย่อมเป็นเขา
ราชันยุทธ์พอเข้าไปแล้ว ผู้อื่นจึงตามเข้าไปเป็นชุด
ทันทีเมื่อเข้ามาอีกครั้ง สายลมกระโชกรุนแรงจึงพัดพาโหมเข้าใส่
ราชันยุทธ์ทำหน้าที่เบิกทางด้านหน้า พวกเขาใช้พลังแกร่งกล้าที่มีเพื่อจัดการภูตผีสัตว์ร้าย
ฉินหยุนคิ้วขมวด “คนกลุ่มนี้ช่างใจแกร่งนัก! เหตุใดกล้าก่อเรื่องดึงดูดความสนใจเพียงนี้กัน?”
ในเขตแดนอ้างว้างที่ปกคลุมด้วยฝุ่นไร้การเคลื่อนไหวมานานหลายปี ขณะนี้ปกคลุมด้วยเสียงอึกทึก ราชันยุทธ์พอโจมตีออก จึงเกิดความวุ่นวายอึกทึกครั้งใหญ่ ทำให้เกิดลมแรงพัดพากระจายทั่วสารทิศ
ป่าตรงหน้า ราบเตียนเป็นหน้ากลอง
“หวังว่าคงไม่มีราชันภูตผีที่แข็งแกร่งโผล่ออกมานะ!”
“สงสัยนักว่าในนี้จะมีราชสีห์สวรรค์อยู่หรือไม่?” สุ่ยเทียนสื่อหันมองทงด้านหลัง ตระหนักได้ว่าเส้นทางขณะนี้ปิดตัวลงแล้ว “ราชสีห์สวรรค์ที่ด้านนอกไม่อาจเข้ามาได้อีก แต่หากพวกเราเผชิญหน้าอันตรายใด ก็ไม่มีทางหลบหนีออกไปได้!”
ฉินหยุนก็เกิดความกังวลเช่นเดียวกัน กระนั้น ในเมื่อเข้ามาแล้ว ก็มีแต่ต้องย่างฝีเท้าก้าวไปต่อ
ครึ่งวันผ่านพ้น ขณะนี้ฟ้าใกล้พลบค่ำแล้ว
กล่าวได้ว่ากลุ่มราชันยุทธ์เหล่านี้ยังแข็งแกร่ง พวกเขาลงมือสังหารภูตผีสัตว์ร้ายแกร่งกล้าระหว่างทางไปมาก เดินทางข้ามผ่านภูเขาหลายสิบลูก ขณะนี้เส้นทางการมุ่งหน้าเป็นไปอย่างลื่นไหล
ระหว่างทาง ฉินหยุนได้แก่นวิญญาณมาจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้เอาไว้ใช้ขัดเกลาอุปกรณ์ได้
นับเป็นเรื่องดีที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการแก่นวิญญาณ พวกเขาเพียงต้องการกระดูกหรือผิวหนังของภูตผีสัตว์ร้าย
สื่อชิงเฉิงช่วยเหลือเก็บพวกมันมาพลางกระซิบ “น้องชาย เจ้าต้องการสิ่งนี้ไปทำอะไร? ไม่เห็นมีผู้ใดต้องการมันสักคน!”
“มันมีประโชน์กับข้า!” ฉินหยุนตอบ
มีแต่สุ่ยเทียนสื่อและสื่อชิงเฉิงที่ช่วยเหลือเก็บพวกมันมาให้ ขณะที่ทางแม่เฒ่าตู้และคณะ รับหน้าที่คุ้มกันพวกเขาจากวงนอกอีกทีหนึ่ง
“พอแล้ว!” ฉินหยุนมองกลุ่มคนตรงหน้าพลางตะโกน “ตามแนวหน้าไปต่อ!”
เหตุนี้พวกเขาจึงไล่ตามกลุ่มคนด้านหน้าไปกันต่อ
แต่เพียงไม่นาน กลุ่มคนด้านหน้าหยุดชะงัก ขณะนี้พวกเขายืนตรงหน้าทะเลสาบขนาดใหญ่!
ฉินหยุนพอได้เห็นทะเลสาบ อดไม่ได้ที่จะเกิดความหนาวเย็นถึงกระดูกไขสันหลัง นี่เป็นทะเลสาบหมื่นดารา!
เขาเร่งรีบบินขึ้นกลางอากาศ สำรวจมองลงที่ทะเลสาบขนาดใหญ่ เพียงมอง เขาก็ทราบว่าทะเลสาบนี้ขนาดใกล้เคียงทะเลสาบหมื่นดารา
ที่แตกต่างกันก็คือ ที่ตรงกลางทะเลสาบตรงหน้า มันมีสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ ล้อมเอาไว้ด้วยสิ่งปลูกสร้างสีดำ
จากมุมสูง คล้ายเป็นเค้กสีดำที่ลอยอยู่เหนือผืนน้ำ
ที่ตรงกลางทะเลสาบ ผู้คนพอได้เห็นล้วนเกิดความตื่นเต้นยินดี
ไม่มีผู้ใดทะยานกายเข้าไป เพราะทั่วทั้งทะเลสาบปกคลุมด้วยค่ายอาคมขนาดใหญ่
ฉินหยุนมองทางหวังเทียนซือ ผู้ซึ่งเดินไปทั่วคล้ายมองหาอะไรบางอย่าง
เพียงไม่นาน เขาขุดอะไรบางอย่างขึ้นมา หลายคนเร่งรีบเข้ามาช่วยเหลือขุดเอาสิ่งนั้นขึ้นมา
ที่หวังเทียนซือขุดออกมา คือแท่นบูชายัญสีดำ!
ฉินหยุนพอได้เห็นแท่นบูชายัญ เขาสบถก่นด่าภายในใจ เพราะแท่นบูชายัญนี้ มันคล้ายกับที่เขาเคยประสบก่อนหน้านี้!
เขาเร่งรีบบินลงมาที่พื้น เข้าพบแม่เฒ่าตู้
หวังเทียนซือกล่าวคำขึ้น “สิ่งนี้คือแท่นบูชายัญ! พวกเราต้องเสียสละบางสิ่งหากคิดเปิดค่ายอาคมเพื่อเข้าไป!”
ราชันยุทธ์จากตำหนักจารึกเทวะเอ่ยถาม “แล้วอะไรที่ต้องใช้สังเวย? ชีวิตหรือไร?”
หวังเทียนซือมองฉินหยุนที่อยู่กลางฝูงชน น้ำเสียงหัวเราะชั่วช้ากล่าวออก “เจ้าหนู ได้เวลาจ่ายคืนทดแทนผู้อื่นแล้ว!”
สื่อชิงเฉิงและแม่เฒ่าตู้ล้วนมีโทสะ กระนั้น นี่ก็ไม่ใช่อะไรที่พวกนางจะต้านรับได้ไหว!
“ต้องให้ข้าหลั่งเลือด? ย่อมได้!” ฉินหยุนก้าวเดินเข้าไป “ตราบเท่าที่ไม่สังหารข้า! ข้าย่อมมีเลือดมากพอ!”
มู่เฟิงทราบ ว่าฉินหยุนครั้งหนึ่งเกือบถูกสังเวยชีวิต เขาได้แต่คิดว่านี่ออกจะเป็นเหตุบังเอิญเกินไปแล้ว เพราะฉินหยุนต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดิมอีกครั้งหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้ เขาเร่งรีบก้าวเดินเข้าไปกล่าวคำออก “น้องชายผู้นี้เคยร่วมดื่มกับข้า พวกเราถือว่าเป็นสหายสนทนาที่ดีต่อกัน ดังนั้นจึงนับเป็นสหายข้า หากเพียงแค่เลือดย่อมไม่เป็นไร แต่อย่าได้สังหารเขา!”
ได้เห็นมู่เฟิงออกหน้าปกป้อง หวังเทียนซือจึงได้แต่พยักหน้ารับ
มู่เฟิงกล่าวออก “พวกเจ้าล้วนถอยไป! ข้าจะใช้อาคมธงช่วยเขาฟื้นฟูเลือดที่เสียไปกลับคืน!”
กล่าวคำจบ เขานำเอาอาคมธงจำนวนมากออกมา ปักวางพวกมันเอาไว้รอบแท่นบูชา
ได้เห็นมู่เฟิงออกหน้า สื่อชิงเฉิงค่อยวางใจได้บ้าง นางไม่อาจช่วยฉินหยุนได้อีกครั้งแล้ว ภายในขณะนี้มีแต่คำกล่าวโทษตนเอง
ไม่เพียงแต่อาคมธงของมู่เฟิงจะช่วยฉินหยุนฟื้นฟูเลือดที่เสียไป มันยังจะช่วยเก็บงำออร่าสายเลือดราชสีห์สวรรค์
ฉินหยุนก้าวเดินเข้าไป เลือดหลั่งออก แท่นบูชาเผาไหม้ด้วยเปลวเพลิง ผู้คนส่งเสียงโห่ร้อง แท่นบูชานี้ทำงานได้จริง
ขณะฉินหยุนยังคงปลดปล่อยเลือดต่อเนื่อง ค่ายอาคมใหญ่ที่ปกคลุมทะเลสาบเอาไว้หายไป บรรดาราชันยุทธ์ออกนำทะยานร่างเข้าสู่ด้านในทะเลสาบ
“ข้ายังไหว จงไป!” ฉินหยุนตะโกน
สื่อชิงเฉิงพยักหน้ารับอย่างโล่งอก จากนั้นบินขึ้นสูงมุ่งหน้าสู่ทะเลสาบ
พลบค่ำ ตะวันใกล้ตกดินแล้ว
กระนั้น ทะเลสาบสีดำแห่งนี้ แม้มีแสงมันก็ยังคงดำมืด หาได้สะท้อนดวงตะวันลับฟ้า นับเป็นภาพที่แปลกตาประการหนึ่ง
ฉินหยุนบินขึ้นเหนือพื้นผิวทะเลสาบ กล่าวต่อสื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อ “พวกท่านให้ระวังตัว หากเกิดเรื่องใดขึ้น ก็อย่าได้ร่วงหล่นสู่น้ำด้านล่าง!”
สัญชาตญาณของเขาบ่งบอก ว่าใต้น้ำนั่นจะต้องอันตรายเกินบรรยาย!
กลุ่มคนมาถึงด้านหลังเกาะขนาดเล็ก มองทางสิ่งปลูกสร้างทรงกลม
สิ่งปลูกสร้างสีดำนี้กว้างใหญ่กว่าหนึ่งหมื่นเมตร สูงกว่าหนึ่งร้อยเมตร มันราวกับเป็นลูกกลมเกลี้ยงสีดำลอยกลางอากาศ
จุดแตกต่างมีเพียงหนึ่ง นั่นก็คือประตูสีแดง
ที่ประตู มีมิโนทอร์สีดำยืนตระหง่าน
มิโนทอร์ร่างสูงกว่าสองเมตร มีเพียงหัวที่เป็นวัวกระทิง ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้าม จากออร่า อีกฝ่ายไม่แข็งแกร่งนัก อยู่ราวขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ
“ในที่สุดก็มาถึงที่นี่!” มิโนทอร์ถืออห่วงโซ่โลหะสีดำ คำพูดกล่าวออกด้วยน้ำเสียงแหบกร้าน
“เป็นทัพภูตผีประตูหน้าหรือ?” หวังเทียนซือเอ่ยถาม
มิโนทอร์ตอบกลับ “ถูกต้อง ข้าคือผู้รักษาประตูรุ่นที่ห้าร้อย! แม้ข้าไม่แข็งแกร่ง แต่ข้าคือผู้ตัดสินว่าพวกเจ้าสามารถเข้าหลุมฝังเซียนนี้ได้หรือไม่!”
หากสังหารข้าและเข้าไปได้ เมื่อถึงเวลานั้น ราชันภูตผีในทะเลสาบจะตื่นขึ้น! ราชันภูตผีมากมายขณะนี้ล้วนหลับใหลอยู่เบื้องล่างทะเลสาบ!”
หวังเทียนซือกล่าวคำ “อย่างนั้นแล้ว แจ้งต่อพวกเราเป็นมารยาทหรือไร?”
มิโนทอร์ตอบกลับ “หากข้าปล่อยพวกเจ้าเข้าไป ข้าก็เพียงต้องรับบทลงโทษร้ายแรง เพียงแต่ไม่ตาย! หากพวกเจ้าไม่ปรารถนาให้ราชันภูตผีตื่นขึ้น และยังต้องการเข้าหลุมฝังเซียน ก็ได้แต่ต้องติดสินบนแก่ข้า!”
มิโนทอร์ตรงหน้าถึงขั้นเรียกร้องการติดสินบน ทำเอาหลายคนรู้สึกสบายใจไม่น้อย
หากต้องเผชิญหน้าบรรดาราชันภูตผี กระทั่งราชันยุทธ์ ก็พบว่าเป็นเรื่องยากลำบากจนเกินไป
“อย่างนั้นติดสินบนอย่างไร? ลองบอกเงื่อนไขมา!” หวังเทียนซือกล่าว
“ข้าต้องการหญิงสาวสองคน! ให้พวกนางทำข้าสุขสันต์ นั่นถือเป็นสินบนที่ดี!” มิโนทอร์กล่าวพลางชี้นิ้วไปที่สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อ
ไม่เพียงแต่สองสาวงามมีรูปลักษณ์เหนือล้ำ ระดับการฝึกฝนยังไม่ใช่ชั่ว พวกนางล้วนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ
“ไม่มีปัญหา!” หวังเทียนซือหัวเราะชั่วช้า
แม่เฒ่าตู้ขณะนี้มีโทสะตะโกนดัง “พวกเราย่อมไม่ไปแล้ว!”
“นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเจ้าสามารถตัดสินใจ!” ราชันยุทธ์สายเลือดเร่งรีบทะยานร่างเข้ามา ขวางแม่เฒ่าตู้เอาไว้
เพียงไม่นาน ราชันยุทธ์สายเลือดหลายคนล้วนบินตามมา ปิดล้อมแม่เฒ่าตู้เอาไว้
ตราบเท่าที่พวกเขาเข้าไปได้ พวกเขาจะได้รับสมบัติเซียน!
เพื่อให้เข้าไปได้อย่างปลอดภัย แค่เสียสละหญิงสาวสองคนจะเป็นไรไป
กระทั่งว่ามีสำนักราชันคุ้มครองหุบเขาลึกล้ำจันทรา พวกเขาขณะนี้หาได้กล่าวคำใด ไม่อย่างนั้นแล้ว เท่ากับต้องตกเป็นศัตรูของตระกูลสายเลือดชนชั้นสูงมากมาย
หงหยิงเร่งรีบเข้ามากล่าวเสียงเย็น “พอได้แล้ว!”
“สามหาว!” ราชันยุทธ์สายเลือดตะโกนดัง ฝ่ามือผลักออกเข้าใส่ร่างหงหยิง
ถัดจากนั้น ราชันยุทธ์อีกหลายคนปรากฏตัว พร้อมปิดล้อมหงหยิงเอาไว้
“หากไม่อยากตายอย่าได้พูดมาก! หากเจ้าต้องการยืนกราน เช่นนั้นก็เตรียมตัวรับความตาย!” ราชันยุทธ์ตระกูลเซี่ยงแค่นเสียงขึ้น “ทำตัวเป็นเด็กดีและหุบปากเสีย เจ้าจะได้เข้าไปพร้อมพวกเรา!”
สื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อ ขณะนี้ถูกจับตัวโดยราชันยุทธ์สองคนพร้อมดึงตัวไปที่ด้านหน้า
ชั่วขณะนี้ ฉินหยุนโดนมู่เฟิงโดนจับตัวเอาไว้
ฉินหยุนหันกลับมาคำรามเกรี้ยวกราด “ปล่อยข้า!”
มู่เฟิงส่งเสียงทางจิตต่อฉินหยุน “ฉินหยุน ข้ารู้ว่าเจ้ามีโทสะ แต่เจ้าไม่อาจเคลื่อนไหวตอนนี้ ไม่อย่างนั้นพวกนั้นจะสังหารเจ้า! ไม่ต้องห่วง ภายหลังข้าจะส่งเจ้าเข้าไปสังหารมิโนทอร์นั่น!”
ฉินหยุนพอได้ยินดังนี้ เขาค่อยสงบใจลงได้!
“ฮ่าฮ่าฮ่า งดงามนัก!” มิโนทอร์หัวเราะหยาบโลน
“จงรักษาสัญญาด้วย!” หวังเทียนซือยิ้มกล่าวคำ
มิโนทอร์ตัวนี้ ใช้โซ่สีดำรัดพันสื่อชิงเฉิงและสุ่ยเทียนสื่อเอาไว้
แม้พวกนางสบถก่นด่าและดิ้นรน กระนั้นกลับไร้ผลอย่างสิ้นเชิง
ชั่วขณะนี้ มู่เฟิงตะโกนขึ้น “ฉินหยุน เอาเลย!”
คำพอกล่าวจบ เขาปล่อยตัวฉินหยุน!
ฉินหยุนที่โทสะเปี่ยมล้น ทะยานกายตัวออกราวสายฟ้า!
ราชันยุทธ์หลายคนขณะนี้ตระหนักถึง คิดอยากหยุดยั้ง แต่พวกเขาพบว่าฉินหยุนทะลวงผ่านร่างพวกเขา นี่เป็นความสามารถเทวะทะลุทะลวง!
ฉินหยุนใช้ความสามารถเทวะ ผ่านร่างของราชันยุทธ์หลายต่อหลายคน การโจมตีลั่นออกใส่ศีรษะของมิโนทอร์ เป็นยันต์อัคคีภูตผีระดับราชัน!
ตู้ม!
หัวมิโนทอร์ระเบิกกระจาย เกิดขึ้นเป็นเปลวเพลิงเผาไหม้ทั้งร่าง!
ผู้คนขณะนี้กายแข็งทื่อ บรรดาราชันยุทธ์และขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ เกิดความคิดอยากสังหารฉินหยุนให้ตายตกเสียที่นี่
แต่แล้ว… ทะเลสาบในเวลานี้กลายเป็นล้นทะลักด้วยคลื่นวงน้ำ ราชันภูตผีหลายร้อยตนพุ่งทะยานออกมาแล้ว!