ตอนที่ 170 ขอคำแนะนำ (2
ตอนที่ 170 ขอคำแนะนำ (2)
แต้มศักยภาพหกแต้มสำหรับศิลปยุทธ์ลับ แบ่งให้ระดับต่ำหนึ่งแต้ม ระดับกลางสองแต้ม และระดับสูงห้าแต้ม แยกแต้มออกมาก็สามารถเพิ่มระดับได้ และแน่นอนว่าขึ้นอยู่กับความสามารถในการเรียนรู้ยุทธการจู่โจมทั้งหมดด้วย
ด้วยเหตุนี้กาเรนจึงตัดสินใจเริ่มด้วยกรงเล็บเพลิงเป็นอย่างแรก และมันจะดีกว่าหากสามารถผสานเข้ากับฝ่ามือหยกแดงได้
ตอนนี้เขาเข้าใจถึงการผสานเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของศิลปยุทธ์ลับทั่วไปแล้ว ใช้ศิลปยุทธ์ลับเคล็ดวิชาลับมหาคชเป็นรากฐาน และมันจะให้ผลลัพธ์ในการเสริมความแข็งแกร่งที่แตกต่างกัน
กล่าวคือยุทธจู่โจมใดที่เขาเรียนรู้มาถึงระดับสูงแล้ว ก็ใช้ยุทธจู่โจมนั้นเป็นแกนสำคัญ ส่วนการฝึกฝนที่คล้ายคลึงกันก็ค่อยแซมเข้าไปด้วยกัน ซึ่งบางครั้งอาจจะมีผลกระทบต่อยุทธจู่โจมในระดับเดียวกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่จุดสำคัญอะไร
คุณสมบัติหกแต้มนี้ก็สามารถพัฒนาให้ศิลปยุทธ์ลับสองประเภทไปถึงระดับกลางแล้ว
ยืนอยู่ในห้องหนังสือบนชั้นสอง กาเรนก็ยกสองมือขึ้น และทำตามวิธีการฝึกฝนของกรงเล็บเพลิง กล้ามเนื้อและข้อต่อที่ฝ่ามือของเขามีการขยับและเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง การแผดเผาของกรงเล็บเพลิงเริ่มแผดเผาผิวหนังส่วนมือของกาเรนในทันที
สิบนาทีต่อมา ผิวหนังส่วนมือของเขาทั้งหมดก็ถูกเผาไหม้ กาเรนรู้สึกชาที่ฝ่ามือทั้งสองข้างของเขา กระแสไอร้อนที่ชัดเจนไหลจากสมองลงสู่ฝ่ามือ มือของเขาดูเปลี่ยนไปในทันที
“เข้าสู่ระดับเริ่มต้นแล้ว!”
เขามองไปที่แถบทักษะที่อยู่เบื้องใต้ระยะรัศมีการมองเห็นของเขาอย่างรวดเร็ว
‘ฝ่ามือหยกแดง: เริ่มต้น (ระดับ 1) เสริมพลังความร้อนเผาไหม้ระดับ 1 (พลังเหล็กอัคคี) เสริมสมรรถภาพร่างกายระดับ 1 (พลังเหล็กอัคคี) กรงเล็บเพลิงเสริมความแข็งแกร่งระดับ 1’
สายตาของเขาจับจ้องไปที่กรงเล็บเพลิง และมีสัญลักษณ์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องปรากฏอยู่ข้างหลังมัน
“กรงเล็บเพลิงเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านทานการแผดเผาของมือ และเสริมความแข็งแกร่งในการต้านทานของมือในสภาวะปกติ การเสริมความแข็งแกร่งของมือทั้งสองนี้สามารถสร้างความเสียหายจากความร้อนได้ในระดับหนึ่ง”
กาเรนอ่านคำอธิบายเสียงเบา
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขามองไปที่แต้มศักยภาพหกแต้ม
‘จะเพิ่มให้ฝ่ามือหยกแดงก็ไม่อยากเพิ่มแล้ว ซีลีนนั้นเจ้าเล่ห์เกินไป เธอจะต้องเห็นความเปลี่ยนแปลงของเราอย่างแน่นอน งั้นเพิ่มให้อย่างอื่นก็แล้วกัน’
เขาลังเลอยู่พักหนึ่ง จากนั้นสายตาก็ไปตกอยู่ที่กรงเล็บเพลิง
เขาจับจ้องไปที่ทักษะนี้ แต้มศักยภาพก็เพิ่มขึ้นทันทีสามครั้งติดต่อกัน และแต้มศักยภาพก็หายไปสามแต้มในทันที
จากนั้นกรงเล็บเพลิงก็แยกออกจากการเสริมความแข็งแกร่งและกลายเป็นทักษะศิลปยุทธ์ลับ ซึ่งทำให้ฝ่ามือหยกแดงและศิลปยุทธ์ลับประเภทอื่นๆ ผสานเข้ากับกรงเล็บเพลิงทันที
‘กรงเล็บเพลิง: ระดับที่ 2 (รวม 4 ระดับ) เสริมความแข็งแกร่งฝ่ามือหยกแดงระดับ 1 เสริมความแข็งแกร่งพลังเหล็กอัคคีระดับ 1 (เสริมพลังความร้อนเผาไหม้และสมรรถภาพร่างกาย)’
มีสัญลักษณ์ปรากฏขึ้นด้านหลังทักษะ
“มีศิลปยุทธ์ลับประเภทเดียวกันมากกว่าสามชนิด และวิธีการฝึกฝนขัดแย้งกัน กรงเล็บเพลิงจะสามารถครอบคลุมกับหัตถ์อัคคีและฝ่ามือหยกแดงบางส่วนได้ไหมนะ”
วิธีการฝึกฝนขัดแย้งกันเหรอ
กาเรนผงะเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าอาจมีความขัดแย้งในวิธีการฝึกของศิลปยุทธ์ลับ
“ครอบคลุมไปก่อน”
ในขณะที่เขายืนยันความคิดนี้ในใจ พลังเหล็กอัคคีในแถบทักษะก็หายไปทันที จะเหลือแค่เพียงศิลปยุทธ์ลับกรงเล็บเพลิงขั้นสูงระดับสองเท่านั้นที่ยังคงอยู่
การเสริมความแข็งแกร่งจำนวนมากในแถบทักษะก็ถูกทำให้ง่ายขึ้นในทันที
‘กรงเล็บเพลิง: ระดับที่ 2 (รวม 4 ระดับ) เสริมพลังลุกโชนระดับ 1 (รวม 3 ระดับ มีพื้นฐานมาจากวิธีฝึกฝนศิลปยุทธ์ลับฝ่ามือหยกแดงและพลังเหล็กอัคคี)
“ร่างกายมาถึงขีดจำกัดแล้ว และคุณสมบัติต่างๆ นั้นสามารถใช้เพื่อพัฒนาทักษะเท่านั้น เนื่องจากกรงเล็บเพลิงนั้นครอบคลุมไปมากที่สุด ระดับจึงสูงกว่าเคล็ดวิชาลับมหาคชไปแล้ว” กาเรนเบนความสนใจไปที่กรงเล็บเพลิงโดยตรง
ถัดไปเป็นพลังเทวรูปทองคำ พลังปราณเพิ่มความแข็งแกร่งประเภทนี้ฝึกฝนง่ายเพียงแต่ต้องทาน้ำมันทองคำ ซึ่งเป็นน้ำมันสูตรลับเฉพาะ ซึ่งไม่มีเงื่อนไขดังกล่าวที่นี่
กาเรนก็ทำได้เพียงแค่ท่องจำเอาไว้ก่อน ค่อยกลับไปหาโอกาสแล้วค่อยว่ากัน
จากนั้นเขาก็ท่องจำตำราทั้งหมดของห้องสมุดเท่าที่จะจำได้ แล้วตรวจสอบอีกครั้ง
เขาเข้าไปในคลังศิลปยุทธ์ลับและออกมาในเวลาบ่ายสองโมง
มีสาวกฝึกหัดสองคนรอเขาอยู่นอกประตู
“เจ้าสำนักกาเรน คุณตรวจสอบเสร็จแล้วเหรอครับ”
“เกือบแล้วล่ะ ขอบคุณมาก” กาเรนพยักหน้า “ฝากขอบคุณเจ้าสำนักลูเธอร์แทนฉันด้วย”
เขาไม่ได้พูดอะไรกับคนของสำนักดายทรายแดงมากมายนักก็กลับออกมาโดยตรง ซึ่งก็มีรถสีดำจากโกลเด้นริงจอดรอเขาอยู่ข้างนอก
การมาครั้งนี้ก็ถือได้มาสะสางความคับข้องใจกับคนจากสำนักดาบทรายแดง ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบิน เขายังมองไปทางบิโอซึ่งถูกคลุมด้วยผ้าพันแผลและนอนอยู่บนเตียงไม่สามารถขยับได้
……
ที่สุสานสาธารณะในเขตชานเมืองของเมืองห้วยซาน
ท้องฟ้ามืดครึ้มและมีฝนตก เมฆดำกระจายไปทั่วท้องฟ้า
ในส่วนลึกของสุสาน มีคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่หน้าหลุมฝังศพสีขาว
กาเรนและการ์เซียยืนอยู่หน้าหลุมฝังศพ ข้างหลังคือซินเทียและแจ็ค ยังมีตาอ้วนโบวินี่ พวกเขาทั้งหมดอยู่ในชุดสีดำ ผู้ชายต่างมาในชุดสูทสีดำ ส่วนผู้หญิงเองก็สวมกระโปรงยาวและเสื้อโคทกันฝนสีดำ
กลุ่มคนพวกนี้ถูกล้อมรอบด้วยทหารชุดดำอีกที
มีทหารสองคนคุ้มกันผู้หญิงในชุดดำและยืนอยู่ข้างหลังฝูงชน
“นายมีแผนอะไรต่อ” การ์เซียมองไปที่กาเรน
“ตามกฎของสำนัก ผู้ที่ทรยศและเข่นฆ่าพี่น้องจะต้องถูกตัดสินประหารชีวิต” กาเรนพูดเสียงเรียบ
การ์เซียหันกลับมามองเลสเทียที่ถูกคุมขังอยู่ และร่องรอยของความซับซ้อนฉายวาบในดวงตาของเขา
โทษสูงสุดของสำนักใดๆ ส่วนใหญ่คือการประหารชีวิต และเป็นการลงโทษที่นองเลือดและโหดร้ายอย่างยิ่ง โดยทั่วไปมีไม่บ่อยนักที่จะนำมาใช้ แต่ตอนนี้กาเรนต้องการประหารชีวิตคนจริงๆ…
“การลงโทษของสำนักเมฆขาวเป็นยังไง พี่ก็น่าจะรู้ดี” กาเรนสีหน้าเรียบเฉย
“ถลกหนัง และราดน้ำผึ้งลงไปปล่อยให้มดกัด” การ์เซียพยักหน้าด้วยความลำบากใจ “แต่เลสเทีย…”
“ผมรู้” กาเรนหลับตาและพูดอย่างใจเย็น “ผมรู้ว่าเธอตายไปแล้ว”
เลสเทียยืนอยู่ที่ด้านหลัง โดยการผยุงของคนสองคนจากโกลเด้นริง ยืนตัวแข็งทื่อไม่ขยับเขยื้อน
ตั้งแต่วันที่กาเรนออกจากคุกไป เธอก็ฆ่าตัวตาย ตอนนี้ร่างที่นำออกมาก็เป็นแค่ซากศพ
“ลงมือเถอะ ผมอนุญาติให้เธอฆ่าตัวตายก็ถือว่าคือความปราณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว” กาเรนไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
ส่วนผู้ใต้บังคับบัญชาจากโกลเด้นริงที่มาที่นี่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาญามืออาชีพซึ่งทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้หญิง
ละอองฝนตกกระทบร่างของทุกคน กาเรนยืนนิ่งอยู่หน้าหลุมฝังศพ เขาหยิบแหวนไม้สีดำออกมาและลูบมันเบาๆ อยู่ในมือ ส่วนห่วงทองคำสัญลักษณ์ของโกลเด้นริงนั้น เขาได้สวมมันเอาไว้แล้วที่ติ่งหูด้านซ้าย
เมื่อมองดูเลสเทียที่กำลังถูกมดรุมกัด เขาก็รู้สึกสงบอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ท่ามกลางเสียงหวีดร้อง อีกาดำหลายตัวถูกซากศพดึงดูดให้บินลงมาเกาะบนศพราวกับว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่น และเริ่มจิกกินเนื้อศพ
กาเรนและคนอื่นๆ ต่างไม่สนใจมัน
ตอนนี้เรื่องของศิษย์พี่ใหญ่ได้รับการตัดสินแล้ว ศิษย์พี่รองและผู้อาวุโสเสียชีวิตไปแล้ว เหลือเพียงกาเรนและการ์เซียที่เป็นสาวกของคนรุ่นก่อน ส่วนที่เหลือเป็นผู้มาใหม่ทั้งหมด ถึงเวลาแล้วที่จะต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย หากต้องการจะไปท้าทายปักษาขาวกำปั้นเทวดา…
……
หลังจากกลับมาจากสุสาน กาเรนนั่งอยู่คนเดียวในห้องโถงศิลปะการต่อสู้ของอาคารหลักสำนักเมฆขาว ล้อมรอบไปด้วยความมืด มีเพียงแสงจันทร์จางๆ ที่ส่องเข้ามาจากทางหน้าต่างตกกระทบพื้นและสะท้อนพื้นผิวที่ชำรุดเพียงเล็กน้อย
ไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไร หลังจากการต่อสู้ในคืนนั้น เขาก็หลงรักการนั่งเงียบๆ และพินิจตรึงตรองเพียงลำพัง และเนื่องจากคุณสมบัติด้านสติปัญญาถูกเพิ่มเข้าไปในจุดสูงสุด มันจึงเป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับเขาที่จะคิดถึงหลายสิ่งหลายอย่างไปพร้อมๆ กัน และความเข้าใจในศิลปะการต่อสู้ก็ลึกซึ้งมากขึ้นเช่นกัน
“อาจารย์ อยู่ไหมครับ” เสียงไซมอนดังมาจากบันได ได้ยินเสียงฝีเท้าดูเหมือนว่าจะมีมากกว่าหนึ่งคน
“ขึ้นมาสิ มีธุระอะไร” กาเรนลืมตาขึ้นและพูดอย่างใจเย็น
ไม่นานเสียงฝีเท้าของคนหลายคนก็ดังมาจากบันได ไซมอนเดินขึ้นมาพร้อมกับชายหนุ่มหน้าตาดีที่มีนิสัยอ่อนโยนและสุขุม ส่วนแคริ่งมาพร้อมกับสาวสวยที่ดูอารมณ์เย็น
ไซมอนและแคริ่งต่างก็เป็นอดีตสาวกของกาเรน ทั้งสองไม่มีภาระอะไรให้ต้องพะวงใจ พวกเขาเลือกที่จะไม่ยอมแพ้และอดทนในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของสำนักเมฆขาว ดังนั้นกาเรนจึงเปลี่ยนทั้งสองคนให้เป็นลูกศิษย์ที่แท้จริงโดยตรงเพื่อสอนทักษะให้พวกเขาโดยไม่มีความลับใดๆ
จนถึงตอนนี้ ศิลปะการต่อสู้ของทั้งสองก็มาถึงระดับที่แข็งแกร่งมากเช่นกัน หลังจากที่ฝึกฝนมาเป็นเวลานาน พวกเขาก็เกือบจะมาอยู่ในระดับเดียวกับศิษย์พี่สามการ์เซียแล้ว แม้แต่ในสำนักดาราจักรหรือในสำนักดาบทรายแดงเองก็เทียบเท่าได้กับสาวกส่วนใหญ่ที่อยู่ในระดับต่ำกว่านิกซันได้แล้ว
นี่เป็นผลมาจากการหลั่งไหลของทรัพยากรจำนวนมากตั้งแต่มีการฟื้นฟูของสำนักเมฆขาว และหลังจากที่กาเรนเข้าสู่ระดับนักสู้ เขาก็มีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับร่างกายและการไหลเวียนเลือดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด
นอกจากนี้พวกเขาทั้งสองยังกินยาเสริมกำลังอันมีค่าที่กาเรนกินในขณะที่ฝึกฝนศิลปยุทธ์ลับเช่นกัน และด้วยความฉลาดของพวกเขาก็ก้าวหน้าไปอย่างมาก
“มีเรื่องอะไร” กาเรนชำเลืองมองพวกเขา ไซมอน แคริ่งและคนอื่นๆ แต่งกายด้วยชุดออกกำลังกายรัดรูปสีดำ ข้างหลังพวกเขาคือวัยรุ่นสองคนชายและหญิงซึ่งสวมชุดเครื่องแบบสีขาวพร้อมกับการแสดงความเคารพที่ดูเก้ๆ กังๆ
“อาจารย์ พวกเราพาลูกศิษย์ของเรามาให้อาจารย์ดู” ไซมอนตอบกลับอย่างระมัดระวัง กาเรนที่อยู่ตรงหน้าดูเหมือนกับสัตว์ร้ายในความมืด เขาเพียงนั่งเฉยๆ กลับรู้สึกถึงการถูกกดขี่ขึ้นมาทันที
ผิดกับเมื่อก่อน ถ้าหากว่าเขายังมีนิสัยไม่ยี่หระเหมือนเมื่อก่อน คงจะสามารถเข้าไปพูดคุยได้อย่างไร้กังวล แต่ตอนนี้ตั้งแต่ที่กาเรนเอาชนะสำนักมารวารณที่ซุ่มโจมตีได้ เขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แผ่รังสีกดดันจนคนอื่นหายใจไม่ออกเลยทีเดียว
“นี่คือลูกศิษย์ของพวกเธอเหรอ” กาเรนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินทั้งสองพูดถึงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้สอบถามอย่างละเอียดนัก ในที่สุดครั้งนี้ก็ได้เจอตัวเสียที
“คารวะอาจารย์” วัยรุ่นสองคนชายและหญิงทักทายกาเรนพร้อมกัน พวกเขาอายุเพียงสิบสี่หรือสิบห้าปีเท่านั้นและมีนิสัยที่บ่งบอกความเป็นชนชั้นสูงอีกด้วย
“เยรีนาเป็นหลานสาวของคุณโบวินี่” แคริ่งอธิบาย หญิงสาวรีบก้มศีรษะทำความเคารพ
“ส่วนโยริสเป็นทายาทลำดับที่สองแห่งตระกูลโดวอน” ไซมอนรีบแนะนำ
………………………………………………………………
Chapters
Comments
- ตอนที่ 184 วิปริตในตำนาน...(2) ธันวาคม 17, 2023
- ตอนที่ 183 วิปริตในตำนาน...(1) ธันวาคม 17, 2023
- ตอนที่ 182 ความลึกลับและข้อเสนอ (2) ธันวาคม 16, 2023
- ตอนที่ 181 ความลับและข้อเสนอ (1) ธันวาคม 16, 2023
- ตอนที่ 180 เข้าใกล้ (2) ธันวาคม 15, 2023
- ตอนที่ 179 เข้าใกล้ (1) ธันวาคม 15, 2023
- ตอนที่ 178 สุดยอดแห่งยุค (4) ธันวาคม 14, 2023
- ตอนที่ 177 สุดยอดแห่งยุค (3) ธันวาคม 14, 2023
- ตอนที่ 176 สุดยอดแห่งยุค (2) ธันวาคม 13, 2023
- ตอนที่ 175 สุดยอดแห่งยุค (1) ธันวาคม 13, 2023
- ตอนที่ 174 เสียดาย (2) ธันวาคม 12, 2023
- ตอนที่ 173 เสียดาย (1) ธันวาคม 12, 2023
- ตอนที่ 172 วันสุกดิบ (2) ธันวาคม 12, 2023
- ตอนที่ 171 วันสุกดิบ (1) ธันวาคม 12, 2023
- ตอนที่ 170 ขอคำแนะนำ (2 ธันวาคม 12, 2023
- ตอนที่ 169 ขอคำแนะนำ (1) ธันวาคม 12, 2023
- ตอนที่ 161-168 ธันวาคม 12, 2023
- ตอนที่ 1-160 ธันวาคม 12, 2023
MANGA DISCUSSION