Mezase Gouka Kyakusen!! (เรือสำราญ ณ ต่างโลก) - ตอนที่ 19 ความสามารถของเรือยนต์แบบญี่ปุ่นและคำอธิบายเกี่ยวกับงานบนเกาะ
- Home
- Mezase Gouka Kyakusen!! (เรือสำราญ ณ ต่างโลก)
- ตอนที่ 19 ความสามารถของเรือยนต์แบบญี่ปุ่นและคำอธิบายเกี่ยวกับงานบนเกาะ
ไปทานมื้อเย็นก่อนดีกว่า…
จากนั้นค่อยไปทดสอบผลของการอัพเลเวลของสกิลอัญเชิญเรือ
อีกอย่างต้องลองอัญเชิญเรือที่เพิ่งซื้อมาใหม่ด้วย
ผมเดินไปที่โรงอาหารและถามเรื่องมื้อเย็น
มื้อเย็นที่ได้คือซุปปลาขาวและขนมปัง ถึงแม้ผมจะยังอยากกินข้าวอยู่
แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันอร่อยจริง ผมควรพอใจกับสิ่งที่มี
หลังจากทานมื้อเย็นเสร็จ ผมบอกคุณเจ้าของว่าจะออกไปเดินเล่น จากนั้นก็ออกจากโรงเตี๊ยมไป
ที่นี่น่าจะได้ เพราะไม่น่าจะมีคนมาเห็นผมทำสิ่งนี้ ก่อนอื่นเลย “อัญเชิญเรือ”
…โอ้ ให้ความรู้สึกเหมือนกับเรือจริงๆเลย โดยเฉพาะเมื่อมันมีเครื่องยนต์ติดอยู่ที่ท้ายเรือ
ไหนมาลองใช้ความสามารถ “แปลงโฉมเรือ” กันเลยดีกว่า
เลือกให้เป็นเรือไม้ สไตล์ก็ เอาแบบที่มันดูเก่าๆหน่อย จากนั้นก็ใช้ “แปลงโฉมเรือ”
โอ้ ตอนนี้มันดูเหมือนเรือที่ทำจากไม้ทั้งลำเลย แต่ยังมีเครื่องยนต์ติดอยู่ที่ท้ายเรืออยู่เลย
ไหนลองใช้ “แปลงโฉมเรือ” อีกครั้งเพื่อทำให้เครื่องยนต์รวมเข้ากับตัวเรือดูซิ…
สำเร็จเมื่อเทียบกับเรือลำอื่นๆ มันแค่ดูใหญ่กว่านิดหน่อย และส่วนท้ายที่เคยเป็นเครื่องยนต์ก็ดูแตกต่างจากลำอื่นเล็กน้อย
ไม่ถึงกับโดดเด่นจนเป็นที่สังเกต ต่อไป มาลองไอ้เจ้า +1 กันดีกว่า
เจ้านี่น่าจะทำให้ผมสามารถอัญเชิญเรือได้เพิ่มอีกลำมั้ยนะ? ผมลองอัญเชิญเรือคลังสินค้าออกมาวางไว้ข้างๆ เรือแบบญี่ปุ่น
และรอดูว่ามันจะสามารถอัญเชิญออกมาได้จริงไหม…และปรากฎว่า…
ผมสามารถอัญเชิญมันออกมาได้ ดูเหมือนว่า +1 จะหมายถึงการเพิ่มจำนวนของเรือที่สามารถอัญเชิญออกมาได้
ผมย้ายของที่จำเป็นไปยังเรือแบบญี่ปุ่น ประกอบด้วย ผ้าห่มสองผืน เชือก อุปกรณ์สำหรับชงชา
และอาหารบางส่วนจากกล่องไม้ที่เตรียมเอาไว้สำหรับเรือแบบญี่ปุ่น
ถ้าผมสามารถไปถึงเกาะได้ ผมอาจจะต้องใช้เวลารออยู่ที่เกาะนั่นนานพอสมควร
ผมอยากได้เตาไฟเล็กๆ เอาไว้วางบนเรือ ดังนั้นผมต้องซื้อหม้อเหล็กและใส่ขี้เถ้าลงไปเพื่อใช้เป็น ชิชิริน (เตาถ่านแบบญี่ปุ่น)
ผมอยากได้หม้ออีกใบไว้ใช้สำหรับวางบนเตาด้วย พรุ่งนี้ผมจะไปซื้อหม้อเหล็กสองใบ ถ่าน และอาหาร
ก่อนที่จะออกเดินทางไปที่เกาะ อีกอย่างพรุ่งนี้ผมต้องเอาเรือไปจอดด้วย
ดังนั้นผมต้องพกอาวุธและของใช้ส่วนตัวติดตัวไว้ จากนั้นก็ค่อยไปทดสอบระบบแผนที่
สำหรับแผนที่ ดูเหมือนว่ามันจะแสดงเฉพาะพื้นที่ที่ผมเคยผ่านไปมาแล้ว
ยิ่งเดินทางไปไกลเท่าไหร่ พื้นที่ที่แสดงในแผนที่ก็ยิ่งขยายออกไปเท่านั้น นี่มันเหมือนกับในเกมเลย
หลังจากกลับมาที่โรงเตี๊ยม ผมก็มาฝึกซ้อมนิดหน่อย จากนั้นก็เช็ดตัวให้สะอาด
พรุ่งนี้ผมจะนำเรือไปจอดที่ท่าเรือก่อน จากนั้นค่อยจะลองออกเดินทางไปยังเกาะทางตะวันออกเฉียงใต้ดู
มันน่าจะใช้เวลาพอสมควร ดังนั้นพรุ่งนี้ผมต้องตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม
ดังนั้นวันนี้ก็ราตรีสวัสดิ์…..
ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความกระตือรือร้น
วันนี้ต้องเป็นวันที่ยุ่งมากแน่ๆ ดังนั้นผมต้องพยายามหน่อยแล้ว หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็ว
ผมพูดคุยกับคุณเจ้าของ…
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณเจ้าของ วันนี้ผมว่าจะออกไปข้างนอกและอาจจะไม่ได้กลับมา หรืออาจจะกลับมาดึกมากๆ”
“ถ้าผมกลับมากลางดึก ผใจะสามารถกลับเข้ามาในโรงเตี๊ยมได้อยู่ไหมครับ?”
“ถ้าคุณกลับมากลางดึก จะมีคนเฝ้าอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ค่ะ ดังนั้นสามารถคุณจึงสามารถเข้ามาได้”
“แต่กรุณาเข้ามาแบบเงียบๆ หน่อยนะคะ เพราะคนอื่นๆรอบตัวคุณอาจจะกำลังนอนหลับอยู่”
ที่นี่เปิดบริการ 24 ชั่วโมงเลยอย่างงั้นเหรอ? ในญี่ปุ่นอาจจะเป็นเรื่องปกติ
แต่ในโลกนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก ขอบคุณที่มีบริการแบบนี้
“ได้เลยครับ ผมจะเงียบที่สุดเท่าทีจะทำได้ งั้นผมไปก่อนนะครับ”
อันดับแรก ผมต้องออกไปด้านนอกเมืองเพื่อที่จะอัญเชิญเรือ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่โรงจอดเรือ
ถ้าผมสามารถใช้สกิลอัญเชิญเรือได้อย่างอิสระก็คงดี จะได้ไม่ต้องมาลำบากขนาดนี้
แต่ก็เอาเถอะ การเสี่ยงชีวิตเพราะขี้เกียจมันเป็นอะไรที่โง่มากๆ
ดังนั้นมาตั้งใจแล้วทำให้ดีที่สุดกันดีกว่า…
ผมจอดเรือช่องจอดหมายเลข 115 และมุ่งหน้าไปยังตลาดเช้า
ผมซื้อผักและเนื้อสัตว์ที่เห็น จากนั้นก็ไปที่ร้านขายอุปกรณ์ ผมซื้อหม้อเหล็กพร้อมฝามา 2 ใบ
ถ่าน และหม้อเหล็ก 1 ใบที่มีกล่องใส่ขี้เถ้าแยกต่างหาก ทั้งหมดนี้ราคา 75 เหรียญทองแดง ค่อนข้างแพงทีเดียว
ถัดไป ผมจะไปกิลด์พ่อค้าเพื่อถามตำแหน่งของเกาะและถามว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการเดินทางไปที่นั่น
คามิลล์ซังจะอยู่ทไหมนะ…? ผมเดินเข้าไปในกิลด์และมองหาคามิลล์ซังในทันที โอ้…เธออยู่ตรงนั้นไง
“อรุณสวัสดิ์ครับ คามิลล์ซัง ผมได้เรือเวทมนตร์มาแล้ว”
“และกำลังจะเดินทางไปที่เกาะทางตะวันออกเฉียงใต้ครับ”
“คุณช่วยบอกตำแหน่งที่แน่นอนและเวลาที่ใช้ในการเดินทางหน่อยได้ไหมครับ?”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ เห็นว่าคุณได้เรือมาแล้วสินะคะ คุณมีเข็มทิศไหมคะ?”
“ถ้ามีคุณก็มุ่งหน้าออกจากประตูทางทะเลแล้วมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้โดยดูจากเข็มทิศค่ะ”
“จากนั้นคุณก็จะมองเห็นเกาะขนาดใหญ่ที่นั้นค่ะ”
คำแนะนำค่อนข้างจะไม่ละเอียดเท่าไหร่ ผมชักจะเริ่มกลัวเล็กน้อยที่จะออกทะเลแล้วสิ
“เวลาที่ใช้ก็ขึ้นอยู่กับเรือค่ะ แต่ดูเหมือนจะใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงนะคะ”
“ถ้าถึงเกาะแล้วกรุณารายงานกลับมาที่ฉันด้วยนะคะ แล้วก็ขอให้ระมัดระวังตัวและเดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ”
“ครับ ผมจะระวังครับ”
ถึงแม้ว่าผมจะสามารถใช้แผนที่นำทางได้ แต่ก็ควรซื้อเข็มทิศไว้ด้วยสินะ
หากผมขับเรือโดยไม่ดูเข็มทิศเลยเวลาที่ให้คนขึ้นเรือมา อาจทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจได้
ผมจึงตัดสินใจว่าจะซื้อเข็มทิศ
ผมกลับไปร้านขายเครื่องมือและซื้อเข็มทิศในราคา 1 เหรียญเงิน
เข็มทิศนี่แพงมากเลยนะ ถ้าเทียบกับที่ญี่ปุ่นซึ่งราคาแค่ประมาณ 100 เยน
เมื่อกลับมาที่เรือ ผมก็วางสัมภาระที่ซื้อมาไว้ในเรือจากนั้น…
มาเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่า ถ้าผมไปถึงที่เกาะได้ ผมจะสามารถหาเงินได้มากมาย สงสัยจริงๆ ว่ามันจะเป็นยังไง
ผมออกจากประตูทางใต้และขับเรือไปทางตะวันออกเฉียงใต้ การออกจากทวีปด้วยเรืออาจฟังดูอันตราย
แต่เรือลำนี้ไม่มีวันจม และไม่สามรถทำลาย ดังนั้นแค่นี้ไม่าน่าจะมีปัญหา
ถึงแม้ผมจะไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับเรือเลยก็ตาม แต่ด้วยทักษะที่ผมมี
ผมก็สามารถบังคับเรือได้อย่างไม่มีปัญหา แต่การที่ไม่มีความรู้อะไรเลยนี่มันก็น่ากลัวอยู่นะ…
อย่างไรก็ตาม การแล่นเรือในทะเลเปิดแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกดีมากเลย อากาศดีสุดๆ
และเมื่อผมเดินทางออกมาไกลพอสมควรแล้ว ผมก็หยุดพักระหว่างทาง
ผมเริ่มเห็นเกาะอยู่ลิบๆ ที่ปลายสายตาแล้ว…
เอ๊ะ? ยังไม่ถึง 5 ชั่วโมงเลยไม่ใช่เหรอ…?
บางทีเรือแบบญี่ปุ่นอาจจะเร็วกว่ามากเมื่อเทียบกับเรือเวทมนตร์ของโลกนี้…
ผมค่อย ๆ บังคับเรืออย่างใจเย็น ถ้าผมเร่งเต็มที่ มันอาจจะดูสะดุดตาเกินไปหน่อย
โอ้ ตรงนั้นมีเรือเวทมนตร์ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้พร้อมกับมีนักผจญภัยอยู่หลายคนนั่งมาด้วย
ผมยังไม่แน่ใจว่าเรือแบบญี่ปุ่นหรือเรือเวทมนตร์ลำไหนเร็วกว่ากัน
เมื่อเข้าใกล้เกาะ ผมก็เห็นแนวโขดหินและกระแสน้ำวนล้อมรอบตัวเกาะไว้ ถ้าผมสามารถฝ่ามันตรงๆไปได้ล่ะก็…
ผมหลีกเลี่ยงกระแสน้ำวนและแนวปะการัง จากนั้นก้เร่งความเร็วขึ้นเมื่อรู้สึกว่ากำลังจะถูกผลักกลับ
เป็นการเดินทางที่ทุลักทุเลพอสมควร แต่ผมก็สามารถผ่านมันมาได้อย่างง่ายดาย
ผมอยากจะเชื่อว่าผมไม่ได้มาอยู่บนเกาะที่ผิด เพราะผมเคยได้ยินมาว่ามันยาก ดังนั้นผมจึงเป็นกังวลเล็กน้อยเมื่อมันง่ายขนาดนี้
หลังจากข้ามแนวปะการังและกระแสน้ำวนแล้ว ผมก็แล่นเรือเข้ามาใกล้ชายฝั่ง
เกาะทางนี้ดูเหมือนจะมีแต่หน้าผาสูงชัน ผมไม่คิดว่าจะสามารถขึ้นฝั่งได้จากทางนี่
มาหาที่ที่สามารถขึ้นฝั่งได้กันดีกว่า ขณะที่ผมล่องเรือไปรอบๆเกาะ
ผมก็พบเข้ากับหาดทรายที่โค้งไปด้านหลังเป็นแนวเส้นโค้งเข้าไปทางด้านในฝั่ง
เป็นชายหาดที่สวยงามจริงๆ น้ำทะเลสีเขียวมรกต หาดทรายสีขาว
ที่นี่คงจะเป็นรีสอร์ทที่สมบูรณ์แบบเลย ถ้าไม่ติดว่ามันมีมอนสเตอร์
เมื่อมาถึงที่ชายหาด ผมก็เห็นเรือลำเล็กจอดทอดสมออยู่ก่อนแล้ว
ผมควรจะทักทายเขาดีไหมนะ…
ไม่สิ…ถ้าผมไม่ทักทาย พวกเขาก็จะหาว่าผมเป็นคนไม่มีมารยาท
ขณะที่ผมกำลังแล่นเข้าไปใกล้เรือลำอื่นๆ เพื่อที่จะทักทาย
คนที่นอนอยู่บนเรือก็ลุกขึ้นมา ผมจึงทักทายเรียกเขา
“สวัสดีครับ”
“โอ้ คุณดูหน้าไม่คุ้นเลย เป็นนักผจญภัยอย่างงั้นเหรอ?”
“ครับผมเป็นนักผจญภัย แต่ตั้งแต่ที่ได้เรือลำนี้มา ผมก็เข้าร่วมกิลด์พ่อค้า”
“แล้วพอถามว่ามีงานดีๆ บ้างไหม พวกเขาก็บอกว่าการมาที่เกาะแห่งนี้ สามารถทำเงินได้”
“โอ้ คุณคงมีเรือที่ดีอยู่แน่ๆ ถ้าคุณมาถึงที่เกาะนี้ได้ คุณจะสามารถทำเงินจากที่นี่ได้มากเลยทีเดียว”
คนละ 10 เหรียญเงินต่อวัน ถ้าผมพาคณะนักผจญภัยมาที่เกาะนี้ได้ ผมคงได้เงินก้อนโตแน่นอน
“ผมจะตั้งตารอที่จะได้พบคุณอีกนะครับ ผมวาตารุ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“โอ้ ฉันชื่อกีโด ยินดีที่ได้รู้จัก”
“คุณก็เป็นนักผจญภัยเหมือนกันใช่ไหมครับ กีโดซัง”
“ฉันก็เข้าร่วมกิลด์นักผจญภัยและกิลด์พ่อค้าเหมือนนายนั่นล่ะ คงจะดีถ้ามีคนเข้าร่วมกิลด์มากขึ้น ฉันหวังว่าจะได้ร่วมงานกับนายนะ”
หืม? ดีใจที่มีคนเข้ากิลด์มากขึ้น ถึงแม้ว่าการผูกขาด 4 คน มันจะพังทลายไปก็ตามอย่างงั้นเหรอ?
“เพราะว่าจะมีคู่แข่งทางธุรกิจเพิ่มมากขึ้น คุณคงจะไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่ใช่ไหมครับ”
“แน่นอนว่าถ้ามีมากเกินไปมันก็เป็นปัญหา แต่ตอนนี้เรามีเรือแค่ 4 ลำเท่านั้น ที่สามารถมาที่เกาะแห่งนี้ได้”
“ตอนนี้ฉันเป็นคนเดียวที่อยู่ที่นี่ แต่ปกติก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีเรือ 4 ลำมาที่นี่พร้อมกัน แม้เราจะกลับไปเมืองทางใต้”
“แต่พวกเราก็มักจะกลับมาที่เกาะนี้ทันที การได้พักจึงเป็นเรื่องยาก”
“การไม่ได้พักเลย มันเป็นเรื่องที่ลำบากจริงๆนะครับ”
การผูกขาดและเงินจำนวนมาก ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดัซะทีเดียว มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วยสินะ
“ใช่แล้ว การเพิ่มเรือจาก 4 ลำเป็น 5 ลำคงไม่สร้างความแตกต่างอะไรมากนัก แต่มันจะช่วยให้เรามีอิสระมากขึ้น”
“ซึ่งนั่นจะเป็นอะไรที่ช่วยพวกเราได้มากเลยทีเดียว”
“มีอะไรที่ผมต้องระวังในงานนี้ หรือมีอะไรอย่างอื่นที่ผมต้องเตรียมมาอีกไหมครับ”
“อืม อุปกรณ์สำหรับฆ่าเวลาแล้วก็อาหารอร่อยๆ ล่ะนะ”
“มีเวลาว่างมากขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
“ใช่ นายไม่มีทางรู้เลยว่าพวกนักผจญภัยจะกลับมาเมื่อไหร่”
“บางครั้งพวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับมาแล้วต้องรีบออกเดินทางกันอย่างเร่งด่วน”
“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราพวกเราถึงต้องอยู่ประจำที่เรือตลอด บางครั้งอาจใช่เวลาถึง 2-3 วันในการรอ”
“ดังนั้นมันจึงเป็นเวลาที่ว่างมากเลยทีเดียว”
ว้าว คุ้มแต่ก็น่าเบื่อ มีอะไรบ้างนะที่ผมจะสามารถทำเพื่อฆ่าเวลาบนเรือได้
ผมคงต้องเริ่มคิดดูแล้วล่ะ เพราะไม่งั้นผมคงได้เป็นบ้าเพราะความเบื่อแน่
“ดูเหมือนที่นี่มันจะอันตรายพอสมควรเลยใช่มั้ยครับ ผมได้ยินมาว่าที่นี่มีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งอาศัยอยู่ด้วย”
“ถ้ามีมอนสเตอร์ปรากฏตัวขึ้น ให้หลีกเลี่ยงจากการอยู่บนฝั่ง แค่นั้นนายก็ปลอดภัยแล้ว เพราะพวกมันจะไม่ลงมาในทะเล”
“อย่างงั้นเหรอครับ?”
การหนีจากมอนสเตอร์มาขึ้นเรือก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะงั้นปัญหาเดียวที่ต้องหาทางแก้ก็คือความเบื่อ…
แต่จะทำอะไรดีล่ะ? จะทำอะไรได้บ้างที่นี่? ตกปลาหรือทำอาหาร?
วิธีที่ดีที่สุดคือคิดว่าจะทำอาหารอะไรได้บ้าง อืม จะทำอะไรดี… ใช่แล้ว!
“กีโดซัง บนเกาะนี้มีสไลม์หรือเปล่าครับ?”
“สไลม์เหรอ? มีสิ”
“โอ้เยี่ยมเลย ถ้างั้นก็ไม่เป็นอะไรแล้วครับ”
ถ้าผมสามารถอยู่กับสไลม์นุ่มฟูนั้นได้ตลอดเวลาล่ะก็ ผมก้ไม่มีอะไรจะบ่นแล้วล่ะเรื่องความเบื่อ เยี่ยมเลย…
“มีอะไรกับสไลม์อย่างงั้นเหรอ?”
“เปล่าครับ ผมแค่สงสัยว่าจะทำอะไรในเวลาว่าง แล้วพอดีผมชอบสไลม์ ผมเลยคิดว่าจะลองเล่นกับพวกมันดูในเวลาว่างๆ”
“และดูว่าผมจะได้สกิลนการฝึกสัตว์มาหรือเปล่า”
“นายชอบสไลม์งั้นเหรอ? เป็นคนที่แปลกดีนะ?”
“เอาเถอะ ถ้านายไม่ออกห่างจากเรือมากก็ไม่น่าจะเป็นอะไร นายจะทำอะไรก็ได้”
กีโดซังก็เป็นคนที่ไม่เข้าใจเสน่ห์ของสไลม์เหมือนกันเหรอเนี่ย…
น่าผิดหวังจัง เมื่อผมได้สกิลการฝึกฝนมาแล้ว ผมจะเผยแพร่ความมหัศจรรย์ของสไลม์เอง
“เอาล่ะ ผมว่าผมควรกลับได้แล้ว เพราะผมต้องไปรายงานตัวที่กิลด์พ่อค้าอีกแล้วก็ยังต้องหางานด้วย”
“ดังนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ แล้วก็ขอขอบคุณอีกครั้ง”
“โอ้ ไว้เจอกันใหม่นะ”
ผมออกจากเกาะและกลับไปยังเมืองทางใต้ ผมตื่นเต้นมากเมื่อคิดถึงกำไรมหาศาลที่กำลังจะได้รับ
ดูเหมือนว่าผมจะสามารถซื้อเรือลำต่อไปได้ในเร็วๆ นี้
เฮ้อ กลับมาเร็วกว่าที่คิด คงจะกลับไปกินข้าวเย็นที่โรงเตี้ยมทันเวลา
“โอ้ ยินดีต้อนรับกลับ ฉันคิดว่าคุณจะกลับมาช้ากว่าซะอีก”
“ผมทำธุระเสร็จเร็วกว่าที่คาดไว้น่ะครับ ว่าแค่อาหารเย็นยังท่านได้อยู่หรือเปล่าครับคุณเจ้า”
“ได้สิ ถึงจะช้าไปหน่อยแต่ก็ยังได้ คุณจะรับเลยไหม?”
“ครับ”
ผมกินข้าวเย็น จากนั้นก็ไปเช็ดตัว และกลับห้องไปพักผ่อน
ผมดีใจที่ไปถึงเกาะได้ แต่ก็ทำใจยากที่จะไม่ได้มีวันพักเลย
แต่เมื่อลองคิดดูดีๆ แล้ว ผมรู้สึกเหมือนทำงานมาตลอดเลยนับตั้งแต่มาที่โลกนี้
หากผมสามารถใช้เวลาว่างๆบนเกาะได้ ผมอาจมีวันที่น่าพึงพอใจอย่างไม่น่าเชื่อเลยก็ได้
ดูเหมือนว่าคุณกีโดจะเป็นคนดีคนหนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่ได้คิดว่าผมเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของเขา
แต่อย่างน้อยผมก็ไม่อยากจะมีปัญหากับอีกสามคนที่เหลือ…
พรุ่งนี้หลังจากไปโบสถ์แล้ว ผมจะลองไปหาอุปกรณ์ที่จะทำให้ผมใช้เวลาบนเรือได้อย่างสบาย ๆ
จากนั้นผมจะต้องไปรายงานตัวกับกิลด์พ่อค้า
ผมล่ะสงสัยจริงๆ ว่าเรือแบบญี่ปุ่นลำนี้จะต้องมีอะไรบ้างนะ…
ผมคิดว่าน่าจะมีเบาะรองนั่งอย่างน้อยสักผืนเนื่องจากจะมีเหล่านักผจญภัยมาอยู่บนเรือด้วย…
ผมคิดว่าผมควรซื้อผ้าห่มแทนเบาะรองนั่งสัก 6 ผืน แล้วให้พวกเขาใช้ได้ตามที่ต้องการ
แบบนั้นน่าจะสะดวกกว่าสำหรับการใช้งานในหลายๆด้านด้วย
จากนั้นก็ซื้อกล่องไม้ 6 ใบมาสำหรับทำเป็นเก้าอี้จากนั้นก็ใส่ผ้าห่มไว้ข้างในก็พอแล้ว
กล่องไม้เหล่านี้สามารถทิ้งไปได้หากมันเกะกะ
นอกจากนี้ ผมยังต้องการกล่องไม้สำหรับเก็บหม้อเหล็กและอาหารอีกด้วย ดังนั้นผมจึงต้องซื้อกล่องไม้เพิ่มอีก 2 ใบ
แล้วผมควรจะเสิร์ฟชาหรืออาหารให้เหล่านักผจญภัยที่กลับมาที่เรือหรือเปล่านะ?
พวกเขาต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมากสำหรับการจ้างเรือ ดังนั้นอย่างน้อยผมก็ควรทำอย่างนั้น
ถ้างั้นผมก็ต้องมีจานและแก้วเพิ่มแล้วล่ะ…
นอกจากนั้น… ถ้าเกิดว่ามีครั้งที่ผมต้องไปอยู่บนเกาะนั่นสัก 2-3 วัน
ผมก็ต้องมีชุดสำรองเอาไว้อีกซัก 2-3 ชุด ผมจะขนเสื้อผ้าเหล่านั้นไปไว้ที่เรือแบบญี่ปุ่น
อ๊ะ! เกือบลืมไปเลยผมต้องไปซื้อเนื้อแห้งสำหรับพวกสไลม์ด้วยนิ
เอาล่ะได้เป้าหมายแล้ว จากนี้คงจะยุ่งกว่าเดิมมากเลย…
ยอดคงเหลือ: 1 เหรียญทอง 51 เหรียญเงิน 40 เหรียญทองแดง
จากตอนนี้ไปเวลากล่าวถึงชื่อคน ขอเปลี่ยนจากคำว่าคุณ เป็น ซัง แทนนะครับ เช่น คามิลล์ซังเป็นต้น
เพราะตอนแปลเป็นคุณคามิลล์แล้วผมอ่านแล้วมันดูขัดๆ อาจจะเพราะผมชินกับแบบนี้มากกว่าล่ะมั้ง ฮ่าๆ