Netoge no Yome ga Ninki Idol datta ネトゲの嫁が人気アイドルだった ~クール系の彼女は現実でも嫁のつもりでいる~ - ตอนที่ 2.1
******หมายเหตุจากผุ้เขียน ตอนนี้ ส่วนต่างจากเว็บจะเผยเรื่องชีวิตประจำวันบางส่วนของคาสึโตะ กับ ความประหลาดของโคโตเนะนะครับ ในเพจคนเหงาและง่วง จะไม่มี แต่ในนี้จะมีนะครับผม อันนี้คือใหม่เอี่ยมอ่อง ลองอ่านดุนะ
ผ่านมาหลายวันนับจากรู้ตัวจริงของริน
วันนี้เป็นวันพฤหัส วันมะรืนจะถึงกำหนดการเล่นเกมด้วยกันกับคุรุมิซากะ
“เฮ้ยๆ อายาโนะโคจิ ร่าเริงหน่อยสิเพื่อน”
“เออ เมิงได้ไปแดกข้าวกับคุณมิสึกิ ตั้ง1ครั้ง ควรจะร่าเริงและต้องกราบทีนพระเจ้างามๆที่มอบโอกาสให้เมิงด้วยนะ”
“…กุสลดตอนไหนฟะ”
ตั้งแต่วันจันทร์ ผมไม่ได้ไปกินข้าวกับคุรุมิซากะและรินเพราะเกรงว่าหากไอดอลมาคุยกับผมบ่อย เกรงว่าข่าวลืออาจแพร่ไปในทางไม่ดีและจะมีปัญหาภายหลัง
สรุปคือผมกินข้าวกับพวกเธอวันจันทร์วันเดียว ที่เหลือก็นั่งกินกับเพื่อนกลุ่มเดิมนี้่แหละ
“จะทานละนะครับ ….ง่ำๆๆ..ขอบคุณสำหรับมื้ออาหารครับ”
อาหารกลางวันผมเป็นไข่ต้ม
“ว่าจะถามหลายรอบละ อาหารกลางวันเมิงแดกไข่ต้มลูกเดียวนี่อิ่มเหรอวะ”
“อ้อ ชินแล้วล่ะ”
“ชินกับเรื่องแบบนี้ไม่ดีมั้ง… อาหารกลางวันวัยรุ่นมอปลาย แค่ไข่ต้มลูกเดียว สารอาหารจะพอยาไส้ที่ไหนล่ะ”
“ไซโต้มันก็พูดถูกนะ เมิงก็ได้ตังค์ค่าขนมจากที่บ้าน ไม่เอาไปซื้อข้าวกลางวันดีๆแดกวะ”
“พอดีว่าต้องอดออมว่ะ”
ผมส่งรอยยิ้มให้หลังตอบกลับ
“ยิ้มทำหอกไรครับ เมิงบ้ารึเปล่า”
“อายาโนะโคจิคุงน่ะดูภายนอกก็เหมือนคนปกตินะถ้าเลิกโชว์นิสัยเน็ตเกมเมอร์โอตาคุน่ะ ”
ทาจิบานะพยักหน้าให้กับคำพูดของไซโต้ ปากคอพวกแม่มเราะร้ายเกิ้นนน
“เออ เรื่องนั้นช่างมัน กุถามหน่อยว่าเมิงเรียกชื่อคุณมิสึกิรึยัง”
“อยู่ๆก็ถามเรื่องนี้เพื่อ? กุจะกล้าเรียกชื่อเขาได้ไงวะ”
“แต่คุณมิสึกิเรียกเมิงว่าคาสึโตะคุงแล้วใช่มั้ยล่ะ”
“ม่า…อืม”
ว่าไปเธอก็เรียกเราว่าคาสึโตะแต่แรกเลยนี่นะ พอคิดๆดูแล้วไอ้การที่เรียกชื่อนี่ ถ้าดูจากนิสัยของคุณมิสึกิแล้วมันก็…..
“เมิงคิดว่าคนระดับคุณมิสึกิเรียกชื่อนี่จะไม่คิดลึกซึ้งอะไรเลยรึไง”
“งั้นเหรอ”
“เออดิ กุอยู่ในห้องได้ยินข่าวลือเรื่องนี้เมื่อครึ่งปีที่ผ่านมาว่ามีผู้ชายไอ้หล่อที่ไหนไม่รู้ไปเรียกชื่อเธอและพยายามตามเทียวไล้เทียวขื่ออยู่นะ”
“เห ผลที่ได้ล่ะ”
“เธอไม่แลแม้หางตาเลยล่ะ”
“นึกภาพออกเลยว่ะ”
“…แล้วทีนี้ ไอ้หนุ่มนั่นมันทะลึ่งเข้าใจผิดคิดว่าคุณมิสึกิเขิน ก็เลยฉวยโอกาสกอดเธอจากด้วนหลัง”
“ล..แล้วไงต่อวะ”
“เธอจับหมอนั่นทุ่มลงกับพื้นเสียงดังป้าบเลยน่ะสิ”
“ห…โหดว่ะ”
แต่ก็นะ พฤติกรรมฝ่ายชายมันผิดจริง โดนก็สมควรละ
จู่ๆไปเรียกชื่อแถมกอดเขาจากด้านหลัง นี่มันก่ออาชญากรรมทางเพศครั้งใหญ่ชัดๆ
“ไอ้หน้าหล่อคนนั้นเหมือนจะฟกช้ำระดับหนึ่ง แต่นี่คือข้อพิสูจน์ว่าคุณมิสึกิเธอเกลียดผู้ชายแน่ๆ”
“ใช้คำว่าเกลียดเลยเหรอ แค่ปิดบังเฉยๆก็ได้มั้ง”
“แล้วคุณมิสึกิคนนั้นเรียกชื่อนาย ก็คิดดูละกัน”
เพื่อนเมินคำพูดผม สนทนาเรื่องมิสึกิต่อ
“…เมิงอยากบอกอะไรกูวะ”
” เรื่องนั้นไงเล่า เรื่องนั้นน่ะ”
ทาจิบานะก็ยังไม่บอกชัดๆ ส่วนไซโต้ก็ส่งรอยยิ้มเยาะใส่ผมอีก
“จากการคำนวนสุดเทพของผม มีโอกาสที่คุณมิสึกิจะตกหลุมรักอายาโนะโคจิคุงอยู่ที่ 84 % “
“ห..ห๊า? พูดอะไรของนาย”
ผมตกใจกับคำพูดที่เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นของไซโต้จนถึงขั้นผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้และตะโกนออกมา
เท่านั้นล่ะ ทั้งห้องหันมาดูผมเป็นตาเดียวเพราะเสียงตะโกนผม
“…..”
ผมรู้สึกตัวแล้วว่าเสียงดังเกิน เลยรีบนั่งตามปกติ
“หึหึ อายาโนะโคจิคุง ตกใจเวอร์เกิ้นนน”
“เมิงพูดจาเลอะเทอะนี่หว่า คิดว่าคนระดับคุณมิสึกิเนี่ยนะจะชอบกุ”
“คิดสิ มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ซะที่ไหนล่ะ”
“เป็นไปไม่ได้เว้ย กุกับคุณมิสึกิเป็นแค่เพื่อนในเกมส์ออนไลน์ ความสัมพันธ์ไม่มีทางพัฒนาเกินกว่านั้นหรอก”
“ใช่เหรอ? ช่วงหลังกุเห็นคุณมิสึกิเริ่มมองมาที่นายบ่อยขึ้นนะ กุมั่นใจว่าเขาชอบเมิงแน่”
“เออ เรื่องนี้กุมองด้วยตาเปล่าก็รู้แล้วว่าใช่แน่ๆ”
“…เรื่องนั้นมันเป็นไปไม่ได้หรอกเฟ้ย”
คุณมิสึกิ เน็ตไอดอลสุดปัง กำลังตกหลุมรักเนิร์ดติดเกมส์แบบผมเนี่ยนะ ขาดความน่าเชื่อถือสุดๆ
“เออ แล้วถ้าเขาสารภาพขึ้นมา เมิงจะว่าไงวะ”
“แกล้งกุอะดิ หลอกให้กูดีใจเก้อมากกว่า”
“เออ เมิงเชื่อกุดิว่า พวกกุพูดเรื่องจริง”
“ใช่เหรอฟะ”
ผมคิดไซโต้มันอวยเวอร์ไป ก่อนจะหายใจเข้าลึกตั้งสติ
” เอางี้นะ ถ้าเมิงอยากรู้ เมิงลองเรียกชื่อคุณมิสึกิดูสักครั้งสิ”
“สมมติกุเรียกชื่อเขาแล้วเจอเมินพร้อมโดนทุ่มหน้าแหก กุคงต้องหาปี๊บคลุมหัวตลอดชีพเลยนะเฟ้ย”
“เฮ้ไซโต้ คิดว่าอายาโนะโคจิคุงทำแชลเลนจ์เรียกชื่อคุณมิสึกิ โอกาสสำเร็จอยู่ที่เท่าไรวะ”
“จากการคำนวนสุดเมพของผม อยู่ที่ประมาณ70%”
“เป็นอัตราเสี่ยงที่น่ากลัวสำหรับการทำแชลเลนจ์ แต่ก็ยังน้อยกว่าอัตราตกหลุมรักสินะ”
บางทีผมก็อยากรู้ว่าอัตราคำนวนของไซโต้มันไปคิดปัจจัยจากไหนวะ ไม่เข้าใจจริงๆ
“เน่ๆ เธอคืออายาโนะโคจิคุงใช่มั้ย”
“เอ๋?”
ผมได้ยินคนเรียกเลยหันไปหาต้นเสียง พบว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่ใช่เพื่อนร่วมห้องเดียวกัน แต่ดูจากโบที่ติดเสื้อบ่งบอกว่าเธอเรียนชั้นปีเดียวกับผม
“ช่วยมากับชั้นแปบนึงได้มั้ย”
“เฮ้ยๆๆ …อายาโนะโคจิคุงแม่มเป็นโอปป้าในหมู่สาวๆแล้วเว้ย”
“ม..ไม่ใช่นะ อีกอย่าง ชั้นมีแฟนอยู่แล้วนะ”
เด็กสาวฟังคำพูดของเพื่อนผม รีบปฏิเสธเสียงดังลั่นทันที
“งั้นบอกธุระมาได้มั้ยครับ มีเรื่องอะไรเหรอ”
“อย่าเสียงดังนะ คือว่านานะจังเขาวานให้ชั้นเรียกนายไปหาเธอน่ะ”
“คุรุมิซากะเหรอ”
เรียกผมไปนี่มันมีเรื่องอะไรนะ แต่ว่าถ้าเป็นคุณคุรุมิซากะเรียก จะปฏิเสธก็ยากแหละ
“เดี๋ยวผมไปครับ”
“เข้าใจละ”
ผมมองส่งเธอที่ออกจากห้อง ส่วนทาจิบานะกับไซโต้สีหน้าตกใจสุดๆ
“ไม่จริงใช่มั้ย ต่อจากมิสึกิมาเป็นนานะจัง เมิงนี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ”
“จากการคำนวนอันสุดเทพของผม อัตราที่ตอนนี้อายาโนะโคจิคุงเป็นโอปป้าในหมู่สาวๆตอนนี้คือ 100%”
….สองคนนี้มันพูดอะไรของมัน
ผมรู้สึกได้ถึงสายตาทิ่มแทงจากด้านหลังขณะเดินออกจากห้องตามผู้หญิงคนนั้นไป
******
ผู้หญิงคนนั้นบอกว่า จะพาผมมาเจอคุรุมิซากะที่กำลังยืนรออยู่หน้าทางเดินดาดฟ้า ที่นั่นเป็นสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปมา ผมกับเธอเดินไปด้วยกันพลางสนทนาไปด้วย
“เผื่อว่าเราสองคนยังไม่รู้จักชื่อ ผมขอแนะนำตัวเองก่อนว่า…”
“อายาโนะโคจิ คาสึโตะ ชั้นรู้จักเธอดี ชั้นชื่อโคโตเนะ จะเรียกชั้นแบบง่ายๆสะดวกปากว่าท่านโคโตเนะก็ได้นะ”
“โห ใช้คำว่าท่านนำหน้าเลยรึ สะดวกปากตรงไหนเนี่ย ..แล้วก็..จู่ๆให้เรียกชื่อเธอเลยมันเขิน เธอบอกนามสกุลหน่อยได้มั้ย”
“ก่อนที่จะถามชื่อคนอื่น ควรบอกชื่อตัวเองก่อนมั้ย”
“อ๊ะจริงด้วย ชั้นชื่ออายาโนะโคจิ คาสึโตะ….. เฮ้ย เธอบอกเองว่ารู้จักชั้นอยู่แล้วไม่ใช่รึ ตะกี้เธอยังบอกชื่อนามสกุลชั้นถูกต้องด้วย”
งานเข้าอีกละสินะ เซ็นเซอร์ตรวจจับคนเพี้ยนในหัวผมแจ้งเตือนปี๊บๆๆๆเลยว่ายัยนี่ไม่ธรรมดาแน่
“ชั้นรู้เรื่องต่างๆของเธอดี เธอชื่ออายาโนะโคจิ คาสึโตะ อายุ17 เป็นเน็ตเกมเมอร์ มีเพื่อนสองคน เลือดกรุ๊ปเอ ถนัดขวา และเป็นเพศผู้”
“อย่าใช้คำว่าเพศผู้ได้มั้ย ฟังดูขัดหูพิลึก ว่าแต่ทำไมเธอถึงรู้เรื่องชั้นดีจัง”
“เพราะชั้นเป็นเพื่อนกับไอดอลสุดฮอตอย่างคุรุมิซากะ นานะน่ะสิ”
“คำตอบมันคนละเรื่องเลยนี่หว่า ขอแบบเป็นเหตุเป็นผลได้มั้ย”
โคโตเนะไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่จ้องผมด้วยแววตาแปลกๆ ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนโดนปั่นหัวยังไงชอบกล
ผู้หญิงที่ชื่อโคโตเนะ เป็นใครกันนะ
มองจากภายนอกก็ดูเป็นคนปกตินี่แหละแต่คุยจริงมันทะแม่งๆ
โคโตเนะเดินขยับมาอยู่ข้างๆผมกล่าว
“ม่า หน้าที่ชั้นมีแค่พานายมาที่นี่ เอาง่ายๆคิดซะว่าชั้นคือตัวละครลับละกัน ถ้าตอบง่ายๆมันก็เผยไต๋ไม่สนุกสิ”
“ห๊ะ”
“สรุปก็คือ ที่ชั้นจะบอกนายมีเพียงหนึ่งเดียว นานะน่ะดูด้วยตาเปล่าเห็นหน้าอกใหญ่ขนาดนั้น ถ้าถอดเสื้อได้ล่ะก็..หน้าอกเธอใหญ่กว่าที่ตาเห็นตอนนี้อีก ก้นเธอก็สวยโค้งเว้าได้รูปราวกับงานภาพศิลปะชิ้นงาม บอกได้เลยว่าสูสีกับไม่แพ้มิสึกิ ถึงจะเอาไปเทียบกับนานะแล้วเธอจะเล็กกว่านิดหนึ่งก็เหอะ แต่คู่นี้ถือว่าสูสีพอกันเรื่องอึ๋มซ่อนรูป
ไม่รวมว่าเท้าของเธอก็มีเสน่และสวยในแบบของทั้งคู่ไม่ว่าจะเป็นนานะหรือมิสึกิ ส่วนเรื่องตัวเลขสัดส่วนเธอ……เรื่องนี้คือความลับสุดยอด เป็นเรื่องที่ยังไม่เคยเผยแพร่สาธารณะที่ไหนมาก่อน ถ้าอยากรู้เรื่องนี้ ส่งสิ่งที่เรียกว่ามันนี่มาแล้วจะบอกให้ฟัง”
“ส่งบ้านเธอดิ ไอ้ที่พูดตะกี้ชั้นเอาไปแจ้งตำรวจจะดีกว่ามั้ย คุณโคโตเนะครับ ทำไมยิ่งฟังคุณพูดยิ่งเหมือนฟังโจรหื่นมากกว่าเพื่อนนะ”
ผมตะลึงกับสิ่งที่คุณโคโตเนะพูดตะกี้มาก สรุปว่าเซ็นเซอร์เพี้ยนกุแม่นมาก ตัวละครลับไม่ว่า พฤติกรรมยิ่งน่าสงสัยกว่าเดิมอีก
“ว่าไปอายาโนะโคจิคุงรู้เหตุผลมั้ยว่าทำไมถึงถูกเรียกขึ้นมาที่นี่”
“เรื่องคุณมิสึกิใช่มั้ย”
“อืม ตอนนี้มีข่าวลือแพร่กระจายว่ามิสึกิรินกะที่ถูกกล่าวว่าเกลียดผู้ชาย ไปทานข้าวด้วยกันสองต่อสองกับเน็ตเกมเมอร์อายาโนะโคจิคุง”
“งั้นเหรอ งั้นผมจะระมัดระวังเรื่องรักษาระยะห่างนะครับ”
“แล้วเธอใช้วิธีไหนถึงได้ใกล้ชิดกับมิสึกิ รินล่ะล่ะ แบล้คเมล? ข่มขู่? แอบกุมจุดอ่อนความลับอะไรเธอไว้รึเปล่า”
“ตูไม่ใช่โจรนะเฟ้ย ไม่มีและไม่ได้ทำเรื่องพรรค์นั้นแน่นอน แต่ว่า…ก็ผ่านอะไรมาด้วยกันหลายอย่างครับ”
“ผ่านอะไรหลายอย่างนี่มันความหมายลึกซึ้งมากนะ ข้อมูลเรื่องนี้อยากโก่งราคาขายชั้นเท่าไรว่ามาเลย”
“ไม่ขายเฟ้ย ดูถูกชั้นเกินไปแล้วนะเธอ”
“ให้สักหนึ่งแสนพอมั้ย”
“ห๊ะ?”
พูดจำนวนเงินราคาแพงหน้าตาเฉยสุดๆ
“ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ชั้นจะเก็บเป็นความลับไม่เผยแพร่ให้ใครทราบแน่นอน ชั้นสนใจอยากรู้ข้อมูลนี้จริงๆ”
“ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ …แต่ว่าปกตินักเรียนธรรมดาที่ไหนเขาควักเงินแสนซื้อของพรรค์นี้ล่ะ”
“หือ? แล้วใครบอกว่าโคโตเนะจังคนนี้เป็นนักเรียนธรรมดาล่ะ”
“เอ๋…อย่าบอกนะว่า…”
“อืม ชั้นคือนักเรียนมัธยมปลายธรรมดานี่แหละ”
“ตอบแบบไม่ช่วยอะไร ก็ไม่ต้องพูดก็ได้นะครับ ขอเห้อออ”
ตั้งแต่เกิดมาผมเพิ่งจะคุยกับผู้หญิงพฤติกรรมเพี้ยนขนาดนี้ก็ครั้งแรก ..แต่ถามว่ารู้สึกแย่มั้ย ก็ไม่นะ
อย่างเคสคุณมิสึกิ อันนั้นยังเป็นการทานข้าวไปคุยไป แต่ครั้งนี้ที่คุยกับโคโตเนะคือเดินไปพร้อมคุยกันไปด้วย เพราะหากเป็นเมื่อก่อน แค่จะเอ่ยปากทักทายผู้หญิงสักคนยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ
“อายาโนะโคจิคุง ใช้ไอ้นี่สิ”
“หือ?”
โคโตเนะผุดรอยยิ้ม เธอส่งผ้าเช็ดหน้าสีชมพูมาให้ผม
“ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้อบแห้งมาแล้วราวกับเอามันไปตากที่ทะเลทรายซาฮาร่า อยากให้ใช้ผ้าผืนนี้ซับน้ำตาอันสวยงามของเธอ”
ผมเพิ่งรู้ตัวหลังฟังโคโตเนะพูดจบว่า ตอนนี้ผมน้ำตาคลอเบ้าทั้งสองข้าง
“คุณโคโตเนะ…ไม่สิ ท่านโคโตเนะครับ”
ผมรับผ้าเช็ดหน้าเธอด้วยความรู้สึกขอบคุณก่อนซับน้ำตา
จะว่าไปผมก็เพิ่งรู้สึกตัวอีกเรื่องหนึ่ง
ไอ้การถูกผู้หญิงใจดีด้วยขนาดนี้ นี่ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตเช่นกัน พอคิดแล้วน้ำตามันก็ไหลไม่หยุดเลย
****
จบ CH 2-1
เป็นไงบ้างครับ รายละเอียดตอนใหม่ที่ขยายความเพี้ยนของโคโตเนะ แล้วความแปลกหน่อยๆของตัวพระเอกด้วย
ตอนหน้านี่ ข่าวร้ายเลย ไม่มีอะไรแปลกใหม่แล้วครับ เหมือนฉบับคนเหงาและง่วงทุกอันเลย 55 ไว้มีอันไหนใหม่้ๆจะแจ้งให้ทราบนะครับ
ารอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon