My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 652 สุดยอดพลังวิเศษ
“ข้าแปลกใจจริงๆ ที่ท่านไม่ได้ทําให้หายนะเกิดขึ้น…” เจียงเหวินซพูด
“ข้าเองก็อยากพูดเหมือนกันกับเจ้า” ลู่โจวก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจียงเหวินซูใช้วิธีการไหนที่จะหยุดยั้งหายนะที่จะเกิดขึ้นเพราะพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบของตัวเอง ถ้าหากพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบจะทําให้หายนะเกิดขึ้นจริง แล้วทําไมเจียงเหวินซูเองถึงไม่ทําให้เกิดหายนะกันล่ะ?
เจียงเหวินซูพูดตอบกลับมา “เป็นธรรมดาที่ข้าจะมีทางเป็นของตัวเอง” เจียงเหวินซูที่พูดจบโบกมืออีกครั้ง
นอกนครหลวงลัวหลานมีผู้ฝึกยุทธกาลังแห่ขบวนกันมาจากทั้งสามทิศทาง พวกเขากาลังมุ่งหน้าเข้าสู่ใจกลางนครหลวง
บนอากาศมีรถม้าลอยฟ้าทั้งหมดสีคัน รถม้าแต่ละคันมีความยาวกว่าหลายร้อยเมตร ตอนนี้รถม้าทั้งหมดก่าลังมุ่งตรงมา
เจียงเหวินซ์ได้ลอยขึ้นไปอีก เขาลอยจนสูงกว่ารถม้าลอยฟ้าทั้งหมด
ลูโจวเองก็บินสูงขึ้นเช่นกัน ยิ่งบินสูงมากขึ้นเท่าไหร่เขาก็ยิ่งจะมองเห็นได้กว้างขึ้นเท่านั้น
รถม้าลอยฟ้าทั้งสี่และผู้ฝึกยุทธอีกนับไม่ถ้วนกาลังรายล้อมอยู่รอบนครหลวง ภายในเมืองแห่งนี้ไม่มีคนธรรมดาอยู่ในสายตาของลู่โจวเลย
“เมื่อลั่วหลานอยู่ในยุคที่รุ่งโรจน์ ในตอนนั้นดินแดนหยานไม่แม้แต่จะกล้าดูแคลน ที่นี่ พวกเราได้เตรียมกองกําลังจากทั้งสี่ดินแดนเพื่อท่านแล้ว…ถ้าหากท่านต้องการจะสู้กับข้าจริง ท่านก็ต้องผ่านกองกําลังของทั้งสี่ดินแดนไปให้ได้ก่อน” เจียงเหวินซ์ แผดเสียงใส่ลู่โจว
รถม้าลอยฟ้าบินเข้ามาใกล้มากขึ้น ในนครหลวงโบราณแห่งนี้ไม่มีสิ่งกีดขวางมากนัก
ลู่โจวมองดูรถม้าลอยฟ้าทั้งสี่ก่อนจะพูดขึ้น “ก็แค่พวกมดปลวก มันจะไปมีความหมายอะไร”
“ข้าชื่นชมในความมั่นใจของท่านจริงๆ …ข้าหวังว่าท่านจะปลดปล่อยพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบออกมาเพื่อย้ําเตือนเรื่องนี้กับทุกคนได้” ภาพฉายของเจียงเหวินซ์ค่อยๆบินห่างออกไป
ลูโจวไม่ได้โจมตีอะไรอีก เขาต้องการจะหาที่ที่เจียงเหวินซูตัวจริงอยู่มากกว่า
ในตอนนั้นเองหมิงซี่หยิน ยู่เฉิงไห่ เล้งลั่ว และฝานลี่เทียนก็บินมาหาลู่โจว
เมื่อเห็นกองกําาลังจากดินแดนทั้งสี่หมิงหยินก็ตื่นตกใจ “ท่านอาจารย์ ราชครูนั่นตั้งใจจะวางกับดักอยู่ก่อนแล้ว…งานนี้ยุ่งยากแน่…”
คนจากศาลาปีศาจลอยฟ้าทั้งห้ากาลังลอยอยู่บนอากาศในขณะที่ถูกผู้ฝึกยุทธจากดินแดนทั้งสี่ล้อมรอบเอาไว้
“ปกป้องยู่เฉิงไห่เอาไว้” ลูโจวสั่งการโดยที่ไม่ได้ตื่นตกใจอะไร
“ไม่ต้องห่วงไปครับท่านอาจารย์
ยู่เฉิงไห้รีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว “อย่าสนใจข้าเลย” เป็นธรรมดาที่ทุกคนจะอยู่เฉยไม่ได้ ยังไงซะยู่เฉิงไห่ก็ไม่มีพลังวรยุทธหรือความทรงจํา สุดท้ายแล้วทุกคนก็ต้องปกป้องยู่เฉิงไห่อยู่ดี
กษัตริย์อังก่ยไม่สามารถเสแสร้งได้อีกต่อไป
เจ้าหน้าที่ทั้งหลายเองก็เช่นกัน
ทหารยอดฝีมือแห่งนครหลวงลั่วหลานถูกยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนหยานจัดการไปแล้ว แต่ถึงแบบนั้นพวกเขาก็ยังยืนหยัดต่อสู้
หัวหน้าตระกูลโบน่าร์หลานไร่กาลังถอยกลับไปตามสัญชาตญาณ…เขาไม่คิดเลยว่าราชครูจะเป็นเพียงภาพลวงตา
ลู่โจวสั่งการออกมาโดยไม่แม้แต่จะหันไปมองหลานไห่ “จับมันมาซะ”
“ให้ข้าจัดการเอง” ขวดน้ําเต้าสีทองเปล่งประกายอยู่ในมือของฝานเทียน แม้ว่าฝานลี่เทียนกําลังฝึกฝนตัวเองอีกครั้ง แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ยังมีพลังที่เหนือไปกว่าคน ส่วนมากอยู่ดี
เมื่อเห็นแบบนั้นหลานไร่ก็ตื่นตกใจ เขาพยายามร่ายเวทมนตร์คาถาเพื่อที่จะหลบหนี
ขวดน้ําเต้าส่องแสงสีทองออกมาอีกครั้ง!
ตุ้ม!
ขวดน้ําเต้าพุ่งใส่หลังของหลานไร่
หลานไห่เดิมที่ได้รับบาดเจ็บจากลู่โจวอยู่ก่อนแล้ว เพราะแบบนั้นเขาจึงไม่อาจรับมือกับฝานลี่เทียนและอาวุธระดับสรวงสวรรค์ของเขาได้ หลานไร่ที่ถูกโจมตีกระอักเลือดออกมาก่อนที่จะกระแทกลงกับพื้น
ฝานลี่เทียนที่เห็นแบบนั้นพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขาเอื้อมมือออกมาก่อนที่จะใช้พลังฝ่ามือจับหลานไร่กลับมา “หยุดดิ้นรนได้แล้ว ถ้าหากเจ้ายังขัดขืนอยู่ข้าจะบีบเจ้าให้ตายคามือเอง”
คําพูดของฝานลี่เทียนทําให้หลานไร่ตกใจเป็นอย่างมาก และก็เพราะคําขู่ หลานไห่สงบนิ่ง
ฝานลี่เทียนยกมือขึ้นก่อนที่จะใช้พลังฝ่ามือปิดผนึกเส้นพลังปราณหลานไร่ ในฐานะที่ฝานลี่เทียนเป็นยอดฝีมือจากสํานักบริสุทธิ์เขาจึงเชี่ยวชาญในการปิดผนึกพลังวรยุทธดี หลานไห่แทบจะไม่มีโอกาสปลดผนึกได้เลยในขณะเดียวกัน
รถม้าลอยฟ้าทั้งสี่จอดอยู่ต่างก็ปล่อยผู้คนออกมา ทุกคนหยุดก่อนที่จะถึงตัวของลู่
โจว
“ข้าอาเหวินแห่งดินแดนเฉินมู่ ข้ามาที่นี่ก็เพื่อต่อสู้ตามคําสั่งของราชครู”
“ข้าบาสก์แห่งดินแดนว่ฉาง ข้ามาที่นี่ก็เพื่อต่อสู้ตามค่าสั่งของราชครู”
“ข้าคูโบแห่งดินแดนเนียร์มาที่นี่ก็เพื่อต่อสู้ตามคําสั่งราชครู”
“ส่วนข้าเซียคือแห่งดินแดนรั่วหรี่ ข้ามาที่นี่ก็เพื่อต่อสู้ตามคําสั่งของราชครูเช่นกัน”
ตัวแทนทั้งสี่คนต่างก็มีออร่าพลังที่แข็งแกร่ง จิตวิญญาณของพวกเขาเต็มไปด้วย การต่อสู้ ดวงตาของทุกคนเปี่ยมไปด้วยเปลวไฟอันร้อนแรง
เซี่ยจือจากรัวหรี่ทนไม่ไหวที่จะโจมตี การตายของคาร์รอลได้กระตุ้นความโกรธแค้นของชาวรั่วหรี่ ยิ่งไปกว่านั้นเชลยกว่า 10,000 คนยังถูกคุมขังอยู่ที่มณฑลเหลียง
ลู่โจวมองดูทั้งสี่คนก่อนจะพูดออกมา “ข้าน่ะเป็นคนที่มีเมตตาเสมอ ถ้าหากพวกเจ้ายอมกลับไปตั้งแต่ตอนนี้ ข้าก็อาจจะไว้ชีวิตพวกเจ้าก็ได้!”
“ดาบถูกชักออกจากฝักแล้ว มีแต่จะต้องเข่นฆ่าเท่านั้น”
“ยังไงซะก็ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ต้องตาย”
ด้วยพลังของราชครูที่คอยสนับสนุนอยู่จะไม่มีใครยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปแน่
ในตอนนั้นเองเสียงกลองรบก็ได้ดังขึ้น มันเป็นเสียงกลองรบที่ดังมาจากรถม้าทั้งสี่
เซี่ยจือพูดต่อ “ดินแดนทั้งเจ็ดที่เหลือกําลังเดินทางไปยังคูสวรรค์…แม้ว่าเจ้าจะมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ แต่เจ้าก็ไม่อาจช่วยเหลือดินแดนหยานจากทางไกลได้แน่”
“ราชครูกําลังเฝ้าดูพวกเราอยู่ทุกวัน ราชครูของพวกเจ้าน่ะได้ฝึกฝนจนมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบได้ในหลายร้อยปีก่อน…พวกเจ้ากาลังรออะไรอยู่กัน?”
จู่โจวเฝ้ามองผู้ฝึกยุทธทั้งสี่ ดูเหมือนว่าเจียงเหวินซูจะล้างสมองทุกคนจนอยู่หมัด
อาเหวินแห่งเฉินมู่ชักกระบี่ก่อนที่จะประกาศกร้าว “ให้ข้าลงมือก่อนเถอะ” เขากวัดแกว่งดาบด้วยมือทั้งสองข้างก่อนที่จะเรียกพลังอวตารออกมา
ซ่วว!
พลังอวตารราชันย์เสือดาวไร้ดอกบัวปรากฏขึ้นก่อนที่จะหายไป เห็นได้ชัดว่าอาเหวินพยายามแสดงความแข็งแกร่งของตน พลังอวตารดอกบัวแปดกลีบขึ้นปรากฏตัวขึ้นเพียงชั่วครู่
ลู่โจวลูบเคราก่อนจะพยักหน้า ดูเหมือนว่าเจียงเหวินซูจะตั้งใจใช้พวกเขาเพื่อจัดการกับผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ
“ตายซะ!” จู่ๆ อาเหวินก็หายตัวไป เขาปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับพลังอวตารราชันย์ เสือดาวก่อนที่จะใช้กระบี่ที่ถือโดยมือทั้งสองข้างจู่โจมลูโจว กระบี่พลังงานขยายใหญ่และกว้างขึ้น กระบี่พลังงานขยายใหญ่ขึ้นจนดูเหมือนกับพลังที่จะผ่าสวรรค์ได้ กระบี่พลังงานที่คล้ายกับกิโยตีนขนาดยักษ์ได้ตกลงใส่ลู่โจว
หลานไร่ที่เห็นแบบนั้นกลัวจนขยับตัวไม่ไหว
ในทางกลับกันผู้อาวุโสทั้งสองคน หมิงหยินและยู่เฉิงไห่กลับไม่ตื่นตกใจ
กระบี่พลังงานตกลงใส่ใบหน้าของอู่โจว
จู่โจวยกมือขวาขึ้น เขาใช้สองนิ้วสกัดกั้นพลังการโจมตีเอาไว้ได้ ที่ปลายนิ้วของเขามีแสงสีฟ้าจางๆ ส่องออกมา
ตุ้ม!
กระบี่พลังงานหยุดเคลื่อนไหว!
ทุกคนต่างก็หันไปสนใจลูโจว มือซ้ายของเขายังคงไขว้หลังอยู่เช่นเคย ลู่โจวยกมือขวาขึ้นมาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาใช้ความพยายามเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น เพื่อสกัดกั้นกระบี่พลังงานอันใหญ่ยักษ์ด้วยปลายนิ้ว
อาเหวินรู้สึกตกใจ แม้ว่าผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบจะแข็งแกร่งมากก็จริง แต่เขาไม่คิดเลยว่าลโจวจะหยุดการโจมตีได้ด้วยสองนิ้ว เมื่อกลับมามีสติอีกครั้งอาเหวินก็พยายามที่จะปล่อยกระบี่พลังงานให้ออกจากนิ้วของลูโจว แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนกระบี่พลังงานก็ไม่ขยับเลย นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
อาเหวินเพิ่มพลังลมปราณเข้าไป แต่น่าเสียดายที่กระบี่พลังงานของเขาก็ยังคงติดอยู่ที่เดิม
ชายชรายังคงใช้นิ้วจับกระบี่เอาไว้ เขาดูสงบเยือกเย็นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ช่างแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้!
ไม่นานนักลูโจวก็หายไปจากสายตาของเขา
สุดยอดเคล็ดวิชา
ในขณะที่อาเหวินกําลังฟุ้งซ่าน ในตอนนั้นลู่โจวก็กําลังพุ่งตรงมา
ผิวหนังในทุกอณูรวมไปถึงเส้นผมของอาเหวินตั้งขึ้น แบบนี้แย่แน่! อาเหวินปล่อยการควบคุมกระบี่พลังงานไปก่อนที่จะยกอาวุธที่มีป้องกันตัวเองเอาไว้
ตู้ม!
ลโจวที่พุ่งผ่านอาเหวินไปมาพร้อมกับแสงสว่าง มันเป็นแสงจากอาวุธนิรนามนั้นเอง
คู่ต่อสู้อีกสามคนอยู่ห่างออกไปอีก 50 เมตร ทุกคนต่างก็เหลือบมองชายชราอย่างไม่คลาดสายตา
อาเหวินหันไปเผชิญหน้ากับลูโจว การเคลื่อนไหวของเขาดูแข็งที่อไป
“อาเหวิน!” คลื่นเสียงได้แผ่ออกมาจากรถม้าลอยฟ้าของดินแดนเฉินม่
เมื่อคลื่นเสียงส่งไปถึงอาเหวิน ในตอนนั้นกระบี่ก็ได้หักออกเป็นสองส่วน
สุดท้ายร่างของเขาก็ถูกผ่าออกเป็นสองส่วน ร่างทั้งสองส่วนตกลงสู่พื้นอย่างไร้ค่า
“ติ้ง! สังหารเป้าหมายสําเร็จ ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 1,500
ลูโจวจัดการคู่ต่อสู้อย่างง่ายดายด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว ใครกันจะไปเทียบกับผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบได้?
ทุกคนรู้ดีว่าผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบทรงพลัง แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าความแข็งแกร่งของผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก๋กลีบจะเกินขอบเขตที่จะคาดการณ์ไปไกลแล้ว ล่โจวสามารถสังหารผู้ที่ฝึกฝนตัวเองใหม่อีกครั้งหลังจากตัดดอกบัวทองค่า จนมีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบได้ด้วยการโจมตีเดียว! นี่มันช่างเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ !
ทุกคนที่เหลือแทบจะหายใจไม่ออก
ในขณะนั้นเองเสียงอันหยาบคายและดูคุ้นเคยก็ได้ดังไปถึงรถม้าทั้งสี่ “ลงมือต่อซะ
“ท่านราชครูสั่งให้พวกเราลงมือต่อแล้ว!”
“ข้าจะลงมือเอง!” บาสก์แห่งดินแดนขู่ฉางตะโกนขึ้น เขารวบรวมพลังก่อนที่จะใช้อวตารราชันย์เสื้อออกมา กล้ามเนื้อของเขาขยายใหญ่ขึ้น บาสก์กระโจนไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว พลังอวตารราชันย์เสือที่มีก็ไร้ดอกบัวทองคําเช่นกัน มันเป็นพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบ!
สู่โจวยกมือขวาขึ้น ในตอนนั้นเองอักษรโบราณก็หมุนวนไปรอบๆกับอาวุธนิรนาม ก่อนที่มันจะหายวับไปจากสายตาของทุกคน
บาสก์พูดออกมาอย่างไม่พอใจ “ข้าคิดไว้แล้วเชียว!” บาสก์คํารามอย่างสุดพลังเสียงพลังคารามของเขาดังก้องไปทั่วฟ้า
แม้ว่ามันจะเป็นคลื่นเสียง แต่ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงพลังอย่างชัดเจน!
“ช่างเป็นพลังครามที่ทรงพลังซะจริง!”
เสียงครามยังไม่ทันหายไป ในตอนนั้นลู่โจวก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆกับพลังอวตาร ราชันย์เสื้อ
“ช้าไป!” บาสก์ยกมือขึ้นเพื่อตั้งป้องกัน!
อาวุธนิรนามได้ผ่าพลังอวตารราชันย์เสือไปอย่างง่ายดาย แขนและล่าตัวของบาสก์เองก็ถูกผ่าด้วยเช่นกัน
การต่อสู้จบลงแค่นั้น
ริมฝีปากของบาสก์สั่นสะท้าน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แม้แต่บาสก์เองก็ไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้
“เจ้าคิดว่าวิชาคลื่นเสียงที่น่าสมเพชของเจ้าจะสามารถทําอะไรข้าได้อย่างงั้นเหรอ?”
“ติ้ง! สังหารเป้าหมายสําเร็จ ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 1,500
ผู้ฝึกยุทธที่เหลือมีอยู่สองคน คูโบ้แห่งดินแดนเนียร์ และเซี่ยจือจากดินแดนรัวหรี่ ทั้งสองคนต่างก็สั่นเทาไปเพราะความกลัว ผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบถูกฆ่าตายภายในพริบตาเดียว
เสียงของราชครูดังขึ้นในเวลาที่เหมาะสม “รุมเขาซะ!”
ลู่โจวได้วัดพลังวิเศษที่เหลือ แม้ว่าจะฆ่าผู้ฝึกยุทธไปถึงสองคนและใช้อาวุธนิรนามด้วยก็ตาม แต่จู่โจวก็ยังคงใช้พลังวิเศษไปกว่าครึ่ง เขาไม่คิดเลยว่าทั้งคู่จะกล้าเข้ามาต่อสู้กับเขาหลังจากที่ได้เห็นตัวอย่างของทั้งสองคนก่อนหน้าไป
คูโบ้และเซี่ยจือโจมตีพร้อมกัน
ในเวลาเดียวกัน ผู้ฝึกยุทธนับไม่ถ้วนก็ออกมาจากรถม้าทั้งสี่
พลังอวตารทศภพหลายสิบร่างและพลังอวตารต่างๆ นาๆ ก็พุ่งหาลู่โจวจากทั่วทุกทิศทาง นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือผู้มีพลังขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์อยู่จํานวนหนึ่ง พวกเขาเองก็พุ่งใส่ลูโจวเช่นกัน ฝูงชนที่กําลังพุ่งมาไม่ต่างอะไรกับกองทัพตั๊กแตน