“หืมมมม… เข้าใจละ เจ้าเป็นจอมมารที่เกิดใหม่เร็วๆนี้สินะ”
มังกรสาวพูดด้วยความสนใจขณะมองไปรอบๆห้อง ผมให้เสื้อเธอไปตอนนี้ผมเลยเปลื่อยอยู่ครึ่งตัวละนะ ถ้าเป็นที่โลกเก่าคงเป็นปัญหาใช้ได้
เพราะผมไม่รู้ว่าเธอจะออกอาการยังไงถ้ารู้ว่าผมเป็นจอมมาร ผมจึงไม่ได้ตั้งใจจะพาเธอมาแต่แรก… แต่เธอก็เซ้าซี้จะมาด้วยให้ได้เพราะอยากที่จะกินช็อคโกแล็ดทันที
ผมจะไม่สามารถใช้ แค็ตตาล็อก DP ได้ ถ้าผมไม่ได้อยู่ในพื้นที่ดันเจี้ยน
แต่ ดูจากท่าทางเธอแล้ว ผมคงไม่ต้องระวังอะไรมากแล้วละ
…ตอนนี้ก็ หาเสื้อดีๆให้เธอใส่ก่อนดีกว่า
เมื่อผมลองหาในแค็ตตาล็อก DP ดู มันก็เรียงรายขึ้นมาให้ดูเลย ผมจึงเลือกมาตัวหนึ่งทันที
เอาจริงๆนะ เจ้านี้มันมีทุกอย่างเลยนะ ถ้ายังใช้ยังนี้อยู่เรื่อยๆ พ็อยได้หมดแน่ ผมต้องระวังการใช้แล้วสิ
ผมเอาชุดเดรสมา 1 ตัว (80DP) ชุดชั้นใน (30DP) และรองเท้าแตะที่เข้ากับชุด เพราะเธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นในและก็เดินเท้าเปล่าอยู่
“รู้ด้วยหรอ?” ผมถามพลางโยนชุดไปให้เธอ
“อืม ขอบคุณ เราลืมไปเลยว่าตอนอยู่ในร่างมนุษย์มันจะหนาวขึ้น… พลังเวทที่เราสัมผัสไม่ได้ก่อนหน้านี้เริ่มไหลเวียนในช่วงที่เราเข้ามาในห้องนี้นะ สิ่งมีชีวิตเดียวที่จะอาศัยอยู่ใน
ห้องดันเจี้ยนนี้ก็คือจอมมาร เข้าใจละว่าทำไมถึงมีปีศาจโผล่มาในอาณาเขตของเราอีกครั้ง”
เรฟิเซียสถอดเสื้อเชิตผมแล้วโยนกลับมา พลางแต่งตัวไปด้วยตอบผมไปด้วยอย่างไม่มีความอายอะไรเลย
…ผมหันหน้าไปทางอื่นนะ
แต่ถึงยังงั้น เธอก็รู้ได้ในทันทีเลยแหะ
เธอพูดถึงพลังเวทของดันเจี้ยนอยู่ มันมีพลังเวทหลายชนิดหรือไงกันนะ?
มันมีพลังเวทเขียนอยู่บนสเตตัสของผมเช่นกัน… ต้องไปตรวจดูที่หลังล่ะ ในเมื่อมีพลังเวท ก็ต้องมีเวทมนต์ด้วยสินะ อยากจะลองใช้ดูเร็วๆจังแหะ
“หืม? เดี่ยวก่อนนะ มันมีปีศาจที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ด้วยหรอ?”
“แน่นอน ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดตามปกติกัน แต่ปีศาจนะ โดยธรรมชาติแล้วจะเกิดในที่ที่มีการไหลเวียนของพลังเวท — แก่นพลังเวท — ที่หน่าแน่น ปกติแล้วคอร์ปีศาจจะดูซับพลังเวท
โดยรอบ — อัณมณีเวทมนต์ — แต่ในกรณีขงเจ้านะ เมื่อดันเจี้ยนเกิดขึ้นมา มันจะดูดพลังเวทที่ไหลเวียนโดยรอบมาเป็นคอร์เพื่อให้กำเนิดเจ้า จอมมาร แล้วพลังเวทบริเวณนี้มันก็หน่า
แน่นอยู่แล้วด้วยละนะ.”
…ปีศาจนี้เป็นอะไรที่แปลกดีแหะ
“แต่ ดันเจี้ยนที่นี้ดูดีเลยนะเนี่ย” เธอพูดพลางจับนู้นนี้นั้นไปทั่ว
“หืม? ไม่ใช่ว่าส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้หรอ?” ผมพูดพลางใส่เสื้อ
“ต่างกันชัดเจนเลยล่ะ ดันเจี้ยนที่เราทำลายเพื่อฆ่าเวลาเล่นๆมาจนถึงตอนนี้นะ เป็นแค่ถ้ำที่ตกแต่งนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง… อาา พอมาคิดดูแล้ว มันมีปีศาจบ้าๆตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในปรา
ศาจแปลกๆที่เต็มไปด้วยของตกแต่ง และพูดว่า ‘ชั้นนี้แหละคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก!!’ อยู่ด้วยละ”
เอ่ออ ยัยมังกรนี้ทำเรื่องแบบนั้นไปเพื่อฆ่าเวลาหรอ….?
เฮ้อ ดีนะที่เธอชอบของหวาน ไม่งั้นผมคงตายไปนานแล้ว
แต่เธอก็เคยพูดอยู่ว่าไม่ได้มีความตั้งใจจะฆ่าผมตั้งแต่แรก แค่ต้องการที่จะไล่ไปเฉยๆ
แต่ถ้าผมทำท่าทีต่อต้านละก็ คงเละเป็นโจ๊กแน่
นั้นทำให้เธอไม่เข้ามาโจมตีผมในทันที แต่มาแบบช้าๆแทน
แล้วตอนที่เธอทำท่าคิดเกี่ยวกับข้อตกลง ไม่ใช่ว่าเธอคิดว่าควรฆ่าผมดีไหม แต่เป็นควรจะมอบถ้ำแห่งนี้เป็นอาณาเขตของผมดีหรือเปล่า
ก็นะ ตราบใดที่หัวใจของผม ดันเจี้ยนคอร์ ยังอยู่ที่นี้ ผมก็หนีไปไหนไม่ได้ นี้คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วละ
แต่ดันเจี้ยนนี้เป็นดันเจี้ยนคุณภาพดีจริงๆสินะ
ดีใจไหม ดันเจี้ยนของชั้น? แกถูกชมโดยมังกรที่โคตรจะแข็งแกร่งเลยนะเฟ้ย
“แล้ว เกิดอะไรขึ้นกับปีศาจบ้าๆตัวนั้นล่ะ?”
“มันมาท้าเราสู้นะ เราเลยเปลี่ยนมันเป็นขี้เถ้าไปพร้อมกับปราศาจของมันเลย”
ว่าแล้ว
สงสัยจังว่าไอบ้านั้นไปเอาความมันใจจากไหนมากันนะ
บางทีสิ่งที่ผมคิดมันคงออกทางสีหน้าหมด มังกรจึงถอนหายใจแล้วพูดต่อ
“ขอเราพูดอย่างหนึ่งนะ เจ้านะถือเป็นชนกลุ่มน้อยเลยล่ะที่เป็นแบบนี้ ปกติแล้วเจ้าพวกเผ่าปีศาจเนี่ยจะวัดค่ากันจากความแข็งแกร่ง ทำให้พวกนั้นชอบตีกันเอง ไม่ก็ท้าเผ่าอื่นเขาไปทั่ว
เป็นพวกที่น่ารำคาญสุดๆไปเลยล่ะ”
“อ๋อ… สรุปพวกปีศาจเนี่ย เป็นพวกบ้าสมองกล้ามสินะ…”
จากที่ฟังดูแล้ว พวกนี้นี่ไม่น่าจะเกรงกลัวเผ่าอื่นเลยแหะ ไม่ขอยุ่งด้วยแล้วกัน
“สมองกล้าม?”
“เป็นคำเปรียบเปรยพวกบ้าที่ใช้แต่กำลังเข้าว่านะ”
“โฮ้โฮ้ เป็นคำที่น่าสนใจดีนะ ก็จริง เจ้าพวกนี้มันสมองกล้ามมาเป็นพันๆปีแล้ว”
“เอ่อ.. งั้น.. เธออายุเกินพันปีไปแล้วหรอ?”
“หืมมม ใช่แล้วล่ะ ในหมู่มนุษย์เราถูกเรียกเป็นมังกรในตำนานด้วย” มังกรพูดอย่างภาคภูมิ
มังกรตำนี้ตัวตัวเหมือนเด็กอยู่เหมือนกันแหะ
ชอบของหวานด้วยนี้นะ
“อ่อ เธอมาที่นี้เพื่ออาหารนี้นา อะ นี้” ผมยื่นแผ่นช็อคโกแล็ดไปให้
“เรากำลังรออยู่เลย! นี้แหละ นี้แหละ! —–Mmmmm—เราชอบรสแบบนี้ที่สุดเลย- หวานนนนนนอาาา!”
“แล้วก็ ชื่อของเราไม่ใช่มังกร เรียกเรางว่าเรฟิเซียส” มังกรเรฟิเซียสพูดพลางกัดช็อคโกแล็ดไป
“ชื่อยาวเรียกยากแหะ เอาเป็น เรฟี่ ละกัน ชั้นชื่อยูกิ”
“เร-เรฟี่?”
“หืมม? ไม่ชอบหรอ?”
“ป-เปล่า ไม่ใช่อย่างงั้น ก็แค่… มันเป็นครั้งแรกี่มีคนเรียกเราอย่างนั้นนะ”
“อาา… ก็จริงละนะ”
ยังไงซะเธอก็เป็นมังกรี่ใช้ชีวิตมาถึงพันปี จนเป็นตำนานของมนุษย์
คงไม่มีใครมาเรียกเธออย่างเป็นกันเองอย่างนี้หรอก
เหตุผลที่ผมผ่อนคลายได้ขนาดนี้ก็เพราะเธอให้ความรู้สึกเป็นลูกของญาติมากกว่านะ
แล้วความน่าเกรงขามก่อนหน้านี้หายไปไหนหมดนะ?
“อ-เอ่อ ช่างเถอะ ที่สำคัญกว่านั้น เราจะอาศัยอยู่ที่นี้ล่ะ” เรฟี่พูดอย่างสบายๆ
“………. ห๊ะ?”
“ที่นี้ดูสบายน่าอยู่ดีนะ รังเก่าของเรามันไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไหร่ แล้วเราก็ไม่ค่อยอยากจะเปลี่ยนที่ด้วย แต่ที่นี้ดีเลยล่ะ”
“ด-เดี่ยว เดี่ยวก่อนนะ เรื่องนี้มันไม่ใช่สิ่งที่เธอควรจะตัดสินใจด้วย-“
“ไม่ได้รึ?”
“…ค-แค่ รอแปปหนึ่ง มันค่อนข้างจะ-“
“ไม่ได้หรอ?”
เธอพูดด้วยใบหน้าที่มีน้ำตาติดขอบตานิดๆ แล้วขยับเข้ามาใกล้
“…………….ก-ก็ได้…”
“เยี่ยม เป็นอันตกลงแล้วนะ!” เธอพูดด้วยรอยยิ้มแล้วกินช็อคโกแล็ดที่เหลืออย่างมีความสุข
….ก-ก็นะ มันก็ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่แย่อะไรหรอก
ถึงเธอจะดูเป็นเด็ก แต่เธอก็คือสิ่งที่อยู่ในจุดสูงสุดของโลกใบนี้
แค่อยู่ที่นี้ ความปลอดภัยก็เพิ่มขึ้นมากแล้ว
ใช่แล้ว ที่ผมอนุญาติก็เพราะว่าผมคิดเรื่องพวกนี้ไว้ก่อนแล้ว ไม่ใช่ว่าเพราะเธอน่ารักอะไรหรอกนะ
……..ไม่ใช่หรอกมั้ง?
ถึงจะกระทันหันไปหน่อย แต่ก็มีมังกรปลิงมาอาศัยอยู่กับผมแล้วละ
MANGA DISCUSSION