Mezase Gouka Kyakusen!! (เรือสำราญ ณ ต่างโลก) - ตอนที่ 18 เป็นสมาชิกของกิลด์พ่อค้าและเรือยนต์
อา…หลับสบายชะมัดเลย
สงสัยเพราะคืนก่อนผมแทบจะไม่ได้ เพราะงั้นพอหัวถึงหมอนผมก็หลับยาวมาจนถึงเช้าเลย
เอาล่ะ ไปที่ห้องอาหารกันก่อนดีกว่า
“อรุณสวัสดิ์ครับ ขอรับอาหารเช้าได้ไหมครับ? แล้วก็ ผมอยากล้างหน้าด้วย บ่อน้ำอยู่ตรงไหนเหรอ?”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ อาหารเช้าพร้อมแล้ว บ่อน้ำอยู่ทางด้านหลัง เดินตรงไปที่ประตูตรงนั้นได้เลยค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
ผมรีบเดินไปที่บ่อน้ำ เพื่อล้างหน้า แล้วก็กลับมารับประทานอาหารเช้า
อาหารเช้าประกอบด้วยปลาผัด ขนมปัง และซุป การได้กินปลาทำให้ผมนึกถึงข้าว
ปลากับขนมปัง…มันไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ ถ้าเป็นข้าวล่ะก็…
ผมคิดถึงข้าวไปพลาง ขณะที่ผมกำลังเดินทางไปที่กิลด์
วันนี้ผมขอลองหาอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง เพราะเมืองนี้ถูกเรียกว่า “เมืองแห่งการค้า”
ผมจะดีใจมากถ้าหา “ข้าว” เจอ
เมื่อมาถึงกิลด์ ผมก็เดินไปที่กระดานเควสต์ มีคำขอมากมายที่เหมาะกับเมืองการค้าที่อยู่ติดทะเล
มีคำขอให้ขนส่งสินค้า คัดแยกปลา และทำความสะอาดท่าเรือ ดูเหมือนคำขอจะเปลี่ยนไปตามสถานที่จริงๆ
ส่วนคำขอสำหรับนักผจญภัยแรงค์ต่ำที่เกี่ยวกับการล่ามอนสเตอร์ในทะเลก็…
คือล่า “ปูยักษ์” กับ “ดาร์ทฟิช” ที่ปรากฏตัวตามชายฝั่งงั้นเหรอ
มีคำขอเกี่ยวกับมอนสเตอร์ในทะเลเยอะแยะไปหมด แต่ผมยังนึกภาพมอนสเตอร์พวกนั้นไม่ออกเลย
ปูยักษ์งั้นเหรอ… ปูยักษ์เนี่ย…มันจะกินได้หรือเปล่านะ?
อืม ไม่แน่ใจเหมือนกัน คำขอเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าและคัดแยกปลามีรางวัลค่อนข้างต่ำ
ส่วนการล่าก็อบลินดูเหมือนจะปลอดภัยสำหรับความสามารถของผม แต่รางวัลสำหรับการฆ่าก็อบลินก็ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่นัก
เอาเป็นว่าผมลองไปที่ห้องข้อมูลก่อนดีกว่า ผมเดินไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เพื่อถามตำแหน่งของห้องข้อมูล
จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปที่นั่น บรรยากาศในห้องข้อมูลเหมือนกับที่เมืองทางตะวันตก
ผมขออนุญาตบรรณารักษ์แล้วเริ่มค้นหาหนังสือ ข้อมูลที่ผมต้องการตอนนี้คือเรื่องมอนสเตอร์ที่อยู่รอบๆ เมืองทางใต้
จากที่อ่านดูมอนสเตอร์บนบกส่วนใหญ่ก็เป็นพวกก็อบลิน ออร์ค และหมาป่า
แต่การล่ากระต่ายมีเขาเป็นไปได้ยากเพราะพื้นที่แถวนี้ไม่ค่อยมีทุ่งหญ้าเท่าไหร่
ดูเหมือนว่าจะทำเงินก้อนโตจากกระต่ายมีเขาในเมืองนี้ไม่ได้
ส่วนมอนสเตอร์ในทะเลมีหลายชนิดจนจำไม่ไหว อย่างน้อยผมก็กลัวพวก “มังกรทะเล” และอะไรๆเทือกนั้น
“ปูยักษ์” ก็เป็นปูขนาดใหญ่ตามชื่อเลย ได้ยินมาว่ารสชาติอร่อย
ส่วน “ดาร์ทฟิช” เป็นปลาที่มีเขาแหลมยาวประมาณ 30 เซนติเมตร
มักจะกระโดดขึ้นมาบนเรือเป็นฝูง หน้าที่ของนักผจญภัยคือใช้โล่ป้องกันการโจมตีจากดาร์ทฟิช
ครั้งหน้า ผมจะลองไปสำรวจเรือที่จอดอยู่ในท่าเรือดู จากนั้นค่อยไปที่กิลด์พ่อค้าเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
อืม… เรือส่วนใหญ่ที่อยู่ที่ท่าเรือเป็นเรือไม้ มีทั้งเรือใบ เรือพายกัลลีย์ และบางครั้งก็มีเรือที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจที่ได้เห็นเรือที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้
พวกมันมักจะเป็นเรือลำเล็กๆ ที่ใช้วิ่งระหว่างเรือลำใหญ่และชายฝั่ง ดูเหมือนว่าเรือยนต์ไม้จะไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่
เอาล่ะ ไปที่กิลด์พ่อค้าเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกันดีกว่า
ผมอบถามตำแหน่งของกิลด์การค้าที่ท่าเรือจากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่นั่น
บรรยากาศในกิลด์พ่อค้าดูแตกต่างไปจากกิลด์นักผจญภัย มีพ่อค้าเร่ที่แต่งตัวคล้ายผมอยู่บ้าง
แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่แต่งตัวดูดี
เมื่อมองไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ผมก็เห็นสาวสวยหูจิ้งจอกคนหนึ่งยืนอยู่
เมื่อเห็นอย่างนั้น ผมก็นึกขึ้นได้ว่าผมยังไม่ได้ถามชื่อของพี่สาวหูจิ้งจอกที่เมืองทางตะวันตกเลยนี่…
แต่ทำไมพอเห็นสาวสวยหูจิ้งจอกทีไรก็รู้สึกประหม่าขึ้นทุกทีเลยเนี่ย สงสัยว่าผมจะชอบหูจิ้งจอกสินะ
“สวัสดีครับ ผมมีคำถามหลายข้อที่อยากถาม สามารถถามที่เคาน์เตอร์นี้ได้ไหมครับ?”
“สวัสดีค่ะ คุณสามารถถามได้เลยค่ะ”
“ขอบคุณครับ อย่างแรก ผมอยากทราบว่าสามารถเข้าร่วมกิลด์พ่อค้าได้ไหม หากผมเป็นสมาชิกกิลด์นักผจญภัยอยู่แล้ว”
“และถ้าได้ เงื่อนไขการเข้าร่วมคืออะไรครับ?”
“ได้ค่ะ คุณสามารถเป็นสมาชิกทั้งกิลด์นักผจญภัยและกิลด์พ่อค้าได้พร้อมกันค่ะ”
“ที่กิลด์พ่อค้าก็มีระบบแรงค์เหมือนกันกับกิลด์นักผจญภัย”
“คุณสามารถลงทะเบียนเป็นพ่อค้าเร่ในแรงค์ F ได้ โดยต้องจ่ายค่าสมาชิกประจำปีเป็นจำนวนเงิน 5 เหรียญเงินค่ะ”
“สำหรับการเลื่อนแรงค์ คุณต้องจ่ายค่าสมาชิกตามแรงค์ที่สูงขึ้น และต้องมีผลงานที่เหมาะสมกับแรงค์นั้นค่ะ”
“แล้วข้อดีของการเลื่อนแรงค์คืออะไรครับ?”
“ข้อดีคือ คุณจะได้รับสิทธิ์ในการรับคำขอก่อนคนอื่น”
“ได้รับข้อมูลที่กิลด์รวบรวมไว้ และได้รับสิทธิ์พิเศษต่างๆค่ะ”
“ยกตัวอย่างเช่น สามารถใช้สถานที่ขนถ่ายสินค้าหรือได้รับการแนะนำบุคคล ซึ่งสิทธิ์เหล่านี้จะให้กับบุคคลคนที่มีแรงค์สูงก่อนค่ะ”
“ดังนั้นทุกคนจึงพยายามเลื่อนแรงค์ให้สูงขึ้นอย่างน้อยหนึ่งระดับค่ะ”
แม้ว่าผมจะสนใจเรื่องรวบรวมข้อมูล แต่ดูเหมือนว่าสิทธื์พิเศษอื่น ๆ จะไม่ค่อยสำคัญมากสำหรับผมเท่าไหร่ในตอนนี้
“ขอบคุณมากครับ ผมพอเข้าใจแล้ว มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากถามคือ ผมมีโอกาสได้เรือมาลำนึง”
“เพราะงั้นผมเลยอยากรู้ว่ามีงานประเภทไหนบ้างที่ผมสามารถทำได้กับเรือลำนั้นน่ะครับ?”
“มันก็ขึ้นอยู่กับประเภทของเรือค่ะ ว่าเรือลำนั้นเป็นเรือเล็ก เรือใบ เรือกัลลีย์ หรือว่าเรือเวทมนตร์”
“แล้วคุณหมายความถึงเรือแบบไหนล่ะคะ?”
เรือเวทมนตร์? เรือที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองที่นี่เรียกว่า “เรือเวทมนตร์” สินะ
“เอ่อ…เป็นเรือเวทมนตร์ขนาดเล็กน่ะครับ และถ้าผมเก็บเงินได้มากพอ ผมอาจจะได้เรือเวทมนตร์ขนาดเล็กอีกลำด้วย”
“การได้เรือเวทมนตร์มาไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ แม้ว่าคุณจะต้องการก็ตาม แปลว่าคุณคงจะมีคอนเนคชั่นที่ดีมากๆเลยสินะคะ”
ฮ่าๆ คอนเนคชั่นที่ดีงั้นเหรอ…ในกรณีของผม คอนเนคชั่นที่ว่าก็คงจะเป็น ท่านเทพ ใช่ไหมนะ…?
นั่นก็ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมในทางหนึ่งจริงๆนั้นล่ะ แม้ว่าผมจะถูกพวกท่านๆทั้งหลายจับตามองอยู่ก็เถอะ…
“ใช่ครับ พวกเขาช่วยผมได้มากเลย ดังนั้นผมคิดว่าการเป็นพ่อค้าน่าจะใช้ประโยชน์จากเรือได้ดีกว่าการเป็นนักผจญภัยครับ”
“แม้จะเป็นเรือเวทมนตร์ลำเล็ก ก็มีคนที่อยากได้เรือแบบนี้อยู่ค่ะ หากคุณต้องการขายเรือ ฉันสามารถช่วยเป็นตัวกลางให้ได้ค่ะ”
“และทางเราก็จะจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับการแนะนำให้กับคุณด้วยค่ะ”
ขายเหรอ? ผมจะสามารถขายเรือที่ได้มาจากสกิลการอัญเชิญเรือได้ไหมนะ…?
มันคงจะดีถ้าหากขายได้ แต่ถ้าขายเรือหลายลำเกินไป ฉันคงถูกสงสัยแน่ ๆ
“ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากเก็บเรือเอาไว้เองน่ะครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เพราะนั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ฉันหวังว่าคุณจะไม่ถือสานะคะที่ฉันพูดแบบนั้นออกไป”
สาวหูจิ้งจอกยิ้มให้ผมอย่างใจดี รอยยิ้มนั้นทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด
“งั้นฉันจะอธิบายเกี่ยวกับงานของเรือเวทมนตร์ขนาดเล็กนะคะ”
“งานของเรือเวทมนตร์ขนาดเล็กมักเป็นการพาคนไปยังเมืองหลวงและสถานที่อื่นๆ”
“แต่ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความสามารถของเรือ ถ้าสามารถพานักผจญภัยไปยังเกาะทางตะวันออกเฉียงใต้ได้”
“เงินที่ทำได้ก็จะดีมากๆเลยค่ะ”
“แค่พาคนไปที่เกาะได้เงินดีขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
“ใช่ค่ะ เกาะทางตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่แ่งของสมุนไพรหายากและที่อยู่ของมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งค่ะ”
“เพราะงั้นวัตถุดิบที่ได้จากเกาะนั้นจึงมีมูลค่าสูง แต่ที่เกาะนั้นมีแนวปะการังและโขดหินอยู่เป็นจำนวนมาก”
“ทำให้ไม่มีเส้นทางเดินเรือที่เรือปกติจะผ่านไปได้ จึงทำให้มีเพียงเรือขนาดเล็กเท่านั้นจึงจะสามารถผ่านไปได้”
“อีกทั้งที่นั่นยังมีกระแสน้ำวนไหลเชี่ยวและซับซ้อนเป็นอย่างมากจนเรือเวทมนตร์ขนาดเล็กธรรมดาไม่สามารถไปถึงได้”
“เพราะฉะนั้นในขณะนี้จึงมีเรือเพียงแค้ 4 ลำเท่านั้นที่สามารถเดินทางไปถึงที่เกาะนั่นได้ค่ะ”
นี่มัน…เหมือนกับด่านโบนัสเลย เพราะถ้าสามารถไปถึงได้ก็สามารถหาเงินได้
เพราะแค่พาคนไปส่งผมก็สามารถทำได้ ผมอยากจะเป็นเรือลำที่ 5
“ถ้าผมสามารถไปถึงเกาะนั้นได้ แปลว่าผมจะไม่ต้องกังวลเรื่องงานอีกเลยใช่ไหมครับ?”
“เอ่อ คุณพอบอกได้ไหมครับว่า ค่าโดยสารไปเมืองหลวงกับค่าโดยสารไปที่เกาะนั่นราคามันอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?”
“ค่าโดยสารไปเมืองหลวงจะอยู่ที่ 3 เหรียญเงินต่อคนสำหรับเที่ยวขาไป”
“ส่วนเที่ยวกลับที่ไหลตามกระแสน้ำมาจะอยู่ที่ 2 เหรียญเงินต่อคนค่ะ”
“แต่ถ้าไปเกาะ ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 10 เหรียญเงินต่อคนต่อวันค่ะ”
“10 เหรียญเงินต่อคนต่อวัน? นักผจญภัยจะทำกำไรได้มากขนาดนั้นจริงๆเหรอครับถึงกับกล้าจ่ายในราคานั้น!?”
อะไรเนี่ย เหมือนกับฟองสบู่เลย แบบนี้มันจะไม่แตกเหรอ?
“ได้ค่ะ เพราะวัตถุดิบที่ได้จากเกาะนั้นมีราคาสูงมากๆค่ะ”
“นักผจญภัยที่สามารถล่าและเก็บเกี่ยวที่นั่นได้จะสามารถทำกำไรมหาศาล”
ดูเหมือนว่าฟองสบู่จะไม่แตกง่ายๆสินะ
“ถ้าผมได้เรือเวทมนตร์ขนาดเล็กมา ผมสามารถทำงานอะไรได้บ้างครับ?”
“เรือส่วนใหญ่มักใช้เส้นทางที่ปลอดภัยใกล้ชายฝั่ง ขนสินค้าจำนวนมากเพื่อทำกำไร”
“แต่ก็มีบางคนที่เดินทางไปยังทวีปทางใต้ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางร่วมเดือน แม้จะใช้เรือเวทมนตร์ค่ะ”
“เส้นทางเดินเรือนี้เป็นเส้นทางที่ยากลำบากมากค่ะ มีเรือเพียง 1 ใน 30 ลำเท่านั้น”
“ที่สามารถเดินทางไป-กลับได้ แต่ถ้าคุณสามารถนำพริกไทยกลับมาได้ คุณจะได้กำไรจำนวนมหาศาลเลยค่ะ”
“ดังนั้นจึงมีคนพยายามท้าทายเส้นทางนี้อยู่เสมอๆ”
โอ้ ช่างคลาสสิกจริงๆ การทำเงินมหาศาลจากการค้าพริกไทยนี่มันเหมือนกับในนิยายเลยไม่ใช่เหรอ?
ใช้เวลามากแด่ “โกง”!
“มีพ่อค้าคนไหนที่ค้าขายพริกไทยด้วยเรือเวทมนตร์ไหมครับ?”
“อัตราการรอดชีวิตอาจจะมากกว่าเรือธรรมดาก็จริงแต่ก็ยังถือว่าอยู่ในอัตราที่สูงค่ะ”
“ดังนั้นฉันจึงคิดว่าไม่คุ้มเสี่ยงที่จะออกทะเลลึกด้วยเรือเวทมนตร์ที่ราคาแพงแบบนั้น”
“เพราะคุณอาจถูกมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง เช่น มังกรทะเล โจมตีเอาก็ได้”
“แม้แต่เรือเวทมนตร์ก็ไม่สามารถหนีมังกรทะเลได้ และจะจมลงจากการโจมตีในทีเดียวค่ะ”
ในเมื่อมีเรือเวทมนตร์ที่สามารถทำเงินได้อย่างปลอดภัย
แล้วทำไมจะต้องออกทะเลลึกพร้อมกับความเสี่ยงที่จะสูญเสียทุกอย่างด้วยล่ะ?
“เข้าใจแล้วครับ ทะเลลึกอันตรายจริงๆ ใช่ไหมครับ?”
“ใช่ค่ะ อันตรายมากๆ”
คุณสาวหูจิ้งจอกพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ดูเหมือนจะมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
“เข้าใจแล้วครับ แล้วถ้าผมได้เรือเวทมนตร์ขนาดเล็กมาในวันพรุ่งนี้ ผมควรจอดเรือไว้ที่ไหนดีครับ?”
“ถ้าคุณเข้าร่วมกิลด์พ่อค้า เราสามารถให้เช่าที่จอดเรือสำหรับเรือขนาดเล็กได้ค่ะ ค่าเช่าอยู่ที่ 1 เหรียญเงินต่อเดือน”
ดูเหมือนว่าธุรกิจการค้าน่าจะเหมาะกับผมมากกว่า งั้นฉันควรเข้าร่วมกิลด์พ่อค้า
“งั้นผมขอเข้าร่วมกิลด์แล้วก็ขอเช่าที่จอดเรือด้วยครับ นี่ครับ 6 เหรียญเงิน”
“เข้าใจแล้วค่ะ กรุณาส่งบัตรสมาชิกของกิลด์นักผจญภัยของคุณมาด้วยนะคะ ฉันจะรวมข้อมูลเข้าด้วยกัน”
“นี่ ครับ”
“การรวมข้อมูลเสร็จสิ้นแล้วค่ะ ที่จอดเรือของคุณคือหมายเลข 115 นะคะ”
ตอนนี้ผมได้ข้อมูลทุกอย่างที่ผมต้องการแล้ว
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะครับ ผมชื่อวาตารุ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เป็นเรื่องปกติ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ ฉันชื่อคามิลล์ค่ะ”
ผมดีใจที่ตัดสินใจแนะนำตัวเองได้สำเร็จ ถ้าพลาดโอกาสแรกนี้ไป ผมคงไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นแนะนำตัวอีกครั้งเมื่อไหร่
คามิลล์ คุณคามิลล์สิน้า… ผมจะจำชื่อนี้ไว้ และพยายามแวะมาหาคุณคามิลล์ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
อ๊ะ แต่ต้องทำให้พอดีๆ เธอจะได้ไม่รู้สึกรำคาญ
ตอนนี้ผมทำตามเป้าหมายส่วนใหญ่สำเร็จแล้ว กลับไปที่โรงเตี๊ยมแล้วซื้อเรือยนต์ไม้กันดีกว่า
“โอ้ยะ…ยินดีต้อนรับกลับค่ะ วันนี้อยากทานอะไรเป็นมื้อเย็นดีคะ?”
เมื่อผมกลับมาที่โรงเตี๊ยม คุณเจ้าของก็ทักทายผมอย่างอบอุ่น ผมเองก็ตื่นเต้นที่จะได้กินอาหารเย็นแล้วสิ
“กลับมาแล้วครับ ผมอยากสั่งอาหารครับ”
“ได้เลยค่ะ เราเริ่มเสิร์ฟตั้งแต่ระฆังตีครั้งที่หกนะคะ”
“ครับ”
จากนั้นผมกลับมาที่ห้องและเปิดหน้าต่างสำหรับการซื้อเรือขึ้นมาในทันที
การตัดสินใจว่าจะซื้อเรือลำไหนนั้นไม่ง่ายเลย เพราะมีเรือยนต์บางลำที่ราคาสูงแบบไม่น่าเชื่อรวมอยู่ด้วย…
งั้นตัดพวกนี้ออกไปก่อนแล้วกัน มามองหาเรือที่ราคาเหมาะๆดูก่อนดีกว่า
อืม มันยากจริง ๆ ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเรือเลย เรือยนต์ที่ถูกที่สุดก็ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีกระแสน้ำไหลแรง
ส่วนเรือที่ดีที่สุดก็ราคาแพงเกินไป
ผมคิดว่าถ้าแค่การเดินทางไปกลับเมืองหลวงก็น่าจะทำเงินได้อยู่
แต่ในใจลึกๆ ผมก็อยากได้เรือที่สามารถเดินทางไปถึงเกาะได้อยู่ดี
ผมคิดว่าเรือยนต์แบบญี่ปุ่นน่าจะเหมาะกว่า แต่ปัญหาคือมันไม่ได้ทำจากไม้และราคาสูงถึง 2 เหรียญทอง
ถ้าสามารถไปถึงเกาะได้ ผมก็จะสามารถหาเงินคืนส่วนที่เสียไป 2 เหรียญทองได้อย่างรวดเร็วแน่ ๆ
แต่สิ่งที่ผมกังวลคือมันไม่ได้ทำจากไม้
ผมนึกถึงสิ่งที่ท่านเทพผู้สร้างเคยบอกไว้ว่า เลเวลของสกิลการอัญเชิญเรือจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถ้าผมซื้อเรือใหม่
ท่านบอกว่าเลเวลไม่ได้มีผลอะไรมาก และถึงเลเวลสกิลจะเพิ่มขึ้นเมื่อผมซื้อเรือก็ไม่น่ามีปัญหา…
แล้วเงื่อนไขของการเพิ่มเลเวลคืออะไรล่ะ? ถ้ามันเพิ่มขึ้นจากการซื้อเรือ งั้นอาจจะขึ้นอยู่กับจำนวนเรือที่ซื้อหรือจำนวนเงินที่ใช้ไป
อืม ผมว่าผมต้องลองซื้อดูแล้วล่ะ ถึงจะมั่วแต่คิดนู่นคิดนี่ก็คงจะไม่ได้อะไร
เพราะถ้าผมยังทำตัวเหมือนเดิมแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆล่ะก็ ผมคงได้ตายก่อนจะได้เรือสำราญสุดหรูมาครอบครองแน่ ๆ
ถ้าเกิดอะไรแย่ๆขึ้นสุดท้ายก็แค่หนีไป ตราบใดที่ผมสามารถอัญเชิญเรือบนผิวน้ำได้ ก็ไม่น่าถูกจับ
งั้นซื้อมันเลยแล้วกัน ถ้าซื้อเลเวลก็จะเพิ่ม ใช่แค่ซื้อเท่านั้น…
ผมเปิดหน้าจอการซื้อขึ้นมา แล้วเลือกเรือยนต์แบบญี่ปุ่น พร้อมกับจ่าย 2 เหรียญทอง
สกิลอัญเชิญเรือ Level 2
คุณสามารถอัญเชิญเรือที่คุณซื้อได้ +1 (ใหม่)
คุณสามารถรักษาเรือที่ซื้อให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดและควบคุมมันได้อย่างอิสระ
สามารถซื้อเรือใหม่จากหน้าจอการซื้อได้
แผนที่ (ใหม่)
สร้างแผนที่อัตโนมัติของสถานที่ที่คุณเคยไป
แปลงโฉมเรือ (ใหม่)
สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเรือได้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพ
เรือไม้พื้นฐาน
ผู้โดยสารสูงสุด: 2 คน
คุณสมบัติ: จมไม่ได้, ทำลายไม่ได้, ปฏิเสธการขึ้นเรือ
เรือที่ซื้อแล้ว
เรือยางตกปลาใหญ่ (สีเขียวเข้ม):
ผู้โดยสารสูงสุด: 4-5 คน
คุณสมบัติ: จมไม่ได้, ทำลายไม่ได้, ปฏิเสธการขึ้นเรือ
เรือยางตกปลาใหญ่ (สีน้ำเงิน):
ผู้โดยสารสูงสุด: 4-5 คน
คุณสมบัติ: จมไม่ได้, ทำลายไม่ได้, ปฏิเสธการขึ้นเรือ
เรือยนต์แบบญี่ปุ่น:
ผู้โดยสารสูงสุด: 12 คน
คุณสมบัติ: จมไม่ได้, ทำลายไม่ได้, ปฏิเสธการขึ้นเรือ
โอ้… สะดวกมาก! เลเวลของการอัญเชิญเพิ่มขึ้นแล้ว และได้ความสามารถ แปลงโฉมเรือ มา
นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากได้มาตลอด ผมคงต้องไปขอบคุณท่านเทพผู้สร้างที่โบสถ์แล้ว
ส่วน “แผนที่” ก็น่าจะตรงตัว ใช้สำหรับบันทึกแผนที่ ส่วน “+1” นี่มันหมายถึงอะไรนะ?
อัญเชิญเรือเพิ่มได้อีกลำงั้นเหรอ?
ไว้ค่อยลองดูข้างนอกหลังมื้อเย็นแล้วกัน
ยอดเงินคงเหลือ:
1 เหรียญทอง 53 เหรียญเงิน 35 เหรียญทองแดง
YOU MAY ALSO LIKE
