Monarch of Time - ตอนที่ 20 – ความลับอันน่าตกใจ
“พวกเจ้า ขึ้นมา”
ผู้เฒ่าลู่พูด แม้เหล่าหนุ่มสาวจะกลัวในการนั่งบนสัตว์ตัวใหญ่ ในที่สุดพวกเขาก็ปีนขึ้นไปนั่งบนตัวมัน
เมื่อทุกคนขี่หลังมันแล้ว ผู้เฒ่าลู่จึงลูบหัววิหคพร้อมกับพูด
“ไปกันเถอะ”
วิหคเบิกตาโพลง แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวกระแทกใส่คนในวังหลวงของอาณาจักรชะตาฟ้า
วิหคกางปีกยักษ์ที่ระยะปีกมากกว่า 147 ศอกและกระพือมัน สายลมรุนแรงปะทะกับพื้นและพัดพาทุกคนในระยะที่กล้ายืนอยู่ด้านล่างของมันจนปลิว
ผู้เฒ่าลู่บนหัววิหคขณะที่อธิบายเรื่องราวให้ว่าที่ศิษย์นิกายฟัง
“แร้งปีกแดง สัตว์อสูรระดับ 3 มันสามารถต่อสู้กับยอดฝีมือระดับสวรรค์ได้ พลังของมันน่ากลัวโดยแท้”
คนที่นั่งบนแร้งตกใจ สัตว์อสูรระดับ 3 รึ? ไม่มีใครเคยเห็นในอาณาจักรชะตาฟ้ามาก่อน ต่อให้มี มันก็อาจจะอยู่ลึกในที่ไหนสักแห่งของป่าคราม แต่ไม่มีใครเคยได้เห็นหรือมีชีวิตที่จะบอกเล่าเรื่องราวของมัน
แร้งไม่ได้บินในทางตรงแต่บินขึ้นสูงไปเรื่อย ๆ พวกเขาไม่เคยบินขึ้นสูงขนาดนี้มาก่อนในชีวิต และหลายคนเริ่มรู้สึกขาสั่น
ผู้เฒ่าลู่มองเหล่าหนุ่มสาว
“พวกเจ้านับว่าเป็นศิษย์นอกของนิกายเมฆาทะยานของข้าแล้ว ข้าคิดว่าจะได้บอกเจ้าในหลายอย่าง อย่างแรก นี่จะเป็นครั้งแรกที่พวกเจ้าได้เข้าสู่โลกการบ่มเพาะที่แท้จริง”
“มองไปที่ข้างล่างของพวกเจ้า”
แร้งบินขึ้นสูงจนทุกคนที่นั่งบนหลังแร้งได้เห็นภาพด้านล่างเป็นมุมโค้ง
เมื่อทุกคนก้มลง พวกเขาก็เห็นว่าจากความสูงนี้ พวกเขามองไม่เห็นจุดของอาณาจักรชะตาฟ้าอีกต่อไป
ผู้เฒ่าลู่กล่าว
“เห็นหรือไม่? มีอาณาจักรมากกว่า 170 แห่งข้างล่างนั่น แต่พวกเจ้ารู้จักเพียงแค่อาณาจักรของคนธรรมดา”
จำนวนอาณาจักรทำให้ทุกคนจากอาณาจักรชะตาฟ้าตกตะลึง อาณาจักรของพวกเขาใหญ่อยู่แล้ว และพวกเขากำลังบอกว่ามีอีก 170 อาณาจักรที่เทียบได้กับอาณาจักรชะตาฟ้าหรือ? ในใจพวกเขามิอาจยอมรับความจริงอันน่าตกใจนี้ได้ง่าย ๆ
“ท่านผู้เฒ่า ที่พูดว่าอาณาจักรของคนธรรมดานั้นหมายความว่าอย่างไรหรือ?”
เด็กสาวตัวเตี้ยที่มีใบหน้าเด็กและมัดผมถามเขา
ผู้เฒ่าลู่ตอบ
“หมายความว่าอาณาจักรของพวกเจ้านั้นคือสถานที่ของคนธรรมดาที่ไม่แม้แต่เข้าสู่หนทางของการบ่มเพาะพลัง ทั้งทวีปที่เจ้าคิดว่าอาณาจักรเจ้าเป็น แท้จริงเป็นเพียงแค่เกาะมนุษย์เล็ก ๆ ใบสายตานิกายเมฆาทะยานของข้าเท่านั้น”
–
พวกเขาตกใจมาก่อนเมื่อได้รู้ว่ายังมีอีก 170 อาณาจักรในทวีปนี้ และครั้งนี้พวกเขาพูดไม่ออก
แม้กระทั่งชุนหลงก็ตกใจ ในใจของเขามิอาจประเมินความยิ่งใหญ่ของนิกายเมฆาทะยานได้
ผู้เฒ่าลู่พูดต่อด้วยน้ำเสียงเวทนา
“ข้าถึงได้บอกว่านี่คือโอกาสเดียวที่พวกเจ้าจะได้เข้าสู่โลกการบ่มเพาะที่แท้จริง”
“นิกายเมฆาทะยานของข้าได้ดูแลเกาะแห่งนี้และในทุกสามปีเราจะลงมาหาคนมีพรสวรรค์ในทุกอาณาจักรเพื่อเป็นศิษย์นอกนิกาย”
“ท่านผู้เฒ่า ที่ท่านพูดว่า ‘ลงมา’ ทุก 3 ปีหมายความว่าอย่างไรหรือ?”
ชายหนุ่มผมสั้นถามอีกครั้ง
ผู้เฒ่าลู่ตอบกลับด้วยคำถาม
“เจ้าเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมถึงมียอดฝีมือระดับสวรรค์น้อยนักในเกาะนี้? แม้กระทั่งอาณาจักรชะตาฟ้าของพวกเจ้าก็ไม่มียอดฝีมือระดับสวรรค์สักคนเดียว”
ไม่เพียงแต่ชายหนุ่มผมสั้น คนอื่น ๆ ก็ไม่รู้คำตอบนี้
ผู้เฒ่าลู่เห็นว่าเป็นไปตามที่คิด เขาจึงพูดต่อ
“ยอดฝีมือระดับสวรรค์บินได้ และยังดูดซับพลังปราณในอากาศรอบตัวเมื่อบ่มเพาะได้ ยอดฝีมือระดับปฐพีดูดซับปราณจากผืนดินในระยะรอบตัวเมื่อบ่มเพาะ ส่วนผู้บ่มเพาะในระดับรวมปราณดูดซับปราณที่สัมผัสกับผิวกายโดยตรงเพียงเท่านั้น มิอาจหาปราณที่ล่องลอยอยู่หรือปราณบนผืนดินเหมือนกับยอดฝีมือระดับสวรรค์หรือปฐพี”
“เมื่อยอดฝีมือบนเกาะเจ้าถึงระดับสวรรค์ พวกเขาจะได้เห็นม่านพลังที่อยู่สูงขึ้นมา ม่านพลังนั้นจะเป็นเส้นแบ่งระหว่างโลกมนุษย์กับโลกผู้บ่มเพาะ นอกจากเกาะเจ้าแล้วยังมีอีกหลายเกาะในทะเล หลายเกาะเหล่านั้นก็เป็นของนิกายที่เข้มแข็งเหมือนกับนิกายเมฆาทะยานของข้า”
“เมื่อผู้บ่มเพาะจากเกาะใดก็ตามมีพลังระดับสวรรค์และบินสูงพอบนท้องฟ้า พวกเขาจะใช้พลังบินผ่านม่านพลังเพื่อเข้าสู่โลกของผู้บ่มเพาะที่มีนิกายเมฆาทะยานและนิกายอื่นอยู่”
ชุนหลงอึ้ง
เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะได้รู้ความลับอย่างรวดเร็วหลังออกมาจากอาณาจักรชะตาฟ้า
เขารู้แล้วว่าเหตุใดองค์ชายถึงต้องนอบน้อมต่อคนจากนิกายเมฆาทะยาน
ในขณะเดียวกันชุนหลงยังดีใจที่เขาเลือกออกจากอาณาจักรชะตาฟ้าเพื่อเข้าสู่นิกายเมฆาทะยาน
ชุนหลงสาบานว่าจะแข็งแกร่งมากพอที่จะปกป้องชีวิตตัวเอง จะไม่ยอมให้ใครอื่นบงการเขา แต่ถ้าหากเขาเลือกอยู่ในอาณาจักรชะตาฟ้า นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยให้นิกายเมฆาทะยานเป็นเจ้าเหนือหัวเขาหรอกหรือ? ถ้าหากนิกายเมฆาทะยานควบคุมองค์ชายได้ นิกายก็ต้องควบคุมคนอื่นในอาณาจักรได้ด้วย
แร้งปีกแดงมาถึงสถานที่ที่มีม่านพลังอยู่บนฟ้า
เขาหยุดตรงหน้าม่านพลัง ผู้เฒ่าลู่เตือนทุกคน
“เตรียมตัวซะ!”
ชุนหลงจับขนแร้งเอาไว้แน่น เขารู้สึกได้ว่ามันกำลังรวมพลังอยู่
จากนั้นปีกของแร้งปีกแดงก็เปล่งแสงจ้าเป็นสีแดง มันระเบิดความเร็วอันน่าตกตะลึงและทะลวงผ่านม่านพลังไป