Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 59
ซู่เจินบินกลับมาที่โลกโดยอุ้มเฟลิเซ่ที่เหนื่อยล้าเอาไว้ในอ้อมแขนของเขา และตอนนี้เวลาบนโลกมันคือตอนกลางคืนทำให้ไม่ค่อยมีคนสักเกตเห็นพวกเขาสักเท่าไหร่ หลังจากนั้นเขาก็บินไปที่โรงแรม และค่อย ๆ ร่อนลงที่หน้าต่าง
“ที่รักปล่อยฉันลงได้แล้ว!” เฟลิเซ่พูดขึ้นมาเบา ๆ
ซู่เจินค่อย ๆ วางเธอลงและทันทีที่ขาของเธอแตะพื้น เธอก็ทรงตัวไม่ค่อยได้เพราะว่าตอนนี้ขาของเธอมันไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ทำให้เธอเกือบที่จะล้มลงกับพื้น และเมื่อซู่เจินเห็นแบบนั้นเขาก็รีบเข้าไปพยุงเธอและพูดขึ้นมาเบา ๆ ว่า “มันเป็นความผิดของผมเอง ผมน่าจะให้คุณได้พักผ่อนมากกว่านี้”
“มันไม่ใช่ความผิดของคุณ! แต่นี่มันเป็นครั้งแรกสำหรับฉัน และคุณก็ทำมันเหมือนกับว่าคุณอดอยากตายอยากมาซะอย่างงั้น!” เฟลิเซ่พูดขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
ซู่เจินหัวเราะออกมาเบา ๆ และพูดว่า “ทำไงได้ก็คุณมีเสน่ห์มากมายซะขนาดนั้น!“
ด้วยความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมแบบนั้น ทำให้ซู่เจินไม่สามารถที่จะหยุดมันได้เลย แม้ว่าเขาจะอยากหยุดมันแค่ไหนก็ตาม!
แต่มันก็เป็นความผิดของเขาจริง ๆ นั่นแหละ เพราะว่าเฟลิเซ่ไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแกร่งเหมือนกับซิฟ แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกเหมือนกันก็ตาม!
พวกเขาสองคนเดินเข้าไปในห้องผ่านทางหน้าต่างและนอนลงบนเตียงเพื่อพักผ่อน โดยที่ซู่เจินเอาแขนของเขาโอบไปที่ไหล่ของเธอและเอามือบีบมันเบา ๆ ซึ่งไหล่ของเฟลิเซ่นั้นมันนุ่มมากทำให้ซู่เจินรู้สึกเสพติดมันเล็กน้อย และเฟลิเซ่ก็ค่อย ๆ รู้สึกคันตรงที่ซู่เจินจับ ทำให้เธอเหล่ตามองไปที่ซู่เจินและอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อย
ถึงแม้ท้องฟ้ายามคำคืนมันจะสวย แต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขามันสวยยิ่งกว่า
เดิมทีซู่เจินวางแผนไว้ว่าเขาจะไปที่ใจกลางเมืองหรือภายในตัวเมืองเพื่อดูว่าเขาจะพบกับ เดอะแฟลชหรือซุปเปอร์แมนหรือไม่ ? จากนั้นเขาก็จะไปที่ สตาร์ซิตี้ เพื่อตามหา Arrow แต่เมื่อเขามองไปยังเฟลิเซ่ ทำให้เขารู้สึกลังเลที่จะจากเธอไป ยิ่งไปกว่านั้นเขาเพิ่งได้สัมผัสกับช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรที่สามารถหามาทดแทนได้ และยังมีเเหตุการณ์ที่น่าจดจำบนดวงจันทร์นั่นอีก ทำให้เขาไม่อยากจากเธอไปไหน
ถึงแม้ว่าซู่เจินจะต้องออกจากดันเจี้ยนวันพรุ่งนี้แล้วก็ตาม แต่อย่างน้อยเขาก็อยากทำให้เธอมีความสุขที่สุดก่อนที่เขาจะจากไป!
ในขณะที่ซู่เจินกำลังพยายามยับยั้งความต้องการของตัวเอง เฟลิเซ่ก็เป็นคนเริ่มก่อนทำให้ซู่เจินจำเป็นที่จะต้องปล่อยเลยตามเลย และซู่เจินยังรู้สึกได้ถึงความโลภของเธอ ความโลภที่ต้องการอยู่กับเขาให้ได้นานที่สุด
ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นมาอย่างช้า ๆ ซู่เจินและเฟลิเซ่ก็ค่อย ๆ ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น พร้อมกับอากาศยามเช้าที่สดใส
“คุณจะไปตอนไหนงั้นหรอ?”
เฟลิเซ่เอาผ้าห่มมาคลุมตัวของเธอเอาไว้และเอนตัวไปพิงซู่เจิน พร้อมกับถามขึ้นมา
“ผมทานข้าวกับคุณให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยไป! เพราะว่าผมจะต้องกลับไปจัดการอะไรบางอย่างและจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนถึงจะกลับมาหาคุณได้” ซู่เจินพูดขึ้นมาเบา ๆ
“ฉันจะรอคุณ!” เฟลิเซ่พยักหน้าเบา ๆ และพูดต่อว่า “แล้วถ้าคุณกลับมาครั้งหน้า คุณจะไม่จากไปอีกงั้นหรอ?”
“ผมจะย้ายมาอยู่ที่นี่ ดังนั้นคุณช่วยหาบ้านดี ๆ ให้ผมหน่อยได้ไหม?” ซู่เจินกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ได้สิ”
เมื่อได้ยินคำพูดของซู่เจินเฟลิเซ่ก็มีความสุขขึ้นมาทันที
แน่นอนว่าการซื้อบ้านเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาเรื่องระยะห่างระหว่างพวกเขา ถึงแม้ว่าตอนแรกซู่เจินจะมาที่นี่เพื่อมาเที่ยว แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว ทำให้เขาตัดสินใจที่จะซื้อบ้านอยู่ที่นี่ และที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อทำให้เธอรู้สึกสบายใจและให้เธอรู้ว่าเขานั้นจริงจังกับเธอจริง ๆ!
พวกเขาทั้งสองคนนั่งคุยกันอยู่ในห้องพักเป็นเวลาสักพักใหญ่ ๆ ก่อนที่พวกเขาจะไปทานอาหารด้วยกัน หลังจากทานอะไรกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ซู่เจินจะต้องจากไป ทำให้เฟลิเซ่รู้สึกไม่เต็มใจเล็กน้อย โดยก่อนที่ซู่เจินจะจากไปเขาก็ได้ไปส่งเฟลิเซ่ที่บ้านของเธอก่อน และหลังจากที่เขาส่งเฟลิเซ่เรียบร้อยแล้ว เขาก็กลับไปที่โรงแรมและเปิดคอมพิวเตอร์ของเขาขึ้นมาเพื่อเช็คข่าวสารต่าง ๆ ทางโลกออนไลน์ เพราะว่าตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะออกจากดันเจี้ยน
แน่นอนว่าข่าวของกรีนแลนเทิร์นในตอนนี้กำลังเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก ซึ่งซู่เจินก็ไม่ได้สนใจอะไรมันเลยแม้แต่น้อย
เพราะว่าตอนนี้เขากำลังพยายามหาข่าวของฮีโร่คนอื่น ๆ อยู่
และดูเหมือนว่าชื่อเสียงของ ซูเปอร์แมน มันจะยังไม่ค่อยโด่งดังมากนักในตอนนี้ เพราะว่ามันยังไม่เกิดเหตุการณ์ระเบิดที่ใจกลางเมือง แถมเดอะแฟลชก็ยังไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมา ส่วน Arrow หรือที่รู้จักกันในชื่อ โอลิเวอร์ ควินน์ ก็ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่กลับมาจากการติดเกาะ และหลังจากที่เขาดูข้อมูลเหล่านี้แล้ว ทำให้เขาสามารถรู้ไทม์ไลน์คร่าว ๆ ในขณะนี้!
ตอนแรกซู่เจินคิดว่าเขาจะไม่ลบดันเจี้ยนของกรีนแลนเทิร์นทิ้ง เพราะว่าดันเจี้ยนที่อยู่ในจักรวาล DC นั้นมีเพียงแค่แห่งเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่หลังจากที่เขาพยายามคิดทบทวนอย่างหนัก เขาก็คิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องเปิดดันเจี้ยนแห่งใหม่อยู่ดี เพราะถ้าเขาไม่เปิดดันเจี้ยนแห่งใหม่เขาก็จะไม่มีภารกิจให้ทำและเขาก็จะไม่มีพลังงานสำหรับการอัพเกรดระบบ แต่การที่เขาจะเปิดดันเจี้ยนแห่งใหม่นั้นจะต้องไม่มีผลกระทบต่อเฟลิเซ่เด็ดขาด
และถ้าหากมันได้รับผลกระทบจริง ๆ เขาก็จำเป็นที่จะต้องรอจนกว่าระบบจะได้รับการอัพเกรดอีกครั้งและเปิดดันเจี้ยนแห่งใหม่ได้
“ระบบฉันสามารถออกจากดันเจี้ยนก่อนเวลา แล้วไปที่ดันเจี้ยนแห่งแรกได้ไหม?“
“ได้!”
ตอนนี้ซู่เจินไม่มีอะไรที่จะต้องจัดการที่นี่อีกต่อไป ทำให้เขาต้องการที่จะออกจากดันเจี้ยนก่อนเวลา
ทิวทัศน์เบื้องหน้าของซู่เจินค่อย ๆ เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และซู่เจินก็พบว่าตอนนี้เขามาปรากฏตัวขึ้นที่ดันเจี้ยนแห่งแรกเป็นที่เรียบร้อย และเมื่อเขาเดินทางมาถึงที่ฐาน ซู่เจินก็ตรงไปหาคีร่าทันที!
“บอส! คุณกลับมาแล้วงั้นหรอ?“
คีร่ามองไปที่ซู่เจินและพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
ซู่เจินพยักหน้าเบา ๆ และพูดว่า “ผมอยากรู้ว่าความคืบหน้าในตอนนี้มันเป็นยังไงบ้าง “
“ตอนนี้ตัวยากำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ส่วนผู้มีความสามารถพิเศษตอนนี้มีอยู่ 8 คนที่มีความสามารถแข็งแกร่งที่สุด ส่วนเรื่องเงินตอนนี้มีอยู่ประมาณ 800 ล้านดอลลาร์ และคนที่บอสให้ฉันตามหาตอนนี้ฉันรู้ข่าวของเธอเรียบร้อยแล้ว และกำลังส่งคนไปตามหาเธออยู่” คีร่าพูดตอบขึ้นมาอย่างฉะฉาน
“นำคนที่มีความสามารถพิเศษใน 8 คนนี้ที่มีผลงานน้อยที่สุดมาให้ผมกลืนกินความสามารถของพวกเขา เพราะว่าสิ่งที่องค์กรต้องการก็คือคนที่แข็งแกร่งที่สุด ถ้าเกิดว่าพวกเขาทำอะไรไม่ได้สักอย่าง พวกเขาก็สมควรที่จะกลับไปเป็นคนธรรมดา และเดี๋ยวเธอเอาเงินไปเปลี่ยนเป็นทองคำแท่งด้วยนะ “ซู่เจินพูดขึ้นมาอย่างช้า ๆ
“ค่ะ!”
คีร่าพยักหน้าตอบซู่เจินและออกไปจัดการเรื่องที่ซู่เจินสั่งทันที
ในขณะเดียวกันซู่เจินในตอนนี้กำลังพักผ่อนอยู่ในห้องของเขาอย่างสบาย ๆ
ไม่นานหลังจากนั้นก็มีคนที่มีความสามารถพิเศษทั้งสามคนเดินเข้ามาในห้องของเขา
ซู่เจินไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรมากนัก เขากลืนกินความสามารถของพวกเขาทั้งสามคนโดยทันที หลังจากนั้นเขาก็ปรับเปลี่ยนความทรงจำของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาปกติทั่วไปได้ ส่วนเรื่องของหลี่เสี่ยวลู่เขาก็ไม่ได้รีบร้อนมากนัก
หลังจากที่ซู่เจินกินอาหารอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว เวลามันก็ผ่านไปเกือบที่จะหมดวันแล้ว
แน่นอนว่าการไหลของเวลาในดันเจี้ยนทั้งสองแห่งนั้นมันเป็นแบบเดียวกัน และหลังจากที่เขาออกมาจากดันเจี้ยนของกรีนแลนเทิร์นและมาถึงที่นี่มันก็เป็นเวลาเกือบบ่ายเข้าไปแล้ว และตอนที่เขากลืนกินความสามารถของคนทั้งสามคนเสร็จเวลามันก็ผ่านไปถึงช่วงค่ำพอดี
ตอนนี้ซู่เจินได้อาบนำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะเตรียมตัวนอน
เขาก็หันไปเห็นคีร่าที่กำลังยืนอยู่ในห้องและไม่ยอมออกไปไหน…