Monarch of Time - ตอนที่ 65 - สังหาร
นิยาย Monarch of Time
MOT.65 – สังหาร
ชายร่างใหญ่สัมผัสได้ถึงจิตสังหารของชุนหลง
เสียงของเขาเด็ดขาดและไม่มีสิ่งใดที่จะหยุดเขาในการสังหารชายคนนี้ได้
ชุนหลงมองชายตรงหน้าขณะที่พูด
“เตรียมใจซะ”
เขาเองก็หายใจเข้าลึกขณะที่พยายามสงบลมหายใจที่กําลังปั่นป่วน แม้จะมาถึงขั้นนี้แล้วแต่ชุนหลงยังคงไม่เคยฆ่าใครในชีวิตนี้ เขาสังหารสัตว์อสูร แต่สัตว์อสูรนั้นทําตามสัญชาตญาณมิใช่สติปัญญา พวกมันไม่ฆ่าเขา เขาก็ต้องฆ่ามัน
แต่การฆ่าคนนั้นคือคนละเรื่อง
มีมือสังหารอยู่ 2 ประเภท นั่นคือคนที่สังหารอย่างอุกอาจและคนที่สังหารด้วยเป้า หมายและเหตุผลในจิตใจ และถึงที่สุดก็ไม่มีผู้บ่มเพาะหน้าไหนที่รอดพ้นจากวงจรการสังหารไปได้ เพื่อที่จะก้าวหน้า มันจ่าต้องก้าวข้ามบางคนไปด้วย
“ช้ก่อน! เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร?”
“ข้าคือหว่องชั่วแห่งนิกายเหล็กกล้า!”
ชายร่างใหญ่เห็นความสับสนในใจชุนหลงและรีบฉวยโอกาสเอาชีวิตรอด
ถ้าหากหยงคู่ได้ยินนามของเขาก็คงจะตกใจเป็นแน่! แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเขายังติดอยู่ในเขตแดนราชันย์และไม่รู้ตัวด้วยซ้ําว่าเวลารอบตัวกําลังหยุดนิ่ง
ชุนหลงเพียงแค่ส่ายหน้าและกําหมัดขวาจนแน่น กายาราชันย์นิรันดร์มอบพลังให้เขาอย่างมหาศาล ชุนหลงปล่อยหมัดใส่หว่องวตรงไปที่กระหม่อม
“ไม่! เจ้าจะฆ่าข้าไม่ได้”
หว่องชั่วกรีดร้องด้วยความระพรึงกลัวเมื่อเห็นหมัดที่เข้ามา แต่เขาหนีได้ไม่เร็วพอเพราะผลของเขตแดนราชันย์
เมื่อหมัดปะทะเป้าหมาย หัวของหว่องชั่วระเบิดออกเหมือนลูกแตงโม ร่างของเขากระเด็นหมุนที่กลางอากาศ
โลหิตกระจายเต็มมือขวาและชุดของชุนหลง เศษสมองกระจายเต็มพื้น
ชุนหลงมองสิ่งที่เขาทําและเริ่มมือสั่น ภาพและเสียงหว่องฮั่วกรีดร้องก่อนตายนั้นยังคงเล่นในใจของเขา
ชนหลงหายใจช้า ๆ อยู่หลายครั้งและพยายามลืมสิ่งที่เกิดขึ้นและข่มหัวใจที่เต้นระรัวให้สงบลง เสียงเจ้านิลดังขึ้นอีกครั้ง
“เจ้านายอย่าคิดมากเลย การฆ่าคือส่วนหนึ่งของวงจรตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับสัตว์ สัตว์อสูร หรือมนุษย์เองก็ด้วย”
“สัตว์ฆ่าเพื่อเจอตัวรอด ไม่ว่าจะเพื่ออาหารหรือความรู้สึกเป็นภัย”
“สัตว์อสูรสังหารทุกอย่างที่กินได้เพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น พวกมันไม่ได้แตกต่างไปจากมนุษย์ สัตว์ หรือแม้กระทั่งสัตว์อสูรตัวอื่น”
“มนุษย์ก็เช่นเดียวกัน”
“มนุษย์สังหารสัตว์และสัตว์อสูรเพื่ออาหาร ขณะที่ยังฆ่าฟันกันเองด้วยเหตุผลนับไม่ถ้วน ทั้งความขัดแย้งส่วนตัว ทรัพย์สมบัติ และยังมีเหตุผลอีกมากนัก”
“นี่คือชีวิตของผู้บ่มเพาะพลัง ชีวิตที่ต้องก้าวข้ามร่างไร้วิญญาณมากมายเพื่อก้าวต่อไปข้างหน้า
ชุนหลงติดอยู่ในภวังค์คําพูดของเจ้านิล เพราะผลกระทบต่อจิตใจเมื่อสังหารเป็นครั้งแรกมิได้จากไปง่าย ๆ
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยิ่งเขาคิดมากเพียงใด เขาก็ยิ่งรู้ว่าเจ้านิลพูดถูก แม้ดวงวิญญาณของเขาจะเป็นของโลกนี้มาก่อนที่จะแบ่งเป็น 3 เสี้ยว แต่เป็นในเวลานี้เท่านั้น เวลาที่ชุนหลงได้สังหารหว่องฮั่ว มันคือเวลาที่เขาได้เริ่มยอมรับโลกใบนี้อย่างแท้จริง ม่านบังตาในใจเริ่มที่จะสั่นคลอนแล้ว
ชุนหลลงหยุดเขตแดนราชันย์และเสียงกรีดร้องเหมือนกับหมูถูกเชือดก็ดังขึ้น
เสี่ยวหวังกับหยงคู่ที่กําลังจะต่อสู้กันหันมามองต้นเสียงและได้เห็นว่าเสี่ยวลื่นอนนิ่งอยู่บนพื้นและมิอาจขยับตัวได้
“ไม่นะะะะะะะะะะะะะ!”
เสี่ยวหวังรีบวิ่งไปข้างเสี่ยวลี่และพยุงเสี่ยวลี่ที่กําลังร้องด้วยความเจ็บปวด
“เกิดอะไรขึ้น?”
เสี่ยวหวังถามด้วยความร้อนรน แต่เสี่ยวไม่ตอบ เขาตอบไม่ได้ ความเจ็บปวดที่ตันเถียนแตกสลายนั้นทรมานทั้งสภาพจิตใจและร่างกายจนเกินกว่ามนุษย์จะรับไหว
และจากนั้นก็มีเสียงร้องดังขึ้นอีก ครั้งนี้มาจากด้านหลังหยงคู่
หยงคู่หันไปมองศิษย์น้องเชียวเหลียนที่จ้องมองบางอย่างด้วยดวงตาที่นั่งราวกับถูกแช่แข็ง หยงคู่กับศิษย์น้องอีก 2 คนเองก็มองตามสายตานางไปและพบกับร่างไร้หัวในชุดนิกายเหล็กกล้าที่นอนอยู่บนพื้น
หยงคู่หันไปมองรอบ ๆ เพื่อหาชุนหลงด้วยความตกใจ เขาได้เห็นชุนหลงนั่งหลับตาบนผืนหญ้า โลหิตย้อมเสื้อผ้าและมือขวาของเขา
ร่างไร้หัวนั้นเป็นของหัวหน้ากลุ่มศัตรูอย่างเห็นได้ชัด
หยงคู่ไม่ถามอะไรและหันไปมองหญิงสาว 3 คน ราวกับว่าพวกเขาเข้าใจกัน เหล่าหญิงสาวตามหยงคู่ไปล้อมเสี่ยวหวังที่กําลังพยายามทําให้เสี่ยวลีที่กรีดร้องสงบลง
ก่อนที่นี้ หญิงสาวทั้ง 3 ที่เป็นระดับปฐพี่ขั้น 2 ชั้นต้นนั้นไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้แม้แต่น้อย แต่ในเวลานี้ การล้อมเสี่ยวหวังเพียงคนเดียวกับเสี่ยวลี่ที่พิการนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
เสี่ยวหวังมองรอบตัวด้วยความหนักใจ เขาเห็น 4 คนล้อมเขากับพี่ชายอยู่ เขาพูดด้วยโทสะที่พยายามปกปิดความกลัวของตัวเอง
“เจ้าต้องการอะไร? เจ้าทําอะไรกับพี่ข้า?? ถ้าเจ้าไม่ ถ้าเจ้าไม่ตอบ…ขะ…ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด!”
หยงคู่กับหญิงสาวทั้ง 3 กาลังล้อมสองพี่น้องและมองเสี่ยวหวังด้วยความรังเกียจหยงคู่พูด
“แม้แต่ข้าก็เห็นว่าตันเถียนของพี่เจ้าแตกสลาย อย่าบอกนะว่าเจ้ายังไม่รู้
เสี่ยวหวังหน้าซีด เขาตะโกน
“หะ หัหว้นา! ช่วยข้าด้วยยย!”
ขณะที่เขาตะโกน เสี่ยวหวังก็หันไปอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากหวังชั่ว แต่เขาแทบจะสลบเมื่อได้เห็นศพไร้หัวที่อยู่ด้านหลัง