Mezase Gouka Kyakusen!! (เรือสำราญ ณ ต่างโลก) - ตอนที่ 13 ก๊อบลิน สไลน์ สกิลฝึกสัตว์ และการเตรียมตัวออกเดินทาง
- Home
- Mezase Gouka Kyakusen!! (เรือสำราญ ณ ต่างโลก)
- ตอนที่ 13 ก๊อบลิน สไลน์ สกิลฝึกสัตว์ และการเตรียมตัวออกเดินทาง
ตอนนี้พวกเราเข้ามาในป่ากันแล้ว ผมเคยเห็นป่านี้แค่จากที่ไกลๆ
ในตอนที่ผมล่ากระต่ายมีเขาอยู่เท่านั้น
พึ่งรู้ว่าข้างในมันมีบรรยากาศที่ชวนขนลุกถึงขนาดนี้
ที่ผมเข้าป่ามาเนี่ยมันจะ โอเคจริงๆน่ะเหรอ?
“เอาล่ะทุกคน เตรียมพร้อม”
“วาตารุ นายมายืนตรงกลาง”
“ถ้าเกิดมีก๊อบลินโผล่มา เราจะปล่อยมันไปทางนายตัวนึง เพื่อที่นายจะได้ลองต่อสู้กับมัน”
“โอเคมั้ย?”
“คะ คะ ครับ…”
“ใจเย็นๆ ก๊อบลินตัวเดียวจัดการได้ไม่ยากหรอก”
“กระต่ายมีเขาที่หลบไปหลบมาอย่างรวดเร็วยังจะจัดการยากกว่าซะอีก”
“นายไหวแน่วาตารุ”
แกร๊ก!
“ฮี้!”
ผมตกใจเสียงกิ่งไม้ลั่น…น่าอายชะมัดเลย
“เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ”
พวกเราค่อยๆเคลื่อนที่ไปข้างหน้า โดยที่มีผมยืนอยู่ตรงกลาง
พวกคุณอัลโดช่างเป็นคนที่ใจดีกันจริงๆเลย
การเดินทางในป่านั้นเป็นอะไรที่ยากลำบากพอสมควร
เพราะตามพื่นมักจะมีรากไม่ หลุม หรือไม่ก็หินหรือสิ่งกีดขวางอื่นๆ มาบดบังทางอยู่เป็นระยะๆ
ในขณะที่เรากำลังเดินๆอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงดังมาจากทางพุ่มไม้ที่อยู่ตรงหน้า
“ก๊อบลิน”
“วาตารุ ใจเย็นแล้วถือหอกเตรียมไว้”
“พวกเราจะไปจัดการจนกว่ามันจะเหลือแค่ตัวเดียวแล้วนายค่อยตามมา”
“ครับ”
จากนั้นไม่นานก็มีก๊อบลินกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากพุ่มไม้ที่อยู่ตรงหน้า
เมื่อพวกก๊อบลินเห็นเรามันก็ส่งเสียงร้องและรีบวิ่งเข้ามาโจมตีเราทันที
กลุ่มของพวกคุณอัลโดสามารถเอาชนะเหล่าก๊อบลินได้อย่างง่ายดาย
หลังจากจัดการเหล่าก๊อบลินจนเหลืออยู่แค่ตัวเดียวแล้ว พวกคุณอัลโดก็…
“วาตารุ ลุย!”
“ครับ!”
ผมพุ่งเข้าไปแทงหอกใส่เจ้าก๊อบลินตัวนั้น
หอกของผมสามารถแทงทะลุท้องของมันได้อย่างง่ายดายจนน่าประหลาดใจ
หลังจากนั้นไม่นานเจ้าก๊อบลินก็ล้มลงและสินใจไปในที่สุด
ง่ายไปมั้ยเนี่ย…?
“เป็นไง ง่ายใช่มั้ยล่ะ?”
“คะ-ครับ ดูเหมือนผมจะปราบมันได้นะครับ”
“ก๊อบลินเป็นแบบนี้เสมอเลยหรือเปล่าครับ?”
“แบบมันโผล่มา ร้องเสียงดัง จากนั้นก็กระโจนเข้าใส่แบบไม่สนอะไรเลยแบบนี้…”
“อืม ปกติพวกมันก็เป็นแบบนี้ล่ะ”
“แต่ก็ห้ามประมาท เพราะบางครั้งก็เจอกลุ่มที่มีก๊อบลินลีดเดอร์รวมอยู่ด้วยเหมือนกัน”
“ถ้าเจอกลุ่มแบบนั้น บางทีก็ต้องใช้หัวนิดนึง อาจต้องใช้แผนซุ่มโจมตีหรือไม่ก็ต้องใช้วิธีอื่่นๆ”
“เอาล่ะๆ พูดกันมาพอแล้ว”
“รีบไปเก็บหินเวทย์กับหูขวาของพวกมันแล้วไปกันต่อเถอะ”
“คะ-ครับ”
อี้…หยะแหยง
ผมใช่มีดกรีดรอบๆหัวใจของเจ้าก๊อบลินพวกนี้เพื่อนำหินก้อนเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆกับหัวใจของมันออกมา
จากนั้นก็ใช้มีดตัดไปที่ใบหูข้างขวาของพวกมันออกมา ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องพวกนี้เท่าไหร่นัก
แม้ผมจะสามารถจัดการพวกมันได้ แต่การที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้เป็นอะไรที่ผมไม่ค่อยชอบเลย
“เอ่อ แล้วส่วนอื่นๆ ของร่างกายล่ะครับ?”
“ปล่อยไว้แบบนั้นได้เลย เพราะในป่ามีพวกสไลม์อยู่เยอะ”
“ดังนั้นพวกมันจะถูกย่อยสลายก่อนที่จะกลายโครงกระดูกหรืออันเดต”
“สไลม์งั้นเหรอครับ?”
“แล้วถ้าเราอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่ป่าแบบนี้”
“เราจำเป็นที่จะต้องเผาพวกมันก่อนไปหรือเปล่าครับ?”
“ใช่แล้ว เราต้องขุดหลุมแล้วก็เผาพวกมันจากนั้นค่อยทำการกลบหลุมน่ะ”
“เพื่อป้องกันพวกมันกลายเป็นอันเดต”
“แต่ที่ป่านี้พวกเราไม่ต้องทำแบบนั้น เพราะมีสไลม์อยู่”
“ดังนั้นที่นี่จึงเหมาะที่จะเป็นจุดล่าเริ่มต้นสำหรับพวกมื่อใหม่ยังไงล่ะ”
“เข้าใจแล้วครับ”
“อ๊ะ! สไลม์นี่…”
“วาตารุ นายเคยเห็นสไลม์มาก่อนหรือเปล่า?”
“ไม่ครับ ยังไม่เคยเห็นเลย”
“ว่าแต่มันน่ารักจังเลยนะครับ”
รูปร่างของเจ้าสไลม์คลายกับก้อนโมจิปีใหม่แต่เป็นสีฟ้า
พวกมันเคลื่อนที่ไปมาช้า ด้วยการยืดตัวไปมา
ท่าทางแบบนั้นช่างน่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ
“น่ารักงั้นเหรอ?”
“ครับ น่ารัก”
“ว่าแต่ผมของจับมันหน่อยได้มั้ยครับ?”
“เอ่อ ไอ้ได้มันก็ได้อยู่หรอก…”
“แต่อย่าจับมันนานเกินไปล่ะ เพราะถ้ามันดูดมือนายเข้าไปล่ะก็มี่หวังมือนายได้ละลายแน่”
“งั้นก็หมายความว่าถ้านิดๆหน่อยๆคงได้สินะครับ”
จากนั้นผมก็เดินไปอุ้มเจ้าสไลม์ขึ้นมา
“โอ้โห สัมผัสของเจ้านี่ให้ความรู้สึกดีจังเลย มันลื่นๆแล้วก็เย็นด้วย”
“ผมของเก็บเด็กคนนี้ไปได้มั้ยครับ?”
“เอ่อ ใจเย็นก่อนนะวาตารุ”
“ถ้านายไม่มีสกิลฝึกสัตว์ล่ะก็ สไลม์มันก็เป็นได้แค่มอนสเตอร์ทั่วไปเท่านั้นล่ะ”
“เพราะงั้นนายเอามันเข้าเมื่องไปด้วยไม่ได้หรอกนะ”
“แล้วทำยังไงผมถึงจะได้รับสกิลฝึกสัตว์มาเหรอครับ?”
“นี่ใจเย็นก่อน อย่าพึ่งตื่นเต้นขนาดนั้นสิ”
“การได้สกิลมา มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกน่ะ”
“เอ๋ งั้นเหรอครับ”
โมจิโมจิโมจิ….
“เอ๊ะ! เจ้าสไลม์มัน…”
“วางมัมลง วาตารุ”
ผมรีบวางเจ้าสไลม์ลงทันที
โมจิโมจิโมจิ….
“นายไม่เป็นอะไรมั้ย!?”
“ไม่ครับผมแค่ตกใจเฉยๆ”
“ดีแล้ว ถ้างั้นพวกเราก็รีบออกเดินทางต่อกันเถอะ”
“ครับ”
ผมรู้สึกตกใจเล็กน้อยการท่าทีแปลกๆของเจ้าสไลม์ แต่ผมชอบความรู้สึกตอนที่สัมผัสตัวมันจังเลย
“เอ่อ ว่าแต่เราจะปล่อยมันไปทั้งอย่างงี้เลยเหรอครับ?”
“ใช่ สไลม์มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศเพราะพวกมันช่วยทำความสะอาดป่า”
“ดังนั้นถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ พวกเราก็จะไม่กำจัดกัน”
“เว้นแต่จะเป็นประเภทที่อันตราย อย่างพวกที่มีพิษหรือไม่ก็ที่ใจใหญ่มากๆ”
“ฉันก็เคยได้ยินมาว่ามีบางประเภทที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ด้วยนะ”
“จริงเหรอครับ ชักอยากเห็นพวกมันแล้วสิ”
มีสไลม์มากมายหลากหลายเป็นเภทขนาดนั้นเลย?
เอาอยากได้พวกมันไปเลี่้ยงจังเลย จะได้สามรถเพลิดเพลินการสวนสวรรค์ของเหล่าโมจิได้
“ก๊อบลิน! พวกเราเตรียมตัว”
“โอ้ว…”
หลังจากนั้นพวกเราก็ล่าก๊อบลินกันต่อไปจนกระทั่งถึงเย็น
กลุ่มของพวกคุณอันโด ประสานงานกันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ดาบ หอก หรือแม้กระทั่งธนู
พวกเขาสามารถจัดการก๊อบลินลงได้อย่างง่ายดายด้วยการโจมตีประสาน
ขณะที่พวกเขาเข้าไปจัดการก๊อบลินนั้น ผมได้เฝ้าสังเกตถึงกลยุทธ์แล้ววิธีการในการจัดการก๊อบลินของพวกเขา
จนผมคิดว่า ต่อให้คนเดียว ผมก็สามารถจัดการกับพวกก๊อบลินได้ ยิ่งโดยเฉพาะผมที่มีสกิลเรียกเรืออยู่
แต่ไม่ว่าจะคิดยังไงผมก็ยังอยากได้สไลม์มาเลี้ยง
ถ้าผมลองพยายามผูกมิตรกับพวกมันดู ผมจะได้รับสกิลฝึกสัตว์มาหรือเปล่านะ…
ในที่สุดพวกเราก็เดินทางกลับมาถึงกิลด์ หลังจากรับจากรับรางวัลจากภารกิจเสร็จเรียบร้อย
พวกเราก็แบ่งรางวัลกันคนล่ะ 50 เหรียญทองแดง ผมพยายามบอกพวกคุณอัลโดว่าไม่ต้องแบ่งรางวัลให้ผมก็ได้
แต่พวกเขาก็บอกว่าไม่เป็นไร ผมได้แต่ขอบคุณพวกเขาแล้วรับเงินมาเท่านั้น
“เอาล่ะ กลับไปหาอะไรกินที่โรงเตี้ยมกันดีกว่าพวกเรา”
“วันนี้นายจะร่วมแจมกับพวกเราไหมวาตารุ?”
“ครับ ผมขอร่วมวงด้วยแล้วกันครับ”
หลังจากนั้นพวกเราก็มุ่งหน้ากลับไปที่โรงเตี้ยม เราแยกย้ายกันเอาสัมภาระไปเก็บไว้ที่ห้อง
จากนั้นพวกเราก็มารวมกันอยู่ที่ห้องอาหาร
“เอาล่ะ ฉลองให้กับการกลับมาอย่างปลอดภัยของพวกเรา”
“และฉลองแต่การเข้าป่าและจัดการก๊อบลินได้เป็นครั้งแรกของวาตารุ”
“ชน…”
“ฮ้า…ดื่มหลังจากทำงานมาเหนื่อยๆ นี่มันดีจริงๆ”
“ว่างั้นมั้ยวาตารุ?”
“ครับ ผมดีใจจริงๆที่สามารถเอาชนะก๊อบลินได้”
“แล้วผมก็ยังได่เรียนรู้ว่าการเข้าป่าไปคนเดียวมันเป็นเรื่องที่อันตรายขนาดไหนด้วย”
“ถ้าผมไม่มีพวกคุณอยู่ด้วยผมคงไม่สามารถจัดการกับก๊อบลินได้แน่ๆ”
“ดังนั้นให้ผมขอบคุณอีกครั้งนะครับ”
“ขอบคุณมากจริงๆเลยนะครับทุกคน”
“น่าๆ ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้”
“ก๊อบลินมันไม่ได้จัดการยากเย็นอะไรขนาดนั้น ปัญหาอย่างเดียวของพวกมันคือจำนวนของพวกมันเฉยๆ”
“ดังนั้นถ้านายจะออกเดินทางก็แค่จ้างคนคุ้มกันซะก็หมดเรื่อง”
“อีกอย่างนายเป็นคนสอนพวกเราล่ากระต่ายมีเขาด้วย ดังนั้นนี่ถือว่าเป็นการตอบแทนในเรื่องนั้น”
“ที่พวกเราสามารถซื้ออุปกรณ์ที่ดีขึ้นได้เร็วขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะนายด้วย”
“ดังนั้นฝ่ายเราต่างหากล่ะที่ต้องขอบคุณ”
“งั้นเหรอครับ”
“ใช่ๆ มาๆ เรามาฉลองกันต่อดีกว่า”
หลังจากนั้นเราก็กินดื่มกันต่อไปอีกซํกพักหนึ่งจากนั้น ผมก็ขอตัวกลับห้อง
วันนี้ผมดิ่มไปมากพอสมควรเลยล่ะ หมดเงินไปตั้ง 30 เหรียญทองแดงแนะ
ดังนั้นวันนี้ขอข้ามส่วนของการฝึกก่อนนอนไปเลยแล้วกัน
เอาลาะมาตรวจสอบสถานะแล้วเข้านอนกันเลยดีกว่า
!…เลเวลของผมเพิ่มขึ้นมา 1 ล่ะ exp จากการล่าก๊อบลินมากว่ากระต่ายมีเขาอยู่พอสมควรเลยสินะเนี่ย
ชักสงสัยแล้วสิว่า ปาร์ตี้ของคุณอัลโด มีเลเวลอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่…
ไว้มีโอกาศค่อยถามแล้วกัน ถ้างั้นก็ราตรีสวัสดิ์…
ตอนเช้า ถ้าถามว่าวันนี้ผมจะออกไปล่ากระต่ายมีเขาเลยหรือเปล่านั้น?
คำตอบก็คงเป็น ‘ไม่’
วันนี้ผมว่าจะแวะไปหาข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับการฝึกสไลม์ที่กิลด์นักผจญภัยก่อนจากนั้นค่อยออกไปล่า
ผมอยากรู้วิธีได้มาซึ่งสกิลการฝึกสัตว์ ดังนั้นวันนี้ก็ขอหยุดพักเรื่องการล่าเอาไว้ก่อนแล้วกัน
หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จ ผมก็ไปรับข้าวกล่องมื้อกลางวัน จากนั้นก็มุ่งหน้าตรงไปที่กิลด์
“อรุณสวัสดิ์ครับ ผมขอดูเอกสารหน่อยครับ”
“ได้เลย”
หลังจากกล่าวคำทักท้ายและได้รับคำอนุญาติจากคุณเจ้าหน้าที่แล้วผมก็เดินเข้ามาข้างในห้องเก็บข้อมูล
อืม มีหนังสือเกี่ยวกับสกิลการฝึกสัตว์หรือเปล่าหว่า?
หวังว่าในหนังสือรวบรวมรายชื่อสกิลจะมีข้อมูลของสกิลการฝึกสัตว์นะ
ไหนดูซิ…ไม่มีข้อกำหนดสำหรับการเรียนรู้สกิลการฝึกสัตว์
และดูเหมือนว่าคนที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์หรือคนที่มีสัตว์เลี้ยง
จะสามารถได้รับสกิลนี้ค่อนข้างง่าย รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการได้รับสกิลไม่แน่ชัด
แต่ที่แน่ๆ คนที่จะสามารถเรียนรู้สกิลนี้ได้จะต้องมีพิ้นฐานเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์
อืม…ตอนนี้ผมไม่มีความเกี่ยวของกับการเลี้ยงสัตว์หรือมีสัตว์เลี้ยงอะไรเลย
แต่ผมอยากเลี้ยงสไลม์ ผมไม่อยากยอมแพ้เรื่องนี้
ผมคงต้องไปถามพวกเหล่าคนที่มีอาชีพนักฝึกสัตว์(เทมเมอร์)เอาซะแล้ว
คนเหล่านั้นน่าจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากกว่าข้อมูลอ้างอิงที่อยู่ในห้องนี้
หรือผมควรไปถามคุณพนักงานกิลด์ดีนะ ว่าที่กิลด์พอมีครูฝึกที่มีอาชีพเทมเมอร์บ้างหรือเปล่า?
“อรุณสวัสดิ์ ผมอยากรับคำขอนี้ครับ”
“รับทราบค่ะ คำขอของคุณได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้วค่ะ”
วันนี้คนที่ผมมารับเควสด้วยก็ยังคงเป็นพี่สาวหูจิ้งจอกสุดสวยอีกเช่นเคย
แต่ถึงจะผ่านมานานขนาดนี้แล้วผมก็ยังคงไม่รู้ชื่อของเธอด้วยซ้ำ
ผมอายเกินกว่าจะกล้าถามชื่อของเธอออกไปตรงๆ
“เอ่อ ผมขอถามอะไรหน่อยครับ”
“คือว่าที่กิลด์พอมีครูฝึกที่สามารถสอนผมเกี่ยวกับสกิลฝึกสัตว์ได้บ้างไหมครับ?”
“สกิลฝึกสัตว์อย่างงั้นเหรอคะ?”
“ครับ”
“ดิฉันต้องขออภัยด้วยค่ะ ทางกิลด์ไม่มีบุคลากรที่สามารถสอนคุณเกี่ยวกับสกิลฝึกสัตว์ได้เลยค่ะ”
“เพราะวิธีการได้รับมาซึ่งสกิลฝึกสัตว์นั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดค่ะ”
“อย่างงั้นเหรอครับ…งั้นก็ไม่เป็นไร ขอบคุณมาก”
“ไว้ผมค่อยไปลองหาวิธีเอาก็ได้ ถ้างั้นผมขอตัวออกไปล่าก่อนนะครับ”
“วันนี้ก็ขอให้โชคดีกับการล่านะคะ”
ว้าว! เป็นครั้งแรกเลยที่คุณพี่สาวหูจิ้งจอกกล่าวลาผมแบบนั้น
ผมชักมีแรงฮึดขึ้นมาแล้วสิ หรือผมควรจะลองถามชื่อของเธอดูดี
ไม่อ่ะ ไม่เอาดีกว่า มีนักผจญภัยคนอื่นต่อแถวรออยู่ด้วย
ดังนั้นผมรีบออกจากตรงนี้แล้วออกไปล่าเลยน่าจะดีกว่า…
ในตอนเย็นหลังจากได้รับเงินรางวัล 3 เหรียญเงินจากการล่ากระต่ายและฝึกฝนที่กิลด์เสร็จเรียบร้อย
ผมก็มุ่งหน้ากลับไปที่โรงเตี้ยมเพื่อรับประทานอาหาร
ฮ้า…ช่างเป็นชีวิตที่สงบสุขดีจริงๆเลย
แต่…ผมคงไม่สามารถใช่ชีวิตอยู่แบบนี้ได้ตลอด เพราะถ้ายังมัวแต่เอ้อระเหยอยู่อย่างนี้
มีหวังท่านเทพได้จับผมไปแห่หัวแน่เลย
เอาล่ะ ในทึ่สุดผมก็ตัดสินใจได้ ผมจะอยู่ที่เมืองนี้อีกแค่ 1 เดือนเท่านั้น
จากนั้นผมก็จะออกเดินทางไปที่เมืองทางทิศใต้
ดังนั้นเรามาเริ่มเตรียมตัวสำหรับออกเดินทางกันดีกว่า
ผมจะเตรียมตัวออกเดินทางไปพร้อมๆกับฝึกฝนที่กิลด์และเก็บเงินเพิ่มจากการล่ากระต่าย
นับจากนี้ผมจะขอให้คุณเจ้าของทำข้าวกล่องให้ผมวันละ 2 ชุด
โดยจะเก็บชุดนึงไว้ในเรือที่ใช้เป็นที่เก็บของ จากนั้นผมก็จะตะเวรไปซื้อพวกอาหารเสียบไม้และเสบียงต่างๆ
มาตุนเอาไว้ในเรือ เพื่อที่ตอนออกเดินทางผมจะได้ไม่ลำบากเรื่องอาหารการกิน
เพราะตราบใดที่ผมเตรียมตัวมาอย่างดี ผมก็จะไม่มีวันอดตายอย่างแน่นอน
เอาล่ะ กำหนดระยะเวลาคือ 1 เดือนนับจากนี้ มาพยายามในทุกๆวันกันเถอะ
ผ่านไปแล้ว 1 เดือน ในช่วงเดือนที่ผ่านมาผมได้เข้าไปในป่าด้วยตัวคนเดียวอยู่หลายครั้ง
เพราะถ้าผมใช้สกิลเรียกเรือต่อให้มีก๊อบลินหลายๆตัวเขามารุมผมพร้อมกัน
ผมก็สามารถจัดการพวกมันได้ด้วยตัวคนเดียวและจากการล่าแบบนี้
ทำให้ผมได้รับสกิลการใช้หอกและสกิลการใช้ธนูเพิ่มขึ้นมาด้วย
และในระหว่างเดือนที่ผ่านมา ผมก็ได้ทำการลูบเจ้าสไลม์อยู่เป็นประจำ
โดยหวังว่าถ้าผมทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ซักวันผมอาจจะได้รับสกิลการฝึกสไลม์มาก็ได้
แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังดูไม่มีวี่แววของสกิลดังกล่าวเลย
ผมได้ถามคุณพี่สาวหูจิ้งจอกสุดสวยที่กิลด์เกี่ยวกับการเดินทางไปยังเมื่องทางใต้
เธอบอกว่าเราสามารถแล่นเรือไปตามแม่น้ำเพื่อมุ่งตรงไปที่เมืองนั้นได้
มีเรือหลายลำแล่นไปมาระหว่างเมืองนี้และเมื่องทางใต้
ดูเหมือนแม่น้ำสายนี้จะเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองหลวงกับเมืองทางใต้
ดังนั้นผมจึงคิดว่าผมน่าจะเอาเรือของตัวเองร่องไปตามแม่น้ำเพื่อไปยังเมืองนั้นได้
จากที่ได้ยินมาต้องใช่เวลาประมาณ 10 วันโดยประมาณ ถึงจะเดินทางไปถึงเมืองทางใต้ได้
แต่ที่ผมดีใจที่สุดคือ คุณพี่สาวหูจิ้งจอกได้กล่าวขอบคุณผมถึงความพยายามของผมทั้งหมดที่ทำให้กิลด์นี้
เธอกล่าวขอบคุณผมที่เป็นคนบุกเบิกการล่ากระต่ายมีเขาของเมืองนี้ จนทำให้มีนักผจญภัยหลายๆคน
ออกล่ากระต่ายมีเขามากขึ้น ทำให้สามารถเคลียร์คำขอต่างๆที่กิลด์ได้อย่างรวดเร็ว
เนื่องจากกระต่ายมีเขาทำเงินได้มากกว่าที่คิด ทำให้เหล่านักผจญภัยมือใหม่สามารถเก็บค่าประสบการณ์
และสามารถหาเงินเพื่ออัพเกรดอุปกรณ์ได้เร็วขึ้น เป็นเหตุที่ทำให้คุณภาพของนักผจญภัยที่เมืองนี้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
อีกทั้งเธอยังถามว่าผมต้องการจ้างผู้คุมกันสำหรับเดินทางไปที่เมืองทางใต้หรือไม่
แต่ผมตอบปฎิเสธเธอไป เพราะคนที่จะสามารรับภารกิจคุ้มกันได้นั้นต้องเป็นปาร์ตี้ของนักผจญภัยระดับ E ขึ้นไป
หรือถ้าคนเดียวก็ต้องเป็นนักผจญภัยระดับ D ขึ้นไป ซึ่งนั้นต้องใช้เงินค่าจ้างเยอะพอสมควร
ผมเลยลองถามว่าผมจะสามารถเดินทางไปคนเดียวได้ไหม เธอก็บอกว่าได้ โดยปกติจะขอเดินทางร่วมไปกับกลุ่มพ่อค้า
แต่ถ้าทำแบบนั้นผมจะไม่ได้รับค่าจ้างสำหรับการคุ้มกันหรือไม่บางทีก็ต้องจ่ายเงินให้พวกเขาเป็นค่าขอร่วมเดินทางไป
ด้วย แถมถ้าทำแบบนั้นผมยังคงต้องออกค่าอาหารเองอีกไหนจะต้องเดินทางไปที่เมืองริมน้ำก่อนด้วยเพื่อหา
กองคาราวานพ่อค้าที่จะเดินทางไปที่เมืองทางได้
แต่เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดมาไว้ในมือเรียบร้อยผมก็ตัดสินใจได้
ผมจะออกเดินทางด้วยตัวเองโดนการเรียกเรือออกมาแล้วล่องไปตามแม่น้ำ
ในที่สุดพรุ่งนี้ก็ได้เวลาออกเดินทางไปยังเมืองทางใต้แล้ว…
ชื่อ : โทโยมิ วาตารุ
อายุ: 20
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
อาชีพ : กัปตันเรือ
เลเวล 20
ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: 480
พลังเวทย์: 46
ความแข็งแกร่ง: 50
สติปัญญา: 60
ความคล่องแคล่ว: 56
โชค: 15
สกิล:
ความเข้าใจภาษา (เฉพาะ)
การเรียกเรือ เลเวล 1 (เฉพาะ)
การใช้หอก เลเวล 1
การยิงธนู เลเวล 1
ยอดเงินคงเหลือ: 3 เหรียญทอง 63 เหรียญเงิน 85 เหรียญทองแดง