My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา - ตอนที่ 1144 ปีศาจจากขุมนรก
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife ราชันย์หมาป่ากับ CEO ที่แสนเย็นชา
- ตอนที่ 1144 ปีศาจจากขุมนรก
ตอนที่ 1144 ปีศาจจากขุมนรก
“ไม่เลวเจ้าสามารถปิดกั้นหมัดเทพโลหิตของข้าได้” ราชินีแวมไพร์คามิลล่ากล่าวด้วยความประหลาดใจ
เธอได้รับการฝึกฝนในวิชาที่วิวัฒนาการมาพร้อมกับระดับการฝึกปรือของเธอและในที่สุด คามิลล่าจะกลายเป็นเทพโลหิตได้จากเคล็ดวิชาบ่มเพาะนี้
“
หมัด
ที่สอง– บดภูผาทลาย ทลายวารี
!
“
ฉิงเฟิงยิ้มเยาะและใช้หมัดที่สองออกมาทันทีพลังแท้ของเขาก่อให้เกิดเงาของธรรมชาติที่บินไปหาคามิลล่า
“ เทพโลหิตครองหล้า
!
“
เธอใช้การโจมตีที่สองของวิชาหมัดเทพโลหิตในตำนานออกมามันก่อตัวเป็นกำปั้นสีแดงขนาดมหึมาขึ้น
ตูมมมม
!
กำปั้นสีแดงและเงาแห่งธรรมชาติชนเข้าด้วยกันและทำให้เกิดการการระเบิดจนก่อตัวขึ้นเป็นหลุมดำบนท้องฟ้า
พลังทั้งสองสายหายไปในท้องฟ้าโชคดีที่พลังจากการระเบิดไม่ได้กระจายไปยังพื้นดิน มิเช่นนั้นจะทำให้ผู้ชมโดยรอบได้บาดเจ็บ
ฉิงเฟิงและคามิลล่าต่างก็ถอยคนละก้าวทั้งคู่ยังไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบจากการปะทะครั้งนี้
ฉิงเฟิงรู้ว่าเขาไม่สามารถเอาชนะคามิลล่าได้ด้วยการโจมตีทางกายภาพต่อให้เขาใช้หมัดที่สามผลก็คงไม่ต่างจากเดิม
ในฐานะราชินีแห่งตระกูลโลหิตคามิลล่าแข็งแกร่งมากนอกจากนี้วิถีบ่มเพาะของเธอก็ยังเป็นระดับเทพอีกด้วย
“คามิลล่าเปลี่ยนวิธีประลองกันเป็นไง มาประลองกันด้วยวิชาดรรชนีเถอะ”
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มและถาม
คามิลล่าพยักหน้าและตกลงเธอก็รู้ด้วยเช่นกันว่าการโจมตีด้วยหมัดของเธอไม่อาจเอาชนะอีกฝ่ายได้ เธอก็อยากลองด้วยวิธีการอื่น
ในฐานะราชินีแวมไพร์แห่งตระกูลโลหิตเธอมีวิชาการโจมตีขั้นสุดยอดและมีจำนวนมากเธอมีโอกาสได้รับมรดกสืบทอดจากเทพโลหิตซึ่งเป็นเทพที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลโลหิต ดังนั้นเธอจึงไม่กลัวคำท้าทายของฉิงเฟิง
“
หนึ่งดรรชนีแยกสรรพสิ่ง !
“
ฉิงเฟิงใช้ดรรชนีแรกของวิชาดรรชนีผู้พิชิตออกมา
นิ้วชี้ขวาของเขายิงแสงสีเขียวออกมาในทันทีทันใดมันฉีกผ่านมิติและบินตรงไปหาคามิลล่า
“
ดรรชนีเทพโลหิต
!
“
ราชินีแวมไพร์ส่งเสียงโหยหวนและเหยียดนิ้วชี้ขวาของเธอออกไปเช่นกันมันยิงแสงสีแดงออกมาและมีความแข็งแกร่งเท่าเทียมกับการโจมตีของฉิงเฟิง
แสงสีแดงพุ่งผ่านอากาศและบินไปยังร่างของอีกฝ่ายด้วยพลังงานมหาศาล
ตูม !
ดรรชนีผู้พิชิตและดรรชนีเทพโลหิตปะทะกันจนเกิดระเบิดขึ้นมันสั่นสะเทือนผืนโลกและฉีกขาดอากาศออกจากกัน
มีหลุมดำเกิดขึ้นที่จุดปะทะและปีศาจมีเขาก็โผล่ออกมาจากหลุมดำนั้น
ปีศาจมีศีรษะเป็นมนุษย์แต่มันดูโหดเหี้ยมและโหดร้ายมันมีขนทั่วตัวและกรงเล็บที่แหลมคมเป็นที่สุด
สีหน้าของคามิลล่าและผู้ฝึกตนจากทวีปเสือล้วนเปลี่ยนไปมันดูเหมือนกับว่าพวกเขาได้เห็นบางสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ
ฉิงเฟิงรู้สึกสับสนว่าทำไมผู้คนรอบๆถึงมีสีหน้าหวาดกลัว
คามิลล่านั้นแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับยอดฝีมือระดับสูงได้เหตุใดใบหน้าของเธอถึงมีร่องรอยแห่งความกลัวปรากฏขึ้น
“ปีศาจ,เขาเป็นปีศาจจากขุมนรก อย่าปล่อยให้เขาออกมาได้ !” ใบหน้าของคามิลล่าแปรเปลี่ยนไปและกล่าวขึ้น
ปีศาจ
!
ใบหน้าของฉิงเฟิงก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากได้ยินสิ่งที่คามิลล่าพูด
เขาเคยได้ยินตำนานของปีศาจมาก่อนพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งในโลกตะวันตก พวกมันมีซาตานเป็นผู้นำ และกองกำลังของพวกมันได้ออกอาละวาดปล้นสะดมไปทั่วโลกตะวันตก แต่พวกมันก็พ่ายแพ้โดยพระเยซูและถูกส่งไปยังขุมนรก
ซาตานได้พัฒนาโลกของมันขึ้นในนรกและเพิ่มจำนวนปีศาจมากขึ้นพวกมันโหดเหี้ยมอำหิตและชื่นชอบในการล้างสังหารเผ่าพันธุ์มนุษย์
ปีศาจในหลุมดำยื่นฝ่ามือออกมาราวกับว่ามันกำลังจะปีนป่ายออกมาจากมิติอื่นมันต้องการที่จะเข้าสู่มิติของโลกใบนี้
ทั้งฉิงเฟิงและคามิลล่าต่างก็หยุดการต่อสู้ทันทีและหันไปมองปีศาจ
ปีศาจแผดเสียงและสยายกรงเล็บสีดำของมันไปยังฉิงเฟิงด้วยด้วยพลังงานมืด
“
ปีศาจนั้นชั่วร้ายอย่างสุดขีดอย่าให้มันสัมผัสถูกตัวเจ้า เร็วเข้า เผามันด้วยเปลวเพลิงของเจ้าซะ
!
“
จักรพรรดิราตรีร่ำร้องออกมาอย่างกังวล
การแสดงออกของฉิงเฟิงเปลี่ยนไปเขารู้ว่าสิ่งที่จักรพรรดิราตรีกล่าวมานั้นถูกต้อง เขาต้องรีบฆ่ามันให้เร็วที่สุดและต้องไม่ให้มันเข้ามาในโลกนี้ได้
“
เปลวเพลิงสีทอง
!
“ ฉิงเฟิงปลดปล่อยเปลวเพลิงสีทองภายในร่างกายของเขาออกมาทันที
มันเป็นกลุ่มก้อนของเปลวไฟสีทองที่มีความร้อนกว่าห้าพันองศามันเผาไหม้อากาศและปล่อยพลังอันทรงพลังออกมา
ชุว!
ฉิงเฟิงโยนเปลวเพลิงลงไปบนแขนของปีศาจมันแผดเผาผิวหนัง กล้ามเนื้อและกระดูกของปีศาจตัวนั้นในทันที
อ้ากกกก
!
ปีศาจกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดถึงแม้ว่าปีศาจอย่างมันจะทรงพลัง แต่ร่างกายของมันไม่อาจทนความร้อนจากเปลวไฟสีทองได้ ทันทีที่มันยื่นมือเข้ามาในมิติของโลกมันก็ถูกเผา
“เจ้ามนุษย์ข้าจดจำใบหน้าของเจ้าไว้แล้ว ครั้งหน้าที่ข้าเข้าสู่มิตินี้ได้ ข้าจะฆ่าเจ้าเป็นคนแรก !” ปีศาจมีเขาจ้องมองไปที่ฉิงเฟิงอย่างโหดเหี้ยมและหายเข้าไปในหลุมดำ
หลุมดำปิดลงและทุกอย่างกลับไปสู่เหตุการณ์ก่อนหน้า
ถึงแม้ว่าปีศาจจะหายไปแต่ฝูงชนก็ตกใจที่ได้เห็นว่าหลี่ฉิงเฟิงเอาชนะปีศาจได้มันเหนือกว่าจินตนาการของพวกเขาทุกคน
“เจ้าครอบครองเปลวเพลิงสีทอง!” ราชินีแวมไพร์คามิลล่ากล่าวด้วยความตกใจ
ในฐานะราชินีแวมไพร์ของเผ่าโลหิตเธอรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเปลวเพลิงสีทอง มันเป็นเปลวไฟที่ส่งผ่านมาจากเซียนทองคำและทรงพลังมากพอที่จะเผาผลาญทุกสิ่ง
เผ่าโลหิตหวาดกลัวดวงอาทิตย์และเปลวไฟของมันมากที่สุดโดยเฉพาะเหล่าแวมไพร์ที่อ่อนแอ ทันทีที่พวกมันเห็นดวงอาทิตย์ พวกมันจะเผยร่างเดิมออกมาและบางครั้งก็อาจถึงตายได้
มีเพียงแวมไพร์ที่ทรงพลังอย่างราชินีแวมไพร์คามิลล่าเท่านั้นที่จะมีชีวิตอยู่ได้ภายใต้การสัมผัสโดยตรงกับแสงจากดวงอาทิตย์
เปลวเพลิงสีทองเป็นไม้ตายลับของฉิงเฟิงเขาไม่ต้องการเปิดเผยมัน แต่ตอนนี้มีหลายคนเห็นเสียแล้ว
“คามิลล่าฉันจะให้โอกาสครั้งสุดท้ายกับเธอ มอบเม็ดยาจิตวิญญาณโลหิตมาซะไม่งั้นฉันจะฆ่าเธอด้วยเปลวเพลิงทองคำ” ฉิงเฟิงแสยะยิ้มและฉวยโอกาสนี้กล่าวคุกคามเธอทันที
การแสดงออกของคามิลล่าเปลี่ยนไปหลังจากที่เธอได้ยินคำขู่ของฉิงเฟิง
นี่เป็นครั้งแรกที่ใบหน้าของเธอแสดงความกลัวออกมาเธอไม่กลัววิชากระบี่และเพลงหมัดของเขา แต่เธอกลัวเปลวเพลิงสีทอง
“เจ้าฝันไปเถอะ! ให้ข้าดูหน่อยว่าเปลวเพลิงสีทองของเจ้าแข็งแกร่งแค่ไหน !”
ราชินีแวมไพร์แสยะยิ้มและใช้หมัดเทพโลหิตชกเข้าใส่ฉิงเฟิง ฉิงเฟิงหัวเราะเยาะแต่ในขณะที่เขากำลังจะตอบโต้เธอด้วยเปลวเพลิงสีทอง คามิลล่ากลับเปลี่ยนท่าและวิ่งหนีไป
ทุกคนโดยรอบต่างงุนงงเมื่อเห็นราชินีแวมไพร์คามิลล่าหนีก่อนหน้านี้เธอยังเชิดหน้าเย่อหยิ่งแต่เสี้ยววินาทีต่อมาเธอกลับหนีไป ความแตกต่างนี้ช่างน่าประหลาดใจนัก…