Mezase Gouka Kyakusen!! (เรือสำราญ ณ ต่างโลก) - ตอนที่ 6 เวทย์ชีวิตประจำวันและคุณช่างไม้
- Home
- Mezase Gouka Kyakusen!! (เรือสำราญ ณ ต่างโลก)
- ตอนที่ 6 เวทย์ชีวิตประจำวันและคุณช่างไม้
เช้าวันนี้… ผมจะไปรับคำขอแรกที่กิลด์ของผม หลังจากไปเก็บผ้าที่ซักไว้เรียบร้อยผมก็เตรียมตัวเพื่อที่จะออกไปที่กิลด์
ไหนดูซิ ตอนนี้ผมอยู่แรงค์ F ดังนั้นผมจึงสามารถรับคำขอได้กว่าระดับแรงค์ของตัวเองได้ 1 ระดับ
ดังนั้นผมจึงสามารถรับคำขอที่เป็นแรงค์ E ได้
ผมดูที่กระดานภารกิจที่ทำเครื่องหมายตัว F ไว้ กำจัดวัชพืช ช่วยย้ายของ หาแมว…
หืม…มีแต่งานทั่วๆไป การไปล่ากระต่ายมีเขายังจะดูมีประสิทะืภาพมากกว่าอีก
ส่วนกระดานสำหรับคำขอระดับ E อืม…
ล่าก๊อบลินเป็นคงเป็นไปไม่ได้ ไหนดูซิว่า มีคำขอให้ไปล่าอะไรอีก ในระดับ E
โอ้ มีคำขอให้ไปจับกระต่ายมีเขาด้วย ไหนดูซิ
นำกระต่ายมีเขา 5 ตัวที่อยู่ในสภาพดีมีบาดแผลเล็กน้อยและรีดเลือดออกอย่างเหมาะสมแล้วกลับมา
รางวัล ตัวละ 10 เหรียทองแดง
โอ้ได้มากว่าปกติ ตัวละ 2 เหรียญทองแดงแนะ เป็นคำขอที่น่าสนใจจริง
มันเป็นสิ่งที่ผมทำอยู่แล้ว และก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด ดังนั้น…
ผมจึงหยิบภารกิจออกมาแล้วมุ่งหน้าตรงไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธื โอ้! นั่นคุณพี่สาวหูจิ้งจอกนี่นา
“สวัสดีตอนเช้าครับ ผมขอรับภารกิจนี้ด้วยครับ”
“โอ้ สวัสดีตอนเช้าค่ะ ฉันเห็นว่าคุณจัดการอุปกรณ์ของคุณเรียบร้อยแล้วสินะคะ”
“ครับ ผมสามารถซื้อพวกมันมาได้แล้ว”
“ฟุฟุ คุณดูเหมือนนักผจญภัยตัวจริงเลยนะคะว่างั้นไหม? เอาล่ะ นี่เป็นภารกิขแรกของคุณใช่ไหมคะ?
คำขอนี้อาจยากนิดหน่อย คุณโอเคกับเรื่องนี้ไหมคะ?”
“ยากงั้นเหรอครับ?”
“ใช่ค่ะ กระต่ายต้องอยู่ในสภาพดี มีบาดแผลน้อยและต้องถูกรีดเลือดมาอย่างเหมาะสมค่ะ นี่เป็นคำขอที่ต้องทำมากกว่าแค่
กำจัดพวกมันค่ะ”
“เอ่อ…ผมมักจะได้รับคำชมจากคุณพนักงานที่อยู่ที่เคาน์เตอร์รับซื้อว่าผมจัดการพวกมันได้อยากดี และผมสามารถขายพวกมัน
ได้ในราคา 8 เหรียญทองแดงต่อกระต่าย 1 ตัว แต่แค่นั้นยังไม่เพียงพองั้นเหรอครับ?”
ถ้าต้องใช้กระต่ายมีเขาที่มีคุณภาพสูงกว่านั้น งานนี้มันคงจะยากกว่าที่ผมคิด
แบบนี้ผมคงต้องปรับปรุงเทคนิคและคุณภาพของเครื่องมือของผมซักหน่อยแล้ว
“อาร๊า ถ้างั้นฉันคิดว่าคงไม่เป็นไรค่ะ เพราะการรับซื้อกระต่ายมีเขา 1 ตัวด้วย ราคา 8 เหรียญทองแดงนั้นเป็นราคาที่สูงมาก
ถ้าอย่างนั้น ฉันจะอนุมัติคำขอนี้นะคะ กรุณนาส่งบัตรกิลด์ของคุณมาให้ฉันด้วยค่ะ”
“นี่ครับ อ๊ะ! มีอีกเรื่องนึงที่ผมอยากสอบถามครับ”
“เรื่องอะไรงั้นเหรอคะ?”
“ผมอยากใช้เวทย์ชีวิตประจำวันน่ะครับ แต่ไม่รู้ว่าจะสัมผัสพลังเวทย์ยังไงดี
มีที่ไหนที่งิธีไหนที่ผมพอจะสามารถเรียนรู้ได้ไหมครับ”
“เวทย์ชีวิตประจำวันงั้นเหรอคะ? ตอนเด็กๆ คุณก็น่าจะได้เรียนมันแล้วไม่ใช่เหรอคะ?”
“พอดี ตอนเด็กๆ เพราะสถานการณ์หลายๆอย่างเลยทำให้ผมไม่ได้เรียนน่ะครับ”
“ถ้าเริ่มเรียนตอนนี้จะยังทันอยู่มั้ยครับ ที่ผมสนใจเพราะมันดูน่าจะมีประโยชน์”
จริงๆ ผมอยู่ในโลกที่ไม่มีเวทมนตร์เลยจนกระทั่งไม่กี่วันก่อน
“ดิฉันต้องอภัยด้วยค่ะ การรับรู้พลังเวทย์มักจะทำได้โดยการส่งพลังเวทย์ผ่านไปตามส่วนต่างๆของร่างกายค่ะ
ฉันคิดว่าหมอที่อยู่ที่หน่วยแพทย์น่าจะสามารถช่วยคุณได้ค่ะ ทำไมคุณไม่ลองถามพวกเขาดูล่ะค่ะ”
“หมองั้นเหรอครับ? โอเคครับ ผมจะลองถามพวกเขาดู ขอบคุณมากนะครับ”
“ด้วยความยินดีค่ะ ขอให้โชคดีกับคำขอแรกของคุณนะคะ”
“ครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด”
คุณพี่สาวหูจิ้งจอกช่างใจดีจริงๆ ผมรู้ว่านั่นมันเป็นหน้าที่ แต่ผมก็อดดีใจไม่ได้ที่เธอพยายามสนับสนุนผม
อ๊ะ ผมต้องแวะไปที่หน่วยแพทย์ก่อนสินะ คงจะดีถ้าผมสามารถสัมผัสพลังเวทย์ได้
“ขออนุญาตครับ”
“อาร๊า มีอะไรใช่ชั้นช่วยงั้นเหรอ?”
ว้าว คุณหมอสุดสวยในชุดกาวน์สีขาว แถมเธอยังใส่แว่นด้วย แจ่มมากครับ
นึกว่ากำลังดูคุณเลเยอร์สุดสวย กำลังคอสเพลย์เป็นคุณหมอไปแว๊ปหนึ่งเลย
การรับสมัครเจ้าหน้าที่กิลด์ของกิลด์นักผจญภัยนี่สุดยอดจริง สงสัยอาจจะมีแผนกที่คอยค้นหาคนสวยอยู่ก็ได้
“นี่ คุณสนใจเจ้านี่หรือเปล่า มันเป็นอุปกรณ์เวทย์ที่จะช่วยให้สายตาของคุณดีขึ้น”
“หืม…มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ หรือมีอะไรติดหน้าชั้น?”
“อ๊ะ…ปะ-เปล่าครับ คือ ผม เอ่อ…คือ”
“ผมไม่ได้เรียนเวทย์ชีวิตประจำวันเมื่อตอนเด็กๆ เพราะเหตุการณ์บางอย่าง”
“พอผมลองไปถามพนักงานต้อนรับว่า ผมสามารถเรียนเวทย์ชีวิตประจำวันได้หรือเปล่า?”
“เธอก็บอกให้ผมลองมาคุยกับคุณหมอที่หน่วยแพทย์ครับ คุณพอจะช่วยผมได้ไหมครับ?”
“โอ้ เรื่องนั้นเองงั้นเหรอ ถ้างั้นฉันจะส่งเวทมนตร์ไปให้เธอประมาณห้านาที จากนั้นก็มาดูกันว่าเธอจะรับรู้ถึงมันได้หรือไม่
ค่าธรรมเนียมสำหรับการทดสอบคือ 10 เหรียญทองแดง”
“ครับ นี่ครับ 10 เหรียญทองแดง”
“เอาล่ะ ทีนี้ยืนมือของเธอออกมา หลับตา แล้วก็ทำใจให้สบาย ฉันจะส่งพลังเวทย์ของฉันเข้าไปในตัวเธอ
จากนั้นเธอก็ลองหาสิ่งที่มีพลังคล้ายคลึงกันภายในร่างกายของเธอเอง”
วะ-ว้าว ผมกำลังจับมือกับคุณหมอแสนสวยอยู่ละ มือนุ่มสุดๆเลย ชักตื่นเต้นแล้วสิ
อ๊ะ ไม่ได้ๆ ผมต้องมีสมาธิกับการสัมผัสพลังเวทย์สิ
“เธอรู้สึกถึงพลังเวทย์ที่ฉันส่งเข้าไปในร่างกายเธอมั้ย?”
“ครับ ผมรู้สึกถึงพลังอันอบอุ่นและอ่อนโยนจากมือของคุณครับ”
“พลังเวทย์ของเธอจะอยู่ข้างๆบริเวณที่มีความรู้สึกนั้น เพราะงั้นลองตั้งใจมองหาพวกมันดู”
“ครับ”
ผมหลับตาและตั้งสมาธิ ผมรู้สึกถึงพลังเวทย์อันอบอุ่นที่ไหลเวียนไปทั่วร่างกายของผม เหมือนกับการไหลเวียนของเลือด
ดูเหมือนว่าพลังเวทย์ของผมกำลังไหลไปทางด้านนี้เหมือนกับกระแสน้ำ
ต้องสงบสติอารมณ์เข้าไว้แล้ว… นี่มันหรือว่า…?
“ผมรู้สึกถึงกระแสเวทย์บาง ๆ ไหลเข้ามาใกล้กับกระแสเวทย์ของคุณ นี่ใช่พลังเวทย์ของผมหรือเปล่าครับ”
“อืม ฉันบอกชัดๆไม่ได้เหมือนกัน บางทีพลังเวทย์ของเธออาจจะมีน้อยมาก?”
เธอรู้ได้ยังไง? ผมเดาว่าเพราะผมบอกว่ามันรู้สึกบางๆ
“น่าจะอย่างนั้นครับ เพราะค่าพลังเวทย์ของผมคือ 18”
“อืม ปริมาณพลังเวทย์ที่ฉันกำลังส่งเข้าไปยังร่างกายของเธอมันมีมากกว่าของเธอเยอะ”
“ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่มันจะรู้สึกถึงพลังเวทย์ของเธอได้เพียงบางๆ”
“เมื่อเทียบกับพลังเวทย์ที่ฉันส่งเข้าไปยังร่างกายของเธอ”
“ผมจะใช่เวทย์ชีวิตประจำวัน โดยที่มีค่าพลังเวทย์ 18 ได้มั้ยครับ?”
“ได้แน่นอน ถ้าเธอสามารถจำความรู้สึกที่พลังเวทย์ไหลเวียนในร่างกายของเธอได้”
“แล้วรวบรวมพลังเวทย์พวกนั้นไปไว้ในปลายนิ้ว เธอก็ควรจะสามารถใช้เวทมนตร์จากหนังสือเวทมนตร์ในชีวิตประจำวันที่อยู่
ในห้องอ้างอิงได้”
“จริงเหรอครับ ขอบคุณมากครับ”
“ถ้ายังไม่ได้ไว้ค่อยกลับมาใหม่แล้วกัน แต่ฉันก็ช่วยได้แค่ส่งพลังเวทย์เข้าไปเท่านั้นล่ะ”
“ครับ ถ้าไม่ได้ยังไง ไว้ผมค่อยกลับมาอีกรอบแล้วกันครับ”
ช่างเป็นข้อเสนอที่น่าดึงดูดจริงๆ ถ้าคุณบอกผมแบบนั้นล่ะก็
ผมคงอดใจไม่ไหวที่จะกลับมาหาคุณทุกวันแน่ๆ เพื่อให้คุณถ่ายพลังเวทย์ให้ผมคุณหมอสุดสวย
โดยไม่คิดจะฝึกฝน…อ๊ะ ไม่ได้สิ นั่นเป็นความคิดที่อันตราย ถึงจะน่าเสียดาย แต่ครั้งนี้คงต้องจริงจังหน่อยแล้ว
ผมเริ่มเข้าใจถึงกระแสของพลังเวทย์แล้ว เพราะงั้นระหว่างที่ผมกำลังออกล่ากระต่ายมีเขา
ผมก็ควรจะโฟกัสไปที่กระแสของพลังเวทย์ด้วย
โอ้ สู้เค้าตัวผม ผมปลุกพลังใจโดยให้กำลังใจตัวเอง จากนั้นก็มุ่งหน้าไปซื้ออาหารเช้าที่แผงลอยขายอาหารในเมือง
เมื่อถึงป่าทางตะวันตกเฉียงใต้ ผมก็พยายามรวบรวมกระแสของพลังเวทย์ไปไว้ที่ปลายนิ้ว
ยากเหมือนกันแฮะ มันไม่ค่อยเป็นไปอย่างที่ต้องการเท่าไหร่เพราะพลังเวทย์มันเอาแต่ขยับไปมา
และไม่นานมันก็กลับไปสู่กระแสเดิม ผมว่าผมค่อยไปฝึกตอนกลับไปถึงโรงเตี้ยมกันดีกว่า
การล่ากระต่ายวันนี้ก็เหมือนเช่นเคย ตามหากระต่าย เรียกเรือออกมา ตีมัน รีดเลือดมันออก แล้วก็เรียกเรือกลับ
ผมหาเงินได้เยอะจากการใช่วิธีนี้ ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีอันตรายใดๆ
แต่มันควรจะเป็นแบบนี้จริงๆ งั้นเหรอ? มาต่างโลกทั้งทีแล้วมาใช้ชีวิตแบบนี้มันจะโอเคจริงๆ เหรอ?
อย่างสถานการณ์ที่โจรกำลังโจมตีรถม้า หรือพวกนักผจญภัยในกิลด์ที่รังแกพวกมือใหม่อะไรแบบนี้
ไม่เห็นมีวี่แววของอะไรแบบนี้เลย
แต่เมื่อมาลองคิดดูอย่างใจเย็นดูแล้ว ผมก็รู้สึกโล่งใจที่ไม่เจออะไรแบบนั้น
เพราะผมคงไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์แบบนั้นได้ถ้าเกิดเจอเข้ากับตัวเองจริงๆ
แต่แบบที่เป็นอยู่นี่ก็ดีเหมือนกัน ตอนนี้มาล่ากระต่ายมีเขาแบบถอดสมองกันต่อดีกว่า
สิ่งที่ต้องทำคือ ตามหากระต่าย เรียกเรือ ตีมัน รีดเลือดมันออก แล้วก็เรียกเรือกลับ นี่ล่ะเส้นทางที่ถูกต้อง
ผมล่ากระต่ายได้กี่ตัวแล้วนะ อืม… 22 ตัวงั้นเหรอ?
ผมควรจะล่าให้เยอะกว่านี้อีกหน่อยดีไหมเนี่ย?
เอาล่ะ ล่าเพิ่มอีกซัก 3 ตัว แล้วกัน จะได้รวมเป็น 25 ตัวพอดี
หืม? ผมเห็นคนเดินออกมาจากป่า… 5 คน
พวกเขาเป็นนักผจญภัยหรือเปล่า? แต่พวกเขาดูตัวเล็กๆ
เห้ย! นั่นมันก็อบลินไม่ใช่เหรอ ผมควรทำยังไงดี…
ผมคิดว่าผมสามารถเอาชนะพวกมันได้เพราะผมมีสกิลปฎิเสธการขึ้นเรือ
แต่มาคิดอีกที รีบเผ่นดีกว่า ปลอดภัยไว้ก่อนย่อมดีกว่าเสมอ
ผมรีบกลับไปที่เมืองเมื่อถึงประตูทางทิศใต้ ผมก็ได้รายงานให้กับผู้ดูแลประตูทราบว่ามีก๊อบลิน 5 ตัว
ปรากฏตัวขึ้นในทุ่งหญ้า จุดต่อไปที่ผมจะไปรายงานคือกิลด์นักผจญภัย
ตอนนี้เลยเที่ยงไปนิดหน่อย เคาน์เตอร์จึงยังคงว่างอยู่
อึก…ผมไม่เห็นพี่สาวหูจิ้งจอกคนนั้น… เธอคงทำงานกะเช้าสินะ
ผมรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ที่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่เพราะมันว่าง
สาวสวยอีกแล้ว สมแล้วที่เป็นกิลด์นักผจญภัย
“คุณช่วยยืนยันภารกิจของผมได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะ กรุณาส่งกิลด์การ์ดของคุณมาด้วยค่ะ”
“นี่ครับ คือก่อนหน้านี้ ผมไปล่ากระต่ายมีเขาที่ทุ่งหญ้าหน้าป่าทางตะวันตกเฉียงใต้มาน่ะครับ”
“แต่จู่ๆ มีก๊อบลิน 5 ตัวออกโผล่ออกมาจากป่าครับ ผมเลยต้องรีบกลับมา ผมต้องรายงานเรื่องนี้ให้กิลด์ทราบในกรณีแบบนี้
หรือเปล่าครับ พอดีผมรายงานเรื่องนี้ให้กับผู้ดูแลประตูที่ประตูทางใต้ทราบแล้วครับ”
“ก็อบลินงั้นเหรอ? ขอบคุณสำหรับการรายงานของคุณนะคะ หากคุณพบมอนสเตอร์ที่ยังไม่ได้ถูกกำจัด
เราจะขอบคุณมากหากคุณรายงานเรื่องนี้ให้กิลด์นักผจญภัยทราบทุกครั้งที่คุณพบพวกมันนะคะ”
“เข้าใจแล้วครับ นี่ครับดกิลด์การ์ดของผม”
“กระต่ายต้องส่งขั้นต่ำ 5 ตัวใช่ไหมครับ นี่ครับกระต่าย 8 ตัว เชิญตรวจสอบได้เลยครับ”
“อืม…ตรวจสอบรียบร้อยค่ะ ทั้ง 8 ตัวอยู่ในภาพดี ภารกิจของคุณเสร็จเรียบร้อยค่ะ”
“นี่ค่ะ รางวัลของคุณ 80 เหรียญทองแดง ขอแสดงความยินดีที่ทำภารกิจแรกสำเร็จนะคะ”
“ขอบคุณมากครับ”
ภารกิจสร็จสมบูรณ์แล้วใช่ไหมนะ? ชักรู้สึกประหม่าแล้วสิ
ถึงจะทำเรื่องเดิมๆอย่างการเอากระต่ายไปขายก็เถอะ ผมเอากระต่ายที่เหลืออีก 17 ตัวไปขายที่เคาน์เตอร์รับซื้อ
“โปรดซื้อพวกมันด้วยครับ นี่ครับกระต่ายมีเข้า 17 ตัว”
“โอ้ วันนี้คุณมาเร็วนะ”
“ฮ่าๆๆ พอดีก๊อบลินมันโผล่ออกมานะครับ ผมเลยรีบหนีกลับมา”
“ดีแล้ว ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ ฉันคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ดี”
“คุณภาพดีมาก คุณทำได้ดีจริง กระต่าย 1 ตัวได้ 8 เหรียญทองแดง รวมเป็น 1 เหรียญเงิน กับอีก 36 เหรียญทองแดง”
“ราคานี้โอเคไหม?”
“ครับ”
อืม ยังเร็วเกินไปที่จะกลับไปที่โรงเตี๊ยม… ผมน่าจะออกไปนอกเมืองเพื่อที่จะซื้อเรือยางลำใหม่ในที่ๆ ไม่สะดุดตาและลองเรียกมันออกมาต้องลองดูตามขนาดของเรือแล้วค่อยลองไปหาช่างไม้ที่สามารถสร้างกระท่อมให้ผมได้ทีหลัง
ประตูทางทิศใต้ค่อนข้างไกล ผมจึงจะออกนอกเมื่องทางประตูทางทิศตะวันออกแล้วเดินเลอะตามกำแพงเมืองไปเรื่อยๆ
ประมาณนี้น่าจะได้ จากนั้นผมก็เปิดหน้าต่างสกิลขึ้นมาและเลือกไปที่เรือยางสำหรับตกปลาขนาดใหญ่บนหน้าจอการซื้อ…
โอ้ มีสีให้เลือกด้วย ผมว่าจะเลือกสีเขียวเข้มซึ่งดูไม่น่าจะเด่นตอนใช้ในทุ่งหญ้า…
หืม? จะจ่ายเงินยังไงล่ะเนี่ย?
ขณะที่ผมกำลังติดว่าจะต้องจ่ายเงินด้วยวิธีไหนดีอยุ่นั้น…
จู่ๆ ช่องใส่เหรียญก็ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอการซื้อซะงั้น
พร้อมกับข้อความบอกให้ผมใส่เหรียญลงไป อืม…ช่างเป็นสกิลที่เรื่องลึกลับดีจริงๆ
จากนั้นผมก็ใส่เหรียญเงิน 2 เหรียญ และ เหรียญทองแดง 40 เหรียญ ลงไปในช่อง จากนั้นก็กดปุ่มซื้อ…
ทำแบบนี้ถูกแล้วใช่มั้ย…?
โอ้ เรือยางขนาดใหญ่ขึ้นมาอยู่ในช่องของสกิลเรียกเรือแล้ว
สกิล: เรียกเรือ Lv.1
ความสามารถ: เรียกเรือที่ซื้อออกมาได้
เรือที่เรียกออกมาจะอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเท่านั้น
สามารถควบคุมเรือได้ตามที่ต้องการ
สามารถซื้อเรือใหม่ได้จากหน้าต่างซื้อ
รายการเรือที่เรียกได้
เรือพายเบื้องต้น (ไม้) : จุได้สูงสุด 2 คน.
คุณสมบัติ: ไม่จม ไม่สามารถทำลายได้ ปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเรือ
รายการใหม่
เรือยางสำหรับตกปลาขนาดใหญ่(สีเขียวเข้ม) : จุได้สูงสุด 4-5 คน.
คุณสมบัติ: ไม่จม ไม่สามารถทำลายได้ ปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเรือ
โอ้ ดูเหมือนผมจะสามารถเรียกเรือที่ซื้อไว้มาได้ตามต้องการเลยสินะ
เอาล่ะมาลองเรียกเรือลำใหม่ที่พึ่งซื้อออกมากันดีกว่า…
“เรียกเรือ” จากนั้น วงเวทย์จะปรากฏขึ้นมา แล้วเรือยางขนาดใหญ่สำหรับตกปลาก็ถูกเรียกออกมา
โว้ว พื้นเรือแบบ แบนราบใช้บนพื้นดินได้ดีพอสมควรเลย
อืมๆ ค่อนข้างใหญ่เลย น่าจะพอนอนราบได้
โอ้ พอเทียบกับพื้นไม้ในโรงเตี้ยมแล้ว ท้องเรือยางแบบนี้ก็ให้ความรู้สึกทีไม่เลวเลย
ผมสามารถนอนตรงนี้ได้เลยโดยมีแค่ผ้าห่ม…อยากได้กระท่อมไวๆแล้วสิ
ดูเหมือนไม้พายจะทำจากอลูมิเนียมสินะ ส่วนใบพายเป็นพลาสติก
มันคงไม่สามารถทำลายได้เหมือนกันกับพายไม้สินะ
ผมชักสงสัยแล้วสิว่าพลังโจมตีของมันจะเทียบได้กับพายไม้หรือเปล่า?
มาลองเช็คขนาดเรือกันดีกว่า… ขนาดน่าจะเป็นไปตามที่ระบุไว้ในหน้าจอตอนที่ซื้อ
แต่ปัญหาคือส่วนที่ยื่นออกมาสำหรับใส่ไม้พาย ต้องพยายามหาขนาดที่ถูกต้องเพื่อที่ต้องสร้างกระท่อมจะได้ไม่มีปัญหา
อืม…ว่าแต่จะอธิบายเรื่องกระท่อมยังไงดีหว่า…?
เอาเถอะไว้ค่อยคิดอีกทีแล้วกัน ตอนนี้ก็กลับเข้าเมืองแล้วไปที่โรงเตี๊ยมดีกว่า
“โอ้ ยินดีต้อนรับ วันนี้มาแต่เช้าเลย จะพักอีกคืนหรือเปล่าวันนี้?”
“ครับ ขอพัก 1 คืน พร้อมกับอาหารเย็นด้วยครับ”
“ทั้งหมดก็ 15 เหรียญทองแดง”
คุณเจ้าของโรงเตี๊ยมดูเหมือนจะรู้จักคนเยอะ ผมลองถามเธอดูดีกว่าว่าพอจะรู้จักช่างไม้บ้างไหม
“นี่ครับ 15 เหรียญทองแดง เอ่อ ขอถามอะไรหน่อยครับ คือคุณพอจะรู้จักช่างไม้บ้างไหมครับ”
“ช่างไม้เหรอ? นี่เธออยากสร้างบ้านงั้นเหรอ?”
“ฮ่าๆ เปล่าครับ คือจริงๆ แล้วที่อยากจะสร้างมันเป็นอะไรที่คล้ายกับกระท่อมเล็กๆ มากกว่าครับ”
“พอดีผมอยากรู้ราคาคร่าวๆว่ามันจะราคาซักเท่าไหร่นะครับ”
“อืม…? ก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะ แต่ฉันจะเขียนแผนที่ให้แล้วกัน”
“ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวผมขอเอาสัมภาระไปฝากไว้แปปนึงนะครับ”
ผมดีใจมากที่คุณเจ้าของรู้จักกับร้านช่างไม้ หลังจากฝากสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
ผมก็กลับมารับแผนที่จากคุณเจ้าของจากนั้นก็ออกจากโรงเตี้ยมมาเพื่อเดินตามหาร้านไม้
“ที่นี่งั้นเหรอ? เอ่อ…ขอโทษนครับ”
“ลูกค้าเหรอ?”
“เอ่อ ผมมีบางอย่างอยากให้คุณทำนะครับ แต่ผมมีเงินไม่มากเท่าไหร่ เลยอยากมาถามคุณก่อนว่าต้องใช้เงินประมาณเท่าไร”
“อ๋อ เข้าใจแล้ว เข้ามาก่อนสิ”
“เอ่อ ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี แต่…ผมอยากได้กระท่อมหลังเล็กๆ ขนาด กว้าง 140 ยาว 300 สูง 180 ไม่มีพื้น”
“ส่วนล่างต้องมีรู้เอาไว้ผูกเชือก ดังนั้น ผมอยากให้คุณเจาะรูเป็นระยะๆ ห่างเท่าๆ กันนะครับ”
“นี่ครับ ส่วนที่ยื่นออกมาทั้ง 4 ด้านที่ทำเครื่องหมายไว้เป็นจุดที่ต้องเจาะรู้ครับ”
“นายนี่ให้ทำแต่อะไรแปลกๆ นะ ไม่มีพื้นกับรูเอาไว้ผูกเชือกงั้นเหรอ?”
“เอ่อ…พอทำได้ไหมครับ อ๊ะ ผมอยากได้ประตูแบบบานเลื่อนด้วยนะครับ”
“ทำมันก็ทำได้นั่นล่ะ ว่าแค่นายอยากให้ใช้วัสดุอะไรทำล่ะ?”
“จะใช้วัสดุอะไรก็ได้เลยครับ ขอแค่กันฝนได้ก็พอแล้วครับ ยิ่งถูกก็ยิ่งดี”
“อืม มีเกวียนเก่าๆอยู่ตรงนั้นที่ต้องกำจัดอยู่พอดี ถ้าใช้วัสดุพวกนั้นล่ะก็ราคาจะถูกมากเลย แต่มันจะออกมาดูไม่สวยเท่าไหร่”
“รูปลักษณ์ภายนอกไม่ใช่ปัญหาเลยครับ ขอแค่ราคาถูกก็พอ”
“ว่าแต่ถ้าใช้วัสดุตามที่คุณบอกราคาจะประมาณเท่าไหร่งั้นเหรอครับ?”
ผมรู้สึกว่าจะได้มันในราคาที่ถูกมากๆ…
“อืม…ไหนดูสิ เราจะใช้วัสดุจากเกวียนเก่าตรงนั้น ทำผนัง หลังคาและอื่นๆ นอกจากพื้น เจาะรู แล้วก็ต้องติดตั้งแผ่นหนังเพื่อป้องกันน้ำรั่ว ดังนั้น…”
“ผมขอแค่มันทนแดดทันฝนก็พอแล้วครับ คุณจะคิดราคาเท่าไหร่”
“อืม…ให้พวกลูกศิษย์ทำ ก็เสียแค่ค่าตะปู…”
“1 เหรียญเงิน เป็นไง?”
ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องซื้อมัน…
“ได้ครับ แล้วต้องใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ครับ?”
“ถ้าให้พวกลูกศิษย์ทำก็… ประมาณ 3 วันน่าจะพอ”
“เป็นไปได้มั้ยครับ ที่จะจัดส่งไปที่ถนนด้านหลังโรงเตี๊ยมข้างๆ กิลด์นักผจญภัยประมาณ 6 โมงเย็นของวันที่ทำเสร็จ?”
“แน่นอน ผมจะจ่ายค่าส่งให้ด้วย”
“อืม…มันไม่ได้หนักเท่าไหร่ งั้นค่าส่งเอาเป็น 10 เหรียญทองแดงแล้วกัน”
“ได้เลยครับ นี่ 1 เหรียญเงิน กับ อีก 10 เหรียญทองแดงครับ
“โอ้ ขอบคุณที่มาอุดหนุน.
ผมคิดว่ามันจะแพงมากกว่านี้ซะอีก โชคดีจริงๆที่ได้มาในราคาถูก ผมจึงรีบสั่งซื้อในทันที
ผมรู้สึกว่าผมซื้อได้ในราคาที่ดีสุดแล้ว คำสั่งซื้อประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทุกอย่างกำลังเป็นไปด้วยดี
เอาล่ะ เมื่อเรื่องที่ต้องทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็กลับโรงเตี้ยมเลยดีกว่า
“อ๊ะ คุณเจ้าของ ขอบคุณนะครับที่แนะนำช่างไม้ให้รู้จัก ราคาถูกมากเลยครับ ผมรีบสั่งซื้อในทันทีเลย”
“งั้นเหรอ ดีด้วยนะ”
“พวกเขาบอกว่าจะเอามาส่งที่นี่ภายใน 3 วัน ผมจะรีบย้ายมันทันทีเมื่อมันมาถึงครับ
“ดังนั้นได้โปรดให้ผมวางมันไว้ที่ถนนด้านหลังของโรงเตี๊ยมสักพักนะครับ”
“ด้านหลังงั้นเหรอ…? ถ้าจัดการให้เสร็จก่อนเช้าวันรุ่งขึ้นได้ ก็ตามสบายเลย”
“ขอบคุณครับ”
เยี่ยม ข้อตกลงกับคุณเจ้าของเรียบร้อย ดีนะที่เธอไม่ปฏิเสธ ถ้าเธอปกิเสธล่ะก็ ผมคงต้องกลับไปที่ร้านช่างไม้อีกครั้ง
เห้อ…โล่งใจจัง ว่าแต่ก่อนจะถึงเวลาอาหารเย็น ยังพอมีเวลาเหลืออยู่อีกนิดหน่อย ผมควรจะใช่เวลาว่างทำอะไรดี…
อืม…หลังจากสร้างกระท่อมเสร็จแล้ว ก็ต้องซื้อเรือมาเพื่อนประกอบกับกระท่อม
อ๊ะ…ต้องหาเชือกมาผูกกระท่อมด้วย แล้วก็ต้องหาผ้าห่ม กับโคมไฟ…
หือ…โคมไฟ?
ผมคิดว่ามันไม่น่าจะต้องใช้นะ เพราะสามารถใช้เวทย์แสงจากเวทย์ในชีวิตประจำวันได้
แต่นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับระดับของเวทย์ในชีวิตประจำวันของผมด้วล่ะ
ไว้หลังทานอาหารเสร็จ ผมว่าผมต้องมาจริงจังกับการฝึกฝนเวทย์ในชีวิตประจำวันหน่อยแล้ว..
อ๊ะ…จะว่าไป ผมควรทำยังไงกับเรือพาย(ไม้)ดีล่ะ…
เพราะ เรือยางสำหรับต่อสู้ และเรือยางสำหรับกระท่อม ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานในทุกๆวันแล้ว
อืม…ลองซื้อลังไม้มาใส่ไว้บนเรือพายดีมั้ยหว่า… เผื่อเอาไว้เก็บของ
ผมคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์เพราะพักหลังๆ สัมภาระของผมก็เริ่มเยอะแล้วสิ
ขณะที่ผมกำลังคิด… ก็มีเสียงกระดิ่งดังขึ้น ถึงเวลากินข้าวแล้วรีบไปกินเลยดีกว่า จากนั้นก็ไปฝึกเวทย์ในชีวิตประจำวัน
หลังทานอาหารเสร็จ ผมก็กลับมาที่ห้องและเริ่มฝึกสัมผัสพลังเวทย์ ผมนั่งในท่าที่สบายๆ
จากนั้นเริ่มฝึกสัมผัสพลังเวทย์ อืม…เริ่มรับรู้ได้แล้ว
ถ้าผมสมารถรวบรวมพลังเวทย์พวกนี้ไว้ที่ปลายนิ้วได้ ผมก็น่าจะสามารถใช้เวทมนต์ได้ในเร็วๆ นี้
เพราะวงเวทย์ของเวทย์ชีวิตประจำวันนั้นค่อนข้างจะง่าย
ผมประสบความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในการพยายามรวบรวมพลังเวทย์ไปไว้ที่ปลายนิ้ว
ปริมาณพลังเวทย์ที่ผมสามารถรวมไว้ที่ปลายนิ้วเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแล้ว รู้สึกเหมือนอีกนิดก็น่าจะได้แล้ว
คงต้องฝึกแบบนี้ทุกวันก่อนเข้านอนแล้วสิ จนกว่าจะสามารถใช่เวทย์ได้
ชักเริ่มง่วงแล้วสิ พรุ่งนี้ก็ต้องไปรับคำขอที่กิลด์อีก ผมว่าผมเช็คสถานะแล้วก็เข้านอนเลยดีกว่า…
อืม…เลเวลไม่เพิ่มเลย สงสัยจริงๆว่าต้องใช้ค่าประสบการณ์เท่าไหร่กันนะถึงจะเพิ่ม 1 เลเวล?
พรุ่งนี้อาจจะเพิ่มก็ได้ เอาล่ะ…
พรุ่งนี้ก็ออกไปล่ากระต่ายมีเขาอีกแล้วกัน จนกว่าจะสามารถย้ายไปอยู่โรงแรม ที่มีห้องส่วนตัวได้
งั้นวันนี้ก็ ราตรีสวัสดิ์…
ยอดเงินคงเหลือ: 62 เหรียญทองแดง
ยาวเหลือเกินแต่ละตอน…