Monarch of Time - ตอนที่ 9 – บ่มเพาะอย่างก้าวกระโดด
ชุนหลงนั่งทำสมาธิบนเตียง ในทันทีที่คิดถึงหินรูปสามเหลี่ยม สิ่งที่เห็นในความคิดก็กลายเป็นหินที่ลอยอยู่พร้อทกับตำราสีทอง
ชุนหลงแปลกใจ เขาไม่รู้ว่าตำราสีทองปรากฏถัดจากหินได้อย่างไร จากนั้นเขาจึงนึกถึงเสียงที่เขารู้สึกภายในสมองจากก่อนหน้านี้ จากนั้นเขารู้สึกว่าดวงวิญญาณของเขากำลังจำกัดโซ่ตรวนที่เหนี่ยวรั้งเขามาโดยตลอด
ชุนหลงเพ่งความสนใจไปที่ตำราสีทอง แต่ไม่มีการตอบสนองใดเลย
หลังจากพยายามอยู่ไม่นาน เขาก็มองกลับไปที่หินสามเหลี่ยม
ในทันทีที่คิดถึงมัน หินได้ดูดความนึกคิดของเขาและชุนหลงรู้สึกว่าร่างได้ไปปรากฏตัวในที่โล่ง
“เจ้าจะมีความลับมากมายเท่าใดกัน”
ชุนหลงพูดเมื่อคิดว่าหินสามเหลี่ยมนั้นมีพลังวิเศษที่มากมายทั้งยังมี ‘นาฬิกาทรายราชันย์’ และ ‘ตำราสีทอง’
ชุนหลงคิดถึงวิชา ‘นาฬิกาทรายราชันย์’ จากนั้นได้เกิดนาฬิกาทรายที่ใกล้ตัวเขา
เมื่อชุนหลงทำตามวิชาลมปราณของ ‘นาฬิกาทรายราชันย์’ เส้นปราณอขงเขาเริ่มดูดซับปราณที่มาสัมผัสกับร่างกาย
นี่คือการที่ผู้คนในระดับการบ่มเพาะหมุนเวียนลมปราณในร่างกาย พวกเขาดูดซับปราณในอากาศที่สัมผัสกับร่างกายโดยตรงผ่านเส้นปราณ จากนั้นจึงใช้มันกับวิชาบ่มเพาะและเปลี่ยนปราณนั้นเป็นพลังของตัวเอง
ชุนหลงทำตามหลักการข้อนี้ แต่เขาได้ชี้นำพลังที่เขาดูดซับทั้งหมดไปที่มือขวา มันค่อย ๆ สร้างบอลพลังปราณที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อชุนหลงรู้สึกว่าบอลพลังมาถึงจุดสูงสุดแล้วและดูดซับพลังไม่ได้อีก เขาจึงหยุดและยกมันขึ้นกลางอากาศ เขาผลักมันไปที่เหนือศีรษะ
จินตนาการว่าอยู่ในใต้นาฬิกาทรายและสร้างบอลลูกใหญ่ในมือ จากนั้นจึงผลักมันไปที่รูด้านบนศีรษะระหว่างส่วนบนและส่วนล่างของนาฬิกาทรายที่ทรายไหลลง
นาฬิกาทรายนี้ไร้ซึ่งทราย มีเพียงบอลที่ใหญ่เกินกว่าจะเข้าไปในรูเล็ก แต่ชุนหลงดันมันและดันมันจนพลังบีบอัดตัวเองบนผ่านรูไปถึงส่วนบนของนาฬิกาทรายได้ มันหยุดนิ่งอยู่ในส่วนบนของนาฬิกาทรายราวกับว่าลอยอยู่เหนือศีรษะของชุนหลง
ในทันทีที่บอลผ่านรูไป ชุนหลงรู้สึกว่าพลังทั้งหมดในบอลได้ไหลผ่านร่างกายของเขาและกลายเป็นของเขาแล้ว ชุนหลงไม่หยุดและทำขั้นตอนเดิมซ้ำอีก 2 ครั้งจนได้เกิดเสียงระเบิดดังจากในร่างกาย
ชุนหลงเหงื่อแตกแต่ก็มีความสุขมากที่เขาได้มาถึงระดับรวมปราณขั้น 1
เขาไม่หยุดและทำแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งผ่านไป 5 ชั่วโมง เขาได้มาถึงจุดสูงสุดของระดับรวมปราณขั้น 2
เพียงอีกนิดเดียวเขาจะเป็นขั้นสามตอนต้น แต่ชุนหลงรู้สึกว่าในทุกครั้งที่เขาทำซ้ำในขั้นตอนเดิม บอลจะยิ่งเกิดแรงกดดันจากบอลลูกก่อนหน้าที่ได้ขึ้นไปด้านบนแล้ว ซึ่งการผลักบอลไปที่บนนาฬิกาทรายนั้นจะยากขึ้นในทุกครั้ง
สุดท้ายชุนหลงก็ได้หยุดในวันนี้
เขานึกภาพตัวเองที่อยู่นอกหินสามเหลี่ยมและพบว่าตัวเองได้กลับมาในห้อง
ร่างกายอันเหนื่อยล้าของเขาได้พักผ่อนหลังจากผ่านวันอันเหน็ดเหนื่อย
เมื่อตื่นขึ้นมา มันก็เลยบ่ายไปแล้ว
ชุนหลงเข้าไปรับประทานอาหารในห้องอาหารก่อนจะไปเจอผู้เป็นพ่อ
ที่ชุนหลงตกใจคือชุนฟางไม่รู้ว่าเขาอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับรวมปราณขั้น 2 แล้ว และชุนฟางพาเขาไปยังห้องตำราส่วนตัวที่เขาจะได้เลือกวิชาบ่มเพาะได้
ชุนหลงคิดว่าตราบเท่าที่เขาไม่เปิดเผยพลังบ่มเพาะของตัวเอง คนอื่นจะรับรู้ขอบเขตพลังของเขาได้ยาก
ชุนหลงไม่ต้องการวิชาบ่มเพาะอื่นเพราะเขามีวิชา ‘นาฬิกาทรายราชันย์’ อยู่แล้ว แต่เขาจะต้องเลือกอยู่ดีเพราะเขาบอกชุนฟางเรื่อง ‘นาฬิกาทรายราชันย์’ ไม่ได้ มิเช่นนั้นเขาจะไม่มีทางอธิบายวิธีที่เขาได้มันไม่ไม่ได้เลย และสุดท้ายแล้วเขาจึงเลือกวิชาที่เรียกว่า ‘วิชาแรงโน้มถ่วงบดขยี้’
ชุนหลงกลับไปยังห้องของตัวเองและเข้าสู่มิติวิญญาณ เขาเข้าใจแล้วว่าพื้นที่ที่หินสามเหลี่ยมดูดตัวเขาเข้าไปคือมิติวิญญาณที่หินสร้างขึ้นมาในตอนที่หลอมรวมกับเขา
ชุนหลงรู้สึกว่าพลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในตลอดเวลาที่เขาเพิ่มพลังจากเมื่อคืน
เขานั่งลงบนเตียงอีกครั้งและบ่มเพาะพลังต่อไป…
5 วันผ่านไปในพริบตาเดียว และชุนหลงนั้นยังห่างไกลจากระดับรวมปราณขั้น 5 เพียงก้าวเดียว
ชุนฟางคงตกใจจนตายถ้าหากได้รู้ความเร็วในความก้าวหน้าของชุนหลง
ผู้บ่มเพาะระดับรวมปราณทั่วไปจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือนในการถึงขั้น 4 ชั้นต้น และชุนหลงได้กลายเป็นขั้น 4 ชั้นสูงสุดในเวลาเพียง 5 วัน
ผ่านไปอีก 7 วันและชุนหลงก็มาถึงระดับรวมปราณขั้น 6 ชั้นสูง
คนอื่นต้องใช้เวลา 7-8 เดือนในการมาถึงจุดสูงสุดของขั้น 6 และชุนหลงได้พลังระดับนี้มาในเวลาเพียง 12 วัน…มันคือความก้าวหน้าระดับสัตว์ประหลาด
สุดท้าย แรงกดดันที่เขาสัมผัสจากลูกบอลพลังปราณลูกที่ 55 ก็มากเกินไป เขาจึงล้มเหลวในการเป็นขั้น 7
ชุนหลงรู้ว่าเขามิอาจควบคุมพลังทั้งหมดของตัวเอง
เขาต้องใช้ร่างกายให้มากกว่านี้ การบ่มเพาะพลังในห้องนอนเพียงอย่างเดียวนั้นยังไม่พอ
ผ่านมาแล้วครึ่งเดือนหลังจากการลอบสังหารชุนหลงที่ใกล้ป่าคราม และชุนหลงก็ยังไม่ได้ออกจากห้องตั้งแต่ที่เขาได้วิชาบ่มเพาะมาจากชุนฟาง
ข้ารับใช้จะมาวางอาหารให้เขาหน้าประตูทุกวัน และถึงกับมีข่าวลือในตำหนักว่านายน้อยของพวกเขามีสภาพจิตใจที่บอบช้ำอย่างรุนแรงและกลัวการออกจากห้องหลังจากกลับมาด้วยสภาพที่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง
ชุนฟางและชุนอันไม่ได้คิดจะหยุดข่าวลือของข้ารับใช้เพราะมันคือเครื่องมือปิดบังเรื่องราวของชุนหลงที่กำลังบ่มเพาะพลังได้เป็นอย่างดี และมันยังเป็นการบ่มเพาะพลังอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อชดเชยกับเวลาที่เขาบ่มเพาะพลังไม่ได้ในอดีตอีกด้วย
จนกระทั่งผ่านไป 13 วัน ชุนหลงได้ออกจากห้องและหาองครักษ์เพื่อประลองกับเขา เพื่อที่เขาจะได้เข้าใจพลังในปัจจุบันของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องการก่อนจะไปยังระดับรวมปราณขั้น 7
ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าหากชุนหลงไม่มาถึงจุดที่เขาติดขัดในการบ่มเพาะพลัง เขาคงจะบ่มเพาะพลังในห้องจนกระทั่งถึงระดับปฐพีหรือไม่ก็สูงกว่านั้น แต่เวลานี้เขาได้รู้แล้วว่าสิ่งที่เขาต้องการก็คือการปรับพลังใหม่หลังจากการบ่มเพาะพลังอย่างรวดเร็วก่อนที่จะก้าวหน้าไปกว่าเดิม
ก่อนที่ชุนหลงจะหาคู่ประลองได้ ได้มีสาวใช้ของแม่คนหนึ่งมาบอกเขาว่าตระกูลหลินได้มาเยี่ยมและชุนฟางก็เรียกเขาไปที่โถงหลักด้วย
ชุนหลงเดินไปยังโถงหลักขณะที่พยายามนึกถึงความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับตระกูลหลิน
จากนั้นก่อนที่เขาจะถึงประตูโถงหลัก เขาก็หยุดเดินและพูดเบา ๆ กับตัวเอง
“โอ้…นี่ข้ามีคู่หมั้นรึ? น่าสนุกนี่”
เขาพูดและผลักประตูเข้าไปข้างใน