My House of Horrors คฤหาสน์สยองขวัญของผม - ตอนที่ 693
สี่?
ตอนที่ชายประหลาดในชุดผู้ป่วยชูสี่นิ้วให้เขา หวงหลางก็รู้สึกเหมือนเลือดในร่างของเขาพุ่งเข้าไปในหัวใจ ทำให้มันทำงานหนักเกินไป ความเจ็บปวดแผ่ออกมาจากหน้าอกของเขา และเขาก็รู้สึกหัวเบาหวิวขึ้นมา ถ้าเขาไม่ได้กำลังไลฟ์อยู่ละก็ เขาก็คงโยนโทรศัพท์ทิ้งไป หันหนีไปอีกทาง วิ่งเอาชีวิตรอด
ใจเย็นไว้! แกอยู่ในบ้านผีสิง! นี่ล้วนเป็นนักแสดงทั้งนั้น! ทุกอย่างปกติดี ทุกอย่างเป็นปกติดี! หวงหลางพยายามโน้มน้าวตัวเอง แต่ร่างกายของเขากลับเริ่มหลุดออกจากการควบคุม ขาของเขาสั่นอย่างห้ามไม่ได้
ผู้ชายที่ปกติแล้วพูดเก่งกลับหมดคำจะพูดไป อากาศเย็นเยียบลูบไล้ร่างกายแข็งทื่อของเขา และเขาก็รู้สึกได้ว่าตัวละครทั้งสี่ที่รวมกันอยู่ตรงหน้าเขานั้นช่างโดดเด่นอย่างเหลือเชื่อ
กระทั่งสำหรับคนที่เกิดมารูปร่างไม่ปกติ ก็ยังไม่เติบโตขึ้นมาในสภาพประหลาดอย่างนี้ แขนขาของพวกเขานั้นบิดเบี้ยวด้วยมุมประหลาด กระดูกของพวกเขานั้นไม่ได้เรียงกันในรูปแบบปกติของมนุษย์ บางคนยังถูกควักตาออกไปและเหลือเอาไว้แค่รูดำ ๆ สองรูบนกะโหลกศีรษะของพวกเขา คนอื่น ๆ มีดวงตาที่ไร้ม่านตาที่บางครั้งก็กลิ้งไปรอบ ๆ ในเบ้าตา ผู้ป่วยทั้งสี่นั้นยืนเรียงกันเป็นแถวตรง แสงสลัวสาดลงมาบนร่างพวกเขา และหวงหลางก็เพิ่งตระหนักได้ว่าพวกเขาทั้งสี่ไม่มีเงา!
“อย่าเข้ามาใกล้นะ!” เสียงกรีดร้องเล็ดรอดออกจากริมฝีปากของเขา ในตอนนี้หวงหลางนั้นสูญเสียความเยือกเย็นที่แสดงตอนอยู่ในห้องไปแล้ว ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าเขาไม่ได้สื่อสารอยู่กับหลีจิ่วแต่เป็นนักแสดงที่ในบ้านผีสิง หลังจากเข้าใจจุดนั้นแล้ว อีกคำถามก็ผุดขึ้นมาในวินาทีต่อมา
แล้วหลีจิ่วหายไปไหนกัน?
เขาจำได้ว่าเขาคุยโทรศัพท์กับหลีจิ่วก่อนหน้านี้ ผู้ชายคนนั้นฟังดูต่างไปจากปกติ เหมือนเขากำลังเจอปัญหาร้ายแรง
หลีจิ่วทำงานที่บ้านผีสิงมาหลายปี เขายังเป็นนักออกแบบอุปกรณ์และของตกแต่งในวงการนี้ ทำให้เขาพูดอย่างนั้นได้ มันย่อมมีความหมายเดียวก็คือที่นี่มีผีสิงจริง ๆ!
เหงื่อเย็น ๆ หยดลงมาตามใบหน้าเขา ก่อนที่หวงหลางจะมาที่นี่ เขาค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องผีจากบ้านผีสิงของเฉินเกอมากมาย และในตอนนี้ เรื่องผีทั้งหมดก็ผุดขึ้นในใจเขา โอบล้อมเขาเอาไว้ในความหวาดกลัวไร้ที่สิ้นสุด
ฉันควรจะออกไปจากที่นี่ตั้งแต่ที่มีโอกาส!
ทว่า น่าเสียดายที่มันสายเกินไปแล้ว ตัวละครทั้งสี่เริ่มขยับ ร่างกายบิดเบี้ยวของพวกเขาโซเซไปมาขณะที่สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปช้า ๆ จนกระทั่งพวกเขาทำเสียงไม่พอใจอย่างน่ากลัวและพุ่งเข้าใส่หวงหลางพร้อมเสียงคำรามลั่น!
นี่ไม่ใช่มนุษย์! บ้านผีสิงนี่มีผีสิงจริง ๆ!
หวงหลางอ้าปาก แต่ว่าไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมา ความหวาดกลัวทะลักออกจากดวงตาของเขา และเขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหมดสติจากการขาดออกซิเจน
“ต้าหลาง ทำไมนายถึงวิ่งออกไปเองเล่า? ตั้งแต่แรก นายก็เอาแต่พูดกับตัวเอง นี่มันไม่เหมือนในบทที่พวกเราซ้อมกันมาเลยนะ!”
ประตูห้องพักผู้ป่วยห่างไปไม่กี่เมตรจากหวงหลางถูกผลักเปิดออกในตอนนั้นเอง ตามมาด้วยสิ่งที่หวงหลางต้องการ หลีจิ่วเดินออกมาหลังจากแต่งหน้าให้ดูน่ากลัว
ได้ยินเสียงหลีจิ่ว หัวใจที่เหมือนถูกแช่แข็งของหวงหลางก็ราวกับได้เห็นแสงตะวันอบอุ่น และสมองของเขาก็เริ่มทำงานและควบคุมร่างกายของเขาได้อีกครั้ง เขาหันกลับไปและเห็นหลีจิ่ว เขาสูดลมหายใจเย็นเยือกและกำลังจะกรีดร้องขอความช่วยเหลือตอนที่โทรศัพท์ในมือของเขาสั่นขึ้นมา
เขาก้มหน้าลงไปดูตามนิสัย และหวงหลางก็เห็นชื่อคนโทรเข้ามา– หลีจิ่ว
หลีจิ่วโทรหาฉัน? อย่างนั้นหลีจิ่วที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันคือใครกัน?
เขาแตะปุ่มรับสายด้วยมือสั่น ๆ หวงหลางใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่ยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู
“ต้าหลาง? ฉันติดต่อจินหยวนกับเย็นชาไม่ได้เลย! ตอนนี้ฉันแอบอยู่ใกล้ ๆ กับทางออก นายมาหาฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ! มีบางอย่างผิดปกติมาก ๆ ในบ้านผีสิงนี่!” เสียงของหลีจิ่วดังออกมาจากโทรศัพท์– มันเต็มไปด้วยความกังวลและกระวนกระวาย “ฉันไม่ได้ล้อเล่นกับนายนะ! นายต้องกลับออกมา! เดี๋ยวนี้!”
“ฉันรู้ว่านายไม่ได้ล้อเล่นกับฉัน…” หวงหลางมองโทรศัพท์อย่างโง่งมและจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองหลีจิ่วที่กำลังเดินเข้ามาหาเขา “แต่ปัญหาก็คือ… ตอนนี้มีนายสองคน!”
ความกลัวอันอธิบายไม่ได้คืบคลานเข้ามาในร่างของเขาอย่างพรวดพราด และนี่ก็เกินขีดจำกัดของหวงหลาง เขากรีดร้องแล้วพุ่งตัวเข้าใส่หลีจิ่วที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับการโจมตีครั้งนี้ มีปิศาจอีกสี่ตนอยู่ด้านหลังเขา และตรงหน้าเขามีแค่ตนเดียว ในตอนนี้ สัญชาตญาณของหวงหลางนั้นบอกให้เขาเลือกทางนี้
“นี่นายบ้าไปแล้วเหรอ? ฉันคือหลี…” ก่อนที่เขาจะทันพูดจบ หวงหลางที่สติพังทลายไปแล้วก็มาถึงที่ข้างตัวเขาแล้ว เขาคว้ากระเป๋าสะพายหลังและเหวี่ยงใส่หลีจิ่วอย่างแรง หลีจิ่วนั้นวุ่นวายอยู่กับการแต่งหน้าอยู่ดังนั้นจึงไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เขาถูกกระเป๋าของหวงหลางกระแทกเข้าที่หน้าในสภาพของผู้บริสุทธิ์และไม่รู้เรื่องรู้ราว
“ฉันคือหลีจิ่ว! เชี่ยเอ๊ย! นายทำลายเมคอัพของฉันหมดแล้ว!” หลีจิ่วเอื้อมมือออกไปคว้าหวงหลางเอาไว้ แต่ฝ่ายหลังดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง อย่างไรเสีย ในใจของเขา เขากำลังถูกผีทำร้าย ดังนั้น หวงหลางจึงดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งเพื่อจะหนี พอดิ้นหลุด หวงหลางก็ทิ้งกระเป๋ากับโทรศัพท์ของตัวเองที่ยังไลฟ์อยู่ไป เขากลิ้งเกลือกไปตามทางเดิน กรีดร้องไปตลอดทาง
“หวงหลาง!” หลีจิ่วกุมจมูกที่บาดเจ็บของตัวเอง เสียงของเขาขึ้นจมูกยิ่งกว่าเดิมหลังจากโดนทำร้าย เขาค่อนข้างเป็นห่วงหวงหลางดังนั้นจึงไล่ตามหลังเขาไปอย่างรวดเร็ว ผู้เข้าชมทั้งสองคน คนหนึ่งวิ่งอยู่ข้างหน้าและอีกคนไล่ตามไปด้านหลัง หายลับไปจากทางเดินชั้นใต้ดินที่สาม
พนักงานทั้งสี่คนในชุดผู้ป่วยค่อย ๆ ช้าลง พวกเขามองหน้ากัน และพวกเขาก็รู้สึกถูกกีดกันจากความสนุกนี้
ดวงตาสีขาวเปลี่ยนเป็นปกติ และ ‘ผู้ป่วย’ ที่ตรงกลางก็มีผมสีดำอยู่บนศีรษะของเขา ความโกรธในใจของเขายังไม่ทันหายไปเลย ตอนที่เขาปรากฏตัวขึ้นครั้งแรก ผู้เข้าชมก็ชูสามนิ้วให้เขา หลังจากที่เขารวบรวมพนักงานสามคนได้แล้ว ผู้เข้าชมกลับชูสี่นิ้วแทน
ตอนนี้ที่เขารวบรวมพนักงานได้สี่คน หลังจากทำตามคำขอร้องอย่างไร้เหตุผลของชายคนนั้นแล้ว ผู้ชายคนนั้นกลับจากไปโดยไม่ขอบคุณเขาสักคำ นี่ช่างสิ้นเปลืองเวลาของพนักงานเสียจริง!
นี่มันเกินไปแล้ว! ไม่เคารพกันเลย! เขาจะไม่ให้อภัย!
บาดแผลร้ายแรงน่ากลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าซีด ๆ พนักงานที่กำลังโกรธทั้งสี่คนสลัดการปลอมตัวทิ้งอย่างโมโห และพวกเขาก็เผยสีหน้าแท้จริง ที่มุมปากของพวกเขาฉีกออก และพวกเขาก็คำรามเสียงต่ำ จากนั้นทั้งตึกก็ราวกับจะมีชีวิตขึ้นมา และด้านหลังห้องพักผู้ป่วยที่เปิดเอาไว้ครึ่ง ๆ ก็มีแขนสีเทาหลายข้างเอื้อมออกมาจากในความมืด
…
โซ่ลากไปกับพื้นเกิดเป็นเสียงเย็นเสียดกระดูก เงาที่ถูกดึงให้ยาวขึ้นจากแสงนั้นยืนอยู่หน้าทางเข้าโรงพยาบาลเอกชนเมืองหลี่ว่านคนเดียว
“พวกเขาแยกกันแล้ว?” เฉินเกอที่สวมชุดคุณหมอนักเจาะกะโหลกถือค้อนเอาไว้ในมือข้างหนึ่งและหยุดอยู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาล เขาก้มหน้ามองข้อความที่ถงถงส่งถึงเขา
“มีคนไลฟ์สตรีมอยู่ที่ชั้นใต้ดินชั้นที่สามของโรงพยาบาลครับ!”
“ฉันอนุญาตให้ถ่ายรูป ฉันอนุญาตให้ถ่ายวิดีโอ และตอนนี้พวกนายยังเริ่มไลฟ์สตรีมในบ้านผีสิงของฉันใช่ไหม? นายคิดว่าฉันใจดีถึงขนาดให้อิสระพวกนายขนาดนั้น? พวกนายลืมไปแล้วหรือว่าใครเป็นบอสของที่นี่?” เฉินเกอนั้นเป็นคนดีโดยเนื้อแท้ และมันก็ยากมากที่เขาจะโกรธนอกจากจะมีคนละเมิดขีดจำกัดล่างของเขา
หนามที่บนค้อนลากไปกับพื้น และเฉินเกอที่สวมหน้ากากหนังอยู่ก็เดินไปที่ชั้นใต้ดินที่สามของโรงพยาบาล
“พวกเขาไปไหนแล้ว?” ทางเดินมืด และไม่มีใครอยู่รอบ ๆ แต่ว่าอุณหภูมินั้นต่ำอย่างน่าสงสัย เฉินเกอดึงโทรศัพท์ออกมาคิดจะถามถงถงตอนที่เขามองเห็นกระเป๋าสีดำใบหนึ่งกับโทรศัพท์ถูกทิ้งเอาไว้นอกห้องพักผู้ป่วยที่สี่
“กระเป๋าสีดำ? ฉันจำได้ว่าผู้เข้าชมคนหนึ่งสะพายมันมา เขาน่าจะเข้ามาพร้อมไอ้คนทุเรศนั่น” เฉินเกอไม่ได้ไปเก็บของขึ้นมาในทันที “ถ้ากระเป๋ากับโทรศัพท์ถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่แต่ว่าคนหายไป ก็มีความหมายเดียวว่าพวกเขาทิ้งเอาไว้เพราะความหวาดกลัว ฉันเขียนเอาไว้ในกฎของพนักงานว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องออมมือถ้าเจอกับคนที่ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปหรือว่าบันทึกวิดีโออยู่ในบ้านผีสิง เจ้าของโทรศัพท์คือโฮสต์คนนั้นใช่ไหม? เป็นไปได้ว่าโทรศัพท์ที่ถูกทิ้งเอาไว้นี้จะยังกำลังไลฟ์อยู่?”
หลังจากผ่านภารกิจทดลองมากมายมาแล้ว ความสามารถในการสังเกตของเฉินเกอก็ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ยืนอยู่พ้นจากมุมกล้อง เขาถอดชุดคุณหมอนักเจาะกะโหลกออกแล้วจากนั้นก็เดินไปยืนอยู่ข้าง ๆ กระเป๋าสะพายสีดำ
“ใครมันทิ้งของเอาไม่ไว้สนใจอยู่ตรงนี้เนี่ย? ขอบคุณที่พวกเรามีกล้องวงจรปิดที่สามารถรับรองความปลอดภัยของผู้เข้าชมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์” หลังจากพูดอย่างนั้นแล้ว เฉินเกอก็หันไปหาโทรศัพท์ที่นอนอยู่ข้าง ๆ “โทรศัพท์ใครอีกเนี่ย?”
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและห้องพูดคุยนั้นยังติดขัดอยู่ จากที่หวงหลางหายตัวไป ความนิยมของไลฟ์สตรีมนี้กลับไม่ลดลง และยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย และเขาก็อยู่ห่างจากการขึ้นถึงจุดสูงสุดเพียงไม่กี่ก้าว
“ไลฟ์สตรีม?” เฉินเกอเคยไลฟ์สตรีมมาก่อนเหมือนกัน ตอนที่เขาทำภารกิจที่หอผู้ป่วยสาม เขายังได้รับการสอนกลเม็ดในการไลฟ์เล็ก ๆ น้อย ๆ มา “สวัสดีตอนบ่ายครับทุกคน ผมเฉินเกอ บอสของบ้านผีสิงที่สวนสนุกนิวเซนจูรี่ จิ่วเจียงตะวันตก ทุกคนบอกผมได้ไหมว่าเมื่อกี้นี้เกิดอะไรขึ้น?”
ตอนที่เขาแนะนำบ้านผีสิงของเขาออกสู่สาธารณะ เฉินเกออยากจะใส่ที่อยู่เต็ม ๆ ของบ้านผีสิงลงไปแทบตายเพื่อไม่ให้มีความเข้าใจผิดพลาดอะไร เวบไซต์ยังอืด และหลังจากกดโหลดหน้าใหม่สองสามครั้ง เฉินเกอก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดได้คร่าว ๆ
โฮสต์ที่เป็นเจ้าของไลฟ์สตรีมนี้คือหวงหลาง ชื่อเล่นว่าหลางต้าเกอ เขาอ้างว่าตัวเองเป็นทายาทของนักทำนายชื่อดัง และดูเหมือนว่าเขาจะเจอผีจริง ๆ เข้าระหว่างการไลฟ์ครั้งนี้ จากนั้น เขาก็กลัวมากจนทิ้งโทรศัพท์และหนีไปเอง
ตอนที่เฉินเกอเห็นข้อความมากมายอ้างว่าบ้านผีสิงของเขามีผีสิงจริง ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนถูกเปิดโปงอย่างประหลาด แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็นจำนวนคนดูในไลฟ์นี้ ดวงตาของเขาเปล่งประกายเหมือนมองเห็นสมบัติล้ำค่า
“อันที่จริง พวกคุณทุกคนถูกหวงหลางหลอกเอาแล้วละ จะมีผีจริง ๆ ได้ยังไงในโลกนี้? ผมเชื่อว่าเขาอยู่เบื้องหลังทุกอย่างที่คุณเห็นก่อนหน้านี้” เมื่อเฉินเกอพูดอย่างนั้น เขาก็ถูกแฟนคลับผู้ภักดีของหวงหลางไม่พอใจ
เฉินเกอไม่โกรธ เขาหยิบกระเป๋าของหวงหลางขึ้นมาและไม่ช้าก็พบปัญหา “ก่อนหน้านี้ มีคนบอกว่ามีมรดกตกทอดจากตระกูล จี้หยกที่หวงหลางสวม และยังมีรอยแตกขึ้นมาเมื่อเขาเจอวิญญาณร้าย หยกนั่นมีรอยแตกเก้าเส้นทันทีที่เขาเข้ามาในบ้านผีสิงของผม งั้นดูนี่นะครับ…”
เฉินเกอดึงหยกที่หน้าตาเหมือนกันพวงหนึ่งออกมาจากกระเป๋าสะพาย และหลายอันยังมีรอยแตกอยู่ก่อนแล้ว “นี่เป็นหยกคุณภาพแย่มาก ทั้งพวงนี่ราคาไม่เท่าไหร่เอง”
เฉินเกอแฉออกมาต่อหน้าคนดูตั้งมาก นั่นเป็นความเปิดเผยและชัดเจนของเฉินเกอ
เขาวางหยกพวงนั้นกลับเข้าไปในกระเป๋าและเปิดช่องกระเป๋าอื่น มันเต็มไปด้วยกระดาษยันต์ที่มีพื้นหลังสีแดงตัวอักษรสีดำ บางอันยังมีป้ายราคาติดเอาไว้ “พวกนี้เป็นยันต์ที่บรรพบุรุษของเขาทิ้งเอาไว้ให้ใช่ไหม? อย่างที่คิดเลย มีอยู่ไม่มากนักบนโลกนี้ ดูนี่สิ ราคาแผ่นละห้าสตางค์เอง เขาขายบนเถาเป่าแผ่นละเท่าไหร่นะ?”
เมื่อความจริงถูกแผ่ออกมาต่อหน้าต่อตาทุกคน พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องโต้แย้งอะไรแล้ว เฉินเกอเก็บของของหวงหลางและหันไปหากล้อง “เจอผีจริง ๆ ในบ้านผีสิง? ทั้งหมดนั่นเป็นการแสดงที่หวงหลางกำกับเองทั้งหมด ถ้าพวกคุณอยากจะเห็นผีจริง ๆ และดูไลฟ์เรื่องเหนือธรรมชาติ ผมแนะนำให้คุณกดติดตามผมดีกว่า”
เฉินเกอไม่รู้สึกละอายที่จะใช้โอกาสนี้โฆษณา “แอคเค้าท์ของผมคือ บ้านผีสิงจิ่วเจียงตะวันตก และรูปโปรไฟล์ก็คือทางเข้าบ้านผีสิงของผม เมื่อก่อนผมก็เคยไลฟ์อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ไลฟ์มาสักพักแล้วเพราะว่าช่วงนี้ค่อนข้างยุ่ง ต่อไปถ้ามีโอกาส ผมจะพาทุกคนไปไลฟ์เรื่องเหนือธรรมชาติชองจริง ค้นหาเรื่องผีจริง ๆ ที่แอบซ่อนอยู่ในเงามืดของเมืองนี้!”
เฉินเกอดึงโทรศัพท์ออกมาล็อกอินเข้าไปในแอคเค้าท์สตรีมของตัวเองที่เขาไม่ได้ใช้นานแล้ว และเขาก็โฆษณาตัวเองอย่างหน้าไม่อายในไลฟ์ของหวงหลาง หลังจากเขาเสร็จเรื่องแล้ว จำนวนผู้ติดตามของแอคเค้าท์นี้ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว และอันที่จริง คนดูบางส่วนของหวงหลางก็จำเขาได้
“หลังจากรอบนี้แล้ว จำนวนคนดูสามารถเพิ่มขึ้นอีกสองแสนห้า” อีกบริษัทที่ลงทุนไปกับหวงหลางอย่างมากเปิดพื้นที่ให้เขา และแพลตฟอร์มเองก็ให้การสนับสนุนหวงหลางอยู่ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ดังนั้น เฉินเกอจึงไม่ปล่อยให้โอกาสนี้สูญเปล่าไป
หลังจากเขาโฆษณาแอคเค้าท์ส่วนตัวของตัวเองแล้ว ก็ได้เวลาโฆษณาบ้านผีสิงของเขาบ้าง บางทีอาจจะเพราะแพลตฟอร์มที่เฉินเกอใช้นั้นคนละเจ้ากับของหวงหลาง การโฆษณาอย่างเปิดเผยนี้ก็ทำให้แพลตฟอร์มไม่พอใจ และก็ใช้เวลาไม่นานเลยที่อีกฝ่ายจะแบนห้องไลฟ์ของหวงหลางชั่วคราว
เห็นหน้าจอมืดไปแล้ว เฉินเกอก็รู้สึกเสียใจและว่างเปล่าอยู่บ้าง “อย่างที่รู้กันนั่นแหละ โอกาสเป็นของคนที่เตรียมพร้อม ฉันน่าจะพูดให้เร็วกว่านี้ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”
ปิดโทรศัพท์ของหวงหลางแล้วเฉินเกอก็เข้าไปดูจำนวนผู้ติดตามของเขาซึ่งยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และเขาก็ยิ้มออกมา “น้องชายคนนี้มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ฉันเลยนะ ฉันควรจะต้องขอบคุณเขาด้วยตัวเอง”
เก็บกระเป๋าสะพายกับโทรศัพท์ไปไว้ทางหนึ่ง แล้วเฉินเกอก็สวมชุดคุณหมอนักเจาะกะโหลก หน้ากากหนังมนุษย์ และยกค้อนหนัก ๆ ขึ้น
เพื่อขอบคุณหวงหลาง เฉินเกอตัดสินใจจะตามเขาไปด้วยเอง เพื่อแสดงความซาบซึ้งด้วยตัวของเขาเอง