My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 430
ฝ่ามือของฝานลี่เทียนได้ส่องแสงสีทองออกมาก่อนที่จะเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็วราวกับเหล็กที่กำลังถูกหลอมละลาย ฝานลี่เทียนได้จับปลายดาบของเฟิงหลิวไว้ระหว่างฝ่ามือ พลังลมปราณของทั้งสองฝ่ายกำลังต้านกันจนส่งเสียงดังออกมา
ขวดน้ำเต้าสีทองยังคงปัดป้องลูกศรพลังงานทั้งหมดที่เข้ามาทางเหนือศีรษะของฝานลี่เทียน ในตอนนี้มีเสียงดังก้องไปทั่วหูของทั้งสองคน
ฝานลี่เทียนได้กระทืบเท้าของตัวเองเพื่อที่จะยืนหยัดอย่างมั่นคง ตัวเขาได้ที่ตั้งหลักได้ปลดปล่อยพลังลมปราณอันมหาศาลออกมาจากร่างกายของตน
ตู๊ม!
เฟิงหลิวถูกผลักให้ถอยกลับมาด้วยคลื่นพลังลมปราณที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น ดาบของตัวเขาได้กระเด็นลอยขึ้นไปบนอากาศ เฟิงหลิวต้องตีลังกาอยู่หลายตลบก่อนที่จะตั้งตัวได้ใหม่ ในตอนนั้นตัวเขาได้แต่จ้องมองไปที่ฝานลี่เทียนอย่างหวาดกลัว แขนและขาของเฟิงหลิวชาไปทั้งตัวจากการเข้าปะทะครั้งนี้ นอกจากนี้เฟิงหลิวยังรู้สึกเจ็บที่หน้าอก ดูเหมือนว่าเลือดลมภายในตัวของเฟิงหลิวจะไหลเวียนผิดแปลกไปจากเดิม ยังไงซะฝานลี่เทียนก็ยังเป็นยอดฝีมือผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าอยู่ดี
ในเวลาเดียวกันขวดน้ำเต้าก็ได้ตกลงสู่ฝ่ามือของฝานลี่เทียนอีกครั้ง
หวืออ!
พลังงานสีทองได้ล้อมรอบฝานลี่เทียนเอาไว้ ฝานลี่เทียนสามารถป้องกันลูกศรพลังงานทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นเพราะการมีอยู่ของอาวุธระดับสรวงสวรรค์ ทำให้นักดาบยอดฝีมือทั้งหลายที่ได้ล้อมตัวเขาไว้ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวอย่างประมาท ในตอนนี้ทุกคนได้แต่จ้องมองดูฝานลี่เทียนจากบนอากาศได้เพียงเท่านั้น
“พลังวรยุทธของฝานลี่เทียนยังไม่ฟื้นฟูกลับมาอย่างเต็มตัวแน่ๆ แถมฝานลี่เทียนยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย แต่ถึงแบบนั้นฝานลี่เทียนก็ยังต่อสู้ได้เป็นเวลานาน ข้าประทับใจจริงๆ” สายตาที่เฟิงหลิวจ้องมองฝานลี่เทียนมันเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
ฝานลี่เทียนเขย่าขวดน้ำเต้าของตัวเองเพื่อที่จะดื่ม แต่น่าเสียดายที่มันว่างเปล่า ในตอนนี้ตัวเขาไม่มีสุราที่จะให้ดื่มอีกต่อไป “ช่างน่าเบื่อ”
“ข้าจะทำให้มันน่าสนใจขึ้นเอง!” เฟิงหลิวโบกมือขึ้นมาอีกครั้ง ในตอนนั้นเองผู้ฝึกยุทธผู้ใช้ดาบนับสิบก็ได้ใช้ดาบของตัวเองจู่โจมฝานลี่เทียน
“แค่นี้เรอะ?” ฝานลี่เทียนได้ขว้างขวดน้ำเต้าออกมาอีกครั้ง ขวดน้ำเต้าได้ฉายแสงสว่างออกมาอีกครั้ง มันทำให้ดวงตาของทุกคนกลับมาพร่ามัวใหม่
ปั๊ง! ปั๊ง! ปั๊ง!
ผู้ฝึกยุทธทั้งหลายที่พุ่งเข้ามาถูกส่งจนกระเด็นกลับไป แต่ถึงแบบนั้นผู้ฝึกยุทธผู้ใช้ธนูทั้งหลายก็ยังคงใช้ลูกศรพลังงานจู่โจมมาอย่างไม่ลดละ
“มาดูก็แล้วกันว่าท่านจะอยู่ได้นานอีกสักแค่ไหน?”
พลังตัวอักษรล่องลอยไปในอากาศอีกครั้งราวกับผีเสื้อที่โบยบิน
ผู้ฝึกยุทธจกาสำนักเจินชางได้ล้อมรอบฝานลี่เทียนเอาไว้จากทุกทิศทาง ทุกๆ คนยังคงกลั่นพลังลมปราณของตัวเองให้กลายเป็นตัวอักษรก่อนที่จะล้อมรอบตัวฝานลี่เทียนมามากขึ้นเรื่อยๆ
“เขตแดนพลังอักษร!”
ตัวอักษรมีพลังมากกว่าที่เคยเป็นมา พลังมันได้ลอยไปหาฝานลี่เทียนอย่างไม่หยุดพัก
ขวดน้ำเต้าของฝานลี่เทียนยังคงป้องกันพลังตัวอักษรเอาไว้เช่นเดิม ขวดน้ำเต้าเริ่มหมุนตัวเองด้วยความเร็วที่มากยิ่งขึ้น ในตอนนั้นเองฝานลี่เทียนก็เริ่มไอออกมา
เมื่อเห็นแบบนั้นสีหน้าแห่งความสุขก็ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของสาวกจากสำนักเจินชาง
นี่เป็นโอกาสของพวกเราแล้ว!
“ลุยซะ!”
กลุ่มผู้ฝึกยุทธยอดฝีมือทั้งหลายได้ปล่อยพลังอักษรออกมามากยิ่งขึ้น
ฝานลี่เทียนได้ตะโกนออกมา “ดื่มด่ำสมบูรณ์!”
เมื่อตัวอักษรใกล้ตัวฝานลี่เทียนมากขึ้น ขวดน้ำเต้าของตัวเขาก็ได้ปลดปล่อยพลังผนึกนับสิบออกมา พลังผนึกทั้งหมดล้วนแต่มีรูปร่างที่เหมือนกับขวดน้ำเต้า มันได้กระจายไปทั่วทุกทิศทาง
ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!
‘พลังผนึกขวดน้ำเต้าอย่างงั้นเหรอ?’ เฟิงหลิวขมวดคิ้วเล็กน้อย ตัวเขาได้มองไปที่ฝานลี่เทียนซึ่งอยู่ตรงใจกลางของการโจมตีทุกอย่าง
ในตอนนั้นฝานลี่เทียนก็ได้หายลับไปจากสายตา ตัวเขาได้หายไปราวกับผีสางที่กำลังตามหลอกหลอนเหล่าผู้ฝึกยุทธ
พรึ๊บ! พรึ๊บ! พรึ๊บ!
ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!
ผู้ฝึกยุทธทั้งสองคนได้กระเด็นกลับไป ทั้งคู่ได้แต่กระอักเลือดออกมาจากปากก่อนที่จะเสียชีวิตไปในทันที
พลังตัวอักษรทั้งหมดได้บินตรงไปที่ฝานลี่เทียน พลังอักษรได้ปะทะเข้ากับพลังผนึกขวดน้ำเต้า การปะทะกันทำให้พลังงานโดยรอบปั่นป่วนไปอย่างรุนแรง
ฝานลี่เทียนได้เคลื่อนไหวราวกับว่าตัวเองเมา ตัวเขาเดินโยกไปโยกมาก่อนที่จะชนเข้ากับผู้ฝึกยุทธบางคนหรืออะไรบางอย่าง พลังผนึกจากขวดน้ำเต้าเริ่มโจมตีประสานกัน
ทั้งสองฝ่ายต่างก็โจมตีกันและกันอย่างดุเดือด
เฟิงหลิวลุกขึ้นมาก่อนที่จะตะโกนสั่งการอีกครั้ง “จับเขาไว้ซะ!” เฟิงหลิวรู้ดีว่าบัดนี้ฝานลี่เทียนบาดเจ็บภายใน ตราบใดที่ยืดการต่อสู้ให้นานมากพอฝั่งของเฟิงหลิวที่มีคนมากกว่าจะต้องชนะได้แน่
ตู๊ม !ตู๊ม! ตู๊ม!
พลังตัวอักษรได้ทำการโจมตีด้วยความถี่ที่สูงกว่าเดิม
เฟิงหลิวจับตาดูฝานลี่เทียนที่กำลังบินอยู่บนอากาศ
“อวตาร!”
หวืออ!
พลังอวตารร้อยวิถีดอกบัวหกกลีบได้ปรากฏขึ้นที่กลางอากาศ
คนอื่นๆ เองก็เรียกพลังอวตารของตัวเองเช่นกัน ดูเหมือนว่าป่าทั้งป่าจะถูกไฟอันเร่าร้อนกำลังแผดเผาเข้าแล้ว
ทันทีที่เฟิงหลิวเรียกพลังอวตารออกมา ตัวเขาก็ได้มองไปยังร่างที่เคลื่อนไหวของฝานลี่เทียน “ตอนนี้แหละ!” ดาบของเฟิงหลิวได้ลอยไปที่กลางอากาศ ดาบของเฟิงหลิวได้ลอยตรงไปที่ยังตัวของฝานลี่เทียนด้วยพลังอันมหาศาลที่ได้มาจากพลังอวตาร
ฝานลี่เทียนรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมา มันเป็นเพราะดาบที่กำลังลอยเข้าหาตัวเขานั่นเอง ฝานลี่เทียนที่รู้ตัวแบบนั้นได้หันกลับไป
“ตายซะ!” เฟิงหลิวตะโกนขึ้น
ฝานลี่เทียนได้ขยับพลังผนึกน้ำเต้าไปที่ด้านหน้าของตัวเองตามสัญชาตญาณ
ปั๊ง!
คราวนี้ฝานลี่เทียนกระเด็นกลับไป แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ไม่ได้กระเด็นกลับไปไกลจนเกินไป เนื่องจากความสูงที่ไม่ได้มากมายอะไรในตอนที่ฝานลี่เทียนบินอยู่ทำให้ฝานลี่เทียนไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าไหร่
พลังอักษรและพลังผนึกขวดน้ำเต้าทั้งหมดได้หายจางไป
สนามการต่อสู้ได้กลับมาเงียบสงัด สาวกของสำนักเจินชางต่างก็จ้องมองฝานลี่เทียนจากฟากฟ้า ทุกคนจับจ้องไปที่ฝานลื่เทียนที่ตกลงสู่พื้น การโจมตีของเฟิงหลิวในที่สุดก็สำเร็จ!
ฝานลี่เทียนนอนอยู่บนพื้นก่อนที่จะจ้องมองไปบนท้องฟ้า ฝานลี่เทียนรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองกำลังข่มขู่ตัวเขาว่าอยากที่จะหลบหนีไป หลังจากนั้นฝานลี่เทียนก็ได้ส่งเสียงหัวเราะแปลกๆ ออกมา ไม่ใช่เพราะตัวเขาไม่สามารถที่จะป้องกันการโจมตีของเฟิงหลิวได้ แม้ว่าฝานลี่เทียนจะมีทั้งประสบการณ์ ความรู้ และทักษะที่มากพอ…แต่น่าเสียดายสายตาและปฏิกิริยาโต้ตอบที่ตัวเขามีในตอนนี้กลับตามการโจมตีไม่ทัน
“ยอมรับชะตากรรมเถอะท่านผู้อาวุโส…” เฟิงหลิวมองไปที่พื้น ดาบของเขาที่อยู่ในมือขวากำลังพุ่งไปหาฝานลี่เทียนอีกครั้ง
ฝานลี่เทียนหัวเราะ ตัวเขาได้พยุงตัวเองขึ้นมาก่อนที่จะลุกมานั่งด้วยความยากลำบาก “ข้าไม่อยากที่จะเชื่อจริงๆ ที่เฟิงชิงสอนศิษย์อย่างเจ้ามา”
เฟิงหลิวไม่ได้คิดจะเถียงอะไรกับฝานลี่เทียน ตัวเขาได้ยกมือขึ้นก่อนที่จะใช้พลังฝ่ามือจู่โจไปที่ฝานลี่เทียน
พลังฝ่ามือได้พุ่งเข้าใส่ฝานลี่เทียน
ตู๊ม!
ฝานลี่เทียนได้ป้องกันตัวเองด้วยการกอดอก ตัวเขาที่รับการโจมตีได้เลื่อนถอยหลังกลับไป
เฟิงหลิวที่เห็นแบบนั้นได้ยิ้มออกมา “ยอดฝีมือสูงสุดของสำนักแห่งความบริสุทธิ์ฝานลี่เทียน? ท่านน่ะมันไม่ได้มีอะไรเลย”
ฝานลี่เทียนไอออกมาเล็กน้อย ที่ริมฝีปากของเขามีเลือดไหลออกมา
ในตอนนั้นเองมีใครบางคนพูดขึ้น “ศิษย์พี่ใหญ่ อย่าได้เสียเวลาพูดกับเขาเลย ท่านเจ้าสำนักบอกให้พวกเราจัดการเจ้านี่ให้เร็วที่สุด”
“ไม่จำเป็นจะต้องรีบร้อนอะไร ข้าไม่เคยต่อสู้กับยอดฝีมืออย่างเขามาก่อน ฝานลี่เทียนเป็นผู้ฝึกยุทธผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบเชียวนะ…” เฟิงหลิวที่พูดเสร็จได้ยิ้มออกมา เห็นได้ชัดว่าตัวเขาพอใจในตัวเองมาก
ทุกๆ คนปรารถนาที่จะได้รับความเคารพนับถือ ต่อให้เป็นยอดฝีมือเองก็ไม่ต่างกัน เมื่อเฟิงหลิวเห็นฝานลี่เทียนไม่พยายามที่ลุกขึ้นมา ตัวเขาก็ได้ยกฝ่ามือขึ้นก่อนที่จะใช้พลังฝ่ามืออีกครั้ง
ตู๊ม!
ฝานลี่เทียนกระเด็นถอยกลับไปอีกครั้ง
“ผู้อาวุโส…ได้โปรดอย่าออมมือเลย ข้าต้องการที่จะเห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของท่านให้เป็นบุญตา” เฟิงหลิวได้พูดออกมาอย่างเย้ยหยันในขณะที่ใช้พลังฝ่ามืออีกครั้ง
ตู๊ม!
ฝานลี่เทียนกระเด็นถอยกลับไปอีกครั้ง!
เฟิงหลิวเดินหน้าต่อไป ตัวเขายังคงจู่โจมฝานลี่เทียนด้วยพลังฝ่ามืออย่างไม่หยุดยั้ง
“ดูนั้นสิ? นี่คือสิ่งที่เรียกว่ายอดฝีมืออย่างงั้นหรอ…” เฟิงหลิวรู้สึกเบิกบานใจที่สามารถเหยียบย่ำยอดฝีมืออย่างฝานลี่เทียนได้
บางทีเป็นเพราะเฟิงหลิวใช้เวลานานเกินไป สาวกอีกคนหนึ่งได้พูดเตือนออกมาอีกครั้ง “ศิษย์พี่ใหญ่ พวกเราไม่ควรที่จะพูดคุยกันอีกต่อไปแล้ว”
เฟิงหลิวพยักหน้า สายตาของเขาดูเยือกเย็นกว่าเดิม
ในตอนนั้นเองสาวกของสำนักเจินชางและเฟิงหลิวได้ล้อมรอบฝานลี่เทียนอยู่บนกลางอากาศ ทุกๆ คนกำลังจับจ้องไปที่ฝานลี่เทียนที่กำลังนอนอยู่บนพื้น
เฟิงหลิวได้พูดออกมา “ผู้อาวุโส…ถ้าหากท่านอยากที่จะโทษใคร ท่านก็โทษตัวเองซะเถอะที่เลือกข้างผิด” เฟิงหลิวได้ยกดาบขึ้นมาก่อนที่จะห่อหุ้มมันด้วยพลังลมปราณเอาไว้ ดาบของเฟิงหลิวได้สั่นสะเทือน
จู่ๆ ฝานลี่เทียนก็ได้ลุกขึ้นมาก่อนที่จะไออย่างรุนแรง หน้าอกของตัวเขาหนักหน่วงในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ฝานลี่เทียนที่ได้ลุกขึ้นมาได้กระอักเลือดเฮือกใหญ่ ฝานลี่เทียนที่ลุกขึ้นมาได้หัวเราะก่อนที่จะมองไปยังสาวกของสำนักเจินชางทั้งหมด ฝานลี่เทียนได้มองทะลุไปก่อนที่จะจ้องมองดวงดาวอันนับไม่ถ้วน ดวงดาวที่ได้เห็นก็เป็นเหมือนกับภาพวันวานอันรุ่งโรจน์ในคืนวันเก่าๆ ที่ส่องประกายต่อหน้าฝานลี่เทียน ฝานลี่เทียนในวัยหนุ่มเป็นชายผู้เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญ ตัวเขายังคงหัวเราะ เสียงหัวเราะของฝานลี่เทียนได้ดังกึกก้องไปทั่ว ทันทีที่หัวเราะไปได้พักหนึ่งฝานลี่เทียนก็ได้กระแทกฝ่ามือลงบนพื้น “ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ ข้าน่ะอยากที่จะเป็นหนุ่มอีกครั้งจริงๆ ถ้าหากข้ากลับเป็นหนุ่มอีกครั้งข้าจะเป็นผู้กระชากรอยยิ้มของพวกเจ้าทุกคนออกมาจากใบหน้าเอง…”
ในตอนนั้นเองพลังลมปราณของฝานลี่เทียนก็ได้ไหลมาจากจุดตันเถียน มันได้ควบแน่นจนกลายเป็นดาบพลังงานก่อนที่จะยิงไปทั่วทุกทิศทาง ดาบพลังงานได้พุ่งเข้าใส่ผู้ฝึกยุทธทั้งหลายราวกับพายุเฮอริเคน
“นี่ไม่ดีแน่! ถอยเร็วเข้า!” ดวงตาของเฟิงหลิวเบิกกว้างขึ้นในขณะที่เรียกพลังอวตารของตัวเองกลับไป
สาวกของสำนักเจินชางได้ถอยกลับไปอย่างรวดเร็วพร้อมๆ กับเฟิงหลิว
สายตาของฝานลี่เทียนเฉียบแหลม ตัวเขาได้เรียกพลังอวตารของตัวเองออกมาในขณะที่ทำการโจมตี มันเป็นพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบของพลังอวตารดอกบัวแห่งร้อยวิถี! มือข้างหนึ่งของฝานลี่เทียนได้กำขวดน้ำเต้าสีทองเอาไว้แน่น สายตาของเขาจับจ้องไปที่เฟิงหลิวที่กำลังถอยหนีไป!