Mezase Gouka Kyakusen!! (เรือสำราญ ณ ต่างโลก) - ตอนที่ 14 บทสนทนา เทพผู้สร้างกับความไม่พอใจของเหล่าทวยเทพ
- Home
- Mezase Gouka Kyakusen!! (เรือสำราญ ณ ต่างโลก)
- ตอนที่ 14 บทสนทนา เทพผู้สร้างกับความไม่พอใจของเหล่าทวยเทพ
“นี่!”
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม?”
“ใช่ นี่มันก็นานมากแล้วที่เราไม่ได้มีผู้มาเยือนจากต่างโลก”
“เขาชื่อ โทโยมิ วาตารุ ที่เมาตกทะเลแล้วถูกส่งมายังโลกนี้ใช่ไหม?”
“ใช่”
“ข้าได้มอบสกิลเรียกเรือให้กับเขา เพราะชื่อเขาดูเหมาะกับมันดี”
“และข้ายังเพิ่มความสามารถในการเข้าใจภาษาให้กับเขาอีกด้วย หวังว่าเขาจะทำให้พวกเราสนุกกันได้นะ”
“โปรดอย่าให้พลังกับเขามากจนเกินไปล่ะ”
“เพราะเราเคยมีปัญหาตอนที่ท่านมอบพลังให้กับไอ้บ้าคนนึงมากจนเกินไปแล้วเขาเกิดอยากเป็นจอมมารขึ้นมา”
“ข้าเข้าใจแล้วน่า สกิลเรียกเรือที่ข้าให้เขาไป”
“ไร้เทียมทานก็แต่ในด้านการป้องกันแล้วก็ใช้ได้ต่อเมื่อเขาอยู่บนเรือเท่านั้น”
“และข้ายังได้ตั้งข้อจำกัดไว้ว่า เขาจะไม่สามารถเรียกเรือที่มีพลังในการโจมตีออกมาได้อีกด้วย”
“แถมข้ายังส่งข้อความไปเตือนเขาไว้แล้ว ดังนั้นคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“หวังว่ามันจะส่งผลดีต่อโลกนี้นะ”
“น่าๆ ข้าหวังว่ามันจะมีเรื่องน่าสนุกเกิดขึ้นนะ”
“เพราะเราไม่ได้มีผู้มาเยือนจากต่างโลกนานมากแล้ว ไปบอกเรื่องนี้ให้ทุกคนๆรู้ด้วยล่ะ”
“ได้ค่ะ แต่ท่านเทพผู้สร้าง คนๆนั้นกำลังตกลงไปในทุ่งหญ้าแล้วนะคะ คุณมั่นใจหรือว่าทักษะเรียกเรือของเขาจะใช้ได้?”
“หืม? ฮ่าๆ…ไม่เป็นไรหรอกมั้ง?”
“เฮ้อ นี่คุณไม่ได้คิดอะไรเอาไว้เลยใช่ไหมค่ะเนี่ย?”
“ฉันบอกหลายครั้งแล้วใช่มั้ย ว่าอย่าทำอะไรตามใจตัวเองนักให้คิดดีๆก่อนค่อยลงมือทำ”
“นี่เจ้าพูดอะไรน่ะ? ข้าคือเทพผู้สร้างเชียวนะแน่นอนอยู่แล้วว่าการกระทำของข้าต้องคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว”
“อีกอย่างการที่เจ้าจะมาสอนข้าน่ะยังเร็วไปล้านปีเฟ้ย เพราะข้าเป็นเทพผู้สร้างยังไงล่ะ ฮ่าๆๆๆ”
“แต่ฉันก็เป็นเทพแห่งแสงนะ คุณลืมแล้วเหรอ?”
“ทำไมเจ้าถึงมองข้าเหมือนจะบอกว่า ‘หมอนี่มันพูดบ้าอะไรของมันอยู่เนี่ย’ ฮะ?”
“นี่เจ้าน่ะ ฟังข้าให้ดี เทพผู้สร้างยิ่งใหญ่กว่าเทพแห่งแสง ดังนั้นข้าใหญ่กว่าเจ้า…”
“ฉันบอกเทพองค์อื่นหมดแล้ว พวกเขากำลังเบื่อๆอยู่พอดี เลยมารวมตัวกันอยู่ที่นี่หมดแล้ว”
“นี่ อย่าทำเป็นไม่สนใจนะ เจ้าต้องฟังที่ข้าพูดสิ ข้าเป็นถึงเทพผู้สร้างเลยนะ นี่ๆ”
“ดูสิ นั่นเขาเจอกับกระต่ายมีเขาแล้ว…อ๊ะ เขาวิ่งหนีไปแล้ว!”
“ไม่เป็นไรๆ… ดูสิ เขาเริ่มสังเกตเห็นถึงหน้าต่างสถานะของตัวเองแล้ว”
“แล้วทำไมคุณถึงให้เขามีสกิลเรียกเรือทั้งๆ ที่ส่งเขาลงไปที่ทุ่งหญ้า?”
“ฉันชักสงสารเขาขึ้นมานิดๆแล้วสิ ที่ได้สกิลแบบนั้นไป เห้อ…”
“หุบปาก สกิลเรียกเรือเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆเลยนะเฟ้ย”
“แล้วนี่ก็เป็นบททดสอบด้วย ว่าเขาจะสามารถไปถึงที่ ที่มีน้ำอยู่ได้หรือไม่!”
“นั่นไงเห็นไหม เขามีไหวพริบพอที่จะลองเรียกเรือแม้จะอยู่ที่บนบกแล้วนั้น”
“เจ้าคิดว่าไง เทพแห่งสงคราม? เทพแห่งเวทมนตร์?”
“เขาก็แค่ลองใช้สกิลของเขาดูเฉยๆ ตอนนี้เรายังตัดสินอะไรเขาไม่ได้หรอก”
“วันนี้เขาก็เอาแต่ล่ากระต่ายอีกแล้ว น่าเบื่อชะมัด เขาคิดที่จะทำอะไรที่มันดูน่าสนใจบ้างไหมเนี่ย?”
“ข้าก็เข้าใจนะที่เขาจริงจังและทำงานหนักในทุกๆวัน แล้วนั้นก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ในฐานะเทพแห่งความบันเทิง มันทำให้ข้ารู้สึกคลื่นไส้”
“ถ้าเขาไม่มีสกิลแบบนี้และได้รับข้อความพวกนั้น เขาอาจจะทำอะไรที่มันดูน่าสนใจมากกว่านี้ก็ได้”
“ใช่ เขาคงทำอะไรหวือหวาไม่ได้หรอก เพราะได้สกิลบ้าๆแบบนั้น”
“บางทีข้าควรจะมอบสกิลอะไรซักอย่างให้เขาดีมั้ย? เจ้าล่ะว่ายังไง เทพแห่งเวทมนตร์?”
“ก็เป็นความคิดดี เพราะถ้าเกิดเทพแห่งสงครามหรือไม่ก็เทพแห่งเวทมนตร์มอบสกิลให้เขา มันอาจจะทำให้สถานการณ์ดูน่าสนใจขึ้นมาก็ได้”
“ในฐานะเทพแห่งความบันเทิง ข้าเองก็อยากมอบสกิลบางอย่างให้เขา เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์ต่างๆ มันน่าสนุกขึ้น”
“เพราะถ้าทุกอย่างยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป เจ้าเด็กนี้คงได้แค่ล่ากระต่ายไปจนตลอดชีวิตของเขาแน่”
“และมันคงจะน่าเสียดายไม่น้อย สำหรับคนที่มาจากต่างโลก ใช่ไหม?”
“ข้าเห็นด้วย ข้าสงสารเขาเหลือกเกินที่มีแต่สกิลแบบนี้ ข้าว่าข้าจะมอบเวทมนตร์ทุกธาตุและเพิ่มพลังเวทย์ให้กับเขา พวกเจ้าว่าดีไหม?”
“โอ้ น่าสนใจนิ งั้นข้าจะมอบหอกศักดิ์สิทธิ์และสกิลเสริมพลังกายให้กับเขาแล้วกัน”
“ถ้าอย่างนั้น ข้าว่าข้าจะมอบสกิลการเปลี่ยนแปลงความน่าจะเป็น ให้กับเขาน่าจะดีกว่า เผื่อจะมีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้น”
“เฮ้ เทพแห่งสงคราม เทพแห่งเวทมนตร์ เทพแห่งความบันเทิง หยุดพูดอะไรไร้สาระได้แล้ว”
“แค่สกิลเรียกเรือที่ข้าให้เขามันก็เพียงพอแล้ว สกิลเรียกเรือที่ข้าให้เขาไปเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆเลยนะพวกเจ้ารู้ไหม”
“เอ๋ ถ้างั้น ทำไมเขาที่เป็นถึงคนที่มาจากต่างโลกถึงได้มาติดแหง็กอยู่แบบนี้ล่ะ?”
“ข้าไม่เคยเห็นใครที่มาจากต่างโลกแล้วจืดสนิทขนาดนี้มาก่อนเลยนะ”
“ข้าว่าที่มันเป็นแบบนี้เพราะเขาได้สกิลห่วยๆกับข้อความแปลกๆจากเจ้า ไปนั่นล่ะ…”
“เห็นด้วย เพราะพฤติกรรมส่วนใหญ่ของชาวต่างโลกมักจะน่าสนใจกว่านี้”
“ข้าก็เห็นด้วย ข้ามันใจเลยว่าเป็นเพราะเขาได้รับสกิลห่วยๆ ไปจากท่านนั่นล่ะ…”
“นะ นะ-นี่ พวกเจ้าพูดแบบนั้นกับเทพผู้สร้างได้ยังไง?”
“น่าๆทุกคน พวกเจ้าไม่ควรจะมอบสกิลอะไรเพิ่มให้กับเด็กคนนั้นหรอกนะ ข้าว่าเขาดูเหมาะสมกับสกิลเรียกเรือแล้ว”
“เอ๋ ถ้าอย่างนั้น ก็ควรต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ เพราะถ้าไม่ทำอะไรเลยมันจะดูน่าเบื่อเกินไป”
“เอาล่ะๆ ใจเย็นๆ ก่อนนะทุกคน การให้สกิลมากจนเกินไป ก็ใช่จะเป็นเรื่องที่ดี”
“และข้าว่าท่านเทพผู้สร้างก็คงไม่ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปตลอดหรอก ลองให้เวลาเขาดูอีกสักหน่อยเถอะ”
“ก็ได้ ถ้าเทพแห่งแสงพูดแบบนั้น พวกเราจะรอดูกันไปก่อน แต่ถ้าเขาไม่ทำอะไรเลย พวกข้าจะมอบสกิลให้กับเขา”
“เห้ย แล้วทำไมพวกเจ้าถึงฟังเทพแห่งแสงแต่กลับต่อต้านข้าล่ะ?”
“นี่พวกเจ้าอยู่ในช่วงวัยต่อต้านใช่มั้ย? อยู่ในวัยต่อต้านสินะ…”
“หุบปาก! ถ้าจะทำอะไรก็รีบๆ ไปทำเลยนะ!”
“อะเหื้อ! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่จะเป็นท่าทีที่แสดงต่อเทพผู้สร้าง”
“เอาเถอะ ไว้ข้าจะลองคุยกับเขาตอนที่เขาแวะมาที่โบสถ์แล้วกัน”
“แล้วเขาจะมาที่โบสถ์ไหมนั่น? เด็กคนนี้ออกล่ากระต่ายทุกวันโดยไม่หยุดพักเลยนะ”
“เห้อ…ข้าเริ่มเบื่อแล้ว ขอกลับไปนอนก่อนแล้วกัน ถ้ามีความคืบหน้าอะไรก็บอกด้วย”
“งั้นพวกเราก็กลับเหมือนกัน อย่าให้พวกเรารอนานเกินไปล่ะ เข้าใจมั้ย…”
“นี่…เทพแห่งแสง ทำไมเจ้าพวกนั้นถึงได้ทำตัวแบบนี้ล่ะ?”
“ข้าเป็นถึงเทพผู้สร้างเลยนะ หรือข้าควรจะจัดการกับพวกเขาให้เข็ดดีไหม?”
“คุณต้องทำให้เด็กคนนั้นมาที่โบสถ์ให้ได้ค่ะ”
“คุณมีแผนหรือยังว่าจะทำยังไงให้เขามาที่โบสถ์?”
“เฮ้ นี่เจ้าเมินข้างั้นเหรอ? เฮ้ๆ อย่าทำเป็นเมินข้านะ ข้าเป็นถึงเทพผู้สร้างเลยนะ”
“ข้าจะรอดูสถานการณ์ไปก่อน แต่ถ้าเขาไม่มา ข้าจะส่งนิมิตไปหาเขา”
“ถึงการไปยุ่งกับโลกเบื้องล่างมันจะไม่ดีซักเท่าไหร่แต่ถ้าเข้าไม่มาข้าคงไม่มีทางเลือก ดังนั้นข้าจึงหวังให้เขาจะมาที่โบสถ์ด้วยตัวของเขาเอง”
“นี่ๆ เทพแห่งแสงมาคุยกันเถอะนะ นี่ การสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญมากเลยนะ นี่ๆ…”
หลังจากนั้นไม่นาน…
“…ท่านเทพผู้สร้าง เด็กคนนั้นเข้ามาในโบสถ์แล้ว ดีเลย ข้าจะได้ไม่ต้องให้นิมิตเขา งั้นข้าจะปล่อยที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของท่านแล้วกัน”
“โอ้ ไว้ใจได้เลย ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้ว”
“เฮ้ ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนไปจากอะไรจากเดิมเลยนิ…หรือว่าถึงเวลาที่เราควรมอบสกิลให้กับเขาได้แล้ว?”
“ใจเย็นๆ ก่อนเทพแห่งสงคราม”
“เพราะหลังจากเขาได้คุยเทพผู้สร้าง เขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง”
“เขาจะเริ่มออกเดินทางไปที่เมืองทางใต้หลังจากเขาฝึกฝนเสร็จ ดังนั้นอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ได้”
“อาจจะงั้นเหรอ? เฮ้อ…ช่วยไม่ได้ อย่างน้อยๆ เขาก็คงพอรับมือกับเหตุฉุกเฉินได้อยู่หรอกด้วยสกิลแบบนี้”
“ช่วยไม่ได้จริงๆ ถ้าเขาได้สกิลที่มีประโยชน์กว่านี้ เขาก็คงไม่ต้องมาเสียเวลาและความพยายามขนาดนี้หรอก”
“เทพแห่งแสงคงเหนื่อยน่าดู”
“ใช่ ข้าเหนื่อยมากๆเลยล่ะ เทพแห่งความบันเทิง เจ้าพอจะช่วยข้าหน่อยได้ไหม?”
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ ข้าว่าแทนที่ท่านจะไปช่วยเขา ข้าว่าท่านเอาเวลาไปคิดหาบทเรียนมาสอนเทพผู้สร้างจะดีกว่านะ”
“มันสายเกินไปแล้วล่ะ…”