My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 522 ชิ้นส่วนใหม่
โจวเหวินเหลียงพยักหน้าก่อนที่จะพูดตอบกลับมา“เจ้าพูดถูกแล้วล่ะ จากการพูดคุยกันเมื่อครู่นี้ ข้าก็ได้รู้ว่ามหาวายร้ายจีไม่ได้ใจร้อนอย่างที่ทุกคนลือกัน นอกจากนี้เขายังเป็นคนค่อนข้างมีเหตุผลอีกด้วย”
“ตอนนี้พวกเราจะทำอะไรต่อ”หวังเจียนรางถามออกมา
“ไม่จำเป็นจะต้องทำอะไรพวกเราก็แค่อยู่ที่นี่ต่อ เมื่อหลินซินตายจากไป มหาวายร้ายจีก็จะปล่อยตัวพวกเราเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการพูด ต่อจากนี้พวกเราห้ามพูดผิดเด็ดขาด” โจวเหวินเหลียงพูดเตือนทุกคน
“อืม”
…
ในขณะเดียวกันณ ศาลาทางใต้ของศาลาปีศาจลอยฟ้า
ผู้อาวุโสทั้งสี่ได้มารวมตัวกันแล้ว
เล้งลั่วฝานลี่เทียน ฮั๊ววู่เด๋า และซูยู่ชูต่างก็ผลัดกันศึกษาชุดเกราะตรงหน้า หลังจากที่ได้รู้เหตุการณ์ทั้งหมดที่ผู้อาวุโสของสถานศึกษาไท่ชูได้พูดเอาไว้ ทั้งสี่คนต่างก็ใช้ความคิดอย่างหนัก
ผ่านไปครู่หนึ่งลู่โจวก็ได้พูดออกมา“ผู้อาวุโส พวกเจ้าคิดว่าไงกัน”
เล้งลั่วเป็นคนแรกที่ตอบกลับมา“ลวดลายบนเกราะจะต้องเป็นเขตแดนพลังไม่ผิดแน่ แต่ข้าไม่เคยเห็นลวดลายแบบนี้มาก่อน ข้าไม่คิดว่าจะมีใครในโลกสาสามารถสร้างลวดลายแบบนี้ขึ้นมาได้”
“ข้าเองก็คิดเหมือนกัน”
“ข้าเองก็เห็นด้วย”ฮั๊ววู่เด๋าพูดแทรก
ผู้อาวุโสชายทั้งสามต่างก็สบตากันทุกคนต่างก็แบ่งปันความคิดเห็นที่คล้ายคลึงกัน
ลู่โจวเหลือบมองไปที่ซูยู่ชูในตอนนี้นางยังคงนิ่งเงียบ
ซูยู่ชูกลอกตามองไปยังชายชามทั้งสามหลังจากนั้นนางก็ได้ถามออกมา “นี่มันใช่ชุดเกราะของหลินซินจริงๆ เหรอพี่ใหญ่”
“ใช่แล้ว”ลู่โจวนึกขึ้นได้ว่าซูยู่ชูเองเคยเป็นยอดฝีมือของชาวลัทธิขงจื๊อมาก่อน ชาวลัทธิขงจื๊อมีรากฐานเดียวกันกับหลินซินนั่นเอง
ซูยู่ชูพูดต่อ“ข้าที่ได้ยินว่าหลินซินสมรู้ร่วมคิดกับองค์รัชทายาท ข้าก็นึกอะไรขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง”
“แล้วมันคืออะไรกันล่ะ”
“ย้อนกลับไปในตอนที่ข้าฝึกฝนตัวเองจนมีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบในตอนนั้นข้าถูกองค์จักรพรรดิเชิญให้เข้าเฝ้า พวกเราได้พูดคุยกันถึงความเห็นและประสบการณ์ของการมีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบ องค์จักรพรรดิเคยถามข้าว่าข้าได้ตั้งตารอพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบบ้างรึเปล่า ในตอนนั้นข้ายิ้มให้ก่อนที่จะบอกว่ามันไม่มีอยู่จริง เมื่อมองย้อนกลับไปองค์จักรพรรดิคงจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบมีอยู่จริง ชุดเกราะนี่…จะต้องถูกสร้างขึ้นโดยผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบอย่างแน่นอน”
เล้งลั่วฮั๊ววู่เด๋า และฝานลี่เทียนตกใจกับคำพูดของซูยู่ชูมาก เป็นที่รู้กันดีว่าชาวลัทธิขงจื๊อนั้นเชี่ยวชาญในเรื่องของเขตแดนพลัง ถ้าหากนางเป็นคนพูดทุกอย่างด้วยตัวเอง ก็คงจะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปสงสัยคำพูดนาง
“ถ้าหากข้ามองไม่ผิดเมื่อเขตแดนพลังถูกเปิดใช้งาน เมื่อนั้นมันจะต้องสร้างพลังอันแข็งแกร่งให้กับผู้สวมใส่ได้ แม้แต่ผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบเองก็คงจะรับมือได้ยากแน่!”
ทุกๆคนต่างก็หายใจเข้าอย่างรุนแรงเมื่อได้ยินเรื่องนี้
ซู่ฮ่องกงแสดงสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อออกมา“มันมีพลังมากถึงขนาดนั้นเลยอย่างงั้นเหรอ”
“แน่นอน…เจ้าน่ะยังเด็กและด้อยประสบการณ์ชาวลัทธิขงจื๊ออย่างข้าเชี่ยวชาญการใช้เขตแดนพลังดี ไม่มีอะไรจะต้องแปลกใจเลย”
“ข้าได้เปิดหูเปิดตาแล้วจริงๆ” ซู่ฮ่องกงโค้งคำนับ
ลู่โจวพยักหน้า“ข้าเข้าใจแล้ว” ลู่โจวยกฝ่ามือก่อนที่จะส่งพลังลมปราณเพื่อยกเกราะตัวนั้น
ผู้อาวุโสทั้งสี่และซู่ฮ่องกงรีบถอยออกมาพวกเขาสังเกตเห็นแสงสีฟ้าจางๆ บนนิ้วของลู่โจวดี ไม่นานนักตัวอักษรขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น มันเป็นพลังฝ่ามือสละปัญญานั่นเอง
พลังฝ่ามือได้กระแทกไปที่ชุดเกราะ
“ถอยเร็วเข้า”ลู่โจวได้พูดออกมาอย่างเร่งรีบ
ผู้อาวุโสทั้งสี่รีบลอยตัวขึ้นก่อนที่จะออกจากห้องโถงไป
“เดี๋ยวก่อนรอ รอข้าด้วย…” ซู่ฮ่องกงหันหลังกลับก่อนที่จะวิ่งออกไป
ในตอนนั้นเองชุดเกราะก็เริ่มเปล่งแสงสีแดงออกมา
ลู่โจวไม่ได้หนีไปไหนตัวเขาเหลือบมองไปที่ชุดเกราะอย่างไม่คาดสายตา พลังแบบไหนกันถึงจะสามารถจัดการกับผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบได้
ซู่วว!ซู่วว! ซู่วว!
ชุดเกราะยังคงสั่นสะเทือนลวดลายสีแดงบนชุดเกราะทั้งหมดเริ่มส่องแสงมากขึ้น ลวดลายบนชุดเกราะได้แผ่ไปยังรอบนอก มันเป็นเหมือนกับใยแมงมุมสีแดง..
ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นรู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย‘ฉันควรจะใช้การ์ดป้องกันดีไหม’
ลู่โจวสัมผัสได้ถึงอันตรายจากพลังของเกราะมันแปลกมาก มันแปลกยิ่งกว่าเขตแดนพลังที่อยู่บนโลงศพซะด้วยซ้ำ
ในตอนนั้นเองลู่โจวก็รู้ตัวพลังจากเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์มันแข็งแกร่งกว่าพลังของผู้มีอวตารดอกบัวเก้ากลีบอยู่ขั้นหนึ่ง พลังของเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์สามารถกระตุ้นพลังวิเศษของชุดเกราะตัวนี้ได้
ซู่วว!ซู่วว! ซู่วว! ซู่วว! ซู่วว!
“ท่านปรมาจารย์!”
“ท่านอาจารย์”
พลังอันมหาศาลได้ห่อหุ้มไปทั่วศาลาด้วยความเร็วสูง
“ถอยเร็วเข้า!”ซูยู่ชูรีบคว้าซู่ฮ่องกงก่อนที่จะบินถอยไป
“เป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆพลังของมันเทียบเท่าได้กับพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ!”
เล้งลั่วฮั๊ววู่เด๋า และฝานลี่เทียนหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใยสีแดงยังคงปกคลุมไปทั่ว มันได้แผ่ขยายออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันได้แผ่ขยายไปสู่ท้องฟ้าก่อนที่จะจางหายไป
ทุกอย่างได้เงียบสงบอีกครั้ง
ผู้อาวุโสทั้งสี่และซู่ฮ่องกงยืนนิ่งก่อนที่จะตกตะลึงแม้ว่าเหล่าผู้อาวุโสจะเคยเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบมาก่อน แต่พวกเขาก็ยังตกใจกับพลังอันแปลกประหลาดที่อันตรายร้ายแรงแบบนั้นได้ ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปในขณะที่มองไปยังลานหน้าศาลา ในตอนนี้ไม่มีใครกล้าพูดหรือแม้แต่เคลื่อนไหว
ซู่ฮ่องกงล้มลงก่อนที่จะนั่งลงบนพื้นตัวเขาเริ่มกู่ร้องออกมา “ท่านอาจารย์!…ท่านอาจารย์…ท่านจะตายไม่ได้! ท่านอาจารย์”
‘ตาย’
‘ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้’
แม้ว่าจะคิดแบบนั้นแต่ผู้อาวุโสทั้งหลายก็ยังไม่แน่ใจในสายตาของทุกคนลู่โจวเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบตัวจริง แม้ว่าชุดเกราะจะสามารถปลดปล่อยพลังที่เทียบเท่าได้กับผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบได้ แต่มีหรือที่ปรมาจารย์ผู้เก่งกาจคนนี้จะต้องตายเพราะเรื่องแบบนี้
แคร๊ก!แคร๊ก! แคร๊ก!
เสียงของอะไรบางอย่างได้ดังขึ้น
แคร๊ก!
ศาลาทั้งหลังดูเหมือนจะเริ่มพังทลายจนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่พื้นดินเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ใยสีแดงได้ผ่าศาลาด้วยตัวมันเอง พลังที่ตัดผ่านศาลามันช่างดูราบรื่นและสม่ำเสมออย่างไร้ที่ติ
ตู๊ม!
เศษซากสิ่งก่อสร้างตกลงสู่พื้นและเพราะแบบนั้นจึงทำให้เกิดฝุ่นควัน
“ท่านอาจารย์!นั่น…เอ๊ะ ท่านอาจารย์ ข้าดีใจจริงๆ ที่ท่านไม่เป็นอะไร!”
เมื่อฝุ่นถูกลมพัดพาไปทุกๆ คนก็เริ่มมองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ทุกคนมองเห็นลู่โจวยังคงยืนอยู่ที่เดิม ตัวเขาไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน ลู่โจวถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีฟ้าจางๆ มันเป็นแสงที่ปกป้องตัวเขาเอาไว้ไม่ให้บาดเจ็บ
“ติ้ง!ได้รับชิ้นส่วนเคล็ดเปิดโลกา ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 1,000”
ชิ้นส่วนเคล็ดเปิดโลกา
ลู่โจวเหลือบมองไปที่คัมภีร์เปิดโลกาบนเมนูระบบมันเป็นอย่างที่ลู่โจวคาดไว้ ม้วนคัมภีร์ที่ถูกเปิดใช้งานเริ่มมีตัวอักษรลอยออกมา ภาพที่เห็นมันคล้ายกับการอ่านเคล็ดวิชาส่วนมนุษย์เป็นครั้งแรก นี่ก็หมายความว่าลู่โจวสามารถทำสมาธิเพื่อทำความเข้าใจเคล็ดวิชาใหม่ได้แล้ว ลู่โจวได้ตรวจสอบไปยังการ์ดประกันชีวิตที่มี ดูเหมือนว่ามันจะยังอยู่ตรง นั่นก็หมายความว่าลู่โจวสามารถต้านทานพลังการระเบิดด้วยพลังจากเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์ไว้ได้ ถ้าหากไม่มีพลังวิเศษลู่โจวก็คงจะต้องใช้การ์ดป้องกันไร้ที่ติเพื่อป้องกันพลังจากชุดเกราะ สำหรับลู่โจวตัวเขาในครั้งนี้รู้สึกเหมือนกับเป็นผู้ชนะ
“พลังของท่านช่างน่าทึ่งจริงๆท่านปรมาจารย์!”
“ข้ารู้สึกประทับใจในท่านจริงๆพี่ใหญ่”
“แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่ามันเป็นวิชาอะไรแต่มันจะต้องมีพลังมากกว่าผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบอย่างแน่นอน…”
ฮั๊ววู่เด๋าตกตะลึงจนพูดไม่ออกตัวเขารีบรวบรวมสติก่อนที่จะพูดออกมา “ในตอนที่ข้ามาศาลาปีศาจลอยฟ้าเป็นครั้งแรก ในตอนนั้นข้ายังสามารถประชันฝีมือกับท่านปรมาจารย์ได้ แม้ว่าข้าจะพ่ายแพ้แต่ข้าก็ยังไม่เสียใจ แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าข้าจะเทียบเคียงท่านไม่ได้แล้ว คงจะไม่มีผู้ฝึกยุทธคนไหนเหนือไปกว่าท่านได้แล้ว”
ผู้อาวุโสทั้งสี่ต่างก็พูดชมเชย
ซู่ฮ่องกงเองก็ตกตะลึงเช่นกันตัวเขาที่กำลังจะเอ่ยปากพูดตามถูกลู่โจวถามออกมาซะก่อน “เจ้าแปด เจ้านั่งลงบนพื้นทำไมกัน”
“เอ่อ…”ซู่ฮ่องกงรีบลุกขึ้นยืน ตัวเขารีบสะบัดเสื้อผ้าอยู่หลายครั้ง “ท่านอาจารย์ ข้าจะทบทวนสิ่งที่ข้าได้ทำลงไปเอง”
“ทบทวน”
ซู่ฮ่องกงยังคงตบตีตัวเอง
“พอได้แล้ว”ลู่โจวเพิ่งจะได้เคล็ดวิชาใหม่มา ตัวเขาในตอนนี้อารมณ์ดีเกินกว่าจะสั่งลงโทษซู่ฮ่องกง “บอกหลินซินว่าข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าต้องการหัวของเจ้านั่นภายในเจ็ดวัน”