Mystical Journey - ตอนที่ 184 วิปริตในตำนาน...(2)
ตอนที่ 184 วิปริตในตำนาน…(2)
ขณะที่พลังเทวรูปทองคำบรรลุขั้นสุดยอด ในเวลาเดียวกันนั้น เคล็ดวิชามหาคชประยุกต์ก็หลอมรวมวิชาอื่นๆ ที่เสริมประสิทธิภาพความแข็งแกร่งให้กับพลังปราณแข็ง แล้วก็แปรเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง และถูกใส่เข้าไปในแถบทักษะของพลังเทวรูปทองคำ จากนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ลึกลับอีกครั้ง
[พลังเทวรูปทองคำ: ขั้นที่ห้า สมบูรณ์ ส่วนหนึ่งของเคล็ดวิชามหาคชประยุกต์ถูกครอบคลุม ส่วนหนึ่งถูกถ่ายโอนไปเสริมประสิทธิภาพความแข็งแกร่ง ส่วนหนึ่งที่มีประสิทธิภาพขัดแย้งถูกขจัดออก] ความหมายของสัญลักษณ์ถูกส่งตรงเข้าสู่สมองของกาเรน
เวลานี้เขารู้สึกตื่นเต้น ถ้าการถ่ายโอนและปรับปรุงในครั้งนี้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ เท่ากับความสามารถในการเปลี่ยนแปลงก็ลดลงด้วย ส่วนพลังเทวรูปทองคำจะเทียบได้กับเคล็ดวิชามหาคชประยุกต์หรือไม่นั้น ต้องดูการทดสอบขั้นสุดท้ายอีกที
แถบทักษะของพลังเทวรูปทองคำค่อยๆ คงที่ หลังจากที่ขัดเจนแล้วก็ไม่เปลี่ยนแปลงอีก
[พลังเทวรูปทองคำ: ขั้นที่ห้า สมบูรณ์ (มีชื่อเสียงในด้านพละกำลัง การฟื้นฟู และการป้องกัน ประสิทธิภาพการป้องกันระดับหนึ่ง (แปลงมาจากพื้นฐานระดับสูงสุดของการฝึกพลังปราณเพิ่มความแข็งแกร่งก่อนหน้านี้)]
พลังกัมปนสะท้อนกลับหายไปแล้ว แต่พลังปราณแข็งที่แข็งแกร่งจะสร้างแรงปฏิกิริยาสะท้อนกลับมหาศาลเช่นกัน สิ่งนี้จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพียงแต่ ไม่รู้ว่าประสิทธิภาพสูงสุดของพลังปราณแข็งในตอนที่โจมตีจะยังคงอยู่หรือไม่
กาเรนลองรวบรวมเลือดลมให้เปลี่ยนรูปลักษณ์ ยังดีที่ประสิทธิภาพระดับสูงสุดยังอยู่ เพียงแต่ทำอย่างไร ขั้นที่สองก็ไม่ขึ้น เหลือเพียงแค่ขั้นที่หนึ่งเท่านั้น
เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ยังคงมองไปที่แถบทักษะ
ยังมีค่าศักยภาพอีกสิบแต้ม แต่ชื่อของพลังเทวรูปทองคำยังไม่เปลี่ยนเป็นสีเท่า เท่ากับว่ายังพอจะสามารถพัฒนาขึ้นไปได้อีก
เขาเพิ่มค่าศักยภาพเข้าไปอีกห้าแต้มโดยไม่ลังเล
อวัยวะภายในร่างกายดูเหมือนจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแปลกประหลาด แต่ก็สบาย
กาเรนไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ สมาธิทั้งหมดของเขาเพ่งไปที่เทวรูปทองคำที่อยู่ในระดับสมบูรณ์แล้ว
ศิลปยุทธ์ลับระดับสองที่อยู่ในระดับสูงสุดแล้ววิชานี้ กลับมีการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดหลังจากที่เพิ่มคะแนนศักยภาพเข้าไปห้าแต้ม
สัญลักษณ์ประหลาดปรากฏขึ้นด้านหลังพลังเทวรูปทองคำ
กาเรนเข้าใจความหมายได้อย่างรวดเร็ว [อนุมานอย่างคร่าวๆ พลังเทวรูปทองคำได้บรรลุประสิทธิภาพขั้นสูงสุดในทางทฤษฎีแล้ว พลังได้รับการพัฒนาแบบก้าวกระโดด ตามข้อมูลอ้างอิง จะมีการเปลี่ยนชื่อใหม่]
ชื่อของพลังเทวรูปทองคำหายไปอย่างช้าๆ และชื่อใหม่ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
พลังรูปเทวะ!
กาเรนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นี่เป็นจุดสุดยอดที่มีอยู่ในจินตนาการของผู้สร้างเคล็ดวิชาพลังเทวรูปทองคำเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าพลังรูปเทวะจะมีประสิทธิผลอย่างไร มีเพียงกาเรนที่สัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้นที่รู้ ทั่วทั้งร่างกายของกาเรนในขณะนี้เต็มไปด้วยพลังงานที่บอกไม่ถูก
พลังรูปเทวะดึงเอาแนวคิดที่เทพเจ้านั้นคือเบื้องบน อยู่เหนือสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดกาล ดังนั้น รูปเทวะจะไม่เปลี่ยนแปลง เป็นนิรันดร์ และไม่สามารถบาดเจ็บได้ นี่คือสุดยอดทางทฤษฎีของพลังรูปเทวะ จะต้องมีระดับจิตวิญญาณที่สูงมากจึงจะบรรลุได้
ทันทีที่บรรลุพลังรูปเทวะ เทคนิคการต่อสู้ที่เข้าคู่กันจำนวนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลผ่านสมองอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ร่างกายเองก็ปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อจดจำเทคนิคการต่อสู้เหล่านี้ ทักษะการต่อสู้ของเคล็ดวิชาลับมหาคชของระดับนักสู้ระดับสูงก็ค่อยๆ ลดลงจนกลายเป็นทักษะทั่วไป และถูกแทนที่เทคนิคการต่อสู้ที่ได้มาหลังจากพลังเทวรูปทองคำเปลี่ยนเป็นรูปเทวะ
พู่ว!!
ทันทีที่ยกมือ ก็เกิดพายุหมุนขนาดใหญ่ขึ้น ใบไม้และกลีบดอกไม้บนพื้นโดยรอบถูกพัดกระจายออกไปทุกทิศทุกทางพร้อมๆ กัน
บนหลังมือของเขามีชั้นสีทองขาวจางๆ เคลือบอยู่ราวกับไม่ใช่มือของมนุษย์
เมื่อกาเรนกระแทกมือเข้าหากัน ก็เกิดเสียงกระทบที่ใสกังวาน
‘พลังรูปเทวะไม่เหมือนกับเคล็ดวิชาลับมหาคชตรงที่แข็งกว่ามากและยืดหยุ่นน้อยกว่า’ กาเรนรู้สึกว่ากล้ามเนื้อและผิวหนังทั่วร่างกายของเขากลายเป็นของแข็งเหมือนกับโลหะ แต่ที่น่าแปลกก็คือเขายังสามารถงอและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
ในตอนกลางคืน ลมยามค่ำคืนพัดโชยมากระทบใส่ร่างของเขา แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ที่มุมหนึ่งของคฤหาสน์ โคมระย้าที่แขวนอยู่สั่นไหวอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เปล่งแสงสลัวๆ อย่างเงียบๆ
ทั่วทั้งลานประลองดูเหมือนจะมืดและสว่างไม่แน่นอน
ตู้ม!!
จู่ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังมาจากความมืดในป่าระยะไกลๆ เสียงดังกึกก้องเหมือนฟ้าร้องจากที่ไกลจนสั่นสะเทือนไปทั้งคฤหาสน์
กาเรนขมวดคิ้วและมองไปตามทิศทางของเสียง ดูเหมือนเขาจะได้ยินเสียงปืนเบาๆ
“มาร์ค!”
ในไม่ช้า คนรับใช้ในชุดขาวหลายคนก็วิ่งออกมาจากอาคารหลักของคฤหาสน์ โดยมีชายวัยกลางคนไว้หนวดวิ่งนำ
“หัวหน้าสำนัก ใกล้ๆ นี้มีกองทหารกำลังต่อสู้กับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายอยู่ใกล้ๆ คนของเราได้ตรวจสอบแล้ว ”
กาเรนชำเลืองมองที่เขา
“วินแฮตตันกลับมาแล้วหรือยัง”
“ยังอยู่ที่เมืองบันไดเสียงครับ เรื่องของสมาคมสตรีเฟลิเซียค่อนข้างซับซ้อน ยังไม่ได้รับการจัดการให้แล้วเสร็จ คราวก่อนเขาขอกำลังคนไปเพิ่มอีกสี่สิบคน” มาร์คตอบด้วยความนอบน้อม
“เรื่องเล็กๆ แบบนี้ยังจัดการไม่ได้ ช่างเถอะ คุณส่งคนไปจำนวนหนึ่งออกไปสอบถาม ภูเขาใกล้ๆ พวกนี้เป็นทรัพย์สินของเรา ใครเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่เชื่อฟัง ก็จัดการกวาดล้างให้หมด”
เมื่อนิ้วทั้งห้าของกาเรนขยับ ก็เกิดเสียงเสียดสีของโลหะ
หลังจากที่มาร์คค่อยๆ ถอยกลับไปได้ไม่นาน จู่ๆ ก็มีเงาร่างสีดำทะมึนกระโดดขึ้นไปบนกำแพงที่ล้อมรอบลานประลอง ก่อนจะร่อนลงบนพื้นหินสีขาวอย่างแผ่วเบา
เมื่อเห็นกาเรนเลิกคิ้วขึ้นและกำลังจะเคลื่อนไหว เงาร่างสีดำก็ยกมือขึ้นและส่งเสียงทันที
“ผมเอง กาเรน!”
ทันทีที่เงาดำเดินมาใต้แสงไฟ รูปลักษณ์ที่คุ้นเคยของอันเดอร์เลชท์ก็ปรากฏขึ้น
เงาดำอีกเงาหนึ่งก็เดินออกมาจากความมืดเช่นกัน เป็นชายรูปงามในชุดสูทสีดำ มีหนวดเคราสีดำเล็กๆ ที่คาง รอยยิ้มที่สงบเสงี่ยมบนใบหน้า เหมือนกับสุภาพบุรุษชาวอังกฤษที่สง่างามที่สุด
“ยินดีที่ได้รู้จัก คุณช้างเทวดา กาเรน”
แบรนด์ที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน ช้างเทวดาไม้พื้น…
แบรนด์ที่มีชื่อเสียง ช้างเทวดาไม้พื้น…
ช้างเทวดาไม้พื้น…
ไม้พื้น…
พื้น…
เหมือนมีตัวอัลปาก้านับหมื่นวิ่งผ่านอยู่ในสมอง ซึ่งส่งเสียงสะท้อนก้องไปมาไม่หยุด
กาเรนหายใจเข้าลึกๆ ระงับความอยากที่จะอัดใครสักคน สีหน้าของเขาซึมกระทือ “ผมจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองมีฉายานี้ด้วย ใครนะที่ตั้งฉายาโง่ๆ นี้ขึ้นมา”
“คุณไม่รู้เหรอ นี่เป็นฉายาที่สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้สากลมอบให้คุณ โดยทั่วไปฉายาของนักสู้จะขึ้นอยู่กับวิชามวยที่พวกเขาถนัด ช้างเทวดา ช้างเทวดา เรียบง่ายและยิ่งใหญ่มากใช่ไหมล่ะ” สุภาพบุรุษถามด้วยความแคลงใจ
ใบหน้าของกาเรนกระตุกขึ้นมาสองสามครั้ง เขาหายใจพยายามสงบสติอารมณ์ จากนั้นก็ยักไหล่แล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“ผมแค่นึกถึงเรื่องตลกที่เคยเจอ ผมยังชอบให้คนอื่นเรียกผมว่าหัวหน้าสำนักเมฆขาว คุณคือ?”
ชายหนุ่มฉีกยิ้มและมองอันเดอร์เลชท์ด้วยนัยน์ตาที่ลึกซึ้ง จนอันเดอร์เลชท์รู้สึกสั่นไปทั้งตัวและฝืนยิ้มออกมา จากนั้นก็ขยับขึ้นมาข้างหน้าพลางพูดแนะนำ
“ผู้นี้คือ สตีเว่น ราล์ฟ ราชาปีศาจแห่งความฝัน”
กาเรนไม่เคยเห็นท่าทางแบบนี้ของอันเดอร์เลชท์มาก่อน แต่เมื่อเห็นตำแหน่งที่คนทั้งสองยืน ก็พอจะเดาเรื่องเหลวไหลไร้สาระได้ แต่ยังไม่ทันจะได้ตอบสนอง เขากลับเห็นราล์ฟมองอันเดอร์เลชท์อย่างเศร้าสร้อย
“เลชชี่ คุณยังไม่ยอมรับรักผมอีกเหรอ ทั้งๆ ที่เราเปลือยเปล่าให้กันและกันแล้ว
“…”
“…”
ลมหนาวพัดขึ้นมาจากพื้น ทันใดนั้น คนทั้งสามก็ตกอยู่ในความเงียบ
กาเรนรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
“ทุก…ทุกท่าน เชิญลงไปพักผ่อนก่อนเถอะ” เขาเค้นคำพูดออกมาประโยคหนึ่งแล้วผายมือทำท่าเชื้อเชิญ “มาร์ค!”
มาร์ครีบเดินออกมาจากอาคาร แล้วโค้งคำนับ
“พาแขกผู้มีเกียรติทั้งสองท่านไปที่ห้องรับรอง”
“ครับ หัวหน้า”
อันเดอร์เลชท์ฝืนยิ้มและขยับออกห่างจากราล์ฟอย่างเงียบๆ
“ราล์ฟ คุณ…คุณไปพักผ่อนก่อนเถอะ ผมกับกาเรนจะคุยกันอีกสักเดี๋ยว”
ราล์ฟชำเลืองมองเขาอย่างไม่พอใจ จากนั้นก็พินิจมองกาเรนอย่างชื่นชม แล้วจึงพยักหน้าและเดินตามมาร์คไป
เหลือแต่กาเรนและอันเดอร์เลชท์อยู่ที่ลานประลอง
จนกระทั่งเสียงฝีเท้าลับหายไป ทั้งสองก็ยืนประจันหน้ากัน แต่ไม่มีใครพูดอะไรก่อน
“ระวังราล์ฟด้วย” อันเดอร์เลชท์แค่นรอยยิ้มที่ซับซ้อนออกมาอย่างขมขื่น
“คุณกับเขา สรุปแล้วเรื่องราวเป็นยังไง” กาเรนนั่งไขว่ห้าง ความรู้สึกขนลุกซู่บนร่างกายยังคงอยู่
อันเดอร์เลชท์นั่งลงช้าๆ สีหน้ายิ่งขมขื่นมากขึ้น
“เรื่องนี้ ต้องเริ่มพูดตั้งแต่เมื่อก่อนตอนที่ผมออกไปฝึกฝนนอกสำนัก…”
หลังจากที่อันเดอร์เลชท์เปิดอกเล่าออกมา กาเรนก็ค่อยๆ เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ในขณะเดียวก็ก็เริ่มรู้จักสตีเว่น ราล์ฟ ราชาปีศาจแห่งความฝันมากขึ้นด้วย
ราล์ฟเป็นเพียงนามแฝงสำหรับหนึ่งในตัวตนของเขา ราชาปีศาจแห่งความฝันนั้นมีตัวตนมากมายนับไม่ถ้วน
ราชาปีศาจแห่งความฝันคนพันหน้าได้สะกดจิตตัวเองให้ปรับโครงสร้างร่างกายและเกิดภาพลวงตาทับซ้อน เขาสามารถเปลี่ยนใบหน้าและรูปร่างให้เป็นผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก หรือคนแก่ก็ได้
เขาเคยมีความรักชั่วข้ามคืนกับอันเดอร์เลชท์ตอนที่เขาแปลงเป็นผู้หญิง ต่อมาก็ใช้ร่างชายหนุ่มมาเป็นเพื่อนกับอันเดอร์เลชท์อีก เรื่องราวระหว่างนั้นเต็มไปด้วยคาวเลือดและน้ำตานับไม่ถ้วน อีกทั้งยังได้ก้าวข้ามพรมแดนของคำว่าเพศไปโดยสิ้นเชิง
กาเรนที่คิดว่าตัวเองผ่านอะไรมามากแล้วก็ยังรู้สึกขนลุกซู่เมื่อได้ฟัง
“ราล์ฟจะเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาไปเป็นพักๆ เขาสามารถปรับเปลี่ยนร่างกายได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นต่อมไร้ท่อหรือกระดูกและกล้ามเนื้อ เจ้าหมอนี่เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้โบราณจากหลายประเทศ โดยเฉพาะศิลปะป้องกันตัวจำพวกยิวยิตสู ถือเป็นยอดปรมาจารย์เลยแหละ” อันเดอร์เลชท์พูดอย่างเหนื่อยหน่าย “หากว่ากันด้วยเรื่องศิลปะการต่อสู้เพียงอย่างเดียว เขากับฉันก็พอสูสีกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวิธีการอื่นๆ จำพวกสะกดจิตอีก”
ท้ายที่สุด เขาก็พูดเสริมอีก
“สิ่งที่คุณควรระวังก็คือ ทุกครั้งที่ราชาปีศาจแห่งความฝันเปลี่ยนตัวตน แม้แต่บุคลิกและอารมณ์ของเขาก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย ดังนั้นอย่าประมาทเขาไม่ว่าเวลาไหนก็ตาม”
กาเรนพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร
“ราชาปีศาจแห่งความฝัน…สมคำร่ำลือ…”
เมื่ออันเดอร์เลชท์มองไปที่กาเรน ใบหน้าของเขาก็อดจะกระตุกไม่ได้
“คุณต้องระวังหน่อย…เจ้าหมอนั่นคงหมายตาคุณเอาไว้ ถ้าเขาสนใจใครขึ้นมา อีกไม่กี่วัน เขาก็จะเปลี่ยนร่างเป็นคนคนนั้น…”
บนลานประลอง ลมยามเย็นพัดโชยมา กาเรนทั้งสองคนต่างก็ยืนเอามือไพล่หลังและแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
“คุณเป็นใคร!”
“ผมคือกาเรน!”
“ผมต่างหากคือกาเรน!”
“กุ๊ยอย่างนายเนี่ยนะ! ใครอนุญาตให้ปลอมตัวเป็นฉัน!”
“ฮึ! ถึงขนาดกล้าปลอมตัวเป็นฉัน! แกนี่มันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ”
“เคล็ดวิชาลับมหาคช!!”
“หมื่นกุญชรทวนกระแส!!”
ทันใดนั้น อันเดอร์เลชท์ก็ตัวสั่นแล้วรีบตัดบทภาพในห้วงความคิด จากภาพประทับของเขาที่มีต่อกาเรน มีความเป็นไปได้ไม่น้อยเลยที่จะเกิดฉากในสมองนี้ขึ้น…
กาเรนมีสีหน้าเหม่อลอย เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดถึงเรื่องไม่ดีอยู่
“งั้นเมื่อก่อน เขาแก้ไขยังไงกับสถานการณ์นี้”
“เมื่อก่อน เขาทำให้เจ้าของร่างจริงหมดสติไป แล้วก็ปลอมตัวเป็นคนคนนั้นอยู่ระยะหนึ่ง รอจนเขาเล่นเบื่อแล้วก็ปลุกให้อีกฝ่ายฟื้นขึ้นมา สำหรับคุณแล้วคงจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ต้องดูว่าคุณจะจัดการยังไง” อันเดอร์เลชท์พูดอย่างเหนื่อยหน่าย “อย่างไรก็ดี ตามปกติเขาจะมีแค่ไม่กี่ตัวตนหลักๆ สตีเว่น ราล์ฟ เป็นหนึ่งในนั้น เขายังมีตำแหน่งสูงสุดในองค์กรภูติทะเลอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งตัวตนที่ค่อนข้างตายตัว อีกสักระยะ คุณจะได้เห็นเอง”
………………………………………………………………