Monarch of Time - ตอนที่ 25 – ฉุกละหุก
ชุนหลงรู้สึกถึงอวัยถายในที่สั่นสะท้านเมื่อเขากระแทกกำแพง เศษกำแพงถล่มลงมา
กระดูกอกของเขาแทบจะยุบลงไปจากหมัด เขากระอักเลือดจากการที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงในร่างกาย เขาต้องใช้พลังทั้งหมดที่มีในการลุกขึ้นมาจากซากกำแพง
ชุนหลงรู้สึกได้ว่าร่างกายภายในกำลังฟื้นฟูตัวอย่างรวดเร็ว แต่พลังปราณของเขาก็ลดลงด้วยความเร็วอันน่าตกใจในเวลาเดียวกัน
ปู้ตู้อวี๋ตกใจ
“เจ้ายังไม่ตายเรอะ?”
เขาถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงความตกตะลึง
พลังของปู้ตู้อวี๋บ่งบอกความเป็นระดับปฐพีขั้น 9 ชั้นต้นได้อย่างชัดเจน การที่ชุนหลงลุกยืนขึ้นมาได้นั้นเป็นเรื่องปาฏิหาริย์มากพออยู่แล้ว
“ฆ่ามัน”
เสียงสั่นดังมาจากด้านหลังปู้ตู้อวี๋
จิ้งเฟยเดินมาจากข้างหลัง ใบหน้าแถบขวาของนางบวมแดงเหมือนกับหมูจากการตบของชุนหลง
“ข้าฆ่ามันในเมืองเมฆาทะยานไม่ได้ บทลงโทษที่ข้าได้รับจะมากเกินกว่าราคาที่ต้องจ่าย”
ปู้ตู้อวี๋พูดด้วยความ ‘เสียใจ’
“ขะ…ข้าจะให้สิ่งที่เจ้าต้องการ ฆ่ามันเลย!”
จิ้งเฟยกัดฟันพูดราวกับอสรพิษ
“เจ้าหนู โทษโชคร้ายของเจ้าเสียเถอะที่ได้มาเจอข้าในวันนี้และมารังแกเฟยเฟยน้อยของข้า”
ในใจชุนหลงเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความรู้สึกไร้พลัง
เขาออกมาจากอาณาจักรชะตาฟ้าเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นจนปกป้องชีวิตตัวเองได้ แต่สุดท้ายเขาก็อยู่ห่างจากความตายเพียงไม่กี่ก้าวตั้งแต่วันแรกในนิกายเมฆาทะยาน
จิตใจของเขาสั่นสะเทือน ทั้งหินสามเหลี่ยมและตำราสีทองเริ่มตอบสนองพร้อมกัน
จู่ ๆ หน้าสีขาวเงินก็ได้ปรากฏในมิติจิตของเขา
หน้านี้เหมือนกับหน้าที่ดูดเขาเข้าไปในตำราสีทอง แต่พลังของมันเหนือกว่าพลังของปู้ตู้อวี๋หลายล้านเท่า
ถ้าหากปู้ตู้อวี๋เป็นมดน้อยที่คลานอยู่บนพื้น หน้ากระดาษสีขาวเงินนี้จะเป็นมังกรเทวะที่ทะยานบนนภา
ชุนหลงรู้สึกได้ทันทีว่าจิตใจของเขาเชื่อมต่อกับหน้าสีขาวเงินนี้และเขามั่นใจว่าถ้าเขาเอามันออกไปจากมิติจิตได้ เขาจะสังหารปู้ตู้อวี๋ได้ในกระบวนท่าเดียว
หินรูปสมเหลี่ยมยังคงส่งเสียงด้านในมิติจิต แรงกดดันจากมันเริ่มเหนือกว่าตำราสีทองและหน้าสีขาวเงินที่เพิ่งปรากฏ
ปู้ตู้อวี๋เดินเข้ามาหาชุนหลงอย่างช้า ๆ เขาพยายามจะทรมานชุนหลงด้วยความสะใจ สิ่งที่ปู้ตู้อวี๋อยากจะเห็นมากที่สุดก็คือสีหน้าสิ้นหวังของชุนหลงก่อนตาย
ชุนหลงรู้ว่าปู้ตู้อวี๋จะทำอะไร เขาคิดในใจ
‘ไอ้แก่หน้าด้าน อยากจะให้ข้าสิ้นหวังก่อนจบชีวิตข้า ก็ได้ ถ้าเจ้าอยากเลวร้ายถึงขั้นนั้น ข้าจะให้เจ้าเห็นข้าเล่นสนุกกับเจ้าจนตาย ต่อให้ข้าต้องหนีออกจากนิกายเมฆาทะยาน ข้าก็นั่งรอคอยความตายแบบนี้ไม่ได้’
ชุนหลงแสร้งทำสีหน้าหวาดกลัวเมื่อปู้ตู้อวี๋เข้ามาใกล้ขึ้นในทุกขณะ
หากปู้ตู้อวี๋เข้ามาใกล้พอเมื่อใด ชุนหลงมั่นใจว่าเขาจะผ่าครึ่งปู้ตู้อวี๋ได้ด้วยแผ่นหน้าสีขาวเงินได้แม้ว่าเขาจะเป็นระดับปฐพีขั้น 9 ก็ตาม
“เกิดอะไรขึ้น?”
ชายชราเครายาวสีขาวได้เดินผ่านประตูสำนักปรุงยาเข้ามา เขาถามด้วยความไม่พอใจ
ชายชราผู้สีสวมชุดสีเงินและมีตราสีเงินที่มีรูปหม้อหลอมโอสถติดหน้าอกและ 1 ดาวสลักอยู่ด้วย
ปู้ตู้อวี่หน้าถอดสี เขาเดินไปหาชายชราด้วยความนับถือ
“ใต้เท้าหลี่ ช่างน่ายินดี…”
“หยุดเลียรองเท้าข้าได้แล้วปู้ตู้อวี๋ ข้าถามว่าเกิดอะไรขึ้น”
ปู้ตู้อวี๋ใบหน้าบิดเบี้ยวแต่สีหน้าเขาไม่ได้เปลี่ยนไป สายตาเขาเย็นชาจากภายใน แต่เขาก็ต้องข่มความรู้สึกและตอบ
“ใต้เท้าหลี่ ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้าเด็กนี่ มันเข้ามาขัดขวางความสงบในสำนักปรุงยา ข้าจึงขอให้เขาออกไปแต่เขาปฏิเสธ ข้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากสั่งสอน หวังว่าท่านจะอภัยให้ข้า”
ชายแก่มองรอบ ๆ เขามองไปยังหญิงสาวต้อนรับ เขาเดินไปถามนางว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยสีหน้าแข็งกร้าว
ปู้ตู้อวี๋พยายามมองขู่นาง แต่ทันทีที่ใต้เท้าหลี่หันไปมองเขา เขาก็รู้สึกถึงหัวใจที่เยือกเย็นในทันที
‘บัดซบ ถ้านังนั่น ไม่หุบปาก ข้าจะต้องมีปัญหาแน่’
นางไม่กล้าโกหกต่อหน้าใต้เท้าหลี่ เพราะมีคนอีกมากที่เห็นเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ถ้าหากใครก็ตามเข้ามาบอกความจริง แม้แต่ชีวิตนางก็อาจจะตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน
เมื่อ ‘ใต้เท้าหลี่’ ได้ฟังจากเรื่องราวทั้งหมด เขาหันไปมองปู้ตู้อวี๋และจิ้งเฟยด้วยความคุกคาม
“เจ้ากล้าดียังไงมาโกหกต่อหน้าข้า? ไอ้พวกปฏิกูลจองหอง พวกเจ้าสมควรตาย!”
ปู้ตู้อวี๋รีบพุ่งไปที่คนต้อนรับแต่ก่อนที่ฝ่ามือเขาจะถึงตัวนาง ปู้ตู้อวี๋ก็รู้สึกหนักอึ้งที่เอว เท้าของใต้เท้าหลี่ซัดเขาจากด้านข้าง ร่างกายอ้วนฉุของปู้ตู้อวี๋กระเด็นลอยออกไปจนกำแพงหนาพัง
‘ใต้เท้าหลี่’ ไม่แม้แต่หันไปมองปู้ตู้อวี๋ที่หลับตาสนิทและร่างชักกระตุก ชุดขาวของเขากลายเป็นสีเทาจากฝุ่นผง ใต้เท้าหลี่หันไปมองจิ้งเฟยที่ตัวสั่นในทันทีที่ได้ยินคำพูดของใต้เท้าหลี่
“ข้าจะจัดการเจ้าทีหลัง”
จากนั้น ใต้เท้าหลี่หันมามองชุนหลงและพูดด้วยความเย็นชา
“ส่วนเจ้า แม้เจ้าจะเป็นเหยื่อที่นี่ เจ้าก็โหดร้ายเกินไป ปากเจ้าเต็มไปด้วยพิษร้าย เจ้าสาปส่งคนของสำนักปรุงยา แม้ข้าจะไม่ขอค่าชดเชยเรื่องกำแพงหรือปัญหาที่เจ้าก่อ แต่ข้าขอห้ามเจ้าไม่ให้เข้ามาในสำนักปรุงยาเมืองเมฆาทะยานอีกต่อไป”
ชุนหลงสายตาเย็นยะเยือกเมื่อมองชายชราน่าขยะแขยงที่กำลังจะปิดบังความผิดของฝ่ายตนแม้จะในเวลาเช่นนี้
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
ในตอนนั้นเอง เสียงหัวเราะสดใสได้ดังมาจากมุมห้อง ทุกคนหันไปมอง