Mezase Gouka Kyakusen!! (เรือสำราญ ณ ต่างโลก) - ตอนที่ 25 พ่อค้าและการปล้น
“เราควรหาอะไรมาคลุมมัน…”
“ใช่ เห็นด้วย พวกเราประมาทกันเกินไป”
พวกเรากลับมาถึงท่าเรือพร้อมกับความวุ่นวาย
เราทำได้ เรากลับมาพร้อมกับความยิ่งใหญ่ 5555…
ว๊าก…นี่ผมทำอะไรลงไป ผมมองข้ามเรื่องง่ายๆ อย่างนี้ไปได้ยังไง
ผมสาปแช่งให้กับความโง่เขลาของตัวเองอยู่ในใจ
ผมไม่อยากจะเป็นจุดสนใจแท้ๆ แต่กับเจ้าสิ่งนี้…
“เราจะทำยังไงกันดีครับ อลิเซียซัง?”
ผมถามอลิเซีย และพยายามไม่มองไปที่ฝูงชนที่กำลังมองมาอยู่…
“ฉันไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะวุ่นวายมากขนาดนี้”
“แต่ฉันว่า…อีกหน่อยเจ้าหน้าที่จากกิลด์การค้าก็น่าจะมาถึงกันแล้ว”
“ดังนั้นเราน่าจะพอขอให้พวกเขาช่วยจัดการกับคนเหล่านี้ได้”
“เข้าใจแล้วครับ โอ้ นั่นใช่พวกเขาหรือเปล่าน่ะ?”
ชายคนหนึ่งในชุดยูนิฟอร์มของกิลด์การค้ากำลังวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาพวกเรา
ผมเห็นหน้าตาที่ดูสับสนของเขา…ขอโทษด้วยนะครับคุณพนักงานกิลด์
“ใช่แล้ว เรามาขอให้เขาจัดการเรื่องนี้ให้กับพวกเรากันดีกว่า”
หลังจากนั้นไม่นาน กิลด์มาสเตอร์และคามิลล์ซัง ก็เดินทางมาถึงพร้อมกับรถเข็น
“ทำไมกิลด์มาสเตอร์ด์ถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะครับ?”
“อ่อ เขาชอบอะไรแบบนี้น่ะ ดังนั้นเขาไม่มีทางพลาดเหตุการณ์แบบนี้หรอก”
ดอโรธีซังกระซิบบอกผม อ่อ…เขาชอบอะไรแบบนี้งั้นเหรอ?
“โอ้ นี่มันเป็นสายพันธุ์ย่อยของเสือเขี้ยวดาบแน่นอน เก่งมากทุกคน”
“ยินดีต้อนรับกลับนะคะ วาตารุซัง แล้วก็ทุกคนจากจิราโซเล่ ฉันดีใจที่พวกคุณปลอดภัย”
“ขอโทษครับ คามิลล์ซัง ที่พวกเราทำให้เกิดความวุ่นวายแบบนี้”
“ฮ่าฮ่า… ก็ไม่เป็นไรค่ะ”
คามิลล์ซังยิ้มออกมาแต่…ดวงตาของเธอมัน…
ผมขอโทษสำหรับทุกความยุ่งยากที่กำลังจะเกิดนะครับ
“ท่าทางแบบนั้นมันอะไรกัน….?”
“นี่เป็นเสือเขี้ยวดาบที่สวยที่สุดที่ฉันเคยเห็นมาเลยนะ…”
“แบบนี้ต้องทำให้ท่านเคาน์พอใจมากแน่ๆ”
กิลด์มาสเตอร์พูดออกมาด้วยสีหน้าและท่าทางที่มีความสุข
นี่ เขาลืมสถานการณ์ของผมไปแล้วเหรอ?
“พวกเรากำลังพูดถึงเรื่องของวาตารุซังอยู่ แบบนี้มันเด่นมากเลยนะคะกิลด์มาสเตอร์”
“อ๊ะ…จริงด้วย เอิ่ม…โชคดีนะ”
“เอาล่ะๆ ตอนนี้พวกเรามาช่วยกันขนเสือตัวนี้ไปที่กิลด์การค้ากันดีกว่า”
“วาตารุแล้วก็จิราโซเล่ ตามฉันมาด้วย”
เยี่ยม…ด้วยท่าทางที่กระตือรือร้นและตื่นเต้นสุดๆของกิลด์มาาสเตอร์ตอนนี้
ยิ่งทำให้พวกเราเด่นขึ้นไปอีก ดังนั้นถ้ายังอยู่แบบนี้ต่อไปล่ะก็มีหวัง…
รีบไปที่กิลด์การค้าดีกว่า…
“วาตารุนายสามารถส่งคำขอได้ตอนนี้เลย”
“ไว้เดียวฉันจะเรียกคนคุ้มกันมาให้”
“ส่วนจิราโซเล่ เราจะทำการประเมินสภาพสินค้ากันตอนนี้เลย”
“ดังนั้นช่วยตามไปที่คลังสินค้าด้านหลังด้วย”
“เข้าใจแล้วครับ ถ้างั้นทุกคนจากจิราโซเล่ ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“แล้วก็ขอบคุณที่เหนื่อยยากนะครับ”
“พวกเราก็ขอขอบคุณ เหมือนกันค่ะ วาตารุซัง”
“อ๊ะ…วาตารุซัง คือครั้งนี้เนื่องจากพวกเรากลับจากเกาะเร็ว…”
“ดังนั้นครั้งหน้าถ้าพวกเราอยากกลับไปที่เกาะ เอ่อ…เราอยากขอให้วาตารุซังช่วยรับคำขอของพวกเราหน่อยนะคะ”
“เราจะสามารถนัดกันล่วงหน้าไว้ก่อนได้ไหมคะ?”
คำขอส่วนตัวอย่างงั้นเหรอ?
ผมดีใจที่ได้รับคำขอจากสาวสวยนะ แต่การเข้าใกล้พวกเขามัน…
ผมอาจจะถูกฆ่าจากคนรอบข้างก็ได้ผมน่ะ…
“ได้ครับ แต่ผมมีเรื่องที่ต้องทำนิดหน่อย ดังนั้นขอเป็นอีก 3 วันต่อจากนี้ ได้ไหมครับ?”
“ได้ค่ะ งั้นฉันลงทะเบียนกับกิลด์ไว้เลยนะคะ”
“ครับ”
ผมได้งานถัดไปแล้ว งานนี้ได้รับความนิยมจริงๆสินะ
ผมบอกลาอลิเซียซังกับคนอื่นๆ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เพื่อยืนยันคำขอ
“ฉันยืนยันภารกิจของคุณเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“รางวัลคือ 50 เหรียญเงินต่อคนต่อวัน”
“ดังนั้น สำหรับ 6 คน เป็นเวลา 4 วัน จึงรวมเป็นเงิน 12 เหรียญทอง”
“ผมขอเป็นเงินสด 2 เหรียญทอง และที่เหลือช่วยฝากไว้ในบัญชีของผมด้วยครับ”
12 ล้านเยน ใน 4 วัน นี่เป็นจำนวนเงินที่มหาศาลมากเลยนะ
“รับทราบค่ะ”
อ๊ะ นั่นดิโน่ซังกับเอนริเก่ซังนี่…หลังจากผู้คุ้มกันทั้ง 2 ของผมมาถึง
พวกเราก็ออกจากกิลด์การค้าไป ก่อนอื่นก็เรื่องแพ เราไปหาดอนนิโน่ซังกันเลยดีกว่า
“สวัสดี ดอนนิโน่ซัง”
“โอ้ วาตารุ แพเป็นยังไงบ้าง?”
ดอนนิโน่ซัง ถามเรื่องนั้นขึ้นมาทันทีเมื่อเขาเจอหน้าผม เขาเป็นห่วงเรื่องนี้ด้วย?
“มันสมบูรณ์แบบเลยครับ ผมอยากให้คุณทำแพแบบนั้นอีก 4 ลำให้ผมได้ไหมครับ?”
“แพอีก 4 ลำ? ทำไมถึงต้องการมากขนาดนั้นล่ะ?”
“เอ่อ…ของผมลำนึง กุยโดซัง คาร์โลซัง แล้วก็ดาเนียลซัง อีกคนละลำ ดังนั้นเลยรวมเป็น 4 ลำครับ”
“พอพวกเขาเห็นแพที่ผมเอาไปพวกเขาก็บอกว่าอยากได้ทันที”
“จากนั้นพวกเขาก็ขอให้ผมมาสั่งล่วงหน้าเอาไว้ให้ครับ เพราะพวกเขาต้องการมันให้เร็วที่สุด”
“โอ้ พวกเขาทั้งหมดเป็นคนที่ไปถึงเกาะได้นี่ แสดงว่าพวกเขาคงชอบแพมาเลยสินะ ถึงสั่งให้คุณมาสั่งล่วงหน้าให้แบบนี้”
“ว่าแต่ อีกลำจะเอาไปทำอะไรงั้นเหรอวาตารุ?”
“อ่อ ผมว่าจะเอาไว้ทำที่เก็บของแล้วก็อื่นๆน่ะครับ”
“ผมวางแผนว่าจะกางเต็นท์หลังที่ 2 น่ะครับ ดังนั้นช่วยทำแพแบบเดินให้ผมด้วยนะครับ”
“อ่ะ ผมเอาเชือกกับสมอด้วยนะครับ”
“โอ้ เข้าใจแล้ว ฉันจะเตรียมให้”
“นอกจากนี้ คุณช่วยทำอ่างไม้ขนาดใหญ่ให้หน่อยได้ไหมครับ?”
“ผมต้องการอ่างไม้ที่แข็งแรงๆ”
“ผมอยากได้ที่มันสามารถเก็บน้ำและสามารถให้คนเข้าไปอยู่ข้างในได้”
“นอกจากนี้มันยังต้องรองรับหินร้อนๆ ได้ แล้วก็ช่วยกรุณาทำขอบรอบๆ ขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้สัมผัสกับหินโดยตรงด้วยนะครับ”
“ขนาดก็ 150 x 80 สูงประมาณ 80 ได้ไหมครับ?”
“อ๊ะ แล้วผมก็อยากให้ทำรูสำหรับระบายน้ำด้วย…”
“อ่างอาบน้ำ? รูปแบบของมันดูแปลกๆ นะ แต่ฉันทำได้”
“ฉันคิด 2 เหรียญทองสำหรับแพและอ่างอาบน้ำแล้วกัน”
“ฉันจะทำให้เสร็จภายในตอนเย็นของพรุ่งนี้แล้วกัน”
“ส่วนของพวกนี้ ฉันคิดคิด 20 เหรียญทองแดง”
“นี่ ครับ 2 เหรียญทอง กับอีก 20 เหรียญทองแดง ผมจะตั้งตารอนะครับ”
“โอ้ ไว้ใจฉันได้เลย”
ผมคิดว่าผมใช้เงินมากเกินไปนิด แต่ผมอยากอาบน้ำพร้อมกับชมวิวทะเล
ดังนั้น ผมเลยต้านทานความคิดที่ว่าจะสร้างอ่างอาบน้ำหินร้อนไม่ได้ ยังไงคนญี่ปุ่นก็ต้องอ่างอาบน้ำ…
หลังจากออกจากร้านของดอนนิโน่ซัง เราก็ไปที่ร้านเครื่องมือกันต่อ ที่ๆ เราจะซื้อเต็นท์
“ขอโทษนะครับ ผมต้องการเต็นท์ 2 หลัง แบบไม่ใช่เต็นท์จริงๆ”
“แค่คล้ายๆ น่ะครับ ประมาณเต็นท์แบบที่ไม่มีพื้น”
“ผมต้องการให้มันมีขนาดครึ่งหนึ่งของเต็นท์ที่ผมเคยซื้อไปครั้งที่แล้ว”
“ที่มันสามารถนอนได้สิบคนน่ะครับ นอกจากนี้ ผมคิดว่าน่าจะมีอีกอย่างน้อยสามคน”
“ที่ต้องการจะซื้อเต็นท์ที่ผมซื้อคราวก่อน คุณพอมีในสต็อกไว้ไหมครับ?”
“มี เต็นท์แบบที่ว่า ราคา 9 เหรียญเงิน ส่วนเต็นท์ใหญ่นั้นเรามีของสต๊อกเอาไว้อยู่แล้ว”
“เพราะเต็นท์แบบนี้เป็นที่นิยม ดังนั้นเราจึงมีของในสต็อกอีกเพียบ”
ดูเหมือนกุยโดซังกับคนอื่นๆ จะสามารถหาเต็นท์มาได้อย่างรวดเร็ว
“นอกจากนี้ ผมต้องการโต๊ะไม้ 2 ตัวกับเก้าอี้ 8 ตัวด้วยครับ”
“ของให้ส่งไปที่ท่าเรือ หมายเลข 115 นะครับ ถ้าไม่เป็นไร”
“ได้สิ ว่าแต่ คุณต้องการโต๊ะกับเก้าอี้แบบไหนล่ะ?”
“ประมาณนี้ครับ”
มันต้องเหมาะที่จะใช้งานภายนอก และผมก็ชอบแบบที่มันดูเรียบง่ายมากกว่าแบบที่หรูหรา
“โต๊ะสองตัวราคา 2 เหรียญเงิน เก้าอี้แปดตัวราคา 80 เหรียญทองแดง”
“เราจะรวมค่าขนส่งเข้าไปด้วย ดังนั้นราคารวมเต็นท์จะอยู่ที่ 28 เหรียญเงิน และ 40 เหรียญทองแดง”
“ตกลงครับ นี่ 28 เหรียญเงิน 40 เหรียญทองแดง”
“โอ้ ผมต้องการโคมไฟสามอันนี้ด้วยครับ”
“อันนั้น ราคาอันละ 60 เหรียญทองแดง รวมเป็น 180 เหรียญทองแดง”
“นี่ครับ 2 เหรียญเงิน ช่วยนำโคมไฟส่งให้ด้วยนะครับ”
“ได้เลย”
ดี ผมเดาว่าแค่นี้ก็น่าจะครบแล้ว…
หลังจากขอโทษผู้ติดตามทั้งสองที่ทำให้พวกเขารอนาน ในที่สุด…
ผมก็เดินทางกลับมาถึงที่โรงเตี้ยมนกนางแอ่นหางดำ
“สวัสดีครับ คุณเจ้าของ ผมต้องการห้องพักสามคืนครับ และนี่ครับ 2 เหรียญเงิน”
“รับทราบค่ะ แล้วก็นี่ค่ะเงินทอน 50 เหรียญทองแดง”
ผมรับเงินทอนจากคุณเจ้าของแล้วก็กลับห้องไปพักผ่อน
ผมรู้สึกเหมือนอยู่บ้านอีกครั้ง เมื่อผมอยู่คนเดียวในห้อง
ขณะที่ผมกำลังผ่อนคลาย คุณเจ้าของก็มาแจ้งว่าผทมีแขก
ผมล่ะสงสัยจังว่าแขกเป็นใคร
ผมเดินไปที่ห้องอาหารพร้อมผู้ติดตามทั้ง 2 ของผมและพบพ่อค้าที่ไม่รู้จักคนหนึ่ง รออยู่
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ท่านวาตารุ กระผมมีนามว่าซาโบ เป็นพ่อค้า ดีใจที่ได้พบคุณนะครับ”
“อะ-อืม ผมวาตารุ เรื่องอะไรให้ช่วย?”
ผมนึกไม่ออกว่าเคยไปสั่งซื้ออะไรไว้ ทำไมถึงมีพ่อค้ามาหาผม…
“ครับ กระผมได้ยินมาว่าท่านวาตารุมีเรือเวทมนตร์ที่ยอดเยี่ยมมาก”
“และกระผมมาที่นี่ก็เพื่อยื่นขอให้ท่าน เซ็นสัญญาผูกขาดกับทางเรา…”
อา พวกพ่อค้ารู้เรื่องตัวตนของผม แล้วสินะ
ก็นั้นสินะ…เรื่องที่ท่าเรือมันเด่นจะตาย…
ชิ ยุ่งยากชะมัด
“คงต้องขอปฎิเสธ ผมไม่มีความตั้งใจที่จะเซ็นสัญญากับใครทั้งนั้น”
“คำขอทั้งหมดผมจะรับผ่านกิลด์การค้าเท่านั้น”
“ดังนั้นต้องขออภัยด้วย แต่ผทคงต้องขอให้คุณออกไป”
ยุ่งยากจริง ถึงแม้ว่าผมจะปฏิเสธเขาอย่างตรงไปตรงมาแต่เขาก็ยังไม่ยอมไป
แม้ผมจะขอให้เขาออกไปอยู่หลายครั้ง โดยแต่ล่ะครั้งที่ผมบอกให้เขาออกไป
เขาก็จะพยายามเสนอข้อตกลงใหม่ที่ดีกว่าเดิมหรือไม่เขาก็ยินดีที่จะเพิ่มเงื่อนไขต่างๆ ให้
ในฐานะพ่อค้า อาจจะไม่ดีสำหรับธุรกิจถ้าเขาจะต้องออกไปเมื่อถูกขอให้ทำเช่นนั้น
แต่ถึงอย่างนั้น ผมคิดว่าเขาดูแสดงความดื้อดึงมากเกินไปหรือเปล่า?
หลังจากเหน็ดเหนื่อนมานานในที่สุดผมก็สามารถไล่เขากลับไปจนได้
ผมเหนื่อยมากเลยกับการไล่เขา ผมอยากกลับไปพักที่ห้องแล้ว
แต่ไม่นานหลังจากที่ผมไล่ชายคนนั้นไปได้
ก็มีแขกคนใหม่เข้ามาพบผมแทบจะในทันที
มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเสือเขี้ยวดาบ โว้ว เจ้าเสือนี่ได้รับความนิยมจริงๆ สินะเนี่ย!?
ในทุกกรณี ผมได้ฟังสิ่งที่พวกเขาต้องการจากนั้นผมก็ย้ำไปทุกรายซ้ำๆ
ว่าผมจะไม่เซ็นสัญญา และจะรับงานผ่านกิลด์การค้าเท่านั้น
ผมไม่มีเวลาผ่อนคลายหลังจากอาหารเย็นเลย เพราะมีแขกมาหาผมไม่หยุด
ท้ายที่สุด นี่มันไม่ใช่เรื่องดีที่เป็นจุดสนใจแบบนี้
ผมล่ะรู้สึกทึ่งในความซื่อสัตย์ของตัวเองที่ไม่เห็นว่าเรื่องแบบนี้มันน่าเบื่อ
และคอยตอบคำถามของพวกเขาทุกคนแบบนี้นิ…
แต่ยิ่งผมคิดถึงสถานการณ์ที่ผมเจออยู่นี้มากขึ้นเท่าไหร่
ผมก็ยิ่งรู้สึกผิดและน่าสงสารคามิลล์ซังมากขึ้นเท่านั้น ผมขอโทษนะครับคามิลล์ซัง
วันนี้ผมเหนื่อยมากแล้ว ขอไปนอนเลยดีกว่า พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันอีกที
ถ้าพรุ่งนี้ยังมีเหล่าพ่อค้าบุกเข้ามารบกวนผมอยู่แบบนี้อีกล่ะก็
ผมจะเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาที่กิลด์การค้า…
(โดรา…เอ้ย) “คามิลล์ซางงง ผมมีเรื่องจะปรึกษาครับ”
“ได้สิคะ วาตารุซัง ถ้าอย่างนั้นฉันจะพาคุณไปที่อีกห้องนะคะ”
“ขอบคุณมากครับ”
รอยยิ้มของคามิลล์ซังช่างทำให้รู้สึกโล่งใจดีจริง
ทำไมพ่อค้าพวกนั้นถึงได้บุกเข้ามาไม่หยุดหยอนแบบนั้นนะ
แถมแต่ละคนที่เข้ามาก็ท่าทางโลภมากกันทั้งนั้นเลย!
ถ้าคนอย่างคามิลล์ซังเป็นคนเขามาเจรจาด้วย ผมคงรู้สึกสบายใจกว่านี้เยอะเลย
“วาตารุซัง ที่คุณมาปรึกษานี่เป็นเพราะเหล่าพ่อค้าบุกเข้ามาหาคุณไม่หยุดใช่ไหมคะ?”
อย่างที่คิด คามิลล์ซังดูเหมือนจะดูออกว่าผมต้องการมาปรึกษาเรื่องอะไร
ผมคงเป็นคนโง่ที่คิดว่าความวุ่นวายนี้เกิดขึ้น เพราะทำตัวโดดเด่นเกินไปอยู่คนเดียวสินะ
“ใช่ครับ ถูกต้องเลย ผมพยายามบอกพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้ว”
“ว่าผมจะรับคำขอผ่านกิลด์การค้าเท่านั้น แต่พวกเขาไม่ยอมฟังที่ผมพูดเลย”
“แถมไล่เท่าไหร่ ก็ไม่ยอมไปอีก ตอนนี้ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับ”
“เข้าใจแล้วค่ะ เพราะเรื่องของเสือเขี้ยวดาบเลยทำให้คุณเป็นที่รู้จักค่ะ”
“แต่การไม่คุยกับพวกพ่อค้าเลยก็ใช่ว่าเป็นทางเลือกที่ดีนะคะ”
“คุณอาจจะประสบปัญหาได้ หากพยายามหลีกเลี่ยงพวกเขามากเกินไป”
“ดังนั้นแม้ว่าคุณจะปฏิเสธ แต่ก็ควรจะพบปะกับพวกเขาในระดับหนึ่งด้วยค่ะ”
ผมหวังว่าจะได้รู้วิธีห้ามพวกเขาซักอีก ต้องมาคุยกับพวกพ่อค้าหัวดื้อแบบนี้ตลอดทั้งวัน
มันไม่ใช่อะไรที่ผมชอบเลย แต่ดูเหมือนจะมีอันตรายถ้าผมไม่ทำ
ดังนั้นคงต้องอดทนไปก่อน…
“ผมเข้าใจแล้วครับ ว่ามันอันตรายถ้าผมไม่ไปพบพวกเขาเลย”
“แต่พ่อค้าส่วนใหญ่ที่มาพบผมไม่ค่อยยอมแพ้กันง่ายๆ เขาเอาแต่ตามตื้อผมไม่เลิก”
“และนั่นก็เป็นปัญหาสำหรับผมมาก….”
ถ้าพวกเขาเพียงแค่เขามาพูดคุยสักพักแล้วออกไป ผมก็คงไม่บ่นอะไร
“อ๋อ ก็พวกเขาเป็นพ่อค้านี่คะ”
“พอมีข้อเสนอที่ทำกำไรแน่นอนอยู่ตรงหน้า ยังไงพวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอกค่ะ”
“แต่ถ้าพวกเขายังคงยืนกรานข้อเสนออย่างนั้นต่อไป”
“ก็บอกพวกเขาว่าให้ไปติดต่อกิลด์การค้าได้เลยค่ะ”
“และหลังจากที่พูดคุยกับเหล่าพ่อค้าสักพักแล้ว”
“ฉันคิดว่าคุณควรรับคำขอไปที่เกาะนะคะ นั่นน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับปัญหานี้”
“ฉันว่าไปหลบอยู่ที่นั่นซักพักน่าจะเป็นความคิดที่ดีค่ะ”
การหนีคือทางเลือกที่ดีที่สุด!? อืม ใช่แล้ว ทางนั้นล่ะคือทางที่ปลอดภัยที่สุด
“เข้าใจแล้วครับ ผมจะไปพบกับเหล่าพ่อค้าและจะพยายามพูดคุยกับพวกเขาให้มากที่สุด”
“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ คามิลล์ซัง”
“ยินดีค่ะ แล้วฉันต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้คุณต้องลำบอก”
“ฉันจะจัดให้มีการคุ้มกันวาตารุซังเพิ่มค่ะ(จากในเงามืด)ตอนที่คุณอยู่ในเมือง”
“กิลด์การค้าจะทำให้ดีที่สุดในการจัดการกับการกระทำผิดต่างๆ เองค่ะ”
“ดังนั้นกรุณาอดทนจนกว่าสิ่งต่างๆ จะสงบลงนะคะ”
รู้สึกเหมือนเป็น VIP เลย
“ครับ ขอบคุณมากครับ ผมจะไปที่เกาะในวันมะรืน”
“หวังว่าหลังจากที่ผมกลับมา อะไรหลายๆ อย่างคงสงบลงบ้างแล้วนะครับ ในตอนนั้น”
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เรื่องแบบนี้ จะสงบลงในเวลาแค่ 4 หรือ 5 วัน ค่ะ”
“แต่ตราบใดที่คุณจัดการมันอย่างถูกต้อง มันจะสงบลงแน่นอนค่ะ ดังนั้นกรุณาทำให้ดีที่สุด”
“ครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด”
หลังจากขอบคุณ คามิลล์ซัง ผมก็ยอมแพ้เรื่องพ่อค้าแล้วกลับไปที่โรงเตี้ยม
มันคงจะยากที่คิดว่าจะไม่มีพ่อค้ารอผมอยู่ที่โรงเตี้ยมตอนที่ผมกลับไป
เอาล่ะ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการจัดการพวกเขาดีกว่า ยกเว้นเวลาอาหาร
ผมพูดคุยกับเหล่าพ่อค้าคนแล้วคนเล่า และมีพ่อค้าบางคนพยายามข่มขู่ผมอย่างชัดเจน
ดังนั้นผมจะรายงานเรื่องพวกเขากับกิลด์การค้า
วันก่อนออกเดินทาง ผมไปซื้ออาหารและตรวจสอบแพ และอ่างอาบน้ำ เก้าอี้ และโต๊ะ
ผมจัดการเอาอ่างอาบน้ำลงไปในเรือ แต่ดูเหมือนที่จะไม่พอสำหรับของอื่นๆ
ดังนั้นผมจึงเอาเก้าอี้และโต๊ะไปผูกไว้กับแพ
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ตอนที่ผมกำลังจะกลับไปที่โรงเตี้ยม
จู่ๆ ผมก็ถูกโจมตี …ดิโน่ซังและเอนริเก้ซังทั้งสองคนแข็งแกร่งมากๆ
ดิโน่ซังทำท่าทางประหลาดใจในขณะที่เอนริเก้ซังยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
ในขณะที่เขาจัดการกับผู้โจมตี
ในตอนที่พวกเราสอบสวนคนเหล่านั้นว่าทำไมถึงได้มาโจมตีเรา
ผมก็ได้รู้ว่าเอนริเก้ซังนั้นน่ากลัวมากๆ เขา !@$!@% คนเหล่านั้นโดยไม่มีความลังเล เลย
แถมไม่ลดรอยยิ้มลงเลยแม้แต่น้อยต่อหน้าผู้ชายที่กำลังเจ็บปวดและร้องไห้ครวญคราง
เอนริเก้ซังหักกระดูกพวกเขา ผมรู้ว่าพวกเขาเป็นหมากที่ใช้แล้วทิ้ง
เพราะดูเหมือนพวกเขาจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ
มันแปลกไหมที่ผมรู้สึกเห็นใจโจร ตอนที่เขากำลังถูกซ้อมด้วยรอยยิ้มแบบนี้?
“ขอบคุณมากครับทั้ง 2 คน”
“ว่าแต่เราควรทำอย่างไรกับพวกเขาเหล่านี้ดีครับ?”
“ผมคิดว่ากิลด์การค้าน่าจะได้รับการแจ้งเตือนแล้ว”
“พวกเขาน่าจะมารับตัวคนพวกนี้ไปเร็วๆนี้ล่ะ”
“หลังจากนั้นผมคิดว่าพวกเขาคงจะถูกส่งตัวไปให้ทหารยาม”
“เข้าใจแล้วครับ แต่ในที่สุดผมก็ถูกโจมตีจนได้นะครับ”
“ดิโน่ซัง เอนริเก้ซัง กรุณาดูแลผมต่อไปด้วยนะครับ”
“ครับ”
“ครับ”
หลังจากนั้นก็มีคนจากกิลด์การค้ามา
ดังนั้นผมจึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเขาจากนั้นก็มุ่งหน้าตรงกลับโรงเตี้ยม
ผมรู้สึกกลัวมากตอนที่ผมถูกโจมตี มันเป็นเรื่องดีที่ผมจะออกไปที่เกาะในวันพรุ่งนี้
หวังว่าเรื่องต่างๆ มันจะสงบลงนะระหว่างที่ผมไปอยู่ที่เกาะ
ถึงมันจะเป็นไปไม่ได้ก็เถอะ แค่คิดก็ทำให้รู้สึกเศร้าแล้ว ผมล้มตัวลงนอน
ตอนเช้าผมเตรียมตัวและไปที่ห้องอาหารพร้อมกับคนคุ้มกันทั้งสองคน
ตามที่คาดไว้ ผมรู้สึกหนักๆ ตัวเพราะนอนไม่ค่อยหลับ
ผมกินอาหารเช้าอย่างไม่รีบร้อนและมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือ
“คุณคิดว่าสถานการณ์แบบนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหนครับ?”
“ในกรณีของกีโดซังและคนอื่นๆ ความวุ่นวายสงบลงเมื่อพ่อค้าเข้ามาคุยกับพวกเขา…”
“แต่ในกรณีของวาตารุซัง เนื่องจากเรื่องเสือ เลยทำให้เรื่องประสิทธิภาพของเรือเป็นที่กล่าวถึง”
“ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าเรื่องนี้จะจบลงเมื่อไหร่”
“ดีโน่ซังพูดถูก พ่อค้าจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และนี่มันต้องเป็นเวลาที่ยาวนานแน่”
“จะนานแค่ไหมกันนะ…?”
ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยทำให้เกิดความวุ่นวายขนาดนี้
มันจะไม่คุ้มเลยถ้าผมได้เงินน้อยกว่านี้
ดังนั้นบนเกาะน่าจะปลอดภัยกว่า ดังนั้นผมจะอยู่ที่นั่นให้นานที่สุด
เมื่อผมมาถึงที่ท่าเรือ เซ็นแบบฟอร์มคำร้องให้คนคุ้มกันทั้งสอง
และรออเลิเซียซังกับคนอื่นๆ
โอ้ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะมาถึงแล้ว
“อรุณสวัสดิ์ครับ สมาชิกของจิราโซเล่ทุกคน!”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ วาตารุซัง”
“ขอโทษที่นะครับ พอดีครั้งนี้มีสัมภาระเยอะนิดหน่อย“”
“ฟุฟุ ครั้งนี้ของเยอะกว่าครั้งที่แล้วอีกนะคะ”
“ฉันสงสัยจังว่าเราจะได้ประโยชน์อะไรจากของพวกนี้กันน้า…?”
ประโยชน์…ถ้าอ่างอาบน้ำประสบความสำเร็จล่ะก็
อลิเซียซังกับคนอื่นๆ ก็จะได้อาบน้ำ…หืม?
ผมรู้สึกว่าตัวเองจะเป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์จากการมีอ่างอาบน้ำมากที่สุด
เพราะหลังจากอลิเซียซังกับคนอื่นๆ อาบน้ำเสร็จ…
ผมล่ะอยากให้มันประสบความสำเร็จจริงๆ
“ผมว่ามันเป็นอะไรที่ดีนะครับ แต่ผมไม่รู้ว่าทุกคนจะชอบมันหรือเปล่า”
“แต่ถ้าคุณชอบ ผมคิดว่าคุณน่าจะติดใจมันมากเลยล่ะครับ”
“ฟุฟุ ฉันจะตั้งตารอเลยค่ะ เอาล่ะ เราออกเดินทางกันดีกว่า”
อลิเซียซัง ดูเหมือนคุณจะคาดหวังไว้มากเลยนะครับ แต่การอาบน้ำก็เป็นอะไรที่สมกับที่คุณคาดหวังล่ะนะครับ
หลังจากแยกจากคนคุ้มกันทั้งสอง พวกเราก็เริ่มออกเดินทางกัย
“ซุปไก่ใส่ต้นหอมกับน้ำซุปสาหร่ายอร่อยมากเลยค่ะ วาตารุซัง”
คลอเร็ตต้าซังส่งยิ้มมาให้ผมพร้อมกับรายงานความสำเร็จของซุป
รอยยิ้มนั้นมันช่วยปลอบประโลมจิตใจอันอ่อนล้าของผมได้ดีจริงๆ
“ผมดีใจที่ได้ยินว่ามันออกมาดีครับ ครั้งนี้ผมก็จะตากสาหร่ายทะเลเอาไว้ ดังนั้นถ้าคุณต้องการสามารถมาเอาไปได้เลยนะครับ”
“ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ แต่แบบนั้นมันน่าเสียดายนะคะที่เอามาให้ฉันฟรีๆแบบนั้น ฉันเลยว่าจะจ่ายเงินให้คุณบ้าง…”
หมายถึงการขายสาหร่ายนะเหรอ?
“ผมแค่ดึงสาหร่ายออกมาแล้วตากมันเท่านั้น ดังนั้นผมรับเงินจากคุณไม่ได้หรอกครับ”
“คิดว่าผมทำเพราะเป็นงานอดิเรกแล้วรับไปเถอะครับ จะได้สบายใจกันทั้ง 2 ฝ่าย”
“อืม เข้าใจแล้วค่ะ แต่ฉัน…”
“ถ้าอย่างนั้น ครั้งหน้าที่คลอเร็ตต้าซังทำอาหารค่อยชวนผมไปทานก็แล้วกันครับ”
“ผมว่าแค่นั้นก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ”
“คุณแน่ใจเหรอคะ ว่าแค่นั้นจะพอ?”
“ครับ แค่นั้นก็น่าจะพอแล้วครับ”
อาหารที่ทำโดยสาวสวยนมตู้มสุดนุ่มฟูแสนน่ารักน่ะเหรอ ก็แค่พอ?
ไม่แค่นั้นมันไม่พอหรอก ผมน่ะอยากจะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อมันด้วยซ้ำ สำหรับอาหารมือนี้น่ะ!
หลังจากคุยกันสักพัก เราก็เดินทางมาถึงส่วนที่ยากที่สุดของเกาะ ผมสามารถขับเรือผ่านจุดนั้นมาได้โดยไม่มีปัญหา
จากนั้นก็ส่งทุกคนขึ้นฝั่ง…
“ขอบคุณที่ทำงานหนัก ฉันจะชงชาให้คุณดื่มหนึ่งถ้วย โปรดพักผ่อนสักครู่”
“ขอบคุณที่ทำงานหนักเช่นกัน ฉันจะเอาสัมภาระของเราไปใส่ในเต็นท์ มันช่วยฉันได้มาก เพราะก่อนหน้านี้ เต็นท์ยังเล็กเกินไปที่จะใส่ของที่จำเป็นได้แม้แต่น้อย”
อาเลสเซียซังและคนอื่นๆ ต่างก็ยิ้มแย้มขณะถือสัมภาระของตน ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าเต็นท์จะมีผลข้างเคียงเช่นนี้… ดีแล้วที่มันสะดวกสบายขึ้น ไม่ใช่หรือ?
“ครับ ใช้มันได้เลย”
หากเต็นท์ทำให้ผู้ผจญภัยรู้สึกดี ชีวิตบนเกาะก็ดูจะดีไปด้วย น้ำกำลังเดือด ฉันจึงชงชาใส่กาน้ำ
“ชาพร้อมแล้วทุกคน”
“ขอบคุณนะคะ วาตารุซัง”
“พวกเราน่าจะกลับมาในอีกประมาณ 2 วัน”
“เอ่อ คือ…พอพวกเรากลับมาแล้วพวกเราขอพักที่เต็นท์จะได้มั้ยคะ?”
“ได้สิครับ จะกลับมาพักที่นี่ทุกวันเลยก็ได้ถ้าพวกคุณเหนื่อย”
“พวกคุณสามารถกลับมาพักที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้ครับ”
“และผมไม่รู้ว่าคุณจะชอบมันหรือเปล่า แต่เราจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาอีกมากเพื่อรอต้อนรับพวกคุณ”
“อารา ขอบคุณมากนะคะ ฉันจะตั้งตารอที่จะได้เห็นของใหม่ๆ ค่ะ”
“ฉันจะกลับมาในอีก 2 วันนะคะ แล้วก็ขอบคุณสำหรับชาด้วย พวกเราไปก่อนนะคะ”
“ครับ ดูแลตัวเองด้วยครับ”
ผมยืนส่งอลิเซียซังและคนอื่นๆ ไปที่เกาะแล้วจากนั้นก็ไปตั้งซุปบนเตา
ตอนนี้มาเริ่มทำแพอีกลำกันดีกว่า นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมทำ ดังนั้นครั้งนี้ผมน่าจะทำได้เร็วขึ้น…
ผมประกอบแพลำที่สองและยึดมันไว้ให้ห่างจากแพเต็นท์เล็กน้อย
เยี่ยม ครั้งนี้ทำเวลาได้ดีกว่าครั้งที่แล้วเยอะเลย
ทำให้ยังมีเวลาเหลืออีกมาก ดังนั้นผมน่าจะไปจัดการประกอบแพเต็นท์ที่เหลือให้เสร็จได้
…หลังจากที่ผมกางเต็นท์สองหลังเสร็จไม่นาน พระอาทิตย์ก็ตกดิน
ผมจะเตรียมอ่างอาบน้ำในพรุ่งนี้
ผมกลับมาที่แพเต็นท์ จากนั้นก็วางโต๊ะไว้ที่ช่องว่างด้านหน้าของเต็นท์
เต็นท์นี้มีคนใช้อยู่เยอะ ดังนั้นจึงไม่ควรวางโต๊ะไว้ติดกันจนเกินไปน่าจะดีกว่า
จากนั้นผมก็จัดวางเก้าอี้และวางโคมไฟไว้บนโต๊ะในที่สุดทุกอย่างก็เสร็จสมบูรณ์
ระเบียงเปิดโล่งริมทะเล เก๋ไก๋ใช่ไหมล่ะ แม้ตอนนี้จะมืดเกินกว่าที่จะมองอะไรเห็นก็ตาม
มากินข้าวเย็นแล้วเข้านอนกันดีกว่า
พรุ่งนี้ผมวางแผนจะทำอ่างอาบน้ำให้เสร็จ
หลังจากไม่ได้อาบน้ำมานาน ในที่สุด…
ผมตั้งหน้าตั้งตารอที่จะอาบน้ำ