Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 442 ร่วมมือทางลับ
ขณะนี้มีราชันยุทธ์กว่าสิบคนมารวมตัวกัน
พวกเขาเหล่านี้ล้วนมาด้วยจุดประสงค์เดียว คิดอยากลงเดิมพันร่วมกับลูกพี่ลูกน้องของสื่อชิงเฉิง
แรงกดดันของตำหนักจารึกเทวะครั้งนี้มหาศาลนัก หากราชันยุทธ์เหล่านี้ที่รวมตัวกันชนะด้วยจำนวนเงินเดิมพันมากที่สุด อย่างนั้นแล้วตำหนักจารึกเทวะอาจต้องสูญนับสองถึงสามพันล้าน!
“รอบที่หกจะเริ่มเลยหรือไม่?” คนหนึ่งตะโกนถามขึ้น
ราชันยุทธ์เหล่านี้ ค่อนข้างล่ำซำกันอยู่แล้ว หากพวกเขาใช้หนึ่งร้อยล้านลงทุน ได้กลับคืนมาหลายร้อยล้าน เช่นนั้นย่อมยินดีวางเงิน
อย่างไรแล้ว การได้รับเงินเพิ่มขึ้น ไม่ว่าใครก็ต้องยินดี
ชายไว้หนวดเคราขณะนี้หันมองทางมู่เฟิงที่ยิ้มรับเร่งรีบเดินเข้ามา
มู่เฟิงมีสถานะค่อนข้างพิเศษในตำหนักจารึกเทวะ ตัวเขาถือเป็นคนดำเนินการเรื่องราวใหญ่หลายเรื่อง
“ผู้อาวุโสมู่… รอบที่หกนี้อย่างไรดีขอรับ?” ชายไว้หนวดเคราหันมองทางฉินหยุน ความรู้สึกเกลียดชังล้นพ้นเผยออกทว่าไม่อาจปลดปล่อย
ขณะนี้ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำและขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณกว่าร้อยคนมารวมตัวกัน พวกเขาเหล่านี้ล้วนร่ำรวยระดับหนึ่ง
ราชันยุทธ์หงหยิงหัวเราะดัง “ตำหนักจารึกเทวะอย่าได้หยุดการเล่นพนันนี้อย่างกะทันหันแล้ว ก่อนหน้านี้พวกเราเสียไปมากยังไม่หยุดเล่นกันเลย!”
ราชันยุทธ์อีกหลายคนล้วนตะโกนตามเป็นเสียงเดียวกัน
ราชันยุทธ์หลายคนพอได้เห็นดังนี้ นี่ถือเป็นโอกาสอันดีใช้กดดัน เป็นปกติที่จะไม่พลาดโอกาสอันดีเช่นนี้ปล่อยให้หลุดมือ
มู่เฟิงยิ้มแห้งขณะตอบกลับ “แน่นอนว่าตำหนักจารึกเทวะของเราย่อมให้เล่นต่อ เช่นนั้นแล้วมาต่อรอบที่หกกัน!”
ตำหนักจารึกเทวะถึงกับให้เล่นต่อได้ นี่ทำเอาทั่วทั้งลานกว้างส่งเสียงฮือฮากันดัง!
มู่เฟิงหัวเราะขณะมองที่ฉินหยุน เขายังคงหัวเราะกล่าวออก “ในเมื่อนี่เป็นการพนัน มีผู้ชนะย่อมมีผู้พ่ายแพ้! สหายน้อยคนนี้เหมือนจะมีพลังการคาดเดาทำนายอนาคต! กระนั้นข้าก็ไม่คิดเชื่อแต่อย่างใด!”
“เหตุผลว่าทำไมเมื่อครู่เขาชนะมาได้ ย่อมต้องเป็นเพราะโชค!”
ฉินหยุนเผยรอยยิ้ม ฝีเท้าก้าวเดินออก “ข้าคิดซื้อหมายเลขห้าสิบสอง และห้าสิบแปด เป็นเงินหมายเลขละห้าสิบล้าน!”
หากรอบนี้เขาคาดเดาได้ถูกต้อง เท่ากับจะได้รับอีกหลายร้อยล้านเหรียญม่วง!
ในเมื่อตำหนักจารึกเทวะมีแต่ต้องเดินต่อจนสุดทาง ฉินหยุนก็ไม่คิดมากมารยาท
“ช่างกล้าหาญนัก!” มู่เฟิงยิ้มอ่อน
สื่อชิงเฉิง เชี่ยวเย่ว์เหม่ย หงเมิ่งจู และสุ่ยเทียนสื่อล้วนซื้อหมายเลขตามฉินหยุน เป็นหมายเลขห้าสิบสองและห้าสิบแปด หมายเลขละห้าสิบล้านเช่นกัน!
ผู้อื่นขณะนี้ยังไม่ซื้อตามฉินหยุน กลับกัน พวกเขารับชมอยู่ด้านข้างพลางหารือ
หากฉินหยุนชนะอีกครั้ง ย่อมเป็นเขาครอบครองพลังคาดเดาอนาคต อย่างนั้นแล้วค่อยเล่นใหม่ในวันพรุ่งนี้ยังไม่สาย!
ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม มีแต่ฉินหยุน เชี่ยวเย่ว์เหม่ยและคณะที่ซื้อตาม
เป็นที่ทราบกันว่าฉินหยุนหลอกลวงผู้อื่นเอาไว้มาก ดังนั้นขณะนี้จึงมีแต่คนสงสัยไม่กล้าลงมือ
ชายไว้หนวดเคราขณะนี้เปิดการทำงานค่ายอาคมใหญ่!
ผ่านไปครู่ ค่ายอาคมหยุดทำงาน หุ่นเชิดนกบินออกจากไหหมายเลขห้าสิบสอง!
บรรดาราชันยุทธ์ล้วนอุทานชื่นชม ทั่วทั้งลานกว้างต้องตกอยู่ท่ามกลางเสียงฮือฮาอีกครั้งหนึ่ง!
“ไอ้หน้าโง่นั่นเดาถูกอีกแล้ว! ได้ไปอีกห้าร้อยล้าน!”
“หญิงสาวเหล่านั้นได้กันไปมาก! เป็นพวกนางเชื่อใจไอ้หน้าโง่นั่น!”
“เมื่อวานพวกนางได้ไปมหาศาล เดิมก็ไม่ได้ลงทุนมากมายอะไร ต่อให้แพ้ ก็แค่กลับคืนสู่ตำหนักจารึกเทวะ!”
“ต้องพูดเลยว่า หญิงสาวพวกนั้นมีสัมผัสที่หกที่ดีเยี่ยมนัก!”
“ฮ่าฮ่า! ตำหนักจารึกเทวะสูญเสียอีกครั้งแล้ว!”
“ไอ้หน้าโง่นั่นไม่สมควรอยู่ได้นานนัก มีพลังคาดเดาอนาคตจนเผยโชคชะตาออกมาได้ อายุขัยคงไม่ยืนยาว!”
“สงสัยนักว่าหมอนั่นครอบครองวิญญาณยุทธ์อันใด มีวิญญาณยุทธ์โหรอยู่ในโลกนี้หรือไม่?”
หลายเสียงดังขึ้นในลานกว้าง ผู้คนต่างเชื่อกันว่าฉินหยุนเชี่ยวชาญความสามารถคาดเดาอนาคต
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยมองทางชายไว้หนวดเคราพลางหัวเราะ “พรุ่งนี้ตำหนักจารึกเทวะก็ยังคงเปิดรับเดิมพันเช่นเดิมใช่หรือไม่?”
“เหตุใดจึงไม่กล้า? กระนั้นแล้ว… ผู้คนที่คิดเดินทางไปยังหลุมฝังเซียนล้วนอยู่ที่นี่ ดังนั้นพวกเราควรเร่งรีบเดินทาง! ตระกูลสายเลือดมังกรของท่านหญิงน้อยก็สมควรไปยังเขตแดนอ้างว้างหลุมฝังเซียนแล้ว หากพวกเราไม่เร่งรีบตามไป คงไม่อาจเหลืออันใดให้ได้รับ!” มู่เฟิงยิ้มตอบคำ
กระทั่งว่าตำหนักจารึกเทวะสูญเสียไปสองพันกว่าล้านในครั้งนี้ เขาก็ยังคงสงบใจอยู่ได้
ราชันยุทธ์สายเลือดขณะนี้เร่งรีบกล่าว “ย่อมไม่เป็นไร! พรุ่งนี้เล่นสักรอบหนึ่งก่อนค่อยไปไม่ถือว่าสายเกินไปนัก!”
ราชันยุทธ์หลายสิบคนที่นี้ล้วนเห็นด้วย ชัดเจนว่าพวกเขาวางแผนเชือดเฉือนตำหนักจารึกเทวะ
พวกเขาล้วนได้เห็นกับตาตนเอง ว่าลูกพี่ลูกน้องโง่เง่าของสื่อชิงเฉิงมีพลังการทำนายถูกต้องถึงสองครั้งติด เขาย่อมต้องมีความสามารถในการทำนายอย่างแน่นอน!
หากตำหนักจารึกเทวะยังปล่อยให้เล่นต่อ อีกฝ่ายก็ย่อมมีแต่ชนะไปเรื่อย
มู่เฟิงหัวเราะออกจากใจพลางกล่าว “ข้าขณะนี้คิดอยากไปยังหลุมฝังเซียนโดยเร็วที่สุด! เอาอย่างนี้เป็นไร ตำหนักจารึกเทวะของเราจะเริ่มจัดรอบแรกในทันที หลังจากทุกคนเล่นจนพึงพอใจ พวกเราค่อยออกเดินทางกัน!”
ผู้คนขณะนี้เผยความประหลาดใจ อดไม่ได้ที่จะเกิดความนับถือต่อกำลังอำนาจของตำหนักจารึกเทวะ
“เพื่อให้ทุกท่านได้ร่วมสนุก ข้าจะเพิ่มขีดจำกัดเป็นหนึ่งร้อยล้านเหรียญม่วง! เมื่อซื้อหาหมายเลข ย่อมสามารถวางเดิมพันได้มากถึงหนึ่งร้อยล้าน!” มู่เฟิงประกาศ ทำเอาผู้คนในลานกว้างฮือฮากันด้วยความประหลาดใจ
ไม่เพียงแต่ตำหนักจารึกเทวะจะจัดรอบที่เจ็ดเป็นการพิเศษ กระทั่งเพิ่มขีดจำกัดการวางเดิมพัน นี่ออกจะบ้าเกินไปแล้ว!
มู่เฟิงยิ้มขณะมองที่ฉินหยุนและกล่าว “น้องชายผู้นี้ ข้าไม่อาจเชื่อว่าเจ้าทำนายอนาคตได้จริง! เรื่องราวเช่นนี้ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน ดังนั้นนี่ก็ถือเป็นการพนันธรรมดา! ข้าขอเดิมพันว่าครั้งหน้าเจ้าคาดเดาไม่ถูกแน่แล้ว!”
ฉินหยุนเกิดความประหลาดใจ เพราะมู่เฟิงดูท่าทีสงบยิ่ง
ยังไม่มีใครลงเดิมพัน พวกเขาขณะนี้รอคอยฉินหยุน
ชั่วขณะนี้ คนที่รับหน้าที่วางเงินมองทางมู่เฟิง ใช้บัตรผลึกในมือเพื่อรับเหรียญม่วงมา
ฉินหยุนก้าวเดินออกไปและกล่าว “ข้าซื้อหมายเลขเจ็ดสิบและเจ็ดสิบห้า หมายเลขละหนึ่งร้อยล้าน!”
เขารู้สึกว่าต่อให้สูญเสียครั้งนี้ ก็แค่เสียไปสองร้อยล้าน เทียบกับที่ได้มา ถือว่าได้รับมากเพียงพอแล้ว
ทางด้านหญิงสาวทั้งสี่ รวมถึงสื่อชิงเฉิงด้วย ต่างเผยสีหน้ายินดีกันออกมาพร้อมตามฝูงชนเข้าร่วมวางเดิมพัน แต่ละคนล้วนซื้อหากันเต็มที่ถึงสองร้อยล้าน!
ราชันยุทธ์หงหยิงขณะนี้เคลื่อนไหว เขาต้องการซื้อตามฉินหยุน หากสำเร็จ เขาจะได้รับมากถึงแปดร้อยล้านเหรียญม่วง!
ราชันยุทธ์ผู้อื่น รวมถึงผู้มั่งมีที่เหลือล้วนซื้อหาเช่นเดียวกัน!
ทุกคนล้วนซื้อกันแต่หมายเลขเจ็ดสิบและเจ็ดสิบห้า เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วยาม เงินวางเดิมพันขณะนี้สูงกว่าหมื่นล้านเหรียญม่วงเข้าไปแล้ว!
หากเปิดออกมาเป็นหมายเลขเจ็ดสิบหรือเจ็ดสิบห้าจริง อย่างนั้นแล้วตำหนักจารึกเทวะต้องจ่ายกลับคืนไปมากถึงแสนล้านเหรียญม่วง!
นี่ไม่ต่างอะไรกับเสียเลือดในเส้นเลือดหลักแล้ว!
ชายไว้หนวดเคราขณะนี้ กำลังหลั่งเหงื่อกาฬท่วมตัว!
ฝูงชนพอได้เห็นฉินหยุนเผยความมั่นใจ พวกเขารู้สึกว่าชัยชนะไม่หนีหายไปไหน เมื่อถึงเวลา พวกเขาจะได้รวยกันถ้วนหน้า
เงินกว่าหนึ่งแสนล้าน เป็นอะไรที่ตำหนักจารึกเทวะยังพอจ่ายได้ไหวหากพ่ายแพ้
เพราะพวกเขาเป็นคนสร้างบัตรผลึกม่วงขึ้นมา ดังนั้นพวกเขาย่อมสามารถเสกเหรียญม่วงได้ตามต้องการอยู่แล้ว
แน่นอนว่า หากพวกเขาคิดอยากแลกเปลี่ยนเป็นเหรียญม่วงของจริง การเบิกถอนต่อวันย่อมทำได้อย่างจำกัด
หากต้องการเบิกถอนออกมาเป็นเหรียญม่วงปริมาณมหาศาล ก็ต้องไปยังนครราชัน แต่ก็มีข้อจำกัดด้านเวลา
ฉินหยุนขณะนี้ตั้งสมาธิแน่วแน่ไปยังไหเหล่านั้น อย่างกะทันหัน เขาได้ยินเสียงมู่เฟิงดังขึ้นภายในจิตใจ
เป็นมู่เฟิงส่งเสียงมาถึงเขา!
“ข้ารู้ว่าเจ้าคือฉินหยุน!” มู่เฟิงส่งเสียงดังมา “ข้าทราบว่าเจ้ามีความขุ่นเคืองกับตำหนักจารึกเทวะ! ทว่าข้าไม่ใช่คนที่อาจตัดสินใจเรื่องนี้ได้ เดิมทีข้าคัดค้านตำหนักจารึกเทวะด้วยซ้ำ”
ฉินหยุนตอบกลับ “ผู้จัดการ เรื่องนี้ข้าไม่เคยกล่าวโทษท่าน พวกเรายังนับเป็นสหายต่อกัน!”
มู่เฟิงยิ้มขณะส่งข้อความทางจิตต่อ “ในเมื่อพวกเราเป็นสหาย อย่างนั้นแล้วสร้างผลกำไรที่ดีต่อกันหน่อยเป็นไร?”
“ยอมปล่อยวางเรื่องนี้! เช่นนี้แล้ว ข้าจะได้รับกว่าหนึ่งหมื่นล้าน จากนั้นพวกเราแบ่งเหรียญม่วงอย่างเท่าเดียวกัน เช่นนี้เจ้าจะได้ถึงหลายพันล้าน!”
ฉินหยุนพอได้ยินดังนี้ หัวใจเขากลายเป็นครุ่นคิดในฉับพลัน!
อย่างไรแล้ว เขาไม่เชื่อมู่เฟิงมากนัก เพราะก่อนหน้านี้ตำหนักจารึกเทวะปฏิเสธการคุ้มครองต่อเขา และยังเพิกถอนสิทธิ์คุณสมบัติอาจารย์จารึก
“แม้พวกเราเป็นสหาย ยแต่ผลประโยชน์นี้ใหญ่เกินไป ข้าไม่อาจเชื่อท่านได้!” ฉินหยุนตอบกลับ
มู่เฟิงตอบกลับมาทันควัน “อย่าได้มองว่าข้าอ้วนเช่นนี้แล้วคิดเป็นอื่น! เป็นข้ามีชีวิตมายาวนานยิ่ง หาได้ใช่คนหนุ่มเช่นนั้น กระทั่งจ้าวฉวนยังเป็นลูกศิษย์ข้า!”
“เขาได้รายงานต่อข้า ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นต่อเจ้าในภูมิภาคชายแดน ข้ายังทราบว่าเชี่ยวเย่ว์หลานมีแผนที่หลุมฝังเซียนในครอบครอง หากเจ้าคิดอยากใช้ประโยชน์จากแผนที่หลุมฝังเซียนอย่างแท้จริง ภายหลังข้าอธิบายรายละเอียดต่อเจ้ายังได้!”
“แล้วก็ใช่ ตระกูลเชี่ยวที่ภูมิภาคชายแดนแห่งนั้นลึกลับยิ่ง ข้ารู้เรื่องราวของตระกูลเชี่ยวระดับหนึ่ง!”
ฉินหยุนตกตะลึง ก่อนหน้านี้ เขาและเชี่ยวเสวียนฉินได้ทำการตรวจสอบสุสานเทียนเชี่ยว พบว่าเรื่องราวลึกลับอย่าง เรื่องนี้ยังเป็นปัญหาคาใจเขาจนถึงทุกวันนี้
มู่เฟิงส่งเสียงมาต่อ “หากข้าไม่อาจเชื่อใจ เช่นนั้นข้าคงเปิดโปงเรื่องเจ้าไปแล้ว! แต่ข้าก็ไม่พูดออกมา นี่ก็เพื่อรักษาความลับให้แก่เจ้า!”
“ตัวข้า มีหนึ่งหน้าที่คือจัดการตำหนักจารึกเทวะในภูมิภาคชายแดนแห่งนั้น ข่าวคราวใดส่งมา ย่อมต้องผ่านข้าก่อน!”
“ตอนนี้ข้ายังส่งคนที่เชื่อใจได้จำนวนหนึ่งออกไป พวกเขาจะร่วมมือกับหุบเขาลึกล้ำจันทรา เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถควบคุมข่าวสารจากภูมิภาคชายแดนแห่งนั้นเอาไว้ได้”
ฉินหยุนขณะนี้คิดอย่างเคร่งเครียด รู้สึกว่ามู่เฟิงนั้นเชื่อถือได้ เขาตอบคำผ่านจิตสื่อสาร “ข้าแปด ท่านสอง อย่างนี้เป็นไร?”
มู่เฟิงตอบกลับทันควัน “ข้าสี่ เจ้าหก!”
“เจ็ดต่อสามแล้วกัน! ข้ายอมถอยให้แล้ว!” ฉินหยุนยิ้มกว้าง “หากตำหนักจารึกเทวะของท่านพ่ายแพ้ ต้องเสียกว่าแสนล้านเหรียญม่วงเชียวนะ!”
“ก็ได้!” มู่เฟิงยอมรับ เขากล่าวต่อ “ข้าจะหารือเรื่องสวนโบราณกับเจ้าในภายหน้า ความจริงว่าเจ้าถูกตำหนักจารึกเทวะทอดทิ้ง เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้!”
สองคนส่งเสียงสื่อสารกันไปมาอยู่ห่างไกลกัน ดังนั้นผู้อื่นย่อมไม่พบเห็นอันใด
ฉินหยุนไม่มีความประทับใจอันใดที่ดีต่อราชันยุทธ์เหล่านี้ การหลอกลวงให้พวกเขาใช้จ่ายเหรียญม่วงมหาศาล ก็นับเป็นเรื่องน่าพึงพอใจอย่างหนึ่ง!
ราชันยุทธ์เหล่านี้จากตระกูลสายเลือดชนชั้นสูง บางตระกูลกระทั่งสนิทชิดเชื้อกับตำหนักโทเทมด้วยซ้ำไป
ฉินหยุนให้ความสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นในที่นี้มาโดยตลอด เขาพบว่าสามขั้วอำนาจใหญ่ ราชันยุทธ์ฮั่ว ราชันยุทธ์จ้าวสรรพสัตว์ และผู้อาวุโสของเหมาเม่ยเม่ยไม่ได้อยู่ที่นี่
เรื่องนี้ทำเอาเขารู้สึกประหลาดใจ ดังนั้นจึงเร่งรีบส่งเสียงสื่อสารถามมู่เฟิง “ผู้จัดการ เสี่ยวลู่ อู๋ซวง และเม่ยเม่ยยังไม่กลับมาหรือ? พวกเขาสมควรเข้าไปยังสวนโบราณและออกมาแล้วสิ!”
“พวกเขาออกมาแล้ว ให้ข้าอธิบายเรื่องนี้ต่อเจ้าภายหลัง!” มู่เฟิงตอบกลับ “ยังมีบางเรื่องที่พวกเราไม่แน่ใจนัก!”
ฉินหยุนรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่เล็ก ดังนั้นจึงยังไม่ซักไซ้ในตอนนี้ ขณะนี้เพียงแค่รอคอยให้ค่ายอาคมใหญ่เริ่มทำงาน
ชายไว้หนวดเคราเริ่มเปิดการทำงานของค่ายอาคม
ฉินหยุนใช้เนตรวิญญาณสมบูรณ์ ขณะนี้ทำเพื่อให้มั่นใจว่าหุ่นเชิดนกจะไม่ปรากฏที่ไหนหมายเลขเจ็ดสิบและเจ็ดสิบห้า
ขณะค่ายอาคมใหญ่ทำงาน ผู้รับชมเรื่องราวทั่วทั้งลานกว้างเงียบกริบ ราวกับพวกเขาสามารถได้ยินเสียงลมที่เกิดจากค่ายอาคมซึ่งกำลังทำงาน!
ค่ายอาคมใหญ่หยุดการทำงาน ชั่วขณะที่ฝาเปิดออก ทุกคนถึงกับกลั้นลมหายใจตั้งตารับชม!
หุ่นเชิดนกขณะนี้บินออกจากไหหมายเลขห้า!
ผู้คนตื่นตะลึง!
ผู้คนที่เมื่อครู่คาดหวังล้นพ้น ขณะนี้รู้สึกราวกับหัวใจโดนเชือดเฉือนออก เป็นพวกเขาเจ็บปวดหัวใจอย่างมหาศาลแล้ว!