Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน - ตอนที่ 428 ชีพจรเซียนเยือกแข็ง
หยดจันทราสัตว์บุปผาเป็นสีขาวเงิน เปรียบดั่งแสงจันทรา มองแล้วให้ความงดงามอย่างยิ่ง
โมโมส่งเสียงดังออกจากมิติเก็บของ “พี่หยุน ให้ข้าออกไปรับชม!”
พอได้ยินเขาจึงปลดปล่อยโมโมออกมา
โมโมได้เห็นหยดจันทราสัตว์บุปผาจำนวนหนึ่ง นางกลายเป็นยินดี เร่งรีบใช้มือน้อยสัมผัสมันและเลียลิ้มรส
รอยยิ้มเป็นสุขเผยออกขณะกล่าว “อร่อยยิ่งนัก! นี่วิเศษไปเลย ดีกว่าไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรตั้งเยอะ!”
“จริงหรือ? หากเป็นเช่นนั้น ไว้เมื่อใดไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรหมดสิ้น ก็ไม่มีอันใดต้องกังวลว่าเจ้าจะหิวจนตายแล้ว!” ฉินหยุนกล่าวด้วยความประหลาดใจ
หากหยดสัตว์บุปผานี้สามารถเป็นอาหารแก่โมโม เขาก็ไม่จำเป็นต้องค้นหาไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรในภายหน้าอีกต่อไป
ยันต์วิญญาณนี้รวบรวมหยดจันทราสัตว์บุปผาได้จำนวนไม่น้อย ขณะนี้มันเต็มปริ่มจานที่ใช้รองแล้ว
ผ่านไปไม่นาน ยันต์ก็สิ้นฤทธิ์
ฉินหยุนกล่าว “รอดูกันอีกสักพักหนึ่ง!”
โมโมเร่งรีบกลับสู่มิติเก็บของ ภายนอกขณะนี้หนาวเย็นเกินไป
หญิงชรารับชมอยู่ด้านข้างมาตลอด นางกล่าว “กระต่ายหยกหลับใหลเป็นเวลานานยิ่ง ตอนนี้มันคงหิวมากแล้ว! นี่น่าจะเร่งให้มันออกมาอย่างรวดเร็วได้!”
“ท่านยาย กระต่ายหยกตัวนั้นสามารถตามข้ากลับไปยังแดนยุทธ์อ้างว้างได้หรือไม่?” ฉินหยุนสอบถาม
“แน่นอนว่าได้ พาเจ้าตัวน้อยนั่นไปพบนายหญิงน้อยด้วย! มันน่าจะช่วยนางได้ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว!” หญิงชรากล่าว “ไม่ว่าจะอย่างไร กระต่ายหยกก็ยังเป็นสัตว์ลึกล้ำที่แข็งแกร่ง ย่อมสามารถปกป้องนายหญิงน้อยได้อย่างแน่นอน!”
ฉินหยุนขณะนี้เกิดความสงสัยอย่างยิ่ง คิดอยากทราบว่าตอนนี้หยางฉีเย่ว์กำลังทำอันใดอยู่ที่หุบเขาลึกล้ำจันทรา
นับเป็นเรื่องดีที่แม่เฒ่าตู้จากหุบเขาลึกล้ำจันทรา เข้าปกครองภูมิภาคชายแดนในเวลานี้เอาไว้ ทั้งหมดก็เพื่อไม่ให้มีข่าวใดเล็ดรอดออกมา
วิญญาณยุทธ์ของหยางฉีเย่ว์และเชี่ยวเย่ว์หลาน กระทั่งในแดนยุทธ์อ้างว้างก็ถือว่าหาได้ยากยิ่ง
“ท่านยาย เหตุใดพระราชวังกวงหานแห่งนี้หนาวเย็นนัก?” ฉินหยุนเอ่ยถาม “ทันทีเมื่อข้าเข้ามาในอาณาเขตของพระราชกวงหาน ความรู้สึกเย็นเยือกก็เข้ามารอรับแล้ว!”
หญิงชราตอบ “เพราะมีชีพจรเซียนเยือกแข็งอยู่เบื้องหลังพระราชวังกวงหาน เหตุนั้นมันจึงปลดปล่อยพลังเซียนน้ำแข็งแรงกล้าออกมา! จึงทำให้พื้นที่รอบข้างได้รับผลกระทบไปด้วย!”
“เดิมทีมันไม่ได้ร้อนหรือว่าเย็นแต่อย่างใด ทว่าหลังถูกโจมตี ค่ายอาคมมากมายถูกทำลายสิ้น! พระราชวังกวงหานของพวกเราอยู่ใจกลางสวน ถือเป็นแกนกลางของทั้งสวนก็ว่าได้!”
ฉินหยุนขณะนี้นึกย้อน ถึงช่วงที่ตนเองเดินเตร่ไปทั่วพระราชวังกวงหาน เขาไม่พบอันใดแม้สักนิด ทั้งหมดล้วนไร้ซึ่งสัญญาณชีวิต ชัดเจนว่าสวนโบราณแห่งนี้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
“กระต่ายน้อย!” หญิงชราขณะนี้ร้องด้วยความตื่นตกใจอย่างกะทันหัน
ฉินหยุนหันมองรอบด้วยความตื่นตระหนก “อยู่ไหนหรือขอรับ?”
“ตรงนี้!” หญิงชราชี้ไปยังกระต่ายตัวน้อยที่เข้ามาอยู่ข้างจานรองของเหลวพร้อมยิ้ม
ฉินหยุนตระหนก กระต่ายน้อยตัวนี้รวดเร็วยิ่ง มันเข้ามาอย่างกะทันหันและเงียบงัน เขาไม่รู้ตัวแม้สักนิด
กระต่ายหยกร่างไม่ใหญ่ ขนาดเพียงฝ่ามือ ทั้งร่างปลดปล่อยแสงจันทราสีเงินออกมา มองไปแล้วงดงามยิ่ง ชั่วขณะนี้ มันกำลังดูดกลืนหยดสัตว์บุปผาอย่างหิวกระหาย
“เหมือนจะไม่พอนะ!” กล่าวคำจบ ฉินหยุนนำเอาไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรออกมา “สงสัยนักว่ากินไอ้นี่ได้หรือไม่!”
เขาทราบว่าหากต้องการให้กระต่ายหยกติดตามกลับไปด้วยความเต็มใจ ก็ต้องให้อาหารมันจนพอใจเสียก่อน
หลังจากกระต่ายหยกดื่มหยดสัตว์บุปผาแล้ว มันค่อยหันมองทางไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรด้วยความยินดี ทำการกลืนกินพลังงานด้านในอย่างต่อเนื่อง
“กินเก่งนัก!” ฉินหยุนรับชมไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรที่ฝ่อไปเรื่อย ๆ เขาเองก็ต้องนำออกมาใหม่อย่างต่อเนื่อง
ผ่านไปพักหนึ่ง กระต่ายหยกดูดกลืนพลังงานจากไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรไปกว่าสิบฟองแล้ว!
จำนวนนี้เพียงพอให้โมโมได้กินทั้งปี!
เขากลายเป็นกังวลขึ้นมา หากมอบกระต่ายหยกตัวนี้แก่หยางฉีเย่ว์ นางจะสามารถเลี้ยงเจ้าตัวน้อยนี้ไหวหรือ?
“กระต่ายหยก จดจำเขาได้หรือไม่? เขาเป็นสหายของนายหญิงน้อย! แม้นายหญิงน้อยเสียชีวิตไปแล้ว ทว่านางได้ถือกำเนิดขึ้นใหม่ เจ้ายินดีติดตามเขาไปยังแดนยุทธ์อ้างว้าง เพื่อพบกับนายหญิงน้อยอีกครั้งหรือไม่?” หญิงชราขณะนี้กำลังลูบกระต่ายหยกอย่างเอ็นดูพร้อมเอ่ยถาม
“แน่นอน!” กระต่ายหยกตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่คล้ายกับโมโม มันเป็นเสียงที่อ่อนนุ่ม ราวกับเด็กสาวที่พร้อมบานสะพรั่ง
ฉินหยุนรู้สึก ว่ากระต่ายหยกตัวน้อยยังจ้องเขม็งที่เขาราวกับต้องการไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรเพิ่ม
“กระต่ายน้อย อย่าได้กินไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรมากจนเกินไปแล้ว! เพราะโมโมจำเป็นต้องใช้ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรจำนวนมากเพื่อซ่อมแซมค่ายอาคม!” ฉินหยุนกล่าวคำพลางยื่นมือไปที่ตัวกระต่าย
“ข้ากินวันละฟองก็ได้!” กระต่ายหยกตอบคำ
“นั่นถือว่ามากแล้ว!” ฉินหยุนเร่งร้อนตอบ
หนึ่งวันต่อฟอง ครึ่งปีเท่ากับหนึ่งร้อยแปดสิบฟอง!
ทางด้านโมโม นางต้องใช้เวลาครึ่งปีเพื่อซ่อมแซมค่ายอาคมเคลื่อนย้าย ดังนั้นแล้วจำเป็นต้องใช้ไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรมากกว่าร้อยฟอง
“เอาอย่างนี้เป็นไร ให้ข้ากินยี่สิบฟอง จากนั้นข้าจะไปหลับอีกครั้ง!” กระต่ายหยกกล่าว “ข้าสามารถหลับจำศีลได้ เมื่อจำศีลแล้วก็ไม่จำเป็นต้องกินอีก!”
ฉินหยุนค่อยผ่อนคลายได้บ้าง กระต่ายหยกตัวนี้ก็ไม่ใช่ไร้เหตุผลเสียทีเดียว
“ตามนั้น!” เขานำเอาไข่ผลึกแก้วสัตว์อสูรออกมายี่สิบฟอง มอบพวกมันให้แก่กระต่ายหยก
กระต่ายหยกเร่งรีบดูดกลืนพลังงาน จากนั้นค่อยกระโดดไปมาบนพื้น ไม่ทราบเลยว่าขณะนี้ยินดีเรื่องอันใดอยู่กันแน่
“กระต่ายน้อย เจ้าสามารถดูดกลืนพิษได้ทุกชนิดจริงหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ไม่ว่าพิษใดล้วนไม่ใช่ปัญหา!” กระต่ายหยกกระโดดขึ้นสูง ขึ้นไปนอนลงที่บนศีรษะของฉินหยุน
ฉินหยุนกอดร่างน้อยไว้ก่อนถามอีกครั้ง “นายหญิงน้อยของเจ้าไม่มีความทรงจำจากช่วงชีวิตก่อน อย่างนั้นแล้วก็ยังยินดีติดตามนางต่อหรือ?”
“แน่นอน!” กระต่ายหยกหัวเราะ “เมื่อใดคิดไปแดนยุทธ์อ้างว้าง?”
“เมื่อค่ายอาคมซ่อมเสร็จ เมื่อนั้นพวกเราจะเดินทาง!” ฉินหยุนปล่อยโมโมออกมา
โมโมพอได้เห็นกระต่ายน้อย นางเผยความยินดีขณะออกไปเล่นด้วย
กระต่ายน้อยขณะนี้ปลดปล่อยพลังสีขาวเงินออกมา ปกคลุมรอบร่างของโมโมเอาไว้ ช่วยไม่ให้นางรู้สึกหนาว
สิ่งมีชีวิตตัวเล็กทั้งสอง ขณะนี้เล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน
“โมโม นับจากนี้ก็เริ่มซ่อมอาคมเคลื่อนย้ายได้เลย!” ฉินหยุนเอ่ยคำ
“พี่ชายหยุน วิญญาณดวงตะวันยังอยู่ที่นี่! ท่านไม่ต้องการมันหรือ?” กระต่ายหยกพลันเอ่ยคำขึ้น
“วิญญาณดวงตะวัน? รู้หรือว่ามันอยู่ที่ไหน?” ฉินหยุนเอ่ยถามด้วยความตื่นตระหนก
หญิงชราขณะนี้ก็แตกตื่นเช่นกัน นางเร่งรีบเอ่ยถาม “กระต่ายน้อย เจ้าทราบหรือว่าวิญญาณดวงตะวันขณะนี้อยู่ที่ใด?”
“อยู่ในชีพจรเซียนเยือกแข็ง! ให้ข้าพาไปได้!” กระต่ายหยกกล่าวคำจบ ก็เร่งรีบวิ่งไปทางด้านหนึ่ง
ฉินหยุนเก็บโมโมเข้ามิติเก็บของ ติดตามหญิงชราและกระต่ายหยกไป
กระต่ายหยกขณะนี้มาถึงธารน้ำแข็งในพระราชวังกวงหาน
มันมีรูขนาดเล็กในน้ำแข็ง กระต่ายหยกบอกออกมา “ก่อนหน้านี้ เป็นข้าหลับใหลอยู่ภายในชีพจรเซียนเยือกแข็ง!”
หญิงชราทำลายชั้นน้ำแข็งด้วยฝ่ามือ เกิดขึ้นเป็นหลุมขนาดใหญ่ ดึงฉินหยุนพร้อมกระโดดลงสู่ธารน้ำแข็ง
ธารน้ำแข็งแห่งนี้ปรากฏแสงสีเงินส่องสว่าง มองไปแล้วงดงามยิ่ง หาได้มีอันใดมืดไม่
แม้ลำธารนี้ถูกเยือกแข็ง ทว่าน้ำเบื้องล่างกลับมีความอุ่น
หญิงชราดึงฉินหยุนแหวกว่ายไปอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม พวกเขาค่อยติดตามกระต่ายหยกถึงก้นธารน้ำ
ที่ก้นธารน้ำ มันมีหินขนาดใหญ่จำนวนมาก รวมทั้งเนินขนาดเล็ก
กระต่ายหยกขุดไปที่รอยแตกในเนินเขาเล็ก พร้อมดำดิ่งลึกลงไปอีก
หญิงชราและฉินหยุน ได้แต่ตามเข้าไปในรอยแยกของเนินเขาใต้ธารน้ำ มุ่งสู่ห้วงลึกต่อเนื่อง
เพียงไม่นาน พวกเขากลับถูกดูดเข้ามาอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง
“นี่คือที่ตั้งของชีพจรเซียนเยือกแข็ง!”
“ข้าจะพาไปดูวิญญาณดวงตะวัน!” กระต่ายหยกจับจ้องที่ชั้นน้ำแข็ง ด้วยขาเล็กสั้น ขณะนี้มันวิ่งออกอย่างรวดเร็ว
หญิงชราได้แต่คว้ามือฉินหยุน ติดตามไปอย่างไม่ทิ้งห่าง
ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง ฉินหยุนใช้วิญญาณเทวะเก้าตะวัน สัมผัสได้ถึงการเรียกหาจากด้านหน้า
“วิญญาณเทวะเก้าตะวัน มันขัดเกลาขึ้นจากวิญญาณดวงตะวันทั้งเก้า!” ฉินหยุนกลายเป็นยินดี “นี่จะยิ่งทำให้เราได้รับดวงวิญญาณตะวันง่ายดายมากขึ้น!”
ไม่นาน เขาได้เห็นลูกไฟขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า
ที่สุดทางของถ้ำ มันเป็นทรงกลมขนาดราวครึ่งตัวคน ขณะนี้กำลังปลดปล่อยเปลวเพลิงร้อนแรงออกมา
แม้เปลวเพลิงเหล่านี้แกร่งกล้า ทว่าหาได้ร้อนไม่
“นี่คือลูกแก้ววิญญาณดวงตะวัน?” ฉินหยุนเอ่ยคำด้วยความประหลาดใจ
“อืม ส่วนเรื่องที่ว่าจะสามารถได้รับมันหรือไม่ ล้วนขึ้นอยู่กับตัวท่านแล้ว!” กระต่ายหยกกล่าวตอบ
หญิงชราเดินเข้าไป สัมผัสบางเบาที่ลูกแก้ว มือของนางกลายเป็นติดไฟ เร่งรีบถอยห่างพร้อมสะบัดไฟให้พ้นจากตัว
“อย่าได้เข้าไปแล้ว นี่อันตรายเกินไป!” หญิงชราขณะนี้เร่งรีบดึงตัวฉินหยุนห้ามเอาไว้
“การได้รับวิญญาณดวงตะวันไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องคิดหาทางให้ดีเพื่อได้รับมัน!” กระต่ายหยกเอ่ยขึ้น
ผ่านทางวิญญาณเทวะเก้าตะวัน ฉินหยุนสัมผัสได้ ว่าวิญญาณดวงตะวันตรงหน้าขณะนี้ มันเป็นแหล่งพลังชีวิตแกร่งกล้า มันคล้ายกับมีอะไรบางอย่าง ที่มีชีวิตอยู่ด้านในลูกแก้วนั่น!
“ให้ข้าลองสัมผัสมัน!” ฉินหยุนยื่นมือออกไป สัมผัสเข้าที่ลูกแก้ว กระนั้นกลับไม่ติดไฟลุกพรึ่บแต่อย่างใด
หญิงชราร้องอุทาน “เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดคราวนี้ไม่ติดไฟ?”
นางพอกล่าวคำจบ ลูกแก้วนั้นพลันหายวับ!
เพียงคิด ฉินหยุนส่งวิญญาณดวงตะวัน กลับเข้าสู่ไข่มุกเม็ดที่สองของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน!
ขณะนี้เขาคิดกับตนเอง “วิญญาณดวงตะวันค่อนข้างพิเศษ มันไม่ใช่อะไรที่สามารถดูดกลืนได้ดังใจคิดเหมือนอย่างวิญญาณยุทธ์! ขณะนี้เรายังไม่ทราบวิธีใช้งานมัน แต่มันก็สามารถอาศัยอยู่ในวิญญาณเทวะเก้าตะวัน เช่นนี้นับว่าตกเป็นของเราแล้ว!”
กระต่ายหยกเผยความยินดีขณะมองฉินหยุนซึ่งได้รับวิญญาณดวงตะวันไปต่อหน้า!
ฉินหยุนและคณะ ขณะนี้ออกจากชีพจรเซียนเยือกแข็ง กลับสู่พื้นผิวเบื้องบน เข้าไปด้านในถ้ำแห่งเดิม
ภายในถ้ำคือค่ายอาคมเคลื่อนย้าย ตราบเท่าที่ซ่อมให้ดี มันจะสามารถใช้เคลื่อนย้ายไปยังแดนยุทธ์อ้างว้าง
กระต่ายหยกกลับเข้าสู่ห้วงจำศีลอีกครั้ง โดยครั้งนี้มันเลือกจำศีลอยู่ภายในไข่มุกเม็ดแรกของวิญญาณเทวะเก้าตะวัน
ทางด้านโมโม นางอยู่ในถ้ำ เริ่มงานซ่อมแซมค่ายอาคมเคลื่อนย้าย
ถ้ำแห่งนี้ไม่เย็นนัก ดังนั้นโมโมจึงสามารถบินไปมาอย่างสุขสบายเพื่อซ่อมแซมอักขระที่เสียหาย
* * *
ฉินหยุนและหญิงชรา ขณะนี้คุ้มกันที่ปากทางเข้าถ้ำพลางหันเงยหน้ามองดวงตะวันบนฟากฟ้า
“ท่านยาย เหตุใดข้าไม่อาจดูดกลืนพลังวิญญาณจากดวงตะวันขณะอยู่ที่นี่?” ฉินหยุนถามขึ้น
“นั่นก็เพราะเจ้าไม่มีชีพจรเซียนใดอยู่กับตัว ดังนั้นจึงไม่อาจดูดกลืนพวกมัน!” หญิงชราหัวเราะ
ฉินหยุนอึ้งไปวูบ สถานที่แห่งนี้ พลังงานที่คงอยู่ แท้จริงคือพลังเซียน
เขายังได้เข้าใจ ว่าเหตุใดค่ายอาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวันจึงสามารถดูดกลืนพลังวิญญาณ นั่นก็เพราะค่ายอาคมวิญญาณบรรจบเก้าตะวัน สามารถแปรเปลี่ยนพลังวิญญาณใดก็ได้ ให้กลายเป็นพลังงานที่เขาสามารถดูดกลืน
“ชีพจรวิญญาณในกายข้า ขณะนี้ยังไม่วิวัฒนาการเป็นชีพจรเซียน ดังนั้นจึงไม่อาจดูดกลืนพลังเซียนผ่านทางวิญญาณเทวะเก้าตะวันได้ เป็นเช่นนี้นี่เอง!” ฉินหยุนมองที่ดวงตะวันบนฟากฟ้าขณะรู้สึกเสียดาย
หญิงชรามองที่ฉินหยุน ปากขยับเอ่ยถาม “เสี่ยวหยุน เมื่อกลับไปยังแดนยุทธ์อ้างว้าง ต้องดูแลนายหญิงให้ดีด้วย!”
ฉินหยุนพยักหน้ารับ “แน่นอนขอรับ! จริงด้วย ท่านยาย ข้าครอบครองวิญญาณยุทธ์สีดำ ดังนั้นจึงไม่อาจเลื่อนระดับพลัง ท่านพอมีวิธีช่วยเหลือข้าให้เลื่อนระดับได้หรือไม่?”
หญิงชราขณะนี้เผยความประหลาดใจออก “แน่นอนว่ามีวิธี ทว่ามันขึ้นอยู่กับตัวเจ้า!”
“เจ้าขณะนี้อยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่สอง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะก้าวสู่ระดับที่สาม! นั่นก็เพราะร่างกายอ่อนแอเกินไป จำเป็นต้องใช้พลังงานเก้าดวงตะวันเพื่อบำรุงเลี้ยงร่างกายเสียก่อน เพราะเหตุนั้น วิญญาณยุทธ์สีดำจึงถูกจำกัดการวิวัฒนาการเอาไว้!”