Memorize - เล่มที่ 18 ตอนที่ 18
“วาร์ปเกต”
จู่ๆ ผู้บริหารระดับสูงด้านการทูตของเผ่าโครยอ โจซองโฮที่นั่งฟังเงียบๆ เพียงอย่างเดียวมาตลอดก็พูดขึ้นมาราวกับว่าเขาเพิ่งจะคิดออก
“ถ้าหากเป็นปราการเวทโบราณที่ใช้สำหรับการช่วยเหลือภายในบาร์บาร่าล่ะก็ จะไม่มีวาร์ปเกตอยู่ด้วยหรือครับ”
ในตอนนั้นเอง เหล่าผู้เล่นที่เปลี่ยนความคิดอย่างรวดเร็ว เหล่าผู้มีความรู้แตกฉานเกี่ยวกับเวทมนตร์ต่างก็ส่งเสียงชื่นชมเล็กๆ ออกมา
คำพูดของโจซองโฮฟังดูสมเหตุสมผล สมมติว่าถ้ามีการแสดงปราการป้องกันพลังเวทออกมาโดยที่เปิดใช้งานวาร์ปเกตไปด้วยและความยาวคลื่นของทั้งสองเข้ากันได้พอดี ก็มีความเป็นไปได้ที่สมรรถนะของมันจะยังถูกรักษาเอาไว้ กล่าวคือ พวกเขาจะยังใช้วาร์ปเกตได้อย่างปลอดภัยในขณะที่ปราการกำลังขัดขวางการโจมตีจากภายนอกไปพร้อมกัน
“ถึงจะบอกว่าทิ้งคนไว้ในเมืองอื่นแค่บ้างส่วน และถึงจะไม่มารวมกำลังกันที่บาร์บาร่าในตอนนี้ก็เท่ากับว่าพวกนั้นน่าจะมีกำลังพลถึงหนึ่งหมื่นใช่ไหมคะ พวกเขาไม่สามารถใช้วาร์ปเกตพร้อมกันทีเดียวได้ ดังนั้นพวกเขาก็คงจะมีวิธีการแก้ปัญหาสินะคะ”
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าพวกศัตรูยังไม่รู้เรื่องแผนการโลกใหม่ของพวกเราน่ะสิคะ!”
จริงอยู่ที่สิ่งที่โจซองโฮพูดจะเป็นเพียงแค่การสมมติ แต่ทั้งจองฮายอนและซอนยูลเองก็ดูจะคิดว่าข้อสันนิษฐานนี้มีความเป็นไปได้สูงเช่นกัน ดูจากการที่พวกหล่อนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยแล้ว
ความวุ่นวายทำให้ห้องควบคุมที่เคยเงียบเชียบได้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ความมั่นใจที่หายไปดูเหมือนจะกลับมาอีกครั้งด้วยความคิดที่ว่าพวกศัตรูคงคิดจะหนีไปก่อนจะเกิดการต่อสู้ขึ้น
แคลนลอร์ดโครยอถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน
“ฝั่งเหนือและฝั่งใต้ไม่ทราบว่าคืบหน้าไปอย่างไรบ้างแล้วครับ”
“เรากำลังเคลื่อนไหวกันอย่างรวดเร็วโดยมีเป้าหมายจะยึดเมืองเก่าเราคืนไปพร้อมกันครับ เราจะเริ่มแผนทันทีที่ไปถึง ดังนั้นคิดว่าน่าจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบได้อีกครั้งภายในสี่วัน ไม่สิ สามวันครับ”
“สี่วันหรือไม่ก็สามวัน…”
แคลนลอร์ดโครยอหยุดเดินอยู่ที่กลางห้องพร้อมกับมองกวาดไปทั่วทั้งห้อง ก่อนจะพูดขึ้นมาเรียบๆ
“ผมอยากรู้ปฏิกิริยาของพวกเขาตอนที่วาร์ปเกตถูกตัด”
เช้ามืดของที่ราบบาร์บาร่านั้นช่างเงียบเชียบและหนาวเหน็บ ไม่ได้ยินแม้เพียงเสียงลมหายใจ เสียงเดียวที่ผมได้ยินมีเพียงแค่เสียงฝีเท้าของผู้คนนับพันที่กำลังเดินทัพข้ามผ่านผืนหญ้าไปข้างหน้าเท่านั้น
ตอนนี้บาร์บาร่าเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว และในขณะที่ต่างฝ่ายต่างบอกว่าจะพักกันก่อนในคืนนี้ แต่กลับรู้สึกถึงสัญญาณการเคลื่อนไหวของผู้คนมากมายออกมาจากภายในกำแพงได้
เช้าวันนี้เป็นวันแรกของการปะทะกันระหว่างฝั่งตะวันออก, ฝั่งตะวันตก รวมทั้งพวกเร่ร่อนด้วย และด้วยความที่ฝั่งตะวันออกไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ แคลนลอร์ดโครรยอจึงบอกให้เราหยุดแล้วสู้กันสักตั้ง
แต่ด้วยความที่สงครามส่วนใหญ่ในฮอลล์เพลนขึ้นอยู่กับเวทมนตร์ ดังนั้นการต่อสู้ในวันนี้จึงถือเป็นการชี้ชะตาการแพ้ชนะในภายหลัง
[หยุด]
แคลนลอร์ดโครยอพูดเรียบๆ ออกมาเพียงคำเดียวเท่านั้น แต่คงเป็นเพราะความเงียบของบรรยากาศโดยรอบและเวทขยายเสียงที่ที่ถูกเปิดไว้จึงทำให้ฝีเท้าของเหล่าผู้เล่นหยุดลงโดยพร้อมเพรียงกัน
[ประจำที่]
ทัพที่หนึ่ง สอง สาม และสี่ต่างเริ่มเคลื่อนไหวกันอย่างชุลมุน
ทัพที่หนึ่ง เหล่าผู้เล่นสายใกล้เคียงคอยป้องกันลูกธนูอยู่ที่แถวหน้าสุด
ทัพที่สอง เหล่านักธนู เตรียมพร้อมลูกธนูสำหรับการโจมตี
ทัพที่สาม เหล่านักเวท เตรียมเวทโจมตีสำหรับกระหน่ำยิง
ทัพที่สี่ เหล่านักบวช เตรียมบทสวดศักดิ์สิทธิ์ขนานใหญ่
ทัพที่ห้า เหล่านักฆ่า เตรียมพร้อมรอเวลา
ฐานที่มั่นซึ่งอยู่ห่างจากบาร์บาร่าประมาณสี่ร้อยห้าสิบเมตรถูกสร้างขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพียงชั่วพริบตา และการเตรียมพร้อมของแต่ละทัพก็เริ่มขึ้นตามแต่ผู้บัญชาการของทัพจะสั่ง
ในบรรดาทัพทั้งหมด ทัพที่สามและสี่ซึ่งเป็นทัพของเหล่านักเวทและนักบวชคือทัพที่โดดเด่นที่สุด
กำลังคนของทัพฝั่งประตูตะวันตกมีประมาณห้าพันคน และแม้ว่าบทสวดแต่ละบทจะมีเนื้อแตกต่างกันไปแต่เสียงของผู้เล่นนับพันที่ท่องบทสวดขึ้นมาพร้อมๆ กันนั้นก็ทำให้ฟังดูขลังและยิ่งใหญ่เอาการเลยทีเดียว
ไม่นานนักกระแสพลังเวทอันทรงพลังก็ได้ตัดผ่านระหว่างกำแพงเมืองกับที่ราบ
วิ้ง! วิ้งงง!
ที่ราบแห่งนี้ไม่มืดมิดอีกต่อไปแล้ว เพราะดวงไฟสีสันสดใสที่ถูกพันไว้ที่ไม้แต่ละอันและมือของทุกทุกคนนั้นช่วยส่องให้บริเวณโดยรอบสว่างไสวขึ้นมา
ใช้เวลาไม่นานมนตร์คาถาที่จะใช้ในการโจมตีรอบแรกก็เสร็จสมบูรณ์ อาจเพราะมีเหล่าผู้เล่นมากมายที่คุ้นเคยกับการร่ายเวทด้วยความรวดเร็วอยู่แล้ว
ผมมองเห็นซอนยูลซึ่งสังกัดอยู่ในทัพที่สองและน่าจะร่ายคาถาเสร็จก่อนคนอื่นๆ กำลังชูแขนสูงขึ้นไปบนฟ้า ในมือของหล่อนถือไพ่ที่กำลังลุกไหม้ใบหนึ่งเอาไว้ด้วย
ตอนนี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น
ซอนยูลปล่อยไพ่ที่หล่อนถืออยู่ลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับตะโกนท่องมนตร์ไปด้วย
“ขยาย!”
ทันใดนั้นเองไพ่ที่หมุนคว้างราวกับกำลังปลิวอยู่กลางอากาศก็ดูเหมือนจะสร้างเป็นภาพสามมิติขึ้นมาก่อนจะเกิดเป็นแสงสีเขียวอ่อนแผ่ขยายออกมากลางอากาศตามมุมต่างๆ ของไพ่
“ยิง!”
และเมื่อได้ยินคำว่ายิง
“…!”
พร้อมๆ กันกับเสียงตะโกนลั่นดังสนั่น เหล่าผู้เล่นก็พร้อมใจกันระเบิดพลังเวทที่ต่างร่ายแฝงไว้ในอาวุธของตัวเองออกไป แก้วหูสั่นสะเทือนทันทีที่พลังเวทนับร้อยถูกยิงขึ้นไปบนฟ้าพร้อมๆ กัน เสียงสะท้อนที่ดังตามมานั้นเสียดแทงไปถึงกระดูกดำเลยทีเดียว
จู่ๆ ผมก็รู้สึกว่าริมฝีปากผมกำลังสั่นเบาๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการต่อสู้ แต่ผมกลับรู้สึกว่าเลือดลมมันสูบฉีดแปลกๆ
พลังเวททั้งหลายที่วาดจนเกิดเป็นเส้นโค้งขึ้นต่างพุ่งมารวมกันอยู่ที่ม่านที่ซอนยูลได้สร้างเอาไว้
และในตอนนั้นเอง
“เร่งความเร็ว!”
ซอนยูลตะโกนขึ้นอีกครั้ง
พรวดดด!
ทันใดนั้นกลุ่มพลังเวทที่วาดเป็นเส้นโค้งอย่างเชื่องช้าก่อนจะถึงม่านก็เปลี่ยนวงโคจรทันทีที่ผ่านม่านออกไป พลังเวทที่เคยอยู่ในม่านเมื่อสักครู่กำลังพุ่งไปยังกำแพงเมืองอย่างรวดเร็วราวกับเหยียบคันเร่ง
ช่างเป็นมุมที่สมบูรณ์แบบจริงๆ
พลังเวทนับร้อยกำลังพุ่งเป็นเส้นตรงเข้าไปยังใต้กำแพงเมืองอย่างแรง หยาดฝนแห่งพลังเวทตกลงสู่กำแพงเมืองราวกับฝนห่าใหญ่
ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่มีทางอยู่นิ่งเฉย กระแสพลังเวทที่ผมรู้สึกมาตั้งแต่เมื่อสักครู่ตอนนี้หยุดลงอย่างกะทันหัน ผมจ้องมองขึ้นไปยังกำแพงเมืองด้วยพลังการมองเห็นที่เพิ่มให้มากขึ้นกว่าเดิมเพื่อดูว่าพวกเขาจะรับมือกับพลังเวทนับพันที่ตกลงมาจากทั่วทุกสารทิศอย่างไร
ปัง! ปัง! ปังงง!
และในตอนนั้นเอง พวกเขาก็เริ่มตอบโต้เรากลับ พลังเวทมากมายนับร้อยถูกยิงออกมาจากกำแพงเมืองฝั่งประตูตะวันตกที่ผมกำลังมองอยู่พร้อมกับการระเบิดอย่างยิ่งใหญ่
เป้าหมายของพลังเวทนั้นไม่ใช่พวกเราแต่กลับตรงขึ้นไปบนท้องฟ้าแทน
เริ่มจะยอมรับกำลังอาวุธของเราแล้วอย่างนั้นหรือ
ฝั่งนั้นเองก็ต้องมีนักบวชอยู่ด้วยแน่นอน พวกเขาไม่ได้เล็งมาที่เราแต่เป็นพลังเวทของเราที่ถูกยิงออกไปต่างหาก หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ นักบวชที่พวกเขามีไม่มั่นใจว่าจะสามารถขัดขวางพลังเวทของเราได้จึงใช้พลังเวทในการลดกำลังของมันลงนั่นเอง
พลังเวทของทั้งสองฝั่งปะทะกันในทันที พลังทั้งสองระเบิดใส่กันบนท้องฟ้าอันว่างเปล่า ในที่สุดการต่อสู้ประชันฝีมือก็ได้เปิดฉากขึ้นอย่างจริงจังเสียที
แว้บ!
เป็นอีกครั้งที่ประกายไฟอันงดงามสอดประสานกับเสียงระเบิดดังสนั่น ดวงไฟที่เกิดจากผลที่ตามมาของการระเบิดพุ่งขึ้นไปในอากาศราวกับดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ตรงหน้า และสะเก็ดไฟมากมายที่ไร้เป้าหมายเหล่านั้นก็พุ่งขึ้นและโปรยลงมาราวกับน้ำพุเช่นกัน
ผลของการต่อสู้ในครั้งแรกสามารถรู้ได้โดยทันที
ฟิ้ววว…..
ควันไฟรูปทรงคล้ายเห็ดขนาดใหญ่ถูกวาดขึ้นกลางอากาศ และเมื่อควันไฟนั้นแผ่ออกไปทั่วทั้งบริเวณจนทุกสิ่งดูฝ้าฟาง กลุ่มของพลังเวทที่มีขนาดลดลงจากเมื่อสักครู่อย่างเห็นได้ชัดก็ปรากฏเข้าสู่สายตา
หลังจากนั้นพลังเวทที่ยังคงมีพลังหลงเหลืออยู่ก็ปักลงไปที่กำแพงเมืองทั้งแบบนั้น
ตู้ม! ตู้มมม!
ครืน! ครืนนน!
เปรี้ยง! เปรี้ยง!
ในตอนนั้นเอง สายฟ้านับสิบก็ปรากฏขึ้นกะทันหันและผ่าลงมาโดยไร้สิ่งกีดขวางตามมาด้วยเสียงถูกตีกระหน่ำของเวทป้องกันที่แผ่อยู่ทั่วบนกำแพงเมือง
นั่นมัน…สายฟ้า?
ดูเหมือนจะต้องรอให้แนวการยิงถูกเก็บไปเสียก่อนจึงจะสามารถใช้งานเมฆซึ่งเป็นเวทเฉพาะตัวของพี่ได้ พวกเขาเองก็คงไม่คิดว่ามันจะเข้ามาล่าช้าแบบนี้เช่นกัน และสายฟ้าที่ตามเข้าไปยังช่วยเพิ่มพลังให้กับพลังเวทที่เข้าไปก่อนหน้านี้ด้วย
หลังจากเวลาผ่านไปสักพักควันหนาทึบก็จางหายไป ถ้าให้พูดตามที่ผมมองเห็นเลยก็คือดูเหมือนว่าแนวป้องกันที่พวกเขาตั้งไว้จะสามารถขัดขวางพลังเวทที่ถูกยิงออกไปรอบแรกได้ทั้งหมด
แต่สิ่งที่เป็นเป้าหมายของพี่ไม่ใช่แนวป้องกันนั้น ข้อดีของพี่ก็คือแม้ว่าเขาจะมีค่าความสามารถที่รุนแรงล้นเหลือแต่เหนือสิ่งอื่นใด เขาก็สามารถควบคุมและปรับพลังเวทของเขาให้เหมาะสมได้เช่นกัน
ควันไฟสีดำแผ่ปกคลุมไปทั่วทุกทิศพร้อมๆ กับเสียงรอยร้าวที่เกิดขึ้นที่จุดหนึ่งของกำแพงเมือง ซึ่งมันดูจะทนอยู่แบบนั้นไปได้สักพัก แต่แล้วส่วนหนึ่งของกำแพงก็เริ่มพังลงมาจากด้านขวาพร้อมกับเสียงดังสนั่น
เพล้ง!
ในเวลาเดียวกันนั้น พี่ก็พยายามมองหาจุดที่อยู่นอกเหนือการคุ้มครองจากแนวป้องกันก่อนจะเล็งสายฟ้าตรงไปยังจุดนั้น
“…”
สงครามปิดล้อมเริ่มขึ้นแล้ว