Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ネトゲの嫁が人気アイドルだった ~クール系の彼女は現実でも嫁のつもりでいる~ - ตอนที่ 5.7
*** ปกติในเว็บจะขับรถส่งแล้วจบ แต่ในฉบับนิยายจะเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับเบื้องหลังของรินกะ และสาเหตุที่รินกะเล่นเกมออนไลน์ ลองอ่านดูนะคับผม
“อุตส่ามาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ค้างคืนไปเลยล่ะ”
“เอ่อ ให้ค้างคืนเลยมันก็..”
“ฮะฮะ แค่หยอกเล่นเฉยๆ ขำๆจ้า”
คาสึมิที่กำลังขับรถ สองมือถือพวงมาลัย หัวเราะให้ผมได้ยิน
หยอกของพี่ อาจจะชิบหายของผมเลยก็ได้สิครับ ไม่มั่นใจเลยว่าเจ๊แกเล่นมุกหรือเอาจริง
ผมกำลังนั่งอยุ่ที่นั่งข้างคนขับ สายตาเหม่อมองทิวทัศน์กลางคืนข้างนอกขณะรถวิ่งอยู่
หลังจากเสร็จสิ้นช่วงเวลาเฮฮาปาร์ตี้มื้อเย็นจบลง นาฬิกาตอนนั้นก็บอกเวลาชัดเจนว่าเลยเวลาที่เด็กมอปลายแบบผมควรอยู่ข้างนอกแล้ว
ถึงแม้ว่าผมจะโดนครอบครัวมิสึกิชวนให้นอนค้างที่บ้านเพราะห่วงความปลอดภัยของผม แต่ผมก็เกรงใจเลยปฏิเสธ เพราะพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ มีเรียนตามปกติ แต่ต่อให้พรุ่งนี้เป็นวันหยุด ผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะอาจหาญขนาดนอนค้างบ้านมิสึกิอยู่ดี
พอผมบอกครอบครัวมิสึกิไปว่า ผมจะกลับบ้าน คุณคาสึมิก็เลยอาสาขับรถพาผมไปส่งที่บ้านให้
“ขับรถมาส่งก็ดี เพราะชั้นอยากจะคุยกับแฟนของน้องสาวชั้นสองต่อสองนี่แหละ”
“ยังไม่ใช่แฟนนะครับ”
“อ้อ บอกว่า ยัง สินะ”
“ยังที่เป็นยังจริงๆนะครับ ไม่ได้มีความหมายแฝงว่าเหนือกว่านั้นนะ”
ผมรีบปฏิเสธอย่างลนลาน ส่วนคุณคาสึมิหัวเราะเยาะอย่างซุกซนกับคำตอบผม
“คาสึโตะคุงมีสาวอื่นที่ชอบอยู่เหรอ”
“ทำไมถึงถามเรื่องนี้เหรอครับ”
“ก็แค่ว่า ขนาดมีรินกะที่ออกจะสวยขนาดนี้ แต่เธอยังไม่มีทีท่าว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์แบบเพศตรงข้าม ชั้นเลยสงสัยว่าจริงๆแล้วเธออาจจะมีสาวอื่นที่่ชอบอยู่แล้วรึเปล่าน่ะสิ”
“ไม่มีใครเลยครับ”
“อืม เนื้อหอมสุดๆเลยนะ แถมยังหล่อเลือกได้ขนาดสวยแบบรินกะยังไม่พอใจสินะ”
“ผมไม่ได้เนื้อหอมสักนิดเลยนะครับ”
“คาสึโตะุคงไม่รู้ตัวเลยสินะว่า ถ้าสมมติชั้นเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเธอ ชั้นคงไม่ปล่อยเธอให้สาวอื่นไปครองแน่”
“ขอบคุณที่คุณคาสึมิพูดชมขนาดนั้นนะครับ ผมก็ดีใจ ถึงมันจะเป็นมุกก็เหอะ”
“ฮะฮะ ไม่ใช่มุกซะหน่อย ชั้นแอบอิจฉารินกะนิดๆเหมือนกันนะ”
“….”
คุณคาสึมิอิจฉาคุณรินกะนิดๆเหรอ?
คำพูดนี้ ผมจับความหมายแฝงในน้ำเสียงได้ว่า มันมีความนัยหลายอย่างในนั้น เล่นเอาไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปยังไงดี ยิ่งผมเป็นคนที่ไม่ได้มีสกิลพูดเก่งด้วย ยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะตอบด้วย
“วันนี้ได้คุยกันหลายเรื่อง ถ้าสมมติว่าเธอไม่ชอบรินกะ ชั้นก็อยากให้เธอสารภาพมาตรงๆนะ”
“ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบรินกะนะครับ เพียงแต่ว่าถ้าความรู้สึกผมยังไม่ชัดเจน ผมจะไม่พูดออกมาเท่านั้นครับ”
“งั้นเหรอ ก็ลองทบทวนให้ดีละกันนะ อย่างน้อยเรื่องคิดก่อนพูดก็เป็นสิ่งดี ชั้นดีใจที่เธอไม่ใช่เป็นผู้ชายประเภทพระยาเทครัวจีบไปเรื่อยนะ”
คุณคาสึมิชำเลืองมองผมด้วยหางตาก่อนจะหัวเราะอย่างเบาใจ
ถึงเธอจะดูเพี้ยนๆและเหลวไหลไปบ้าง แต่เนื้อแท้ก็มีส่วนที่จริงจังอยู่ไม่ใช่น้อย
แม้พวกเราจะได้คุยกันแค่ระยะสั้นๆ แต่ผมรู้สึกว่าเข้าใจคุณคาสึมิขึ้นมาหน่อยหนึ่งแล้วล่ะ
“ตอนนี้เห็นเธอดูร่าเริงก็เถอะ แต่รินกะก่อนหน้านี้เป็นคนที่พยายามจนตึงเปรี๊ยะเข้าขั้นน่ากลัวเลยล่ะ”
“หมายถึงก่อนหน้าที่รินกะจะเป็นไอดอลยอดนิยมเหรอครับ”
“ถูกต้อง ช่วงรินกะสมัยมัธยมต้นนั่นแหละ ตอนนั้นเธอลำบากมากๆเลยล่ะ”
คุณคาสึมิพูด สายตาเธอเหม่อมองไปไกลขณะขับรถ
ผมคุ้นๆว่าเรื่องนี้คุณคุรุมิซากะก็เคยพูดให้ผมฟังทีหนึ่งนะ
“สมัยนั้นวงสตาร์มายยังไม่ฮอต ขายไม่ออกเท่าปัจจุบัน ถึงเด็กพวกนั้นจะมีพรสวรรค์และความสามารถการแสดง แต่พอเจอความเครียดความกดดันก็เกิดอาการสติแตกกัน”
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
“อืม สมาชิกในวงแผดเสียงใส่กันเองกันอย่างบ่อยเลย”
“จริงเหรอครับ ดูสภาพวงปัจจุบัน ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าสมัยก่อนรุนแรงขนาดนั้น”
“ตอนนี้สมาชิกในวงรักกันดีสุดๆแล้ว แตต่เมื่อก่อนมันมีช่วงที่เรียกว่าทีมแตกเลยนะ”
คุณคาสึมิขับรถพลางพูดต่ออีก
“อ้อ นานะจังอยู่ในวงใช่มั้ยล่ะ เด็กคนนั้นร้องไห้เสียใจทุกวัน เพราะรู้สึกว่าเป็นความผิดตัวเองที่พารินกะเข้ามาในวงการไอดอลน่ะ”
“เอ๋ คุณคุรุมิซากะคนนั้นน่ะนะ”
“ใช่ คุรุมิซากะคนนั้นแหละ”
คุณคุรุมิซากะที่ร่าเริงแจ่มใสเป็นนิจคนนั้น เมื่อก่อนร้องไห้หนักเลยเหรอ นึกภาพไม่ออกสักนิดเดียว
“แล้วคุณคาสึมิรู้เรื่องพวกนี้ได้ไงครับ”
“คุรุมิซากะจังโทรมาปรึกษาชั้นเรื่องพวกนี้บ่อยน่ะสิ รินกะกับคุรุมิซากะจังรู้จักกันตั้้งแต่ตอนประถมแล้ว ชั้นก็เลยรู้เรื่องพวกนี้น่ะ”
….ปรึกษาคุณคาสึมิเนี่ยนะ พวกเธอหาคำปรึกษษผิดคนแล้วมั้ง
“อะเร๊ะ สายตาแบบนั้นคงคิดว่าว่าชั้นขาดความน่าเชื่อถือล่ะสิ เห็นๆชั้นแบบนี้ แต่ชั้นก็เป็นพี่สาวที่พึ่งพาได้ของน้องๆนะ”
ผมคิดว่าคุณคาสึมิเป็นผู้หญิงสายเครซี่ ทะลุพิกัดมากกว่านี่สิ
“เ่อ่อ แล้วเรื่องคุณคุรุมิซากะร้องไห้น่ะ บอกให้ผมรู้เรื่องพวกนี้จะดีเหรอครับ”
“ชั้นคิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่เธอจำเป็นต้องรู้นะว่า เธอเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อพวกสาวๆมากขนาดไหน”
“ทั้งที่ผมเป็นแค่เน็ตเกมเมอร์ง่อยๆเนี่ยนะครับ”
“แล้วไงล่ะ เด็กสาวพวกนั้นก็เป็นแค่ไอดอลเหมือนกันไง”
“เ่อ่อ ผมว่ามันไม่เหมือนนะครับ คำอ่านก็คนละแบบ น้ำหนักความรับผิดชอบในหน้าที่ก็ต่างกันลิบลับเลยนะครับ”
ไอดอลเป็นงานที่ต้องใช้ความพยายามขัดเกลาฝีมือ ส่วนเน็ตเกมเมอร์ง่อยๆวันๆไม่ทำห่าไรนั่งหน้าคอมล้วนๆ
ถึงผมจะไม่ได้รู้รายละเอียดเชิงลึก แต่ผมก็พอจะรู้ว่างานไอดอลมันเป็นงานที่ลำบากมาก
“สมัยก่อน รินกะคิดว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ทำให้วงสตาร์มายไม่ประสบความสำเร็จ เธอจึงพยายามฝึกฝนตัวเองอย่างหนักมาก”
“ก็พอจะนึกภาพออกครับ”
“ช่วงนั้นแหละที่ชั้นเป็นคนบอกให้รินกะลองเล่นเกมออนไลน์ดู”
“เอ๋”
“เกมส์ออนไลน์มันไม่ต้องรู้จักชื่อหรือเคยเห็นหน้าก็สามารถเล่นด้วยกันได้ ชั้นเห็นข้อดีจุดนี้เลยเสนอให้เธอลองเล่นแม้ว่าชั้นจะไม่เคยเล่นเกมส์ออนไลน์สักครั้งเลยก็ตาม”
“ขนาดไม่เคยเล่น ยังรู้ซึ้งขนาดนี้ นับถือเลยครับ”
เพิ่งรู้ว่าที่รินกะมาเล่นเกมส์ออนไล์ ก็เพราะฝีมือคุณคาสึนี่เอง เป็นความจริงที่คาดไม่ถึงเลย
“ตอนแรกรินกะก็ไม่เล่นหรอก เธอเถียงกลับมาว่าถ้าชั้นมีเวลาว่างพอจะเล่นเกม สู้เอาเวลาไปฝึกซ้อมร้องเพลงจะดีกว่า… แต่พอผ่านไป อยู่มาวันหนึ่งเธอลองกดเกมดู แล้วพบว่ามันสนุกดีก็เลยติดลมยาว”
“….”
“รินกะที่ปกติจะมีสีหน้าอมทุกข์ตลอดเวลา เริ่มจะมีรอยยิ้มมากขึ้น แค่นี้ชั้นก็ดีใจแทนน้องแล้ว”
นี่เป็นเรื่องของรินกะที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน แต่พอดูสีหน้าโล่งอกของคุณคาสึมิที่พูดถึงรินกะเมื่อครู่ ทำให้ผมพอจะนึกภาพออกว่า เรื่องนี้สมัยก่อนไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย
“พอรินกะเริ่มมีรอยยิ้ม ตั้งแต่วันนั้นวงสตาร์มายก็เริ่มพัฒนาแบบก้าวกระโดดเลย”
“ก้าวกระโดดเลยเหรอครับ”
“อืม พอสมาชิกแต่ละคนเริ่มคืนดีกัน งานก็ค่อยๆเข้ามาเรื่อยๆ จนไหลเข้ามาไม่หยุดแบบที่เห็นในปัจจุบันนี่แหละ”
“…”
“เด็กพวกนั้นพยายามมากๆเลยล่ะ”
ผมพอเข้าใจแหละ เบื้องหลังใบหน้ายิ้มแย้มเปล่งประกายของไอดอล มีเบื้องหลังคือผ่านการทำงานและความพยายามมาอย่างหนักเลือดตากระเด็น
“ม่า สรุปง่ายๆ ที่ชั้นจะบอกคือ วงสตามายประสบความสำเร็จได้เพราะคาสึโตะคุงนี่แหละ”
“ไม่นะ ไม่น่าใช่ละครับ ผมไม่คิดแบบนั้น”
“เธอน่าจะเคยฟังมาจากคุรุมิซากะจังแล้วไม่ใช่เหรอว่า พอรินกะเริ่มเปลี่ยนทัศนคติ สมาชิกคนอื่นก็ได้รับอิทธิพลรินกะจากเรื่องนี้ หากไม่มีเธอ ป่านนี้คงยุบวงไปแล้ว”
“หา”
“ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ คาสึโตะคุงเป็นเพื่อนเล่นเกมออนไลน์กับรินกะ เธอถึงเปลี่ยนทัศนคติได้ เธอเป็นคนช่วยวงสตาร์มายนะ”
“เอ่อ ผมว่าก็พูดเกินไปครับ”
“ไม่ได้พูดเกินไปหรอก ชั้นไม่ปฏิเสธเรือ่งความพยายามของเด็กพวกนั้น แต่ก็การันตีว่าหากไม่มีคาสึโตะคุง ยังไงวงก็ไม่ประสบความสำเร็จแบบที่เห็นปัจจุบันแน่”
….ผมที่แค่เล่นเกมออนไลน์ตามปกติเนี่ยนะ
“นานะจังโทรศัพท์มาบอกชั้นเองนะว่า ซาบซึ้งกับสิ่งที่คาสึโตะคุงทำ”
อย่างนี้นี่เอง ผมเข้าใจเหตุผลที่คุณคุรุมิซากะซังบอกว่าผมเป็นคนที่เชื่อใจได้แล้วล่ะ
บางทีคุณคาสึมิก็คงคิดแบบเดียวกับคุณคุรุมิซากะสินะ
วงสตาร์มายประสบความสำเร็จได้เพราะมีอายาโนะโคจิ คาสึโตะ
ถึงจะเป็นการประเมินที่เวอร์วังในความรู้สึกผมก็เถอะ เพราะสิ่งที่ผมทำมันก็แค่เล่นเกมออนไลน์กับรินกะด้วยกันอย่างสนุกสนานแค่นั้นเอง ไม่ได้มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น
“…..”
บรรยากาศกลับมาเงียบ เมื่อทั้งผมกับคุณคาสึมิไม่ได้คุยอะไรต่อ
รถยังคงวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ผมเหม่อมองไปยังกระจกรถ เห็นภาพใบหน้าตัวผมเองสะท้อน
ดูยังไงก็แค่หน้าคนปกติธรรมดา หาได้ทั่วไป
…แล้วน้ำหน้าอย่างไอ้หมอนี่เนี่ยนะคือชายผู้ช่วยเหลือวงสตาร์มายให้ประสบความสำเร็จราวกับเป็นซุเปอร์ฮีโร่ผู้อยู่เบื้องหลัง
ฮะฮะ คิดแล้วก็ฮาดี
ความเป็นจริงว่า แท้ที่จริงแล้ว คนอย่างผมก็แค่คนธรรมดาทั่วไป มันกดดันความรู้สึกผมสุดๆจนไม่รู้จะเอ่ยปากบอกใคร
***
จบCH5-7
ก็คิดว่าน่าจะรุ้อะไรเพิ่มเติมนะครับ ตอนหน้านี่ก็ฉีกจากฉบับเว็บนิดหน่อย ก็น่าอ่านอยู่นะครับ คราวนี้คาดว่าอีกไม่เกิน 3 วันก้น่าจะแปลเลยฉบับเว็บของคุณ คนเหงาและง่วง เป็นฉบับไลท์โนเวลล้วนๆแล้วนะครับ
รอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon