“เอาล่ะ ได้เวลาตรวจสอบว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างล่ะ”
ผมนั่งลงบนบัลลังเหมือนทุกทีและเปิดหน้าต่างดันเจี้ยนขึ้นมา
เท่าที่ดูมันก็ยังไม่มีอะไรสำคัญเปลี่ยนไปมาก แต่ก็มีเพิ่มมาบ้าง อย่าง ผมสามารถอัญเชิญมอนตัวใหม่ได้ สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมได้ และเสกของใหม่ได้ หรือก็คือ ผมได้รายการของเพิ่มมากขึ้นจากที่แต่ก่อนมันปิดเอาไว้ ก็ดูเหมือนว่าตัวดันเจี้ยนมันจะอัพเลเวลขึ้นมาจริงๆจากการสะสมค่า DP ไประดับหนึ่ง
ผมเอาค่า DP ไปลงในส่วนขยายอาณาเขตดันเจี้ยนทันที รายได้ที่ผมได้จากพวกมอนเตอร์ที่มาเดินเรร่อนอยู่ในอาณาเขตผมก็ไม่ได้แย่เลย และพวกมันก็ไม่ได้ส่งผลเสียอะไรด้วย
“ดูเหมือนพลังเวทในตัวเจ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นนิ เป็นตั้งแต่ตอนไหนงั้นรึ?”
เลฟี่เอียงคอด้วยความสงสัยพลางจ้องมาที่ผม ยัยมังกรสาวนี้หลับตั้งแต่กินมื้อเช้าเสร็จ เธอจึงมาเริ่มรู้สึกตัวเอาตอนนี้
“เมื่อคืนละมั้ง น่าจะเกิดในช่วงที่ชั้นกำลังหลับพอดีนะ”
“ก็คงเป็นอย่างนั้นสินะ” เธอพยักหน้าก่อนมองตรวจสอบผม แล้วก็พูดต่อ “น่าสนใจดีนิ เราไม่รู้เลยนะว่ามีเผ่าจอมมารอยู่ด้วย”
“จริงหรอ? ชั้นคิดว่าเธอจะรู้อยู่แล้วซะอีก”
“เราไม่ค่อยจะไปตรวจสอบหน้าสถานะคนอื่นเขาเท่าไหร่เพราะมันไม่ค่อยจำเป็นนะ”
ก็ไม่แปลกล่ะนะ กับมังกรที่แข็งแกร่งอย่างเลฟี่ เธอคงไม่คิดจะสนใจกับศัตรูที่เข้ามาหามากนักหรอก
“จริงด้วยสิ เลฟี่ เธอเคยเกิดการวิวัฒนาการบ้างหรือปล่าว?”
“ไม่ล่ะ การวิวัฒนาการนะมีอยู่เพื่อให้สิ่งมีชีวิตระดับต่ำนั้นแข็งแกร่งขึ้น และหลบหนีจากพันธนาการที่ถูกล่ามเอาไว้ ในส่วนของเราที่เป็นเผ่ามังกรโบราณที่แข็งแกร่งที่สุด เท่าที่เราจำได้ ก็ไม่มีรูปร่างไหนให้เราวิวัฒนาการไปได้อีกนะ”
โอ้ เข้าใจล่ะ ก็คือเธอเกิดมาเวล 1 แต่พลัง 999 จากปกติเวล 1 พลัง 10 สินะ
“แต่ถึงยังไงซะ ก็ไม่ใช่ว่าเราจะวิวัฒนาการไม่ได้ มันอาจเป็นเพราะเรายังไม่ผ่านเงื่อนไขบ้างอย่างก็เป็นได้”
“อืมมม… ก็นะ ชั้นว่าเลเวลขนาดนี้ก็คงจะสุดแล้วล่ะมั้ง”
“เรามีพลังขนาดนี้มาเป็นทศวรรษแล้ว ถ้าจะให้แข็งแกร่งไปกว่านี้ก็คงยากแล้วหล่ะ อาจจะต้องใช้เวลาไปอีกเป็นพันปีเลยก็เป็นได้ถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย”
เป็นพันปีเลยหรอ? ผมคงตายก่อนแหง เอ่ออ ที่จริงแล้ว ก็คงเป็นไปได้มั้ง รู้สึกช่วงชีวิตผมจะอยู่ไปถึงนะ ถ้าถึงแล้วมันเกิดขึ้นจริงละก็ ผมจะจัดปาร์ตี้ชุดใหญ่ให้เธอไปเลย
“แต่เราก็แปลกในจะที่รูปร่างหน้าตาเจ้ายังคงเหมือนเดิมหลังจากการวิวัฒนาการแล้วนะ”
“ตามปกติมันต้องมีการเปลี่ยนแปลงหรอ?”
“ก็คงยังงั้น พวกมอนเตอร์มันจะมีเขี้ยวหรือเขางอกเพิ่มขึ้นมา ในส่วนพวกที่คล้ายมนุษย์เช่นเจ้า จะมีความเปลี่ยนแปลงในสีตาและสีผม บ้างเท่าที่เราเคยพบมา ก็มีปีศาจที่มีหนวด(เทนทาเคิล)และเขี้ยวงอกออกมาจากร่างกายด้วยละ”
สีหน้าเลฟี่แสดงออกถึงความรังเกลียด
“การโจมตีด้วยหนวดของมันทั้งลื่นและน่าขยะแขยงมากเลยละ เป็นไปได้ก็ไม่อยากจะเจออะไรแบบนั้นอีกแล้วละ”
ผมเผลอไปจินตนาการตามที่เลฟี่อธิบาย โชคดีที่ทางผมไม่มีอะไรแบบนั้นออกมา เพราะปกติผมก็ไม่ชอบอะไรที่มันมีขาเยอะๆอยู่แล้ว แค่เห็นก็หลอนแดกแล้ว
ผมลองเช็คร่างกายตัวเองอีกรอบว่าไม่ได้มีหนวดลื่นๆเหนียวๆงอกออกมา แล้วก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกส่วนที่ผมไม่ได้เช็ค ปีกของผมเอง
พูดตรงๆผมก็รู้สึกลังเลที่จะเช็คดูมันนะ เพราะผมรู้สึกได้ว่ามันต้องมีอะไรเปลี่ยนไปแน่นอน และผมก็กลัวว่าไอสิ่งที่เพิ่มขึ้นมามันจะทำให้ผมรู้สึกอยากจะตัดไอส่วนนั้นออกไปจากร่างกายแต่ถึงยังไงผมก็ต้องเอามันออกมาตรวจสอบดูอยู่ดี
และผมก็ลุกจากบัลลังและกางปีกออก
“เดี๋ยวนะ มันมีปีกอีกคู่เพิ่มขึ้นมาหรอ…?”
ปีกของผมเป็นส่วนเดียวที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ณ ตอนนี้ผมก็มีปีกสองคู่แล้ว
เจ้าคู่ใหม่ดูแตกต่างจากคู่เก่าเล็กน้อย สีของมันออกน้ำตาลอ่อนแดง ความประทับใจแรกเลยคือผมบอกไม่ถูกว่ามันเป็นปีกค้างคาวหรือปีกมังกร แต่มันก็ไม่ได้ดูแย่เลย ออกจะดูดีด้วยซ้ำ
ขอบคุณพระเจ้าที่ผมไม่ได้มีหนวดงอกขึ้นมา
ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ก็ไม่ได้แย่เลยแหะ คิดว่าไง เลฟี่?”
ผมหันไปทางเธออย่างภูมิใจ แต่ก็พบกับเลฟี่ที่นิ่งอยู่กับที่
“เอ่อ… เลฟี่…? วอ 1 ถึงเลฟี่ ได้ยินแล้วตอบด้วย?”
“ป-ปีกของเจ้ามัน…”
“เอ่อออ…อะไรนะ?”
“ท-ทำไมเจ้าถึงเก็บปีกอันสวยงามนี้เอาไว้แทนที่จะแสดงออกมากันเล่า!?” จู่ๆเธอก็ตะโกนออกมา
“โหว้! จ-ใจเยนก่อนสิ เลฟี่! แล้วก็หยุดจับปีกชั้นได้แล้ว มันจักจี๊นะ!”
ผมถอยหลังไปสอง-สามก้าว
“ท-ทำไมละ!? เราก็แค่จับมันเอง! มันก็ไม่ได้ผิดอะไรนิ ใช่ไหมละ? ขอละนะ? แค่ให้เราจับเอง!? ขอร้องละ!”
เลฟี่เริ่มหอบอย่างหนักขณะที่เธอเอื้อมมือไปที่ปีกของผมอีกครั้ง แก้มของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรือก
“หยุดเลยนะ! อย่างน้อยก็หยุดทำนิ้วกระดิกไปมาแบบนั้นได้แล้ว! มันโคตรแปลกลยโว๊ย!”
ผมเอามือดันหน้าเธอออกไป
“มาหยุดเราทำไมอะ!? แค่นวยหน่อยจะเป็นไรกันเชียว!?”
“เอาเรื่องจับนะไม่ว่าหรอกเฟ๊ย! แต่ไอปัญหาคือเธอทำตัวเป็นตาแก่ลามกต่างหากเล่า!”
และก็แน่นอน ๆม่มีทางที่แรงผมจะสามารถต่อกรกับพลังของมังกรชั้นสูงได้ เธอก็ค่อยๆใกล้เข้ามาอย่างช้าๆ
“ปั๊ดโถ่เว้ย ยัยบ้าคลั่งปีกนี่! โอเค ก็ได้! ชั้นจะให้เธอจับ แต่เธอต้องใจเย็นลงก่อน!”
ผมยอมแพ้ มันไม่มีทางหยุดเธอได้เลย
“ก็ได้ เราจะทำตามที่ขอ”
ให้ตายสิยัยเลฟี่นี้…
“และเธอก็ต้องให้ชั้นจับปีกเธอด้วย มันไม่แฟร์ที่เธอได้จับอยู่คนเดียว” ผมพูดเพิ่มเข้าไป
อย่างน้อยเธอก็คงไม่ทำอะไรแปลกๆอีกถ้าผมได้จับของเธอด้วย
“ก-ก็ได้ งั้นก็รีบๆให้เราจับปีกของเจ้าได้แล้ว”
เธอดูอายหน่อยๆ แต่เธอก็ยอมและแสดงปีกออกมา เช่นเดียวกับสีผมขอเธอ เป็นปีกที่ส่องประกายแสงสีเงินออกมา ถ้าให้พูดตรงๆผมก็อย่างจะขอจับปีกของเธอมาตลอด แต่ก็ไม่เคยมีโอกาศ จนกระทั้งตอนนี้
“สวยดีนะ”
ผมรู้สึกเหมือนทุกครั้งที่ได้เห็นมัน เป็นความรู้สึกประทับใจที่ไม่เคยเปลี่ยนเลย
“ง-งั้นหรอ?” เลฟี่ออกอาการอายมากกว่าเดิม “ป-ปีกของเจ้าก็ใช้ได้เลยนิ เป็นปีกที่น่าประทับใจที่สุดเท่าที่เราเคยพบเห็นมาเลยละ”
“ข-ขอบคุณ”
เรายื่นมือไปที่ปีกของอีกฝ่ายอย่างเก้ๆกังๆ
โว้
ปีกของเลฟี่นุ่มและเนียนดุจดังผ้าไหม ผมรู้สึกได้ถึงความดึงดูดทันที่ที่จับมัน จนแทบไม่อยากจะปล่อยไปอีกเลย
ผมอยากจะซบหน้าลงปแล้วหลับตาลง แค่จับก็รู้สึกดีขนาดที่ว่าถ้าผมได้หลับลงบนปีกพวกนี้ผมคงหลับลึกถึงสวรรค์แน่
“Nnn…” เลฟี่ถอนหายใจอย่างมีเสน่ห์ “ร-เราก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะที่เจ้าจับนะ แต่… ช่วยอ่อนโยนกว่านี้อีกนิดจะได้ไหม…?”
“อ-เอ่อ… โทษทีนะ”
ดูเหมือนว่าปีกของเธอจะไวต่อความรู้สึกไม่ต่างจากผมเลย เธอครางออมาทุกครั้งที่นิ้วของผมไปสัมผัสโดนมัน
มันก็ใช้เวลาไม่นานเลยที่เราทั้งสองลืมสิ่งรอบตัวนอกจากตัวเอง เธอก็จับปีกของผมต่อไป ผมก็จับของเธอ ดังกับว่าเราอยู่ในโลกส่วนตัวของกันและกัน
ลมหายใจของผมเริ่มจะไม่เป็นจังหวะมากขึ้น ทางฝั่งเลฟี่ก็เช่นกัน
ในที่สุดผมก็ดึงสติออกมาจากปีกของเธอ และมองปที่หน้าเธอ ทางเลฟี่ก็มองมาทางผมกลับมาเช่นกัน
ดวงตาของเธอดูใสและแก้มก็แดงเท่าที่มันจะแดงได้
“…”
เรายังคงจ้องตากันโดยไม่พูดอะไร ผมไม่อาจละสายตาจากใบหน้าอันหน้าหลงใหลของเธอได้เลย
ผมเอามือที่จับปีกออกมาข้างหนึ่งและเลื่อนไปที่แก้มของเธอ
“เอ่ออ…”
มีเสียงที่เราสองคนไม่คาดคิดโผล่ออกมา ทำเราทำคู่ตกใจกันหมด
“ถ้าจะทำเรื่องลามกกันกรุณาช่วยละตอนกลางวันแบบนี้ได้ไหมคะ? ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้ทำตอนที่พวกเราหลับกันหมดแล้วจะดีมากเลยค่ะ”
เลล่ามองเราอย่างตำนิ
“ธ-เธอเข้าใจผิดไปหมดแล้ว!”
“จ-เจ้าเข้าใจผิดแล้ว! เราไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นซักหน่อย!”
เลฟี่และผมปลีกตัวออกจากกันและตะโกนแก้ต่างกันทันที ทำให้ทั้งห้องโถงเต็มไปด้วยคำพูดแก้ต่างของตน
TL:ถ้าผมตัดคำว่าปีกออกหมดทุกประโยคแล้วเว้นเป็นช่องว่างเอาไว้ มันจะเป็นยังไงกันนะจิ
MANGA DISCUSSION